VPN ที่เร็วที่สุดแห่งปี 2021 (เราทำการทดสอบจริงๆ)
- ทำไมความเร็วของ VPN จึงสำคัญ?
- วิธีการวัดความเร็วของ VPN
- เมื่อทดสอบความเร็วของ VPN จะต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง
- ความเร็วเฉลี่ยโดยไม่มี VPN
- ความเร็วเมื่อใช้ VPN
- ExpressVPN – VPN สุดไฮเทคที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ที่เป็นประโยชน์
- PureVPN
- NordVPN – ความเร็วสูงเหมาะสำหรับการสตรีมอย่างง่ายดาย
- CyberGhost – VPN นี้มีเซิร์ฟเวอร์เฉพาะสำหรับการสตรีมและใช้งานง่าย
- แล้ว VPN อันไหนเร็วที่สุด?

การเลือกบริการ VPN เพื่อรักษาความปลอดภัยในการใช้อินเตอร์เน็ตนั้นอาจเป็นงานที่ยาก เนื่องจากมีผู้ให้บริการจำนวนมากที่อ้างว่าเป็น VPN ที่ดีที่สุดและเร็วที่สุด คุณจะมั่นใจได้อย่างไรว่าคุณจะเลือกสิ่งที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณมากที่สุด?
หลายคนที่เคยศึกษาเกี่ยวกับ VPN ทราบดีอยู่แล้วว่าหากต้องการการปกป้องจาก VPN นั้น VPN นั้นจะต้องมีความเร็วและประสิทธิภาพในระดับหนึ่ง บทความนี้จะพูดถึงการที่เราได้พยายามตอบคำถามนี้โดยการทดสอบความเร็วของผู้ให้บริการ VPN ชั้นนำของโลกเพื่อให้ข้อมูลที่จะทำให้คุณสามารถเลือกตัวเลือกที่ดีที่สุดได้
ทำไมความเร็วของ VPN จึงสำคัญ?
ในขณะที่การใช้ VPN จะช่วยเสริมสร้างความปลอดภัยออนไลน์ของคุณอย่างแท้จริง การเข้ารหัสมักจะลดความเร็วในการเชื่อมต่อ คุณอาจไม่สังเกตเห็นความแตกต่างเมื่อคุณเข้าเว็บไซต์ทั่วๆไป แต่ถ้าคุณกำลังวางแผนที่จะดาวน์โหลด torrents หรือดูสตรีมสดเช่น Netflix หรือ Hulu คุณควรต้องคำนึงถึงความเร็วในการดาวน์โหลดด้วย
วิธีการวัดความเร็วของ VPN
- ความเร็วในการดาวน์โหลด หมายถึงความเร็วที่ข้อมูลจะถูกดึงออกมาจากเซิร์ฟเวอร์มาถึงคุณเนื่องจากกิจกรรมบนโลกออนไลน์ส่วนใหญ่ – เช่นการดาวน์โหลดหน้าเว็บหรือการดูวิดีโอ- ต้องมีการดาวน์โหลดทั้งนั้น การเชื่อมต่อส่วนใหญ่จึงถูกออกแบบมาเพื่อให้ดาวน์โหลดได้เร็วกว่าการอัพโหลด ความเร็วในการดาวน์โหลดนั้นวัดเป็นหน่วย megabits ต่อวินาที (Mbps) และโดยทั่วไปแล้วยิ่งตัวเลขสูงขึ้นความเร็วของการเชื่อมต่อก็จะสูงขึ้นเช่นกัน
- ความเร็วในการอัพโหลด หมายถึงความเร็วที่ข้อมูลของคุณส่งไปถึงคนอื่นๆ การอัพโหลดนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับการส่งไฟล์ใหญ่ๆผ่านอีเมล หรือเมื่อใช้ซอฟต์แวร์สำหรับวิดิโอแชท (เนื่องจากคุณจะต้องส่งวิดีโอไปให้คนอื่น) ความเร็วในการอัพโหลดนั้นก็วัดเป็นหน่วย megabits ต่อวินาที (Mbps)
- Pingเป็นเวลาการตอบสนองของการเชื่อมต่อของคุณ เป็นสิ่งที่แสดงว่าคุณจะได้รับการตอบสนองหลังจากส่งคำขอไปเร็วแค่ไหน ping ที่รวดเร็วแปลว่าการเชื่อมต่อของคุณมีการตอบสนองเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานแอพพลิเคชันที่ความเร็วคือทุกอย่าง เช่น วิดีโอเกมส์ ความเร็วของ ping นั้นวัดเป็นหน่วยมิลลิวินาที (ms)
เมื่อทดสอบความเร็วของ VPN จะต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง
ตำแหน่งของเซิร์ฟเวอร์
ตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์มีผลสำคัญต่อความเร็วในการเชื่อมต่อของคุณ ผู้ให้บริการ VPN ส่วนใหญ่จะมีตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ที่แนะนำ ซึ่งกำหนดโดยตำแหน่งจริงของคุณ, ข้อมูลเกี่ยวกับอัตราความสำเร็จในการเชื่อมต่อ, การใช้งาน และความเร็ว
ดังนั้นการใช้งานที่แตกต่างกันอาจทำให้คุณต้องเชื่อมต่อผ่านตำแหน่งที่เฉพาะเจาะจงตัว อย่างเช่นถ้าคุณต้องการดูช่องทีวีบางช่องที่มีเฉพาะในสหรัฐฯเท่านั้น หรือถ้าคุณกำลังพยายามข้ามการเซ็นเซอร์
ความเร็วของผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต (ISP)
ความเร็วในการเชื่อมต่อที่ผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต (ISP) ของคุณให้ จะส่งผลต่อความเร็วของการเชื่อมต่อ VPN การเชื่อมต่อความเร็วสูงส่วนใหญ่มีความเร็วระหว่าง 10 Mbps ถึง 1 Gbps ในกรณีเหล่านี้ความเร็ว VPN จะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก แต่หากความเร็วน้อยกว่านี้ ซึ่งเกิดจากการเชื่อมต่อแบบ dial-up หรือ 3G อาจทำให้เกิดปัญหาการเชื่อมต่อ VPN
การเชื่อมต่อระหว่าง ISP และ VPN
เรื่องตลกคือ มีหลายกรณีที่ยิ่งการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตของคุณได้เร็วขึ้นมากเท่าไหน ก็จะทำให้คุณ “เสีย” ความเร็วมากขึ้นเท่านั้น แม้ว่าคุณจะมีการเชื่อมต่อความเร็ว 50 Mbps และการเชื่อมต่อระหว่าง ISP และ VPN ไม่ดีคุณอาจไม่สามารถใช้บริการ VPN ได้ดีที่สุด ตัวอย่างเช่นหากคุณมีการเชื่อมต่อความเร็ว 5 Mbps คุณจะสูญเสียแบนด์วิธเพียง 10-20% แต่ถ้าคุณมี 100 Mbps การเชื่อมต่อกับ VPN อาจทำให้คุณสูญเสียความเร็วมากกว่าครึ่งหนึ่ง
เพื่อให้แน่ใจว่าการทดสอบนี้เชื่อถือได้ ผมใช้ ISP และคอมพิวเตอร์เครื่องเดียวกันในการทดสอบทั้งหมด และตั้ง VPN ให้อยู่ในตำแหน่งเดียวกัน (UK) ผมใช้บริการทดสอบความเร็วสามแบบใน VPNs ทั้งหมด: speedtest.net, fast.com และ broadbandspeedchecker.co.uk เมื่อคุณเลื่อนลงคุณจะเห็นความแตกต่างที่ระหว่างผลลัพธ์ของเครื่องมือทดสอบต่างๆอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้นผมจึงคำนวณค่าเฉลี่ยของผลลัพธ์ทั้งหมดเพื่อดูว่า VPN อันไหนมีความเร็วมากที่สุด
ก่อนที่ผมจะเริ่มทดสอบ VPN ลองดูความเร็วธรรมดาของ ISP ที่ยังไม่ได้เปิด VPN ซึ่งต่ำกว่าที่ผมคาดหวังไว้มาก
ความเร็วเฉลี่ยโดยไม่มี VPN
ความเร็วเมื่อใช้ VPN
ExpressVPN | PureVPN | NordVPN | CyberGhost Pro | |
ความเร็วดาวน์โหลดเฉลี่ย | 11.88 mbps | 6.98 mbps | 3.4 mbps | 2.47 mbps |
ความเร็วอัพโหลดเฉลี่ย | 9.56 mbps | 4.49 mbps | 3.42 mbps | 2.09 mbps |
Ping เฉลี่ย | 248.5 ms | 320 ms | 492.5 ms | 290 ms |
ตามที่คุณเห็น ExpressVPN เป็น VPN ที่เร็วที่สุด PureVPN ตามมาเป็นที่สอง และมี Nord ตามมาเป็นอันดับสาม (ถึงแม้การทดสอบครั้งล่าสุดของเราผลลัพธ์จะตรงกันข้าม ดีมาก PureVPN!) Cyberghost อาจจะมีความเร็วดาวน์โหลดและอัพโหลดต่ำ แต่ Ping เร็วกว่าทั้ง Pure และ Nord
มาดูกันอย่างละเอียด:
เราเลือก ผู้ให้บริการ VPN ยอดนิยมที่สุด มาสี่ราย ตามคำแนะนำของผู้ใช้งาน เพื่อนำมาทดสอบความเร็ว
1. ExpressVPN – VPN สุดไฮเทคที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ที่เป็นประโยชน์
ExpressVPN ให้คุณสามารถเลือกตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ของ VPN จาก 145 ตำแหน่งได้ในเพียงคลิกเดียว เมื่อทดสอบความเร็วแล้ว ผลคือ 11.88 Mb ต่อวินาที ซึ่งมีความเร็วมากกว่า VPN อื่นๆส่วนใหญ่ถึงสอง หรือแม้แต่ สามเท่า หากคุณต้องการดูสตรีมสดหรือดาวน์โหลด Torrent นี่เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด
2. PureVPN
PureVPN มีตัวเลือกสำหรับสตรีม ซึ่งให้คุณสามารถสตรีมวิดีโอสดได้ด้วยความเร็วสูงโดยใช้, DNS เนื่องจากเรากำลังทดสอบความเร็ว ผมเลยเลือกทดสอบตอนเปิดตัวเลือกนี้ไว้ น่าแปลกใจที่ความเร็วในการเชื่อมต่อนั้นมากกว่า VPN ส่วนใหญ่ โดยมีความเร็วในการดาวน์โหลดเฉลี่ย 6.98Mb ต่อวินาที
การทดสอบความเร็วของ PureVPN
3. NordVPN – ความเร็วสูงเหมาะสำหรับการสตรีมอย่างง่ายดาย
NordVPN เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นผู้ให้บริการ VPN ที่น่าเชื่อถือมากที่สุด โดยมีเซิร์ฟเวอร์กว่า 5,390 เครื่องในทุกพื้นที่ และยังมีคุณสมบัติการปกป้องพิเศษที่ทำให้ปลอดภัยมากกว่าคู่แข่งส่วนใหญ่ ความเร็วในการดาวน์โหลดเฉลี่ยของ NordVPN คือ 3.4 Mb ต่อวินาที – เร็วกว่า VPN ส่วนใหญ่ แต่ไม่เร็วเท่ากับความเร็วของตัวเลือกอันดับหนึ่งของผู้อ่านของเรา
4. CyberGhost – VPN นี้มีเซิร์ฟเวอร์เฉพาะสำหรับการสตรีมและใช้งานง่าย
CyberGhost เป็น VPN ที่มีคุณสมบัติมากที่สุดรายหนึ่งที่ผมเคยเจอมา ด้วยการกำหนดค่าพิเศษสำหรับการใช้งานที่แตกต่างกัน รวมถึงการสตรีมวิดีโอ, ดาวน์โหลด, หลบเลี่ยงการเซ็นเซอร์, และการเข้าอินเตอร์เน็ตอย่างปลอดภัย โดยได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ใช้การเชื่อมต่อของคุณได้อย่างเหมาะสมที่สุด ซึ่งไม่ค่อยเกี่ยวข้องกับความเร็วในการดาวน์โหลดเท่าไหร่ จึงทำให้มีความเร็วต่ำสุดเมื่อทดสอบกับเครื่องมือทั้งหมด โดยมีความเร็วเฉลี่ยอยู่ที่ 2.47 Mb ต่อวินาที
แล้ว VPN อันไหนเร็วที่สุด?
ExpressVPN เป็นผู้ชนะในเรื่องของความเร็ว แต่ปัจจัยที่มีผลต่อความเร็วของคุณก็คือ ISP, ตำแหน่งที่ตั้ง, และการเชื่อมต่อ
และยังมีความแตกต่างอย่างชัดเจนระหว่างความเร็วในการอัพโหลดและความเร็วในการดาวน์โหลดซึ่งเป็นสิ่งที่ควรคำนึงถึง และขึ้นอยู่กับว่าคุณมักจะใช้อินเตอร์เน็ตทำอะไร ก่อนที่คุณจะซื้อ VPN ลองอ่านความคิดเห็นจากผู้อ่านของเราเกี่ยวกับ VPN ที่ดีที่สุด
สรุป VPN ที่เร็วที่สุด มกราคม 2021 คือ …
ผู้ให้บริการ | คะแนนของเรา | |
---|---|---|
9.8/10 | ||
9.8/10 | ||
9.6/10 | ||
9.4/10 | ||
9.2/10 |
การแจ้งเตือนความเป็นส่วนตัว!
ข้อมูลของคุณจะถูกเปิดเผยต่อเว็บไซต์ที่คุณเข้าชม!
หมายเลข IP ของคุณ:
ตำแหน่งของคุณ:
ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของคุณ:
ข้อมูลข้างต้นสามารถใช้เพื่อติดตาม กำหนดเป้าหมายโฆษณาและติดตามกิจกรรมที่คุณทำบนอินเตอร์เน็ตได้
VPN สามารถช่วยคุณซ่อนข้อมูลเหล่านี้จากเว็บไซต์ เพื่อให้คุณได้รับการปกป้องตลอดเวลา เราขอแนะนำ NordVPN - VPN อันดับ #1 จากผู้ให้บริการกว่า 350 รายที่เราได้ทดสอบ มีการเข้ารหัสระดับทหารและฟีเจอร์ความเป็นส่วนตัวมากมายที่จะช่วยให้คุณมั่นใจในความปลอดภัยเมื่อใช้งานอินเตอร์เน็ต - นอกจากนี้ยังมีส่วนลดจาก 68% อีกด้วย