วิธีการทดสอบ VPN

สตรีม เกมและทอร์เรนต์ (27%)

1. อย่างน้อยที่สุด VPN ควรสามารถเข้าถึงแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งยอดนิยมอย่าง Netflix ได้ ให้คุณสามารถเล่นเกมได้โดยไม่มีแลคและมีเซิร์ฟเวอร์ที่รองรับ P2P

2. อย่างมากที่สุด บริการควรที่จะสามารถเข้าถึงเว็บไซต์ที่ไม่ค่อยเป็นที่นิยมได้ มีเซิร์ฟเวอร์สำหรับการ P2P โดยเฉพาะหรือไม่ก็ดาวน์โหลดทอร์เรนต์ได้ในทุกเซิร์ฟเวอร์

ความสามารถใช้งานเข้าถึงแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งและใช้งานได้อย่างราบรื่นของ VPN นั้นเป็นเป็นปัจจัยที่สำคัญเมื่อเราทำการตรวจสอบบริการ VPN เรามีทีมผู้ทดสอบระดับโลกที่ทำการทดสอบสัปดาห์ละสองครั้งกับบริการสตรีมมิ่งหลายสิบบริการ (ที่มีอยู่ในประเทศของตน) โดยใช้ VPN หลายสิบรายการ ตัวอย่างเช่น ทีมงานจะเชื่อมต่อจากสหรัฐอเมริกาไปยังเซิร์ฟเวอร์ VPN ใกล้เคียงเพื่อตรวจสอบ ว่าบริการสามารถเข้าถึง Netflix, Hulu และ Max ในอเมริกาได้หรือไม่

นอกจากนี้เรายังทดสอบ Amazon Prime Video, Disney+, BBC iPlayer, ESPN+, ITV, Peacock และบริการอื่น ๆ อยู่บ่อยครั้ง เราสมัครสมาชิกกับแพลตฟอร์มทั้งหมดเพื่อทดสอบในตำแหน่งอื่น ๆ เมื่อเราเข้าถึงแพลตฟอร์มได้แล้ว เราจะทดสอบคุณภาพการสตรีมกับที่ VPN ที่สามารถเข้าถึงแพลตฟอร์มได้ หากเราสามารถสตรีมได้อย่างต่อเนื่องในแบบ HD โดยไม่มีสะดุด บริการจะได้คะแนนมากขึ้นไปด้วย

นอกจากนี้เรายังทำการทดสอบความสามารถในการ VPN ใช้เล่นเกมออนไลน์ได้อย่างไม่มีการสะดุดอีกด้วย ผู้ทดสอบจะทำการเล่นเกมที่ต้องใช้ความรวดเร็ว เช่น Counter Strike 2 โดยจะเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ทั้งในบริเวณใกล้เคียงและห่างไกล ปฏิกิริยาตอบสนองของตัวละครของคุณมีความสำคัญเมื่อเล่นเกมออนไลน์ที่ต้องใช้การแข่งขันสูง ดังนั้นเราจะให้คะแนนกับบริการที่ VPN ที่มีค่า Ping ที่ 85ms หรือน้อยกว่า

การรองรับการเชื่อมต่อแบบ P2P เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เราทดสอบ ข้อกำหนดขั้นต่ำของเราคือ VPN ต้องอนุญาตให้ทำการแชร์ P2P บนเซิร์ฟเวอร์ เพื่อให้คุณสามารถทอร์เรนต์ได้มากเท่าที่คุณต้องการเป็นระยะเวลาเท่าใดก็ได้ เราเปรียบเทียบความเร็วและระยะเวลาในการดาวน์โหลดทอร์เรนต์เมื่อเชื่อมต่อ VPN และระยะเวลาที่ไม่ได้เชื่อมต่อ VPN เราทดสอบทั้งบนเซิร์ฟเวอร์ในพื้นที่และระยะไกล

ฟีเจอร์ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของ VPN นั้นเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก เพราะการทอร์เรนต์อาจทำให้ข้อมูลส่วนตัวของคุณถูกเปิดเผยได้ อย่างเช่นการเข้ารหัสที่เข้มงวด การป้องกันการรั่วไหลของหมายเลข IP และ Kill switch หาก VPN นำเสนอฟีเจอร์เหล่านี้ทั้งหมดก็จะได้สำหรับการทอร์เรนต์เพิ่มเติม นอกจากนี้เรายังพิจารณาฟีเจอร์พิเศษที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทอร์เรนต์ได้ด้วย เช่น Port forwarding และ Split tunneling

ความเร็ว (9%)

1. อย่างน้อยที่สุด ควรจะสามารถโหลดเว็บไซต์ได้อย่างรวดเร็วและสตรีมในความคมชัด HD ได้โดยไม่มีสะดุด (ต้องมีความเร็วอย่างน้อย 5Mbps)

2. อย่างมากที่สุด การสูญเสียความเร็วไม่เกิน 10% สำหรับเซิร์ฟเวอร์ในระยะใกล้และ 40% สำหรับเซิร์ฟเวอร์ระยะไกล

ความเร็วที่รวดเร็วเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก เนื่องจากจะส่งผลต่อการใช้งานของผู้ใช้อย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณสตรีมวิดีโอ ดาวน์โหลดหรือเล่นเกม เป็นเรื่องปกติที่ VPN จะลดความเร็วของคุณลง เนื่องจากการเข้ารหัสและระยะทางที่ไกลมากขึ้น ดังนั้นยิ่งความเร็วลดน้อยลงเท่าไหร่ ก็ยิ่งดี

เราทำการทดสอบความเร็วในทุกตำแหน่งโดยใช้การเชื่อมต่อเดียวกัน เพื่อความต่อเนื่องและผลลัพธ์ที่น่าเชื่อถือ ก่อนที่จะเชื่อมต่อ เราบันทึกความเร็วของอินเตอร์เน็ตก่อนเชื่อมต่อกับ VPN เพื่อใช้เปรียบเทียบ จากนั้นจึงเชื่อมต่อกับ VPN และทดสอบเซิร์ฟเวอร์ระยะใกล้และระยะไกลจำนวนมากที่กระจายอยู่ทั่วโลก เรายังทำการทดสอบในช่วงเวลาต่าง ๆ ของวันอีกด้วย ข้อมูลความเร็วที่หลากหลายนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการวัดผลความเร็วจริง

สิ่งที่เราคำนึงถึงเมื่อทำการทดสอบความเร็ว:

• ความเร็วในการดาวน์โหลด ความเร็วในการดาวน์โหลดคือความรวดเร็วในการรับข้อมูล ซึ่งใช้เมื่อคุณสตรีมและดาวน์โหลด มีหน่วยวัดเป็นเมกะบิตต่อวินาที (Mbps)
• ความเร็วในการอัพโหลด ความเร็วในการอัพโหลดคือความเร็วที่ใช้ในการส่งข้อมูล เช่น การอัปโหลดวิดีโอหรือการส่งอีเมล และยังวัดเป็น Mbps อีกด้วย
• ค่า Ping ใช้วัดการตอบสนองของการเชื่อมต่อ (เวลาแฝง) และบันทึกเป็นมิลลิวินาที (ms) This is essential for fast-paced gaming. ยิ่งค่า Ping น้อยเท่าไหร่ก็จะถือว่าดีมากเท่านั้น

เมื่อเรารวบรวมผลลัพธ์แล้ว เราจะใช้ข้อมูลเหล่านี้เพื่อหาเปอร์เซ็นต์ความแตกต่างระหว่างความเร็วเมื่อไม่ใช่ VPN และความเร็วของแต่ละตำแหน่ง เนื่องจากความเร็วของ VPN สามารถเปลี่ยนแปลงได้ (ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของคุณ ช่วงเวลาของวัน การจำกัดแบนด์วิดท์ ฯลฯ) เปอร์เซ็นต์นี้จะช่วยให้คุณเข้าใจว่า VPN จะส่งผลต่อความเร็วอินเทอร์เน็ตปกติของคุณอย่างไร VPN ไม่ควรลดความเร็วในการเชื่อมต่อลงเกินกว่า 20% ในเซิร์ฟเวอร์ระยะใกล้ และ 40% ในเซิร์ฟเวอร์ระยะไกล

เครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ (9%)

1. อย่างน้อยที่สุด บริการควรมีเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่เพื่อให้คุณสามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าคุณจะเดินทางไปยังตำแหน่งอื่น

2. อย่างมากที่สุด บริการควรมีเซิร์ฟเวอร์หลายตัวเลือกในเมืองใหญ่เพื่อให้คุณสามารถค้นหาตัวเลือกที่อยู่ใกล้กับตำแหน่งของคุณมากที่สุดและนำเสนอการสลับเปลี่ยน IP หรือ IP เฉพาะเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับและบล็อกการใช้งาน VPN จากบริการต่าง ๆ

เซิร์ฟเวอร์ในทั่วโลกจะช่วยเพิ่มความสามารถในการเข้าถึงบริการและเว็บไซต์ต่าง ๆ เมื่อคุณเชื่อมต่อจากตำแหน่งอื่น ๆ VPN พรีเมี่ยมนำเสนอตัวเลือกหลายพันเซิร์ฟเวอร์ในทั่วโลก บางบริการมีหลายตัวเลือกในแต่ละเมืองอีกด้วย ยิ่งเซิร์ฟเวอร์อยู่ใกล้กับตำแหน่งที่แท้จริงของคุณมากเท่าไหร่ ความเร็วในการเชื่อมต่อ การสตรีม การทอร์เรนต์และการเล่นเกมก็มากขึ้นเท่านั้น

การสลับเซิร์ฟเวอร์ได้อย่างง่ายดายยังช่วยในการรักษาการเชื่อมต่อที่สม่ำเสมอ แม้ว่าบางเซิร์ฟเวอร์จะปิดกั้นหรือไม่สามรถใช้งานได้ แต่ตัวเลือกเซิร์ฟเวอร์ที่หลากหลายนี้ก็ทำให้มั่นใจได้ว่าบริการจะให้บริการต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง ผู้ทดสอบของเราตรวจสอบรายการเซิร์ฟเวอร์ VPN และเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ต่าง ๆ ที่นำเสนอและให้คะแนนความน่าเชื่อถือและความต่อเนื่องในการใช้งาน

VPN จะได้รับคะแนนที่มากกว่าหากเซิร์ฟเวอร์นั้นนำเสนอโดยบริการเอง ไม่ใช่เซิร์ฟเวอร์ที่เช่าจากบริการอื่น การที่บริการ VPN เป็นเจ้าของเซิร์ฟเวอร์เองนั้นทำให้บริการมีความสามารถในการควบคุมอุปกรณ์ โปรโตคอลและการจัดการข้อมูลมากกว่า ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงในการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือการละเมิดข้อมูล บาง VPN ใช้เซิร์ฟเวอร์เสมือนในตำแหน่งต่าง ๆ นั่นหมายความว่าเซิร์ฟเวอร์จริงนั้นตั้งอยู่ที่อื่น สิ่งนี้เป็นประโยชน์เมื่อคุณต้องการ IP ของประเทศที่มีนโยบายการใช้งานอินเทอร์เน็ตที่เข้มงวด เช่น อินเดีย

ข้อดีอีกอย่างก็คือหาก VPN นำเสนอหมายเลข IP เฉพาะแก่คุณ คุณจะไม่ต้องแบ่งปันหมายเลขนี้กับผู้ใช้คนอื่น ๆ สิ่งนี้มีประโยชน์สำหรับการเข้าถึงงานจากระยะไกล การเข้าสู่ระบบที่ปลอดภัยและลดความเสี่ยงของการปิดกั้นจากบริการต่าง ๆ และไม่ต้องคอยกรอก captcha ที่น่ารำคาญด้วย

ความง่ายในการใช้งาน (9%)

1. อย่างน้อยที่สุด VPN ควรมีแอปสำหรับแต่ละอุปกรณ์ที่ง่ายต่อการติดตั้งและตั้งค่า

2. อย่างมากที่สุด ความสามารถที่กล่าวมาขั้นต้นและอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย

ไม่มีใครที่ชอบใช้แอป VPN ที่เกะกะและเทอะทะ ดังนั้นเราจึงทดสอบแอปของแต่ละบริการเพื่อดูว่ามันใช้งานง่ายเพียงใด

ขั้นตอนแรก เราทดสอบโดยดาวน์โหลดและติดตั้ง VPN เพื่อดูว่ามันทำได้ง่ายแค่ไหน ทางที่ดีที่สุด VPN ควรมีแอปสำหรับอุปกรณ์และระบบปฏิบัติการที่เป็นที่นิยมทั้งหมด การติดตั้งและเชื่อมต่อไม่ควรใช้เวลามากกว่า 1-2 นาที เราทดสอบบริการกับระบบปฏิบัติการหลักทั้งหมด รวมถึง Windows, macOS, Android และ iOS ในบางครั้งเรายังทดสอบการตั้งค่าที่ซับซ้อนบนเราเตอร์ในบ้าน, Linux, อุปกรณ์สตรีมเช่น Amazon FireStick และ Roku, เกมคอนโซลและสมาร์ททีวีอีกด้วย

หากเราพบปัญหาระหว่างการติดตั้งตามคำแนะนำที่มีให้ของแต่ละ VPN เราจะใช้โอกาสนี้ในการทดสอบว่าทีมช่วยเหลือลูกค้า ว่าสามารถให้บริการได้อย่างไรบ้างและพวกเขามีความรู้มากพอในการแก้ปัญหาทางเทคนิคหรือไม่ เราติดตั้ง (หรือติดตั้งใหม่) แอป VPN แต่ละรายการที่เรารีวิวพร้อมกับบทความใหม่ทุกบทความที่เราเขียน ดังนั้นเราจึงสามารถอัปเดตซอฟต์แวร์ล่าสุดและการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่เกิดขึ้นกับกระบวนการติดตั้งได้อยู่เสมอ

สิ่งสำคัญที่สุดคือ ความเข้ากันได้และประสิทธิภาพของ VPN กับระบบปฏิบัติการที่คุณใช้ ไม่ว่า VPN นั้นจะสามารถใช้งานได้กับระบบปฏิบัติการหรืออุปกรณ์ใด เราก็ทดสอบทั้งหมด เราตรวจสอบเลย์เอาต์ของแต่ละแอปอย่างละเอียด และดูว่าการค้นหาเซิร์ฟเวอร์ เชื่อมต่อและปรับการตั้งค่านั้นทำได้ง่ายแค่ไหน แอปที่ดีไม่ควรให้ผู้ใช้กำหนดค่าด้วยตนเอง และการเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าหรือเซิร์ฟเวอร์ไม่ควรเกินใช้ขั้นตอนมากกว่า 2-3 คลิก

การช่วยเหลือลูกค้า (9%)

1. อย่างน้อยที่สุด VPN ควรมีไลบารีรวบรวมข้อมูลออนไลน์และการช่วยเหลือทางอีเมลที่รวดเร็ว

2. อย่างมากที่สุด ข้างต้น รวมถึงการแชทสดตลอด 24 ชั่วโมงทุกวันกับพนักงานที่มีความรู้

หากคุณต้องการความช่วยเหลือจากบริการ VPN ของคุณ ดังนั้นทีมงานช่วยเหลือลูกค้าที่มีความรู้ควรเตรียมพร้อมให้ความช่วยเหลือคุณอยู่เสมอ บ่อยครั้งที่ทีมช่วยเหลือของบริการเป็นเพียงบุคคลภายนอกที่อ่านบทจากสคริปต์ (หรือบอท) เท่านั้น บริการ VPN ที่ดีจะช่วยให้คุณติดต่อกับผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีหรือในบางครั้งนักพัฒนาผลิตภัณฑ์โดยตรง

เราทดสอบระบบอีเมล/ตั๋วของ VPN และระยะเวลาในการตอบกลับ หากเราได้รับคำตอบภายใน 24 ชั่วโมง ถือว่าเป็นที่น่าพอใจ เมื่อเราได้รับคำตอบแล้ว เราจะดูว่าคำตอบนั้นดี เป็นมิตรและให้ข้อมูลครบถ้วนหรือไม่

แต่บริการจะได้คะแนนเต็มไปหากนำเสนอไลฟ์แชท โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากให้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน โดยปกติเราจะทดสอบโดยถามคำถามหลายข้อและประเมินเวลาในการตอบกลับและคุณภาพของคำตอบ

ปัจจัยอื่น ๆ ที่เราพิจารณาได้แก่ หน้าคำถามที่พบบ่อยพร้อมคำตอบโดยละเอียดสำหรับคำถามทั่วไป วิดีโอคำแนะนำ คู่มือการตั้งค่าและแหล่งข้อมูลออนไลน์อื่น ๆ ยิ่งมีทรัพยากรครอบคลุมมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งดีเท่านั้น เพราะนั่นหมายความว่าเราสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างอิสระและรวดเร็วโดยไม่ต้องพึ่งพาทีมช่วยเหลือลูกค้า

ความคุ้มค่า (9%)

1. อย่างน้อยที่สุด บริการควรนำเสนอความปลอดภัยให้กับคุณในราคาไม่แพง

2. อย่างมากที่สุด ตัวเลือกการสมัครสมาชิกราคาไม่แพง พร้อมการรับประกันคืนเงินหรือทดลองใช้ฟรีเพื่อทดสอบ VPN ที่มีฟีเจอร์หลากหลายโดยปราศจากความเสี่ยง

โครงสร้างราคาของบริการ VPN (ระยะสั้นและระยะยาว) นั้นจำเป็นต่อการประเมินราคาโดยรวม แผนระยะสั้นนำเสนอความยืดหยุ่นและภาระผูกพันต่ำ หากคุณต้องการ VPN เพียงช่วงสั้น ๆ เช่น ระหว่างการเดินทาง นี่ถือเป็นตัวเลือกที่ดี ในขณะที่ แผนระยะยาวนั้นให้ความคุ้มค่าที่มากกว่า เราตรวจสอบรูปแบบค่าบริการเพื่อดูว่ามันสอดคล้องกับฟีเจอร์และผลประโยชน์ที่นำเสนอหรือไม่

การรับประกันคืนเงินหรือบัญชีทดลองใช้ฟรีช่วยให้คุณสามารถทดลองใช้ฟีเจอร์ของบริการได้โดยไม่ต้องจ่ายเงิน เราทดสอบ นโยบายการรับประกันคืนเงินของแต่ละบริการ เพื่อดูว่าแต่ละบริการนั้นให้คุณสามารถขอคืนเงินได้ง่ายแค่ไหนและคืนเงินจริงหรือไม่ บริการ VPN ที่มีนโยบายการรับประกันคืนเงินที่น่าเชื่อถือและคืนเงินจริงจะได้รับคะแนนในส่วนนี้ไป