พวกเราจัดอันดับผู้ให้บริการตามการทดสอบและการค้นคว้าอย่างเข้มงวด แต่ก็จะมีการคำนึงถึงความคิดเห็นของคุณและค่าคอมมิชชั่นจากผู้ให้บริการด้วย ผู้ให้บริการบางรายนั้นจะมีบริษัทแม่แห่งเดียวกันกับพวกเรา
เรียนรู้เพิ่มเติม
vpnMentor ก่อตั้งขึ้นในปี 2014 เพื่อจุดประสงค์ในการตรวจสอบบริการ VPN และวิจารณ์ด้านความเป็นส่วนตัว ในวันนี้ทีมนักวิจัย นักเขียนและบรรณาธิการด้านความปลอดภัยอินเตอร์เน็ตของเราหลายร้อยคนยังคงช่วยเหลือผู้อ่านต่อสู้เพื่ออิสรภาพทางออนไลน์โดยร่วมมือกับ Kape Technologies PLC ซึ่งเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ต่อไปนี้: ExpressVPN, CyberGhost, ZenMate, Private Internet Access และ Intego ซึ่งอาจได้รับการวิจารณ์บนเว็บไซต์นี้ บทวิจารณ์ที่เผยแพร่บน vpnMentor เชื่อว่ามีความถูกต้อง ณ วันที่เผยแพร่แต่ละบทความและเขียนขึ้นตามมาตรฐานการตรวจสอบที่เข้มงวดของเรา ซึ่งจัดลำดับความสำคัญของการตรวจสอบผู้ตรวจสอบอย่างมืออาชีพและซื่อสัตย์ โดยคำนึงถึงความสามารถทางเทคนิคและคุณภาพของผลิตภัณฑ์ร่วมกับมูลค่าทางการค้าสำหรับผู้ใช้ การจัดอันดับและบทวิจารณ์ที่เราเผยแพร่อาจคำนึงถึงความเป็นเจ้าของร่วมกันกับบริการที่กล่าวถึงข้างต้นและค่าคอมมิชชั่นพันธมิตรที่เราได้รับจากการซื้อผ่านลิงก์บนเว็บไซต์ของเรา เราไม่ได้ตรวจสอบผู้ให้บริการ VPN ทั้งหมดและเชื่อว่าข้อมูลที่จะมีความถูกต้อง ณ วันที่เผยแพร่แต่ละบทความ
การเปิดเผยข้อมูลการโฆษณา

vpnMentor ก่อตั้งขึ้นในปี 2014 เพื่อจุดประสงค์ในการตรวจสอบบริการ VPN และวิจารณ์ด้านความเป็นส่วนตัว ในวันนี้ทีมนักวิจัย นักเขียนและบรรณาธิการด้านความปลอดภัยอินเตอร์เน็ตของเราหลายร้อยคนยังคงช่วยเหลือผู้อ่านต่อสู้เพื่ออิสรภาพทางออนไลน์โดยร่วมมือกับ Kape Technologies PLC ซึ่งเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ต่อไปนี้: ExpressVPN, CyberGhost, ZenMate, Private Internet Access และ Intego ซึ่งอาจได้รับการวิจารณ์บนเว็บไซต์นี้ บทวิจารณ์ที่เผยแพร่บน vpnMentor เชื่อว่ามีความถูกต้อง ณ วันที่เผยแพร่แต่ละบทความและเขียนขึ้นตามมาตรฐานการตรวจสอบที่เข้มงวดของเรา ซึ่งจัดลำดับความสำคัญของการตรวจสอบผู้ตรวจสอบอย่างมืออาชีพและซื่อสัตย์ โดยคำนึงถึงความสามารถทางเทคนิคและคุณภาพของผลิตภัณฑ์ร่วมกับมูลค่าทางการค้าสำหรับผู้ใช้ การจัดอันดับและบทวิจารณ์ที่เราเผยแพร่อาจคำนึงถึงความเป็นเจ้าของร่วมกันกับบริการที่กล่าวถึงข้างต้นและค่าคอมมิชชั่นพันธมิตรที่เราได้รับจากการซื้อผ่านลิงก์บนเว็บไซต์ของเรา เราไม่ได้ตรวจสอบผู้ให้บริการ VPN ทั้งหมดและเชื่อว่าข้อมูลที่จะมีความถูกต้อง ณ วันที่เผยแพร่แต่ละบทความ

วิธีเข้า Dark Web อย่างปลอดภัย (2024)

คริสตีน โจแฮนสัน อัปเดตเมื่อ 05/03/2024 ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย คริสตีน โจแฮนสัน บรรณาธิการอาวุโส
สารบัญ

Dark web นั้นเป็นส่วนที่อันตรายที่สุดและสร้างความขัดแย้งมากที่สุดบนอินเทอร์เน็ต — และมันก็จะสามารถถูกเข้าถึงได้ผ่านเฉพาะบางเบราว์เซอร์ อย่างเช่น Tor มันมักจะถูกมองว่าเป็นสถานที่ที่ไม่ดีซึ่งอาชญากรใช้ในการสื่อสารกันนอกสายตาของกฎหมาย ถึงแม้ว่านั่นจะเป็นความจริงบางส่วน แต่ก็ยังมีอีกหลายเหตุผลดี ๆ ที่ทำให้คุณอยากเข้าถึง dark web

ประโยชน์หลัก ๆ ของการใช้ dark web ก็คือการไม่เปิดเผยตัวตน อย่างไรก็ตาม มันจะเป็นแบบนั้นเฉพาะกับเครือข่ายเท่านั้น — ISP ของคุณ (เป็นต้น) จะสามารถรู้ได้ว่าคุณกำลังเข้าถึงมัน และพวกเขาก็อาจจะรายงานให้เจ้าหน้าที่ทราบ ถึงแม้ว่าคุณจะไม่ได้ทำอะไรที่ผิดกฎหมายก็ตาม

VPN นั้นจะช่วยปกป้องความเป็นส่วนตัวบนโลกออนไลน์ของคุณด้วยการเข้ารหัสทราฟฟิคอินเทอร์เน็ตและเปลี่ยนเส้นทางมันไปยังเซิร์ฟเวอร์ส่วนตัว นี่จะช่วยปิดบังข้อมูลส่วนตัวของคุณจากบุคคลที่สาม, แฮ็กเกอร์, ตัวติดตาม และภัยอันตรายไซเบอร์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเข้าถึง dark web

สำหรับความปลอดภัยขั้นสูงสุด เราแนะนำให้เลือกใช้ ExpressVPN มันมีนโยบายการไม่บันทึกข้อมูลที่เข้มงวด และก็เลือกใช้การเข้ารหัสระดับทหารเพื่อช่วยรักษาสถานะการไม่เปิดเผยตัวตนของคุณ คุณยังสามารถ ทดลองใช้ ExpressVPN ได้อย่างไม่มีความเสี่ยง เพราะว่ามันมีการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน — ถ้าคุณลองใช้แล้วรู้สึกว่ามันไม่เหมาะกับคุณ คุณก็สามารถขอคืนเงินได้เต็มจำนวน

ทดลองใช้ ExpressVPN อย่างไม่มีความเสี่ยงได้เลย

คู่มือแบบเร็ว: วิธีเข้าถึง Dark Web อย่างปลอดภัย จากประเทศไทย ใน 3 ขั้นตอนง่าย ๆ

  1. รับบริการจาก VPN เราแนะนำ ExpressVPN เพราะว่ามันมีความปลอดภัยสูง ความเร็วสูง และก็มีฟีเจอร์ความเป็นส่วนตัวมากมายที่จะช่วยรักษาสถานะการไม่เปิดเผยตัวตนของคุณบน dark web
  2. ดาวน์โหลด Tor เข้าไปยัง หน้าดาวน์โหลดของ Tor และเลือกอุปกรณ์ของคุณ คุณจะมีตัวเลือกในการกำหนดค่าของมัน หรือคุณจะทำการเชื่อมต่อในทันทีเลยก็ได้
  3. ท่อง dark web ได้เลย! เชื่อมต่อ VPN ของคุณก่อนที่จะทำการเปิด Tor เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะท่องเว็บได้อย่างปลอดภัยที่สุด

Dark Web คืออะไร?

Dark web นั้นเป็นชั้นที่ 3 ของอินเทอร์เน็ตต่อจาก surface web และ deep web ต่อไปนี้จะเป็นคำอธิบายเกี่ยวกับสิ่งที่คุณจะพบเจอในแต่ละชั้น:

Surface Web

Surface web — หรือ clean web — เป็นส่วนหนึ่งของอินเทอร์เน็ตที่คุณสามารถเข้าถึงได้ทุกเวลาผ่านการใช้เบราว์เซอร์ยอดนิยมทั่วไป (เช่น Chrome, Firefox, Safari, อื่น ๆ) รวมถึงเพจต่าง ๆ ที่คุณสามารถเข้าถึงผ่านการค้นหาบน Google ด้วย คุณจะมองเห็นเฉพาะข้อมูลที่แอดมินของเว็บไซต์ต้องการให้คุณเห็น และก็จะไม่สามารถเข้าถึงไฟล์ backend, หน้าบัญชี, หรือ archives ได้

Deep Web

deep web นั้นจะเป็นชั้นที่มีความเป็นส่วนตัว และมักจะต้องใช้รหัสในการเข้า มันเป็นส่วนที่ใหญ่ที่สุดของเว็บไซต์ทั้งหมด ถือเป็นจำนวน 96% ของทั้งอินเทอร์เน็ต Deep web นั้นจะไม่สามารถถูกเข้าถึงได้จากการค้นหาโดยทั่วไป เนื่องจาก search engine จะไม่ได้ทำการ index มันเอาไว้ — มันเป็นชั้นของอินเทอร์เน็ตที่จะสามารถเข้าถึงได้โดยคนที่มีลิงก์เฉพาะหรือสามารถล็อกอินเข้าไปดูได้เท่านั้น

dark web กับ deep web นั้นไม่เหมือนกัน แต่คนส่วนใหญ่มักจะใช้สองคำนี้แทนกัน

Dark Web

Dark web นั้นเป็นชั้นที่สามของอินเทอร์เน็ต และเป็นชั้นที่ค้นหาได้ยากที่สุด มันประกอบไปด้วยเว็บไซต์ที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ด้วยเบราว์เซอร์ทั่วไป นอกจากนี้มันยังใช้โครงสร้าง URL ที่แตกต่างจากเว็บไซต์แบบ surface และ deep web ด้วย เว็บไซต์บน dark web นั้นจะมีสตริงของตัวอักษรและตัวเลขแบบสุ่มที่จะลงท้ายด้วย.onion แทน.com ในขณะที่ surface และ deep web นั้นสามารถถูกเข้าถึงได้ด้วยเบราว์เซอร์ทั่วไป ถ้าเป็นเว็บไซต์.onion นั้น คุณจะต้องใช้ซอฟต์แวร์พิเศษในการเข้าถึง Tor นั้นเป็นเบราว์เซอร์ที่ถูกใช้เข้าถึง dark web อย่างแพร่หลายมากที่สุด; อย่างไรก็ตาม เครือข่ายอื่น ๆ ประกอบไปด้วย Freenet, Riffle และ I2P คุณจะสามารถพบเจอได้ทั้งเว็บไซต์/กิจกรรมที่ถูกกฎหมายและผิดกฎหมายบน dark web เนื่องจากมันไม่มีการกำกับดูแลใด ๆ ทั้งสิ้น

Dark Web นั้นผิดกฎหมายหรือไม่?

Dark web นั้นเป็นเรื่องที่ถูกกฎหมายในประเทศส่วนใหญ่ ตราบใดก็ตามที่คุณไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องผิดกฎหมาย คุณก็คงจะไม่ต้องเจอกับปัญหาใด ๆ อย่างไรก็ตาม ในประเทศที่มีการเซ็นเซอร์อย่างเข้มงวด (เช่นจีนหรือสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) การเข้าถึง dark web นั้นเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย — เราแนะนำอย่างยิ่งให้คุณทำตามกฎหมายในประเทศของคุณ เพื่อหลีกเลี่ยงถึงผลทางกฎหมายที่จะตามมาในภายหลัง

ถึงแม้ว่าการเข้า dark web ในประเทศที่คุณอยู่อาศัยหรือเดินทางไปนั้นจะเป็นเรื่องถูกกฎหมาย แต่คุณก็อาจจะถูกจัดเข้าไปในกลุ่มเฝ้าระวังเพียงเพราะว่าคุณใช้เบราว์เซอร์ dark web อย่าง Tor ได้ เจ้าหน้าที่นั้นจะใช้ dark web เป็นเครื่องมือในการจับตัวอาชญากรที่กระทำเรื่องผิดกฎหมาย อย่างเช่นการค้ามนุษย์, ยา หรืออาวุธ และอีกมากมาย มีกิจกรรมถูกกฎหมายมากมายที่คุณสามารถเข้าถึงได้ด้วยการใช้ dark web เราแนะนำให้คุณเข้าชมเฉพาะเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือ และช่วยป้องกันตัวเองด้วยมาตรการด้านความปลอดภัยเพิ่มเติม

ฉันสามารถทำอะไรบน Dark Web ได้บ้าง?

มีกิจกรรมและทรัพยากรที่เป็นประโยชน์มากมายบน dark web แต่ยังไงก็ตาม การรักษาสถานะการไม่เปิดเผยตัวตนก็ยังคงเป็นเรื่องสำคัญ การใช้ Tor อย่างไม่มีการป้องกันนั้นจะทำให้คุณต้องเผชิญกับภัยอันตรายไซเบอร์มากมาย อย่างเช่นแฮ็กเกอร์, ตัวติดตาม และมัลแวร์ อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณเข้าใช้งาน dark web อย่างปลอดภัย มันก็จะมีข้อดีต่าง ๆ มากมาย เช่น:

  • เสรีภาพในการพูด
  • การเปิดโปงอาชญากรหรือบุคคลสาธารณะที่ทุจริต
  • ซื้อผลิตภัณฑ์ได้ในราคาถูกกว่า
  • เนื้อหาเกี่ยวกับการวิจัย
  • สื่อสารได้อย่างไม่เปิดเผยตัวตน
  • รับคำแนะนำทางการแพทย์

ก่อนที่จะเข้าไปกระทำการใด ๆ กับ dark web เราขอแนะนำให้ทำการค้นคว้าเกี่ยวกับเว็บไซต์ล่วงหน้า — ใช้เบราว์เซอร์ทั่วไปของคุณในการค้นหาทางออนไลน์ว่าเว็บไซต์นั้นมีความน่าเชื่อถือหรือไม่ มีข้อมูลอยู่บนโลกออนไลน์มากมายที่ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยอย่าง ExpressVPN ซึ่งได้แนะนำเกี่ยวกับลิงก์.onion ที่มีความน่าเชื่อถือ

อันตรายเกี่ยวกับ Dark Web ที่คุณควรรู้

เนื่องจากไม่มีการกำกับดูแล dark web นั่นแปลว่าคุณเองก็อาจจะตกเป็นเป้าของภัยอันตรายทางไซเบอร์ได้ในทุก ๆ ครั้งที่คุณเข้าชม คุณสามารถหลีกเลี่ยงภัยอันตรายเหล่านี้ได้อย่างง่ายดายถ้าคุณมีความเข้าใจและรู้วิธีปกป้องตัวเองจากมัน

ภัยอันตรายที่พบเห็นได้บ่อยที่สุดประกอบไปด้วย:

อาจติดมัลแวร์

การท่อง dark web นั้นทำให้คุณมีความเสี่ยงจากการโจมตีทางไซเบอร์ เช่น DDoS attacks, botnets และมัลแวร์หรือไวรัสอื่น ๆ เพียงแค่กรอก URL ผิดหรือดาวน์โหลดไฟล์อันตรายโดยไม่ได้ตั้งใจ มันก็อาจทำให้เครื่องของคุณติดไวรัสหรือมัลแวร์ได้ มันจะส่งผลเสียต่อเครื่องของคุณ หรือเลวร้ายกว่านั้น ข้อมูลส่วนตัวของคุณก็อาจจะรั่วไหลออกไป

เพื่อป้องกันภัยอันตรายในรูปแบบนี้ เราแนะนำให้เข้า dark web อย่างมีเป้าหมายในใจ — สืบค้นเกี่ยวกับเว็บไซต์ล่วงหน้า และก็จัดทำรายการของลิงก์ที่คุณเชื่อถือได้เอาไว้

กิจกรรมอันตราย

Dark web นั้นเป็นเหมือนที่อาศัยของอาชญากรรมต่าง ๆ — ไม่ว่าจะเป็นการใช้เอกสารปลอมหรือเอกสารที่ถูกขโมย ไปจนกระทั่งการค้ายาและอาวุธ ยิ่งไปกว่านั้นมันยังเป็นเครือข่ายสำหรับจ้างมือสังหารอึีก, สื่อลามกเด็ก และไลฟ์สตรีมการฆาตกรรมอีกด้วย หากคุณบังเอิญเข้าไปยังเพจพวกนั้นโดยไม่ได้ตั้งใจ คุณอาจจะเจอผลที่ตามมาทางกฎหมายในประเทศไทยได้ หากมีคนรู้เข้า

เพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์อันยุ่งเหยิงหรือผิดกฎหมาย เราแนะนำไม่ให้คุณเข้าเว็บ darknet ก่อนที่จะทำการสืบค้นเกี่ยวกับมันชัดเจนเสียก่อน

เว็บไซต์หลอกลวง

แฮ็กเกอร์บน dark web นั้นสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของคุณได้อย่างง่ายดาย ด้วยการใช้โทรจัน, ฟิชชิง และเว็บไซต์หรือโปรแกรมหลอกลวงประเภทอื่น ๆ บางครั้งแค่คลิกผิดนิดเดียว ข้อมูลของคุณทั้งหมดที่คุณเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ก็สามารถรั่วไหลออกไปได้ ที่แย่ไปกว่านั้น — อาชญากรไซเบอร์นั้นก็ชอบที่จะเปิดใช้งานกล้องและไมโครโฟนบนคอมพิวเตอร์เพื่อไลฟ์สตรีมจากเหยื่อที่ไม่ทันระวังตัวอีกด้วย

URL ส่วนใหญ่บน dark web นั้นจะมีชื่อที่จดจำไม่ได้ ดังนั้นคุณจึงสามารถติดกับดักแบบนี้ได้อย่างง่ายดาย — และก็จะทำให้ไฟล์ส่วนตัว, ข้อมูลทางการเงิน, คีย์การพิมพ์ และข้อมูลอื่น ๆ ต้องตกอยู่ในอันตราย เราแนะนำให้ใช้ VPN ตอนที่ทำการท่องเว็บอยู่ตลอด เพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลของคุณรั่วไหล

การเฝ้าระวัง

เพื่อเป็นการหยุดกลุ่มอาชญากรไม่ให้ดำเนินการบน dark web เจ้าหน้าที่ก็จะสร้างเว็บปลอมเพื่อติดตามอาชญากรรม ด้วยวิธีนี้ พวกเขาจึงสามารถดูได้ว่าใครมาเข้าเว็บของพวกเขาบ้าง — และนี่ก็รวมถึงตัวคุณด้วย ถ้าคุณบังเอิญไปเข้าเว็บไซต์นั้น ในบางประเทศนั้น เพียงแค่คุณใช้ Tor ก็อาจจะทำให้คุณถูกจัดกลุ่มโดยองค์กรเหล่านี้ได้แล้ว ถึงแม้ว่าคุณจะไม่ได้ทำกิจกรรมผิดกฎหมายก็ตาม

ขอให้จำเอาไว้ว่า Tor นั้นเป็นผลิตภัณฑ์ของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ดังนั้นการเฝ้าระวังของรัฐบาลก็มีความเป็นไปได้เช่นกัน วิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันไม่ให้เจ้าหน้าที่ทราบถึงกิจกรรมการท่องเว็บของคุณก็คือ การหลีกเลี่ยงเว็บไซต์ที่มีเรื่องผิดกฎหมาย — ถึงได้ย้ำอยู่บ่อยครั้งว่าคุณควรจะเข้าเฉพาะเว็บไซต์ที่คุณสืบค้นมาแล้วและมีความเชื่อใจ

คู่มือแบบทีละขั้น: วิธีการเข้าถึง Dark Web อย่างปลอดภัย จากประเทศ

เพื่อเหตุผลด้านความปลอดภัย เราอยากจะแนะนำให้คุณติดตั้ง Tor จากเว็บไซต์ทางการเท่านั้น และเราก็แนะนำไม่ให้เปลี่ยนขนาดหน้าต่างของคุณระหว่างการท่องเว็บ — มันจะเป็นการสร้างลายนิ้วมือของเบราว์เซอร์ ซึ่งเป็นวิธีที่แฮ็กเกอร์สามารถใช้งานเพื่อเก็บข้อมูลเฉพาะบางอย่างเกี่ยวกับคุณได้ อ่าน คู่มือ Tor สำหรับมือใหม่นี้ ก่อนจะทำการเข้า dark web

วิธีการดาวน์โหลด Tor สำหรับ Windows

  1. รับบริการจาก VPN ที่เราอยากแนะนำอันดับแรกเลยก็คือ ExpressVPN มันมีการเข้ารหัสระดับทหารและ kill switch อัตโนมัติ ซึ่งจะช่วยให้มั่นใจว่าข้อมูลส่วนตัวของคุณไม่รั่วไหล
  2. เชื่อมต่อไปยังเซิร์ฟเวอร์ใดก็ได้ เซิร์ฟเวอร์ในประเทศนั้นจะให้การเชื่อมต่อที่เร็วที่สุด The ExpressVPN app with indication of where to find the Smart Location, for the fastest server availableเรามักจะใช้ตำแหน่งอัจฉริยะของ ExpressVPN เพื่อให้แน่ใจว่าเราจะได้รับการเชื่อมต่อที่เร็วที่สุดในขณะที่ทำการท่องเว็บ
  3. ดาวน์โหลด Tor เข้าไปยัง หน้าดาวน์โหลดของมัน และเลือกตัวติดตั้งสำหรับ Windows Screenshot of the Tor official website, where its software can be downloaded for various devices and browsersหลังจากที่คลิกแล้ว มันก็จะเริ่มดาวน์โหลดลงเครื่องของคุณในทันที
  4. เปิดไฟล์ติดตั้ง เลือกภาษาและก็ทำการติดตั้งตาม wizard The Tor website prompting a selection of language for the installer tool, with a drop-down list to select fromภาษานั้นจะถูกเรียงตามตัวอักษร
  5. ติดตั้งเสร็จสิ้น หลังจากที่ติดตั้งเสร็จแล้ว คุณก็จะมีตัวเลือกว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อ Screenshot of the Tor browser installing on Windows with a progress percentage barเมื่อมันติดตั้งเสร็จแล้ว ให้ติ๊กตรงกล่องที่เขียนว่า "Run"
  6. เชื่อมต่อหรือกำหนดค่า Tor หลังจากที่ Tor ติดตั้งเสร็จแล้ว คุณก็มีตัวเลือกที่จะ "Connect (เชื่อมต่อ)" หรือ "Configure (กำหนดค่า)" ถ้าคุณกำลังท่องเว็บอยู่ในเครือข่ายหรือตำแหน่งที่มีการจำกัด คลิก "Configure" ตอนที่คุณคลิก "Configure" มันจะถามคุณว่า Tor ถูกเซ็นเซอร์ในประเทศของคุณหรือไม่ หรือว่าคุณกำลังใช้พร็อกซี่ — จากนั้นมันจะช่วยคุณกำหนดค่า pluggable transport ถ้าไม่อย่างนั้น คุณสามารถคลิก "Connect" เพื่อเริ่มใช้งาน Tor ได้ในทันที Screenshot of the Tor browser already installed, prompting the user to either connect or configure as the next stepหากคุณกำลังใช้พร็อกซี่ คุณจะต้องกรอกชนิดของพร็อกซี่, ที่อยู่ IP และพอร์ต

วิธีการดาวน์โหลด Tor สำหรับ Mac

  1. รับบริการจาก VPN เราแนะนำ ExpressVPN เพราะมันมีการเข้ารหัสระดับทหารและการป้องกันการรั่วไหลที่จะทำให้คุณท่อง dark web ได้อย่างไม่เปิดเผยตัวตน
  2. เชื่อมต่อไปยังเซิร์ฟเวอร์ใดก็ได้ เซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ใกล้เคียงนั้นมักจะมีความเร็วดีที่สุด ดังนั้นคุณควรจะเลือกที่อยู่ใกล้คุณที่สุด คุณยังสามารถเลือก "ตำแหน่งอัจฉริยะ" และปล่อยให้แอปค้นหาเซิร์ฟเวอร์ที่เร็วที่สุดอัตโนมัติได้ด้วย

    ExpressVPN's MacOS app, displaying server locationsExpressVPN นั้นมีเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่มาก ดังนั้นก็ขึ้นกับคุณเลยว่าคุณจะเชื่อมต่อไปที่ไหน

  3. ดาวน์โหลด Tor เข้าไปยัง หน้าการดาวน์โหลด และเลือกตัวติดตั้งสำหรับ Mac

    The Tor download webpage with indication of where to click to download Tor for OS Xหลังจากที่คลิกแล้ว มันก็จะเริ่มดาวน์โหลดในทันที

  4. ลากไฟล์ไปยังหน้าต่างแอปพลิเคชัน นี่จะเริ่มกระบวนการติดตั้งในทันที

    Screenshot showing how to install Tor on Mac OS by dragging the Tor Browser icon to the Applications folderคุณจะถูกขอให้ดำเนินการตามขั้นตอนนี้โดยอัตโนมัติ — Tor จะถูกรวมไว้กับแอปพลิเคชันอื่น ๆ ของคุณ

  5. Connect (เชื่อมต่อ) หรือ Configure (กำหนดค่า) Tor หากคุณท่องเว็บในเครือข่ายที่มีการบล็อก Tor (เช่นห้องสมุดหรือที่ทำงาน) ให้เลือก "Configure" ตอนที่คุณคลิก "Configure" มันจะถามคุณว่า Tor ถูกเซ็นเซอร์ในประเทศของคุณหรือไม่ หรือว่าคุณกำลังใช้พร็อกซี่ — จากนั้นมันจะช่วยคุณกำหนดค่า pluggable transport ถ้าไม่อย่างนั้น คุณสามารถคลิก "Connect" เพื่อเริ่มใช้งาน Tor ได้ในทันที

    A progress bar showing Tor's configuration steps on a Mac OS deviceหากคุณกำลังใช้พร็อกซี่ คุณจะต้องกรอกชนิดของพร็อกซี่, ที่อยู่ IP และพอร์ต

วิธีการดาวน์โหลด Tor สำหรับ Linux

  1. ดาวน์โหลด VPN ที่เราอยากแนะนำอันดับแรกเลยก็คือ ExpressVPN — มันมีการเข้ารหัสระดับทหารและนโยบายการไม่บันทึกข้อมูลอันเข้มงวด ซึ่งจะช่วยให้กิจกรรมออนไลน์ของคุณนั้นมีความเป็นส่วนตัวอยู่เสมอ
  2. เชื่อมต่อ VPN เปิดเทอร์มินัลใหม่ จากนั้นให้ run คำสั่งนี้: expressvpn connect หรือหากต้องการติดตั้งอัตโนมัติ "ตำแหน่งอัจฉริยะ" ให้ใช้คำสั่ง expressvpn connect smart
  3. ดาวน์โหลด Tor launcher เข้าไปยังหน้าดาวน์โหลดของ Tor บน FlatHub — ดาวน์โหลด launcher สำหรับ Linux

    The Tor Browser Launcher page on Flathub, where Linux users can install Torคลิก “Install (ติดตั้ง)” — นี่จะทำการดาวน์โหลดไฟล์ที่จะทำให้คุณติดตั้ง Tor ได้

  4. ติดตั้งไฟล์ ค้นหาโฟลเดอร์ดาวน์โหลด (หรือตำแหน่งใดก็ตามที่คุณดาวน์โหลด Tor Launcher เอาไว้) และก็เปิดไฟล์

    Screenshot showing how to locate the Tor Browser Launcher within Linux under ตอนที่คุณเปิด Tor Browser launcher ให้คลิก "Install" — จากนั้นให้รอสักครู่จนกว่าที่มันจะเสร็จ

  5. เชื่อมต่อหรือกำหนดค่า Tor คลิก "Launch (เริ่ม)" เพื่อเริ่ม Tor จากนั้นคุณจะมีตัวเลือกระหว่าง "Connect" หรือ "Configure" หากคุณท่องเว็บจากเครือข่ายที่บล็อก Tor ให้คุณเลือก "Configure" ตอนที่คุณคลิก "Configure" มันจะถามคุณว่า Tor ถูกเซ็นเซอร์ในประเทศของคุณหรือไม่ หรือว่าคุณกำลังใช้พร็อกซี่ — จากนั้นมันจะช่วยคุณกำหนดค่า pluggable transport ถ้าไม่ คุณก็สามารถเลือก "Connect" เพื่อเริ่มท่อง dark web ได้ในทันที

    Tor on Linux, prompting the user to either connect to begin browsing or configure the app's network settingsหากคุณกำลังใช้พร็อกซี่ คุณจะต้องกรอกชนิดของพร็อกซี่, ที่อยู่ IP และพอร์ต

วิธีการติดตั้ง Tor

  1. จัดการส่วนเสริมของ Tor เราแนะนำให้เปิดส่วนเสริมทั้งหมดของ Tor เพื่อเพิ่มความปลอดภัย คลิกที่ไอคอนแฮมเบอร์เกอร์ จากนั้นเรื่อง Preferences (การกำหนดค่า) > Extensions & Themes (ส่วนขยายและธีม) ในนี้คุณจะเจอกับ HTTPS Everywhere ซึ่งจะอนุญาตเฉพาะเวอร์ชั่น HTTPS (ปลอดภัย) ของเว็บไซต์ NoScript จะปิด JavaScript บนเว็บไซต์ที่ไม่ได้รับความเชื่อถือ HTTPS Everywhere และ NoScript นั้นจะถูกเปิดใช้งานเป็นค่าเริ่มต้น แต่คุณสามารถจัดการมันได้อย่างง่ายดายในการตั้งค่าของ Tor ถ้าคุณต้องการ

    Tor's extension preferences, indicating how to enable, disable, and manage HTTPS Everywhere and NoScriptคุณสามารถระบุได้เลยด้วยว่าจะให้เว็บไซต์ไหนบ้างที่ไม่ต้องใช้ HTTPS Everywhere และ NoScript

  2. ตั้งค่าระดับความปลอดภัย สำหรับความปลอดภัยที่เพิ่มมากขึ้น คุณสามารถตั้งค่าระดับความปลอดภัยเป็น "Safest (ปลอดภัยที่สุด)" คุณสามารถทำแบบนี้่ได้ด้วยการคลิกที่ปุ่มโล่ตรงมุมขวาบนของเบราว์เซอร์ จากนั้นคลิกที่ “Advanced Security Settings (การตั้งค่าความปลอดภัยขั้นสูง)”

    The Tor browser homepage with indication of where to locate the shield icon for adjusting security level preferencesระดับความปลอดภัยทั้ง 3 ขั้นของคุณนั้นจะมี Standard (มาตรฐาน), Safer (ปลอดภัย) และ Safest (ปลอดภัยที่สุด) — Safer และ Safest จะปิด script และเนื้อหาอื่น ๆ ซึ่งอาจจะส่งผลต่อการทำงานของเว็บไซต์ที่คุณเข้าชม

  3. เริ่มท่อง dark web อย่างปลอดภัยได้เลย! อย่าลืมเชื่อมต่อ VPN ก่อนที่จะเปิด Tor เพื่อความปลอดภัยขั้นสูงสุด

VPN ที่ดีที่สุดสำหรับใช้เข้า Dark Web อย่างปลอดภัย จากประเทศไทย ในปี 2024

1. ExpressVPN — VPN สำหรับ Dark Web ที่ดีที่สุด มีการป้องกันเรื่องความเป็นส่วนตัวอันแข็งแกร่ง และมีความเร็วอันน่าประทับใจ

  • ฟีเจอร์ความเป็นส่วนตัวทันสมัยสำหรับไว้ปกป้องกิจกรรมออนไลน์ของคุณไม่ให้รั่วไหลออกไป
  • ความเร็วสูงเพื่อให้ Tor ทำงานได้อย่างราบรื่น
  • 3,000 เซิร์ฟเวอร์ใน 105 ประเทศ (รวมถึงประเทศไทย) เพื่อปกปิดตำแหน่งที่แท้จริงของคุณอย่างมีประสิทธิภาพ
  • 8 การเชื่อมต่อพร้อมกัน
  • ใช้งานได้กับ: Tor, Freenet, Invisible Internet Project (I2P) และอื่น ๆ
  • ใช้งานเข้ากันได้กับ: Windows, Mac, iOS, Android, Linux, เราเตอร์ และอื่น ๆ
  • แอปและส่วนขยายเป็นภาษาไทย
  • ฐานข้อมูล, อีเมล และแชทรองรับภาษาไทย

ExpressVPN นั้นมีฟีเจอร์ความเป็นส่วนตัวที่ดีที่สุดเพื่อช่วยปกป้องกิจกรรมบนโลกออนไลน์ของคุณให้ปลอดภัย มันใช้งานเทคโนโลยี TrustedServer ซึ่งเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมดของมันจะเป็นแบบ RAM และก็จะมีการลบข้อมูลทุกครั้งที่มีการรีบูท นี่จะเป็นการช่วยให้มั่นใจว่าข้อมูลของคุณจะไม่ถูกเก็บเอาไว้ และก็จะไม่ถูกนำไปแชร์ได้ แถมมันยังใช้งาน Private DNS ซึ่งหมายความว่ามันจะเปลี่ยนเส้นทางทราฟฟิค dark web ทั้งหมดของคุณไปยังเซิร์ฟเวอร์ DNS ที่มีการเข้ารหัสของพวกเขาเอง แบบนี้ก็จะไม่มีใครสามารถมาแทรกแซงหรือดูกิจกรรมที่คุณกระทำบน dark web ได้

Screenshot showing ExpressVPN's TrustedServer Technology webpage on its website.การเพิ่มความปลอดภัยแบบนี้ จึงทำให้ ExpressVPN นั้นเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการปกป้องความเป็นส่วนตัวบนโลกออนไลน์ของคุณ

มันยังทำตามนโยบายการไม่บันทึกข้อมูลอย่างเข้มงวดอีกด้วย ซึ่งก็หมายความว่ามันจะไม่เก็บข้อมูลกิจกรรมของคุณเอาไว้

นอกจากจะมีฟีเจอร์ความเป็นส่วนตัวที่ดีที่สุดแล้ว ExpressVPN นั้นยังมาพร้อมกับ ฟีเจอร์ความปลอดภัยที่แข็งแกร่งอย่าง การเข้ารหัส 256-bit AES และการป้องกันการรั่วไหลของ IP และ DNS ด้วย เราอยากให้แน่ใจจริง ๆ ว่ามันสามารถเชื่อถือได้ เราจึงได้ทำการทดสอบด้วยเครื่องมืออีกตัว — ซึ่งมันก็ไม่ตรวจพบการรั่วไหลใด ๆ เลย

คุณยังจะสามารถใช้งาน kill switch แบบล็อกเครือข่ายได้ด้วย — ในกรณีที่ VPN เกิดขาดการเชื่อมต่อ มันก็จะตัดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของคุณไปด้วย เพื่อปกป้องไม่ให้ข้อมูลของคุณรั่วไหลออกมา เราได้ทำการทดสอบประสิทธิภาพของมันด้วยการเปิดใช้งาน kill switch และก็เปลี่ยนเซิร์ฟเวอร์ ระหว่าง 15 วินาทีที่มันเปลี่ยนเซิร์ฟเวอร์ การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของเราก็จะถูกตัดไปด้วย

ExpressVPN นั้นยังมีโปรโตคอลความปลอดภัยที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครชื่อ Lightway อีกด้วย โปรโตคอลนี้ถูกปรับแต่งมาเพื่อความเร็วที่สูงขึ้นโดยไม่ลดเรื่องของความปลอดภัย — มันจะมีความเร็วสูงกว่าโปรโตคอล VPN ทั่วไป (อย่างเช่น OpenVPN)

เบราว์เซอร์ Tor นั้นใช้ระบบแบบ relays กับ nodes และข้อมูลของคุณจะเดินทางผ่านเซิร์ฟเวอร์อย่างสุ่ม 3 แห่งที่เรียกว่า relays ก่อนที่มันจะไปถึงทางออกที่เรียกว่า node กระบวนการนี้จะทำให้ความเร็วในการท่องเว็บของคุณนั้นช้าลง แต่ Lightway ของ ExpressVPN นั้นทำให้เราสามารถใช้ Tor ท่องเว็บได้อย่างไม่รู้สึกช้าลงเลย เราได้ความเร็วเฉลี่ยอยู่ที่ 46 Mbps เมื่อเทียบกับความเร็วฐานที่ 50 Mbps ซึ่งก็ตกลงแค่ 8% เท่านั้น

Split tunneling จะทำให้คุณสามารถเลือกได้ว่าแอปไหนต้องการการปกป้องจาก VPN มันใช้เวลาการตั้งค่าเพียงแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น นี่จะทำให้คุณสามารถเปลี่ยนเส้นทางทราฟฟิคของ Tor ไปยัง VPN ในขณะที่แอป, เบราว์เซอร์, เกม และ client P2P อื่น ๆ จะยังสามารถใช้การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตปกติได้ ฟีเจอร์นี้จะช่วยปกป้องทราฟฟิค dark web ของคุณโดยไม่จำกัดการใช้งานเครือข่ายปกติของคุณ ด้วยการเสริมความเร็วและประสิทธิภาพ

ยิ่งไปกว่านั้น ExpressVPN ยังใช้งานได้กับบริการสตรีมมิ่งระดับนานาชาติอย่าง Netflix สหรัฐอเมริกา (และอีกหลายประเทศ), Amazon Prime, Hulu, HBO Max, Twitch, และอีกมากมาย รวมถึงช่อง ONE 31 ด้วย

ปัญหาเดียวสำหรับเราก็คือ ราคามันค่อนข้างสูง โดยเริ่มต้นอยู่ที่ $6.67/เดือน อย่างไรก็ตาม ExpressVPN นั้นมีการลดราคาอยู่เป็นประจำ เราได้แถมให้ใช้บริการฟรี 3 เดือน ตอนที่เราสมัครใช้งานแพ็กเกจรายปี แพลนระยะยาวนั้นจะมีความคุ้มค่ามากที่สุด และมันก็ยังมีแถม Backblaze คลาวด์แบบเข้ารหัส ให้ใช้ฟรีหนึ่งปีด้วย

คุณสามารถ ทดลองใช้ ExpressVPN ได้อย่างไม่มีความเสี่ยง เพราะพวกเขามีการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน คุณสามารถขอคืนเงินได้เต็มจำนวนถ้าคุณลองใช้แล้วรู้สึกไม่เหมาะกับคุณ เราได้ทำการทดสอบกระบวนการขอคืนเงินด้วยตนเองแล้ว หลังจากที่ใช้งานไป 26 วัน ที่เราต้องทำก็แค่ติดต่อตัวแทนผ่านไลฟ์แชท 24/7 และก็ตอบคำถามเกี่ยวกับประสบการณ์การใช้งานเล็กน้อย หลังจากนั้นคำร้องของเราก็ได้รับการอนุมัติ และเราก็ได้รับเงินคืนภายในเวลา 3 วัน

ส่วนลด ExpressVPNเมษายน 2024: มีเวลาจำกัด คุณสามารถรับส่วนลด ExpressVPNได้มากถึง49% ! อย่าพลาดข้อเสนอสุดพิเศษ!

2. CyberGhost — เซิร์ฟเวอร์ NoSpy สำหรับปิดบังกิจกรรมออนไลน์ของคุณ ในประเทศไทย หรือจากที่ใดก็ได้

  • เซิร์ฟเวอร์ NoSpy จะช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยขึ้นไปอีกขั้น ตอนที่คุณเข้า dark web
  • 11,690 เซิร์ฟเวอร์ใน 100 ประเทศ (โดยที่มีเซิร์ฟเวอร์อยู่ใน กรุงเทพฯ) เพื่อใช้ปิดบังตำแหน่งที่แท้จริงของคุณ
  • ความเร็วสูงเพื่อลดเวลาการโหลดตอนที่ใช้งาน Tor
  • 7 การเชื่อมต่อพร้อมกัน
  • ใช้งานได้กับ: Tor, Freenet, Invisible Internet Project (I2P) และอื่น ๆ
  • ใช้งานเข้ากันได้กับ: Windows, Mac, iOS, Android, Linux, เราเตอร์ และอื่น ๆ

CyberGhost นั้นใช้เซิร์ฟเวอร์ NoSpy เพื่อความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยที่ดียิ่งขึ้น เซิร์ฟเวอร์ที่ถูกเข้ารหัสนั้นจะตั้งอยู่ข้างในสำนักงานใหญ่ของ CyberGhost ที่โรมาเนีย และจะมีเฉพาะพนักงานที่ผ่านการคัดกรองแล้วเท่านั้นที่จะเข้าถึงมันได้ — นี่จะช่วยลดความเสี่ยงที่บุคคลที่สามจะเข้ามาแทรกแซงได้ โรมาเนียนั้นตั้งอยู่นอกพื้นที่ของ 5/9/14 Eyes และก็จะคล้ายกับ ExpressVPN ตรงที่ CyberGhost นั้นไม่จำเป็นต้องแบ่งปันข้อมูล ถึงแม้ว่าองค์กรของรัฐบาลจะมาขอก็ตาม

Screenshot showing CyberGhost's list of NoSpy servers in Romaniaนอกจากนี้ยังมีเซิร์ฟเวอร์พิเศษสำหรับปลดบล็อกเว็บไซต์สตรีมมิ่งได้ทั่วโลก และก็โหลด torrent ได้ด้วยความเร็วสูงอีกด้วย

มันมีฟีเจอร์ความปลอดภัยอันทันสมัย อย่างเช่น การเข้ารหัส 256-bit, การป้องกันการรั่วไหล และ kill switch นอกจากนี้ นโยบายการไม่บันทึกข้อมูลของมันก็แปลว่าข้อมูลของคุณจะไม่ถูกเก็บเอาไว้ ระหว่างการทดสอบของเรา เราก็ไม่พบการรั่วไหลใด ๆ บน ipleak.net เลยด้วย นี่หมายความว่าเมื่อไรก็ตามที่คุณท่อง dark web ตำแหน่งและข้อมูลที่แท้จริงของคุณก็จะไม่รั่วไหลออกไป

ข้อเสียเล็กน้อยก็คือเซิร์ฟเวอร์ระยะไกลของ CyberGhost นั้นไม่เร็วเท่ากับ ExpressVPN อย่างไรก็ตาม นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเราเนื่องจาก ความเร็วเฉลี่ยของเราอยู่ที่ 40 Mbps ในเซิร์ฟเวอร์สหรัฐอเมริกา เราทดสอบดูแล้วความเร็วตกลงแค่ 20% จากความเร็วฐานของเราเท่านั้น

CyberGhost นั้นมีแพลนสมัครสมาชิกให้เลือกหลายแพลน แต่แพลนระยะยาวนั้นมีความคุ้มค่าสูงที่สุด แพลนรายปีนั้นยังมีการรับประกันคืนเงินที่ยาวกว่าด้วย (แพลนรายเดือนจะรับประกันแค่ 14 วัน) คุณสามารถ รับบริการจาก CyberGhost ได้ในราคาถูกมาก ๆ (เริ่มต้นที่ $2.03/เดือน) ถ้าคุณเลือกใช้แพลนแบบ 3 ปี

มันง่ายมากที่จะ ทดลองใช้ CyberGhost เพราะว่ามันมีการรับประกันคืนเงินยาวถึง 45 วัน หลังจากที่ใช้งานไปแล้ว 35 วัน เราก็ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าและก็ขอคืนเงิน ทางตัวแทนก็แค่ถามเหตุผลจากเราว่าทำไมถึงอยากยกเลิก แต่หลังจากนั้นไม่นานก็อนุมัติคำร้องให้เรา เราได้รับเงินคืนหลังจากนั้นภายในหนึ่งสัปดาห์

3. Private Internet Access — ฟีเจอร์ MACE ที่จะปกป้องคุณจากโฆษณาและมัลแวร์บน Dark Web

  • ฟีเจอร์ MACE จะช่วยบล็อกโฆษณา, มัลแวร์ และตัวติดตาม ในขณะที่คุณกำลังท่อง dark web
  • 29,650 เซิร์ฟเวอร์ใน 90 ประเทศ เพื่อช่วยปิดบังตำแหน่งที่แท้จริงของคุณ
  • ความเร็วดีสำหรับใช้ท่อง dark web ได้อย่างไม่ถูกรบกวน
  • ไม่จำกัด การเชื่อมต่อพร้อมกัน
  • ใช้งานได้กับ: Tor, Freenet, Invisible Internet Project (I2P) และอื่น ๆ
  • ใช้งานเข้ากันได้กับ: Windows, Mac, iOS, Android, Linux, เราเตอร์ และอื่น ๆ
  • แอปและส่วนขยายเป็นภาษาไทย

PIA นั้นมีฟีเจอร์ที่ถูกบิ้วท์อินมาในตัวชื่อว่า MACE ซึ่งจะสามารถบล็อกโฆษณาและช่วยปกป้องระบบของคุณจากมัลแวร์และตัวติดตาม ฟีเจอร์นี้นั้นใช้งานเข้ากันได้กับ Tor และมันก็มีประโยชน์มาก เนื่องจากเบราว์เซอร์ dark web จะไม่แนะนำให้คุณติดตั้งส่วนเสริม (อย่างเช่นตัวบล็อกโฆษณา) ด้วยเหตุผลทางด้านความเป็นส่วนตัว เราทำการทดสอบ MACE แล้ว และมันก็สามารถบล็อกโฆษณาบนเพจได้ และก็ยังบล็อกป๊อปอัพได้บางส่วนด้วย

คุณจะได้รับมากกว่าฟีเจอร์ความปลอดภัยมาตรฐาน ถ้าคุณเลือกใช้ PIA มันจะมีการเข้ารหัส 256-bit แต่คุณก็สามารถเลือกใช้แบบ 126-bit ที่อ่อนแอกว่าได้ — นี่กํ็จะยังคงช่วยป้องกันให้คุณปลอดภัยเวลาท่อง dark web แต่มันจะช่วยเพิ่มความเร็วให้คุณ Kill switch นั้นสามารถปรับแต่งได้และก็มีฟีเจอร์ Multi-Hop ที่จะส่งทราฟฟิคของคุณไปยัง 2 เซิร์ฟเวอร์เพื่อช่วยเพิ่มการป้องกันเป็นสองเท่า

ปัญหาเดียวเกี่ยวกับ PIA ก็คือว่ามันตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ พันธมิตร 5 Eyes อย่างไรก็ตาม นโยบายการไม่บันทึกข้อมูลของ PIA นั้นผ่านการพิสูจน์มาหลายครั้งแล้วในสถานการณ์จริง

ถึงแม้ว่ามันจะมีแพลนสมัครสมาชิกหลายรูปแบบ แต่เราก็เห็นว่าแพลนระยะยาวนั้นมีราคาถูกที่สุด คุณสามารถรับบริการจาก PIA ได้ในราคาเพียง $2.03/เดือน ถ้าคุณเลือกใช้แพลน 2 ปี คุณสามารถใช้เงินคริปโตจ่ายค่าสมัครสมาชิกได้ด้วย เพื่อที่จะรักษาสถานะการไม่เปิดเผยตัวตน

คุณสามารถ ทดลองใช้งาน PIA ได้ฟรีด้วยการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วันของมัน ถ้าคุณลองใช้แล้วเห็นว่า VPN นี้ไม่เหมาะสำหรับคุณ คุณก็สามารถขอคืนเงินได้อย่างง่ายดาย เรายกเลิกการสมัครสมาชิกของเราหลังจากที่ใช้งานไป 26 วัน ผ่านการติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าทางแชท 24/7 ทางตัวแทนทำการขอคืนเงินให้เราในทันที และเราก็ได้รับเงินคืนภายในเวลา 4 วัน

เคล็ดลับเพิ่มเติมในการใช้งาน Dark Web อย่างปลอดภัย

ถึงแม้จะมีเหตุผลดี ๆ มากมายในการเข้าถึง dark web แต่มันก็อาจทำให้คุณต้องพบกับภัยอันตรายต่าง ๆ มากมายด้วยเช่นกัน การใช้ VPN ที่มีความน่าเชื่อถืออย่าง ExpressVPN จะช่วยปกป้องคุณเวลาใช้งานบน Dark Web อย่างไรก็ตาม คุณควรจะมีมาตรการป้องกันทั่วไปด้วยเพื่อเพิ่มความปลอดภัยของคุณให้มากที่สุดในขณะที่คุณกำลังท่องเว็บ คุณควรจะมีมาตรการป้องกันดังต่อไปนี้ด้วย:

  • ใช้ซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัส
  • ใช้อีเมลอื่น
  • เก็บรักษาตัวตนให้เป็นเรื่องส่วนตัว
  • ใช้ Bitcoin
  • ซื้อของจากร้านที่เชื่อถือเท่านั้น
  • ปิดแอปและบริการทั้งหมดที่ไม่จำเป็นบนอุปกรณ์ของคุณ
  • ปิดตำแหน่งของคุณ
  • หลีกเลี่ยงส่วนเสริม
  • ปิด JavaScript บนเบราว์เซอร์ Tor
  • อย่าเปลี่ยนขนาดหน้าต่าง Tor ของคุณ
  • ปิดกล้องและลำโพงของคุณ
  • สืบค้นเกี่ยวกับเว็บไซต์ก่อนที่จะทำการเข้าถึง
  • ระวังสิ่งที่คุณเปิดให้ดี ๆ
  • เปิดไฟล์ที่คุณดาวน์โหลดแบบออฟไลน์
  • ใช้ระบบปฏิบัติการที่เน้นด้านความปลอดภัย

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการเข้า Dark Web อย่างปลอดภัย

ฉันสามารถเข้าถึงเว็บไซต์บน dark web บนโทรศัพท์, iPad หรือ Chromebook ได้หรือไม่?

คุณสามารถเข้าถึง Tor บนมือถือหรือ iPad ได้ (ซึ่งเราไม่แนะนำ) — แต่ Chromebook จะทำไม่ได้ Tor นั้นมีแอปสำหรับทั้ง Android และ iOS อย่างไรก็ตาม อุปกรณ์เหล่านี้มันไม่สามารถดูแลข้อมูลของคุณให้ปลอดภัยได้ ถ้าคุณคิดจะเข้าถึง dark web จากโทรศัพท์มือถือของคุณ เราแนะนำเป็นอย่างยิ่งให้คุณปกป้องตนเองด้วยการใช้ VPN VPN ทั้งหมดในรายการนี้ จะมีแอปสำหรับ iOS และ Android แถมมันยังมีฟีเจอร์ความปลอดภัยระดับชั้นนำของโลกเพื่อช่วยให้คุณท่องเว็บได้อย่างเป็นส่วนตัวมากที่สุด

ผู้ใช้งาน Android จะต้องดาวน์โหลด Orbot หรือ Orfox เพื่อทำการเข้าถึง dark web บนมือถือของพวกเขา Orbot นั้นจะเชื่อมต่อคุณเข้าหาเครือข่าย Tor และ Orfox เป็นเบราว์เซอร์จริง ๆ ที่คุณจะต้องใช้ สำหรับผู้ใช้งาน iOS คุณจะต้องใช้แอป Onion Browser อย่าลืมปิดกล้องและปิดลำโพงตอนที่คุณดาวน์โหลดแอปเหล่านี้

สำหรับผู้ใช้งาน Chromebook — น่าเสียดายแต่มันไม่มีแอป Tor อย่างเป็นทางการสำหรับ ChromeOS ในปัจจุบัน

ฉันต้องใช้ VPN เพื่อเข้าถึง dark web ในประเทศไทย หรือไม่?

การใช้งาน VPN บน dark web นั้นเป็นมาตรการป้องกันที่เราแนะนำเป็นอย่างยิ่ง Tor นั้นจะช่วยรักษาสถานะการไม่เปิดเผยตัวตนภายในเครือข่าย แต่ ISP ของคุณก็ยังสามารถมองเห็นได้อยู่ดีว่าคุณกำลังทำการเข้าถึงมัน ถึงแม้ว่าคุณจะไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย แต่ Tor นั้นก็เป็นสิ่งที่ถูกมองว่าเกี่ยวข้องกับอาชญากรรม นี่หมายความว่า ISP ของคุณนั้นอาจจะรายงานเรื่องของคุณให้เจ้าหน้าที่ทราบ หรืออาจจะบอกเลิกสัญญากับคุณเลยก็ได้

ไม่ใช่แค่นั้น แต่ทุกครั้งที่คุณเข้าถึง dark web คุณก็อาจจะตกเป็นเป้าของภัยอันตรายทางไซเบอร์มากมาย — เช่นแฮ็กเกอร์ผู้ที่พยายามขโมยข้อมูล, มัลแวร์, ไวรัส และอื่น ๆ VPN จะช่วยรักษาสถานะการไม่เปิดเผยตัวตนและปกป้องข้อมูลส่วนตัวของคุณ เพื่อให้คุณสามารถท่อง dark web ได้อย่างปลอดภัย

ฉันสามารถเข้า dark web โดยใช้ VPN ฟรีได้หรือไม่?

สามารถทำได้ แต่เราไม่แนะนำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อให้แน่ใจว่ากิจกรรมบน dark web ของคุณนั้นได้รับการคุ้มกัน เราแนะนำให้คุณใช้เฉพาะบริการระดับพรีเมียมที่มีความน่าเชื่อถือเท่านั้น

VPN ฟรีนั้นมีความปลอดภัยและความเสถียรไม่เทียบเท่ากับ VPN ระดับพรีเมียม พวกมันผ่านการพิสูจน์ในอดีตมาแล้วว่าเคยทำให้ที่อยู่ IP ของผู้ใช้งานรั่วไหล — นี่จะทำให้แฮ็กเกอร์และเจ้าหน้าที่สามารถดักจับข้อมูลของคุณได้ นอกจากนี้่พวกเขายังจำกัดแบนด์วิดท์และความเร็วของคุณ รวมถึงยังนำเสนอโฆษณาและป๊อปอัพอันน่ารำคาญใส่คุณด้วย การใช้บริการฟรีนั้นไม่คุ้มกับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น ในเมื่อคุณสามารถเลือกใช้ VPN ในรายการนี้ได้ผ่านการรับประกันคืนเงินอย่างไม่มีความเสี่ยง

มีตัวเลือกอื่นนอกจาก Tor อีกหรือไม่?

มีอีกหลายวิธีในการเข้าถึง dark web โดยไม่ผ่าน Tor แต่มันก็จะมีระดับความสามารถในการเข้าถึงและความปลอดภัยที่ต่างกันออกไป อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าคุณจะเลือกใช้เบราว์เซอร์ไหน มันต่างก็มีความเสี่ยงในการเข้าถึง dark web ทั้งนั้น เราจึงแนะนำให้คุณท่องเว็บอย่างปลอดภัยขึ้นด้วยการใช้ VPN

เครือข่ายหนึ่งที่แยกจาก Tor คือ I2P ซึ่งจะเปิดให้คุณเข้าถึงได้แค่บางเว็บไซต์ (เรียกว่า “eepsites” — I2P จะเข้าถึงเว็บไซต์ได้ไม่มากเท่ากับ Tor นอกจากนี้ มันก็ยังกำหนดค่าได้ยากกว่า; หลังจากที่คุณดาวน์โหลดและติดตั้งแล้ว คุณก็จะต้องกำหนดค่ามันผ่านเราเตอร์, แอปแยก, และ/หรือการตั้งค่าพร็อกซี่ของเบราว์เซอร์พร็อกซี่

อีกทางหนึ่งก็คือ Freenet; เช่นเดียวกันกับ I2P คือมันจะไม่เปิดให้คุณเข้าถึงลิงก์.onion — เข้าถึงได้เฉพาะเนื้อหาที่ถูกอัปโหลดขึ้น Freenet เท่านั้น มันเป็นพื้นที่สำหรับการแชร์เนื้อหาแบบ peer-to-peer อย่างไม่เปิดเผยตัวตน ผู้ใช้งานสามารถสร้างกลุ่มส่วนตัวสำหรับแชร์เนื้อหาได้ เรียกว่าโหมด darknet หรือพวกเขาสามารถใช้โหมด opennet เพื่อถูกจับกลุ่มกับ peer อื่น ๆ บนเครือข่ายแบบสุ่มได้ เช่นเดียวกันกับ I2P มันจะใช้ฐานข้อมูลเครือข่ายแบบแจกแจงเพื่อช่วยป้องกันการจู่โจมทางไซเบอร์

มี search engine สำหรับ dark web หรือไม่?

มีให้เลือกอยู่ — อย่างไรก็ตาม การเข้าชมเว็บไซต์ที่คุณค้นหาเจอจาก search engine นั้นอาจเป็นเรื่องที่มีความอันตราย; บางเว็บไซต์นั้นถูกตั้งขึ้นมาโดยแฮ็กเกอร์เพื่อเก็บข้อมูลของคุณ และบางเว็บไซต์นั้นก็อาจมีไฟล์ที่เป็นอันตรายต่อเครื่องของคุณ คำแนะนำของเราก็คือ คุณควรจะสืบค้นเกี่ยวกับเว็บไซต์ก่อนที่จะกดเข้าผ่านทาง search engine และคุณควรจะปกป้องข้อมูลส่วนตัวด้วย VPN ที่มีความปลอดภัยสูง

Dark web search engine นั้นจะหน้าตาไม่เหมือน search engine ที่คุณพบเห็นได้ทั่วไปอย่าง Google และ มันก็ยังประสิทธิภาพไม่ค่อยดีสำหรับใช้ค้นหาสิี่งที่คุณต้องการจะเข้าดูด้วย นี่ก็เพราะการพัฒนาอย่างไม่มีหยุดของ dark web — search engine จึงไล่ตามการเปลี่ยนแปลงนั้นไม่ทัน และก็มักจะให้ผลลัพธ์ที่ไม่ถูกต้องหรือมีความซ้ำซาก

อย่างไรก็ตาม มี search engine ที่มีความน่าเชื่อถือบางรายที่อาจจะช่วยคุณได้เล็กน้อย อย่างเช่น:

Tor ก่อน VPN กับ VPN ก่อน Tor นั้นต่างกันอย่างไร?

ข้อแตกต่างก็คือลำดับการผ่านของทราฟฟิคอินเทอร์เน็ต Tor ก่อน VPN จะส่งทราฟฟิคของคุณไปยังเซิร์ฟเวอร์ VPN ก่อนที่จะส่งไปเครือข่าย Tor — ในขณะที่ VPN ก่อน Tor นั้นจะส่งทราฟฟิคของคุณไปยังเบราว์เซอร์ Tor ก่อน

ทั้งสองวิธีนี้ต่างก็ดีกว่าการไม่ใช้ VPN เลย ไม่ว่าจะยังไง เราก็แนะนำให้คุณใช้ Tor กับ VPN ที่ไม่มีการบันทึกข้อมูล — นี่จะช่วยป้องกันไม่ให้บุคคลที่สามรู้ว่าคุณกำลังใช้ Tor อยู่; พวกเขาจะรู้แค่ว่าคุณกำลังใช้ VPN

ขอให้จำไว้ว่า เราไม่แนะนำให้ใช้ VPN ก่อน Tor — แม้แต่ตัวเบราว์เซอร์ Tor เองเขาก็ไม่แนะนำ

ทำไม dark web ถึงหยุดหรือปิดไป?

Dark web นั้นไม่เคยถูกปิดเนื่องจากมันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย — แถมมันยังช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถสืบสวนเกี่ยวกับอาชญากรรมและความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นได้ทั่วโลก เนื่องจากมันมีเซิร์ฟเวอร์เป็นพันที่เชื่อมต่อถึง dark web รอบโลก การที่รัฐบาลปิดไปได้แห่งหนึ่งมันก็ไม่ได้ช่วยอะไรมาก — ยังไงมันก็จะมีตัวตนอยู่ที่อื่นได้อยู่ดี

เครือข่าย Tor นั้นถูกพัฒนาขึ้นโดยรัฐบาลสหรัฐอเมริกาเพื่อใช้สื่อสารข้อมูลข่าวกรองอย่างปลอดภัย มันช่วยให้พวกเขาสามารถระบุตัวอาชญากรและสื่อสารกับนักเคลื่อนไหวจากภูมิภาคที่ถูกกดขี่ได้ ถึงขั้นมีเว็บไซต์ที่รัฐบาลสร้างขึ้นเพื่อให้เจ้าหน้าที่ใช้จับอาชญากร; เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาทางด้านกฎหมาย ถ้าคุณบังเอิญไปเข้าเว็บไซต์เหล่านี้เข้า เราแนะนำให้คุณเข้าถึง dark web โดยมีการป้องกันที่มากเพียงพอ

ปกป้องความเป็นส่วนตัวบน Dark Web วันนี้เลย

Dark web นั้นเป็นสถานที่ที่มีความอันตรายอย่างไม่ต้องสงสัย แต่มันก็สามารถสร้างประโยชน์ได้มากมายด้วย มันมีประโยชน์ด้านการสืบค้น, ช่วยนักข่าวให้เปิดเผยเรื่องความอยุติธรรม, การสื่อสารอย่างไม่เปิดเผยตัวตน, และสืบสวนเรื่องเกี่ยวกับอาชญากรรม

ถึงแม้ว่ามันจะมีประโยชน์มากมาย แต่มันก็เป็นเรื่องสำคัญที่คุณจะต้องปกป้องตัวเองตอนที่เข้าชม dark web คุณควรจะทำการสืบค้นเกี่ยวกับเว็บไซต์ก่อนที่คุณจะเข้าไปดู เพื่อให้มั่นใจว่าคุณไม่ได้เข้าเว็บไซต์ที่ผิดกฎหมายหรือมีอันตราย นอกจากนี้ การใช้ VPN นั้นจะช่วยรักษาสถานะให้คุณไม่ต้องเปิดเผยตัวตน และช่วยปกป้องข้อมูลส่วนตัวของคุณ

ในการจะเข้าถึง dark web อย่างปลอดภัย เราแนะนำให้คุณใช้ ExpressVPN — มันมีความปลอดภัยสูงและจะช่วยรักษาความเป็นส่วนตัวให้กิจกรรมของคุณ คุณสามารถ ทดลองใช้งานมันได้อย่างไม่มีความเสี่ยง เนื่องจากมันมีการรับประกันคืนเงิน ถ้าคุณลองใช้แล้วรู้สึกว่ามันไม่เหมาะกับคุณ คุณก็สามารถขอคืนเงินอย่างเต็มจำนวนได้ภายใน 30 วัน

สรุปแล้ว VPN ที่ดีที่สุดสำหรับใช้เข้าถึง dark web อย่างปลอดภัยได้แก่...

อันดับ
ผู้ให้บริการ
คะแนนของเรา
ส่วนลด
ไปที่เว็บไซต์
1
medal
9.9 /10
9.9 คะแนนของเรา
ประหยัดถึง 49%!
2
9.7 /10
9.7 คะแนนของเรา
ประหยัดถึง 84%!
3
9.5 /10
9.5 คะแนนของเรา
ประหยัดถึง 83%!
การแจ้งเตือนความเป็นส่วนตัว!

ข้อมูลของคุณจะถูกเปิดเผยต่อเว็บไซต์ที่คุณเข้าชม!

หมายเลข IP ของคุณ:

ตำแหน่งของคุณ:

ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของคุณ:

ข้อมูลข้างต้นสามารถใช้เพื่อติดตาม กำหนดเป้าหมายโฆษณาและติดตามกิจกรรมที่คุณทำบนอินเตอร์เน็ตได้

VPN สามารถช่วยคุณซ่อนข้อมูลเหล่านี้จากเว็บไซต์ เพื่อให้คุณได้รับการปกป้องตลอดเวลา เราขอแนะนำ ExpressVPN - VPN อันดับ #1 จากผู้ให้บริการกว่า 350 รายที่เราได้ทดสอบ มีการเข้ารหัสระดับทหารและฟีเจอร์ความเป็นส่วนตัวมากมายที่จะช่วยให้คุณมั่นใจในความปลอดภัยเมื่อใช้งานอินเตอร์เน็ต - นอกจากนี้ยังมีส่วนลดจาก 49% อีกด้วย

เข้าชมเว็บ ExpressVPN

พวกเราจัดอันดับผู้ให้บริการตามการทดสอบและการค้นคว้าอย่างเข้มงวด แต่ก็จะมีการคำนึงถึงความคิดเห็นของคุณและค่าคอมมิชชั่นจากผู้ให้บริการด้วย ผู้ให้บริการบางรายนั้นจะมีบริษัทแม่แห่งเดียวกันกับพวกเรา
เรียนรู้เพิ่มเติม
vpnMentor ก่อตั้งขึ้นในปี 2014 เพื่อจุดประสงค์ในการตรวจสอบบริการ VPN และวิจารณ์ด้านความเป็นส่วนตัว ในวันนี้ทีมนักวิจัย นักเขียนและบรรณาธิการด้านความปลอดภัยอินเตอร์เน็ตของเราหลายร้อยคนยังคงช่วยเหลือผู้อ่านต่อสู้เพื่ออิสรภาพทางออนไลน์โดยร่วมมือกับ Kape Technologies PLC ซึ่งเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ต่อไปนี้: ExpressVPN, CyberGhost, ZenMate, Private Internet Access และ Intego ซึ่งอาจได้รับการวิจารณ์บนเว็บไซต์นี้ บทวิจารณ์ที่เผยแพร่บน vpnMentor เชื่อว่ามีความถูกต้อง ณ วันที่เผยแพร่แต่ละบทความและเขียนขึ้นตามมาตรฐานการตรวจสอบที่เข้มงวดของเรา ซึ่งจัดลำดับความสำคัญของการตรวจสอบผู้ตรวจสอบอย่างมืออาชีพและซื่อสัตย์ โดยคำนึงถึงความสามารถทางเทคนิคและคุณภาพของผลิตภัณฑ์ร่วมกับมูลค่าทางการค้าสำหรับผู้ใช้ การจัดอันดับและบทวิจารณ์ที่เราเผยแพร่อาจคำนึงถึงความเป็นเจ้าของร่วมกันกับบริการที่กล่าวถึงข้างต้นและค่าคอมมิชชั่นพันธมิตรที่เราได้รับจากการซื้อผ่านลิงก์บนเว็บไซต์ของเรา เราไม่ได้ตรวจสอบผู้ให้บริการ VPN ทั้งหมดและเชื่อว่าข้อมูลที่จะมีความถูกต้อง ณ วันที่เผยแพร่แต่ละบทความ

เกี่ยวกับผู้เขียน

คริสตีนเป็นนักเขียนที่เดินทางอยู่ตลอด โดยเธอมีพันธกิจในการส่งเสริมการเชื่อมต่อที่ปลอดภัยทั่วโลก VPN และความปลอดภัยทางไซเบอร์เป็นความเชี่ยวชาญของเธอ

คุณชอบบทความนี้ไหม? โหวตให้คะแนนเลยสิ!
ฉันเกลียดมัน ฉันไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ พอใช้ได้ ค่อนข้างดี รักเลย!
เต็ม 10 - โหวตโดย ผู้ใช้งาน
ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นของคุณ

กรุณาแสดงความคิดเห็นว่าพวกเราสามารถพัฒนาบทความนี้ได้อย่างไร ความคิดเห็นของคุณมีค่าสำหรับเรา!

แสดงความคิดเห็น

ขออภัย แต่ช่องนี้ไม่รองรับลิงก์!

ชื่อจะต้องมีอย่างน้อย 3 ตัวอักษร

ช่องเนื้อหาจะต้องยาวไม่เกิน 80 ตัวอักษร

ขออภัย แต่ช่องนี้ไม่รองรับลิงก์!

กรุณากรอกที่อยู่อีเมลที่ถูกต้อง

ขอบคุณสำหรับความคิดเห็น %%name%%!

พวกเราตรวจสอบความคิดเห็นทั้งหมดภายใน 48 ชั่วโมงเพื่อให้แน่ใจว่ามันเป็นของจริงและมีความเหมาะสม ในระหว่างนี้คุณสามารถแชร์บทความนี้ได้ตามใจชอบเลย