พวกเราจัดอันดับผู้ให้บริการตามการทดสอบและการค้นคว้าอย่างเข้มงวด แต่ก็จะมีการคำนึงถึงความคิดเห็นของคุณและค่าคอมมิชชั่นจากผู้ให้บริการด้วย ผู้ให้บริการบางรายนั้นจะมีบริษัทแม่แห่งเดียวกันกับพวกเรา
เรียนรู้เพิ่มเติม
vpnMentor ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 2014 ในฐานะเว็บไซต์รีวิวบริการ VPN อย่างอิสระและเว็บไซต์ข่าวเกี่ยวกับเรื่องความเป็นส่วนตัว วันนี้ ทีมงานนักวิจัยความปลอดภัยทางไซเบอร์, นักเขียน และบรรณาธิการนับร้อยของพวกเราได้ช่วยผู้อ่านให้ต่อสู้เพื่ออิสรภาพทางออนไลน์ผ่านการจับมือกับ Kape Technologies PLC ซึ่งเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ดังต่อไปนี้: ExpressVPN, CyberGhost และ Private Internet Access ซึ่งอาจจะได้รับการจัดอันดับและรีวิวบนเว็บไซต์ของเราด้วย รีวิวที่ได้รับการเผยแพร่บน vpnMentor นั้นมีความแม่นยำถึงวันที่ทำการเผยแพร่ และแต่ละรีวิวก็จะถูกเขียนขึ้นโดยอ้างอิงมาตรฐานที่เข้มงวดด้านการรีวิวซึ่งจะเน้นความเป็นอิสระและการค้นคว้าวิจัยอย่างซื่อสัตย์และเป็นมืออาชีพของนักรีวิว โดยจะเน้นไปถึงความสามารถและคุณภาพของผลิตภัณฑ์รวมถึงความคุ้มค่าที่มันมีต่อผู้ใช้งาน การจัดอันดับและรีวิวที่พวกเราเผยแพร่นั้นอาจจะคำนึงถึงการเป็นเจ้าของเดียวกันที่กล่าวถึงด้านบน และค่าคอมมิชชั่นที่พวกเราได้รับในกรณีที่มีการสั่งซื้อผ่านลิงก์บนเว็บไซต์ของเราด้วย พวกเราไม่ได้ทำการรีวิวผู้ให้บริการ VPN ทั้งหมด และข้อมูลที่เผยแพร่นั้นจะมีความแม่นยำถึงวันที่เผยแพร่แต่ละบทความ
การเปิดเผยข้อมูลการโฆษณา

vpnMentor ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 2014 ในฐานะเว็บไซต์รีวิวบริการ VPN อย่างอิสระและเว็บไซต์ข่าวเกี่ยวกับเรื่องความเป็นส่วนตัว วันนี้ ทีมงานนักวิจัยความปลอดภัยทางไซเบอร์, นักเขียน และบรรณาธิการนับร้อยของพวกเราได้ช่วยผู้อ่านให้ต่อสู้เพื่ออิสรภาพทางออนไลน์ผ่านการจับมือกับ Kape Technologies PLC ซึ่งเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ดังต่อไปนี้: ExpressVPN, CyberGhost และ Private Internet Access ซึ่งอาจจะได้รับการจัดอันดับและรีวิวบนเว็บไซต์ของเราด้วย รีวิวที่ได้รับการเผยแพร่บน vpnMentor นั้นมีความแม่นยำถึงวันที่ทำการเผยแพร่ และแต่ละรีวิวก็จะถูกเขียนขึ้นโดยอ้างอิงมาตรฐานที่เข้มงวดด้านการรีวิวซึ่งจะเน้นความเป็นอิสระและการค้นคว้าวิจัยอย่างซื่อสัตย์และเป็นมืออาชีพของนักรีวิว โดยจะเน้นไปถึงความสามารถและคุณภาพของผลิตภัณฑ์รวมถึงความคุ้มค่าที่มันมีต่อผู้ใช้งาน การจัดอันดับและรีวิวที่พวกเราเผยแพร่นั้นอาจจะคำนึงถึงการเป็นเจ้าของเดียวกันที่กล่าวถึงด้านบน และค่าคอมมิชชั่นที่พวกเราได้รับในกรณีที่มีการสั่งซื้อผ่านลิงก์บนเว็บไซต์ของเราด้วย พวกเราไม่ได้ทำการรีวิวผู้ให้บริการ VPN ทั้งหมด และข้อมูลที่เผยแพร่นั้นจะมีความแม่นยำถึงวันที่เผยแพร่แต่ละบทความ

7 VPNs ที่ดีที่สุดสำหรับ Windows ในปี 2024

Akash Deep อัปเดตเมื่อ 12/02/2024 นักวิจัยด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์
สารบัญ

มี VPNs ให้เลือกมากมายสำหรับ Windows ดังนั้นการหา VPN ที่เหมาะจึงไม่ใช่งานง่าย ๆ อย่างไรก็ตาม คุณควรจะต้องมี VPN สำหรับ Windows เนื่องจากมันเป็นระบบปฏิบัติการยอดนิยมที่สุด ซึ่งทำให้มันกลายเป็นเป้าหมายอันดับหนึ่งของแฮ็กเกอร์ ยิ่งไปกว่านั้น นโยบายความเป็นส่วนตัวของ Microsoft ยังระบุว่าพวกเขาทำการเก็บข้อมูลของคุณโดยอัตโนมัติ (และส่วนใหญ่นี้ คุณไม่สามารถปฏิเสธได้)

เราและทีมได้ทำการทดสอบ VPNs บน Windows กว่า 200 ราย เพื่อค้นหา VPN ที่ดีที่สุด นอกจากฟีเจอร์ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวแล้ว เราได้ยังได้ดูเรื่องของความเร็ว เครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ และความสามารถในการปลดบล็อกด้วย และเราก็ได้ทำการคัดเลือก VPNs ระดับแนวหน้าที่ใช้งานได้กับอุปกรณ์ Windows (ทั้งหมดนี้ใช้งานได้กับ Windows 7-11)

ExpressVPN คือตัวเลือกอันดับหนึ่งของเรา เพราะมันมีฟีเจอร์ความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง มีนโยบายการไม่บันทึกข้อมูลที่ผ่านการทดสอบแล้ว มีความเร็วสูง และสามารถปลดบล็อกเว็บไซต์สตรีมมิ่งยอดนิยมอย่าง Netflix, BBC iPlayer, Hulu และอื่น ๆ ได้ คุณสามารถ ทดลองใช้ ExpressVPN บนคอมพิวเตอร์ Windows ของคุณได้อย่างไม่มีความเสี่ยง มีการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน ดังนั้นถ้าคุณลองใช้แล้วไม่ประทับใจ คุณก็สามารถขอคืนเงินได้เต็มจำนวน

ลองใช้งาน ExpressVPN วันนี้เลย

ไม่ค่อยมีเวลาใช่ไหม? นี่คือ VPN ที่ดีที่สุดสำหรับ Windows ใน 2024

  1. ExpressVPN — ฟีเจอร์ความปลอดภัยที่แน่นหนาเพื่อป้องกันคุณจากการจู่โจมทางไซเบอร์ มีนโยบายการไม่บันทึกข้อมูลที่ผ่านการตรวจสอบแล้วเพื่อช่วยปกป้องความเป็นส่วนตัวของคุณ และการเชื่อมต่อความเร็วปานสายฟ้าแลบเพื่อการสตรีมมิ่งที่ไม่มีอาการแลคบนทุกอุปกรณ์ Windows
  2. CyberGhost — แอป Windows ที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้งาน มาพร้อมเซิร์ฟเวอร์ที่ผ่านการปรับแต่งให้เหมาะสมสำหรับการสตรีมมิ่ง; และก็ยังมีฟีเจอร์ความปลอดภัยชั้นหนึ่งอีกด้วย
  3. Private Internet Access — ฟีเจอร์ MACE ช่วยบล็อกโฆษณาและเพิ่มความเร็วในการโหลดบน Windows แต่มีสำนักงานตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกา
  4. NordVPN — มีเซิร์ฟเวอร์พิเศษด้านความปลอดภัยมากมาย แต่ไม่มีเซิร์ฟเวอร์พิเศษสำหรับการสตรีมมิ่ง
  5. Surfshark — เปิดให้คุณเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้มากเท่าที่คุณต้องการภายใต้การสมัครสมาชิกบัญชีเดียว แต่แพลนแบบ 1 เดือนนั้นมีราคาค่อนข้างแพง

ข้ามไป 2 เพื่อดู VPN คุณภาพรายอื่น ๆ

VPN สำหรับ Windows ที่ดีที่สุด – การวิเคราะห์เต็มรูปแบบ (อัปเดตใน 2024)

1. ExpressVPN — VPN ที่ดีที่สุดโดยรวมสำหรับทั้งด้านความปลอดภัย ความเร็ว และการสตรีมมิ่ง

  • การเชื่อมต่อความเร็วสูงปานสายฟ้าแลบ และแบนด์วิดท์ไม่จำกัด
  • 3,000 เซิร์ฟเวอร์ใน 105 ประเทศ รวมถึง ประเทศไทย
  • เชื่อมต่อได้พร้อมกัน 8 อุปกรณ์
  • ปลดบล็อก: Netflix สหรัฐอเมริกา (และประเทศยอดนิยมอื่น ๆ), Disney+, HBO Max, Hulu, BBC iPlayer, Amazon Prime Video, SkyTV, ESPN+, และอื่น ๆ
  • ใช้งานเข้ากันได้กับ: Windows 7, 8, 10, & 11, macOS, iOS, Android, Linux, อุปกรณ์ Amazon Fire, เราเตอร์ และอื่น ๆ
  • แอป Windows รองรับภาษาไทย
  • โปรแกรมแปลภาษาบิ้วท์อิน: ไลฟ์แชทเป็นภาษาไทยได้ 24/7

ในทุกหมวดหมู่ ExpressVPN นั้นเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดที่จะทำให้ประสบการณ์ใช้งานบน Windows ของคุณดียิ่งขึ้น มันจะช่วยคุณให้ปลอดภัยจากแฮ็กเกอร์และรัฐบาลที่ทำเกินเลย หรือใครก็ตามที่สอดแนมดูข้อมูลของคุณ มีเซิร์ฟเวอร์ให้ใช้งานมากมายและมีความสามารถในการปลดบล็อกที่เยี่ยม ทำให้คุณสามารถรับชมรายการจากแพลตฟอร์มชั้นนำได้ทั้งหมด และก็ยังมีความเร็วสูงซึ่งจะทำให้การสตรีมมิ่งของคุณไม่มีการบัฟเฟอร์ และก็สามารถท่องเว็บ เล่นเกม และโหลดบิตทอร์เรนต์ได้อย่างไม่ดีเลย์

ExpressVPN มีฟีเจอร์ความปลอดภัยระดับโลกสำหรับช่วยปกป้อง PC ของคุณ ด้วยการเข้ารหัส 256-bit ระดับทหาร กิจกรรมทางออนไลน์ของคุณจะถูกทำการ scramble จนแทบจะไม่สามารถเปิดอ่านได้เลย Kill switch (Network Lock) ของมันยังเป็นการป้องกันด่านสุดท้าย — ถ้า VPN เกิดขาดการเชื่อมต่อขึ้นมาอย่างไม่คาดคิด ข้อมูลของคุณก็จะไม่รั่วไหลโดยไม่ได้ตั้งใจ นอกจากนี้ split tunneling ยังทำให้คุณสามารถเลือกได้ว่าจะให้ทราฟฟิคใดบ้างที่ผ่านช่องทางของ VPN ดังนั้นเราก็จะสามารถเปิดอ่านข่าวในประเทศในขณะที่กิจกรรมที่เหลือของเราถูกเข้ารหัสได้

ยิ่งไปกว่านั้น มันยังมีการป้องกันการรั่วไหล IP, DNS, และ WebRTC และก็ยังมีเซิร์ฟเวอร์ DNS ใช้ส่วนตัวด้วย เรารู้สึกประทับใจมากที่หลังจากเราได้ทดสอบ ExpressVPN บนแล็ปท็อป Windows 10 ของเรา ก็ไม่มีการตรวจพบการรั่วไหลเลย

Screenshot of a leak test done on ipleaknet while connected to ExpressVPNExpressVPN ผ่านการทดสอบการรั่วไหลของเราทั้งหมดบน 18 เซิร์ฟเวอร์

คุณสามารถเลือกได้จาก 4 ตัวเลือกโปรโตคอลความปลอดภัยด้วยแอป Windows: OpenVPN, IKEv2, L2TP/IPSec และ Lightway Lightway เป็นโปรโตคอลของ ExpressVPN เอง และก็เป็นตัวเลือกที่เราชื่นชอบตอนที่ทำการทดสอบ มันมีความเร็วสูงกว่า OpenVPN และ IKEv2 และมันก็ใช้เวลาแค่ 2 วินาทีในการเชื่อมต่อ ถึงแม้จะเชื่อมต่อไปยังเซิร์ฟเวอร์ระยะไกล

ฟีเจอร์ความเป็นส่วนตัวที่แน่นหนา และนโยบายการไม่บันทึกข้อมูลทำให้ ExpressVPN เป็นตัวเลือกที่คุณวางใจเรื่องข้อมูลของคุณได้ มันใช้เทคโนโลยี TrustedServer (เซิร์ฟเวอร์แบบ RAM-only) แบบนี้นั้นปลอดภัยกว่า เนื่องจากเซสชั่นก่อนหน้าของคุณทั้งหมดจะถูกล้างอัตโนมัติทุกครั้งที่เซิร์ฟเวอร์ปิดเปิดใหม่ นโยบายการไม่บันทึกข้อมูลได้ผ่านการตรวจสอบและพิสูจน์มาแล้วในปี 2017 – ผู้มีอำนาจในประเทศตุรกีได้ยึดเซิร์ฟเวอร์ของ ExpressVPN แต่พวกเขาก็ไม่พบเจอข้อมูลใด ๆ ที่ถูกเก็บเอาไว้

นอกจากนี้มันยังตั้งอยู่ในประเทศที่เป็นมิตรต่อความเป็นส่วนตัว ดังนั้นมันก็จะไม่ถูกบังคับให้เก็บข้อมูลของคุณ สำนักงานใหญ่ของ ExpressVPN ตั้งอยู่ที่หมู่เกาะบริติชเวอร์จิน ซึ่งเป็นประเทศที่ไม่มีกฎหมายเรื่องการเก็บข้อมูล หมู่เกาะบริติชเวอร์จินไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของ พันธมิตร 14 Eyes (ข้อตกลงระหว่างรัฐบาลที่จะแบ่งปันข้อมูลของผู้อยู่อาศัย) ซึ่งแสดงให้เราเห็นว่าบริษัทนี้มีความตั้งใจที่จะปกป้องความเป็นส่วนตัวของข้อมูลคุณจริง

ExpressVPN มีความเร็วในการเชื่อมต่อสูงมาก ระหว่างการทดสอบของเรา เราได้ทำการเชื่อมต่อไปยังเซิร์ฟเวอร์ชิคาโก้ นิวยอร์ก และดัลลัส โดยความเร็วในการดาวน์โหลดของเราเฉลี่ยอยู่ที่ 58.2 Mbps ซึ่งก็ตกลงไปเพียงแค่ 6% จากความเร็วฐาน จากหนึ่งในการทดสอบของเรา เซิร์ฟเวอร์ลอนดอนตะวันออกเพิ่มความเร็วให้เราเล็กน้อยด้วย (และมันก็อยู่ห่างไปถึง 8,000 กม.) ความเร็วระดับนี้ทำให้เราสามารถดู Squid Game บน Netflix สหรัฐอเมริกาความชัดระดับ 4K ได้อย่างไม่แลคเลย นี่หมายความว่าคุณสามารถทำการสตรีมมิ่ง เล่นเกมและวิดีโอแชทบนอุปกรณ์ Windows ของคุณได้ไวไม่มีความเร็วตก

เครือข่ายเซิร์ฟเวอร์นั้นมีขนาดใหญ่มาก ทำให้สามารถผ่านการบล็อกภูมิภาคได้อย่างง่ายดาย มันสามารถปลดบล็อก Netflix ได้ถึง 9 ประเทศระหว่างที่เราทำการทดสอบซึ่งมีประเทศสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และแคนาดา เรายังสามารถเข้าถึง BBC iPlayer, Disney+, Hulu, และ HBO Max บนคอมพิวเตอร์ Windows ได้อีกด้วย เซิร์ฟเวอร์ของมันยังเหมาะกับการเลี่ยงการถูกจำกัดการเข้าถึงเครือข่ายและไฟร์วอลล์ — มันสามารถใช้งานในประเทศจีนและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้ด้วย

ExpressVPN อนุญาตให้ทำการโหลดบิตทอร์เรนต์ได้บนทุกเซิร์ฟเวอร์ 3,000 เซิร์ฟเวอร์ ดังนั้นคุณจึงไม่ต้องเสียเวลาตามหาเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้งานกับ P2P เลย Port forwarding นั้นเปิดให้ใช้เฉพาะกับเราเตอร์; มันเป็นฟีเจอร์ที่ทำให้ VPNs บางรายสามารถดาวน์โหลดได้เร็วขึ้น อย่างไรก็ตามมันใช้เวลาแค่ 13 นาทีในการดาวน์โหลดไฟล์ทอร์เรนต์ 5GB บนแล็ปท็อป Windows ของเรา ดังนั้นก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ และคุณยังสามารถใช้ข้อมูลได้ไม่จำกัด แปลว่าคุณสามารถโหลดบิตทอร์เรนต์ได้มากเท่าที่คุณต้องการ

และเราก็ยังชอบที่แอป Windows นั้นใช้งานง่ายมาก มันจะช่วยแสดงสถานที่ล่าสุดที่คุณเชื่อมต่อ และคุณสามารถบันทึกการเชื่อมต่อลงในรายการโปรดได้ เพื่อให้ง่ายสำหรับการเชื่อมต่อในภายหลัง คุณสามารถเลือกการเชื่อมต่อได้ภายในคลิกเดียว และฟีเจอร์ตำแหน่งอัจฉริยะจะเลือกเซิร์ฟเวอร์ที่ดีที่สุดสำหรับคุณโดยอัตโนมัติ โดยอ้างอิงจากข้อมูล latency ความเร็ว และสถานที่ เราเห็นว่าฟีเจอร์นี้มีประโยชน์มาก เนื่องจากเราไม่ต้องมานั่งเดาเองในเวลาตามหาเซิร์ฟเวอร์ที่เร็วที่สุด

ข้อเสียเดียวของ ExpressVPN ที่เราพบก็คือว่ามันมีราคาแพงกว่ารายอื่นเล็กน้อย — ราคาเริ่มต้นที่ $6.67/เดือน อย่างไรก็ตาม เราเองก็ได้ลดราคา 49% จากการสมัครสมาชิก แถมได้ใช้ฟรีอีก 3 เดือนตอนที่เราสมัครใช้งานแพลนรายปี เนื่องจากแพลนทุกแพลนนั้นมีฟีเจอร์เท่ากันหมด เราอยากแนะนำให้เลือกใช้แพลน 1 ปี เนื่องจากมีความคุ้มค่ามากที่สุด

และคุณยังสามารถ ทดลองใช้ ExpressVPN บน Windows ได้อย่างไม่มีความเสี่ยง ด้วยการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน คุณสามารถขอเงินคืนเต็มจำนวนได้ถ้าคุณไม่พอใจการให้บริการ เราได้ทดสอบเรื่องการรับประกันนี้โดยการติดต่อผ่านไลฟ์แชท 24/7 ตัวแทนให้บริการลูกค้าก็สอบถามเราเกี่ยวกับประสบการณ์ในการใช้บริการ และหลังจากนั้นก็อนุมัติการขอคืนเงินให้เราในทันที เราได้รับเงินคืนมาภายในเวลา 3 วัน หลังจากนั้น

ส่วนลด ExpressVPNมีนาคม 2024: มีเวลาจำกัด คุณสามารถรับส่วนลด ExpressVPNได้มากถึง49% ! อย่าพลาดข้อเสนอสุดพิเศษ!

2. CyberGhost — VPN Windows ที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้งานซึ่งมีเซิร์ฟเวอร์ที่ผ่านการปรับแต่งให้เหมาะสมสำหรับการสตรีมมิ่ง

  • ความเร็วสูง แบนด์วิดท์ไม่จำกัด
  • 11,690 เซิร์ฟเวอร์ใน 100 ประเทศ โดยมีอยู่หลายแห่งใน เอเชีย รวมถึงในกรุงเทพฯ
  • เชื่อมต่อได้พร้อมกัน 7 อุปกรณ์
  • ปลดบล็อก: Netflix (เนื่องจากเซิร์ฟเวอร์ได้รับการปรับแต่งให้เหมาะสมสำหรับ Netflix สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และประเทศอื่น ๆ), Amazon Prime, Disney+, Hulu, BBC iPlayer, HBO Max, และอื่น ๆ
  • ใช้งานเข้ากันได้กับ: Windows 7, 8, 10, & 11, macOS, iOS, Android, Linux, อุปกรณ์ Amazon Fire, เราเตอร์ และอื่น ๆ

แอป Windows ของ CyberGhost นั้นใช้งานง่ายมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณต้องการ VPN สำหรับปลดบล็อกเว็บสตรีมมิ่ง เซิร์ฟเวอร์นั้นถูกจัดเรียงไว้เป็นอย่างดี และก็สามารถค้นหาเซิร์ฟเวอร์เฉพาะได้อย่างง่ายดาย ขึ้นกับแพลตฟอร์มที่คุณต้องการใช้งาน และก็ประเทศที่คุณต้องการ ระหว่างการทดสอบของเรา เราเชื่อมต่อไปยังเซิร์ฟเวอร์สำหรับ Hulu (ในสหรัฐอเมริกา) และเราก็สามารถเข้าถึงมันได้ในทันที มันใช้งานได้กับบริการสตรีมมิ่งยอดนิยมอื่น ๆ ด้วยรวมถึง Netflix, BBC iPlayer, และ Disney+ และเราก็ไม่เจออาการช้าหรือปัญหาการเชื่อมต่อเลยสักนิด

Screenshot of CyberGhost Windows app highlighting the streaming-optimized serversมีเซิร์ฟเวอร์เฉพาะสำหรับแต่ละแพลตฟอร์มมากกว่า 25 แพลตฟอร์ม

คุณจะสามารถเล่นเกมและทำการโหลดบิตทอร์เรนต์ได้อย่างรวดเร็วผ่านเซิร์ฟเวอร์เฉพาะเหล่านี้เช่นกัน ด้วยเซิร์ฟเวอร์สำหรับทำการโหลดบิตทอร์เรนต์ในสหรัฐอเมริกา เราสามารถโหลดไฟล์ได้เร็วขึ้น 8% เทียบกับเซิร์ฟเวอร์ปกติ เซิร์ฟเวอร์สำหรับเล่นเกมก็ใช้งานได้ดีมาก และทำให้สามารถเลือกเซิร์ฟเวอร์ที่ปิงต่ำที่สุดได้อย่างง่ายดาย ถ้าคุณต้องการค่าปิงต่ำกว่า 100 ตอนที่คุณเล่นเกม เพื่อให้การป้อนค่าของคุณไม่มีการดีเลย์ CyberGhost ก็ได้จัดเรียงเซิร์ฟเวอร์เหล่านี้ตามค่าปิงไว้ให้แล้ว เราเล่น StarCraft 2 ไปหลายเกมก็ไม่มีอาการแลคเลย (ค่าปิงอยู่ที่ 29 ms)

มันมีความเร็วที่น่าประทับใจมาก ทำให้คุณสามารถทำการสตรีมมิ่งได้อย่างราบรื่นอีกด้วย เพื่อที่จะหาคำตอบว่ามันเร็วขนาดไหน เราได้ทำการทดสอบของที่อยู่ในเบิร์กเชียร์ บูคาเรสต์ และไมอามี่บน Windows PC ของเรา และความเร็วเฉลี่ยก็ไม่เคยลดลงไปต่ำกว่า 40 Mbps เลย คุณต้องใช้แค่ 5 Mbps เท่านั้นเพื่อที่จะรับชมการสตรีมมิ่งความชัดระดับ HD และ 25 Mbps สำหรับความชัดระดับ 4K ดังนั้นเราจึงสามารถดูเรื่อง Don’t Look Up บน Netflix สหรัฐอเมริกาในความชัด full HD ได้อย่างไม่มีอาการแลคเลย

CyberGhost มีฟีเจอร์ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวที่แข็งแกร่งเพื่อที่จะช่วยปกป้องข้อมูลบน Windows PC ของคุณ มันมีการเข้ารหัสระดับทหาร AES 256-bit การป้องกันการรั่วไหล และก็ kill switch เพื่อช่วยดูแลข้อมูลส่วนตัวอันอ่อนไหวของคุณ เราแนะนำให้ใช้ตัวบล็อกมัลแวร์และโฆษณาแบบบิ้วท์อิน; นี่จะช่วยปิดโฆษณาและป้องกันเนื้อหาที่เป็นอันตรายไม่ให้มาทำคอมพิวเตอร์ Windows ของคุณเสียหายได้ ยิ่งไปกว่านั้น CyberGhost ยังตั้งอยู่ในโรมาเนีย (ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของ 5/9/14-Eyes) และก็มีนโยบายการไม่บันทึกข้อมูลที่เข้มงวด นี่คือที่ตั้งเซิร์ฟเวอร์ NoSpy ของพวกเขา ซึ่งพวกเขาเป็นเจ้าของและดำเนินการเองทั้งหมดเพื่อความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น

น่าเสียดายที่ CyberGhost ไม่สามารถใช้งานได้ในประเทศที่มีการเซ็นเซอร์เนื้อหาอย่างมากเช่นในจีนและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ นอกจากนี้เราก็เห็นว่าแพลนระยะสั้นนั้นมีราคาค่อนข้างแพงอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ด้วยแพลนระยะยาว คุณสามารถ รับบริการจาก CyberGhost ได้ในราคาต่ำสุดถึง $2.19/เดือน เราชอบแพลนระยะยาวมากกว่าเพราะว่ามีความคุ้มค่าสูงที่สุด และก็มาพร้อมกับการรับประกันคืนเงินที่ยาวกว่า

คุณสามารถทดลองใช้ฟีเจอร์ทั้งหมดของ CyberGhost ได้อย่างไม่มีความเสี่ยงเนื่องจากพวกเขารับประกันคืนเงินภายใน 45 วัน สำหรับแพลนระยะยาว (ในแพลนรายเดือนจะได้แค่ 14 วัน) หลังจากที่เราใช้บริการไป 42 วันแล้ว เราก็ติดต่อไปยังฝ่ายบริการลูกค้าทางไลฟ์แชท 24/7 และก็ขอเงินคืน ทางตัวแทนได้สอบถามเราว่าทำไมเราถึงไม่พอใจในการใช้บริการ แต่ก็ไม่ได้กดดันให้เราใช้งานต่อ การขอยกเลิกของเราได้รับการอนุมัติภายในเวลาไม่ถึง 5 นาที และเราก็ได้รับเงินคืนภายใน 4 วันหลังจากนั้น

ข้อเสนอมีนาคม 2024 : CyberGhost กำลังนำเสนอส่วนลด83% จากแผนยอดนิยม! ใช้ประโยชน์จากส่วนลดนี้และประหยัดเงินค่าสมัครบริการเพิ่มขึ้นกับ CyberGhost

3. Private Internet Access — ตัวบล็อกโฆษณา MACE ช่วยลดเวลาในการโหลดเนื้อหาบน Windows และช่วยนำมัลแวร์ออก

  • การเข้ารหัสระดับทหารและตัวบล็อกโฆษณาแบบบิ้วท์อิน
  • 29,650+ เซิร์ฟเวอร์ 91+ ประเทศ
  • เชื่อมต่อได้พร้อมกัน ไม่จำกัด อุปกรณ์
  • ปลดบล็อก: Netflix, Disney+, Hulu, BBC iPlayer และอื่น ๆ
  • ใช้งานเข้ากันได้กับ: Windows 7, 8, 10, & 11, macOS, iOS, Android, Linux, อุปกรณ์ Amazon Fire, เราเตอร์ และอื่น ๆ

PIA MACE จะช่วยป้องกันโฆษณาและเนื้อหาที่เป็นอันตรายไม่ให้สามารถโหลดบนเครื่อง Windows ของคุณ เพื่อทำการทดสอบฟีเจอร์นี้ เราได้ลองเข้าไปในเว็บไซต์ที่เต็มไปด้วยโฆษณา (Forbes) ผ่าน Windows 10 PC และโฆษณาส่วนใหญ่ในเว็บก็ถูกบล็อก เรารู้สึกได้ถึงความเร็วในการโหลดที่ดีขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากมีเนื้อหาให้ต้องโหลดน้อยลง ดังนั้นเราจึงแนะนำให้เปิดใช้งานมันเพื่อการท่องเว็บที่ราบรื่นยิ่งขึ้น พร้อมเป็นการป้องกันภัยจากมัลแวร์ด้วย

Screenshot of Forbes website showing how PIA MACE removed the banner adเราเพิ่ม MACE ไปยังการตั้งค่าแบบเร็ว เพื่อที่เราจะได้สามารถเปิดใช้งานได้โดยไม่ต้องเข้าเมนูใด ๆ

PIA มีฟีเจอร์ความปลอดภัยที่แน่นหนาเพื่อช่วยปกป้องความเป็นส่วนตัวทางออนไลน์ของคุณบนทุกอุปกรณ์ Windows Kill switch อัตโนมัติของพวกเขาจะช่วยบล็อกทราฟฟิคอินเทอร์เน็ตทั้งหมดของคุณ ในกรณีที่การเชื่อมต่อ VPN เกิดปัญหาขึ้น ในขณะที่การเข้ารหัส 256-bit AES จะช่วยปกป้องข้อมูลของคุณจากแฮ็กเกอร์ มันยังผ่านการทดสอบการรั่วไหลของเราทั้งหมดด้วย ดังนั้นคุณจึงสามารถทำการท่องเว็บได้อย่างไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องข้อมูลรั่วไหล

มันมีเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่ที่จะช่วยให้คุณสามารถดูเนื้อหาที่ถูกจำกัดพื้นที่ได้ ระหว่างการทดสอบของเรา เราสามารถปลดบล็อกแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งบน Windows 10 PC ของเราได้มากมาย รวมถึง Netflix 6 ประเทศ Disney+ และ BBC iPlayer แต่ละเว็บเหล่านี้สามารถเปิดได้ในทันทีด้วยเซิร์ฟเวอร์สำหรับสตรีมมิ่งทางตะวันตกของสหรัฐอเมริกาและลอนดอนในสหราชอาณาจักร ตอนแรกนั้น Hulu ดูเหมือนจะใช้ไม่ได้ แต่เราลองเปลี่ยนไปเป็นเซิร์ฟเวอร์สำหรับสตรีมมิ่งทางตะวันออกของสหรัฐอเมริกาแล้วก็เข้าได้

ความเร็วนั้นก็เร็วพอสำหรับการเล่นเกม สตรีมมิ่ง และการโหลดบิตทอร์เรนต์บนอุปกรณ์ Windows ของคุณ ในขณะทำการทดสอบ เราได้ลองใช้ 9 เซิร์ฟเวอร์: 6 ในสหรัฐอเมริกา 2 ในสหราชอาณาจักร และ 1 ในแคนาดา ความเร็วเฉลี่ยอยู่ราว ๆ 33 Mbps มันไม่เร็วเท่า ExpressVPN แต่เราก็สามารถดาวน์โหลดไฟล์ทอร์เรนต์ 3GB ได้ภายในเวลา 12 นาที

แต่เรารู้สึกเป็นห่วงที่ PIA ตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกา เนื่องจากนั่นเป็นใจกลางของ พันธมิตร 14 Eyes เลย อย่างไรก็ตาม มันมีนโยบายการไม่บันทึกข้อมูลที่เข้มงวดซึ่งผ่านการพิสูจน์ในชั้นศาลแล้ว ดังนั้นมันก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เนื่องจากข้อมูลของคุณจะไม่ถูกบันทึก ทางพวกเขาก็ไม่มีอะไรจะแชร์ให้คนอื่นในกรณีที่ถูกร้องขอ

คุณสามารถรับบริการจาก PIA ได้ในราคาเพียง $2.19/เดือน แพลนรายเดือนนั้นมีราคาที่แพงกว่าแพลนระยะยาว ในขณะที่ฟีเจอร์เหมือนกัน ดังนั้น การเลือกใช้แพลนระยะยาวจึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า เนื่องจากคุณจะประหยัดเงินได้สูงสุด

เนื่องจากมันมีการรับประกันคืนเงินที่เชื่อถือได้ คุณจึงสามารถ ทดลองใช้ PIA กับอุปกรณ์ Windows ของคุณได้ฟรี หากคุณใช้แล้วรู้สึกไม่ชอบ คุณก็มีเวลา 30 เพื่อที่จะขอเงินคืน เพื่อเป็นการทดสอบเรื่องนี้ เราติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าเพื่อขอเงินคืน ทางตัวแทนในไลฟ์แชทก็พยายามโน้มน้าวให้เราใช้บริการต่อ แต่หลังจากที่เราปฏิเสธไป คำขอของเราก็ได้รับการอนุมัติ เราได้รับเงินคืนเข้าในบัญชีหลังจากนั้นภายใน 5 วัน

อัพเดท มีนาคม 2024 : ส่วนลด PIA ไม่ได้มาบ่อย ๆ (ราคาถูกอยู่แล้ว) แต่ตอนนี้คุณสามารถรับบริการพร้อมส่วนลด82% !

4. NordVPN — VPN ความเร็วสูงที่มีเซิร์ฟเวอร์พิเศษมากมาย

  • 6,139 เซิร์ฟเวอร์ใน 67 ประเทศ เพื่อรับที่อยู่ IP ใหม่
  • ฟีเจอร์ความปลอดภัยดีเลิศพร้อมนโยบายการไม่บันทึกข้อมูลที่ผ่านการพิสูจน์แล้วจะช่วยปกป้องคุณบนโลกออนไลน์
  • เชื่อมต่อได้พร้อมกัน 6 อุปกรณ์
  • ใช้งานได้กับ: Netflix, Disney+, BBC iPlayer, Hulu และอื่น ๆ
  • ใช้งานเข้ากันได้กับ: Windows, macOS, Android, iOS, Linux, เบราว์เซอร์, เราเตอร์ และอื่น ๆ

NordVPN เป็น VPN ที่ดีมากไม่ว่าคุณจะกำลังจะต้องการสตรีมหรือต้องการจะปกป้องความเป็นส่วนตัวบนโลกออนไลน์ สิ่งที่ทำให้มันโดดเด่นสำหรับเราก็คือมันมีหมวดหมู่เซิร์ฟเวอร์ให้เลือกพิเศษเฉพาะสำหรับแต่ละกิจกรรมซึ่งก็ทำให้มันใช้งานง่าย มันยังเป็นผู้พัฒนาโปรโตคอลที่มีความปลอดภัยเป็นของตนเอง (NordLynx) ที่มีความเร็วดีจนน่าประทับใจสำหรับกิจกรรมที่ใช้แบนด์วิดท์สูง (เช่นสตรีมมิ่งหรือโหลด torrent) โดยที่ไม่ได้ลดเรื่องความปลอดภัยทางออนไลน์ลงไป

มันไม่มีเซิร์ฟเวอร์เฉพาะสำหรับสตรีมมิ่ง แต่คุณสามารถเลือกเซิร์ฟเวอร์ P2P หรือ Double VPN สำหรับการโหลดบิทหรือเพื่อเพิ่มความปลอดภัยได้ตามลำดับ เซิร์ฟเวอร์ทั้งหมดนั้นถูกจัดเรียงไว้ตามประเทศ และระหว่างการทดสอบใช้งาน NordVPN อย่างครอบคลุมนั้น เราก็พบว่าเซิร์ฟเวอร์ปกติของมันก็สามารถใช้สำหรับสตรีมมิ่งได้เป็นอย่างดี วิดีโอของเราโหลดเสร็จอย่างรวดเร็ว และเราก็ไม่เจอปัญหาเรื่องการบัฟเฟอร์ในขณะที่ดูเลย

NordVPN นั้นยังเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการใช้เพื่อเอาชนะข้อจำกัดของเครือข่ายอีกด้วย เซิร์ฟเวอร์ที่ผ่านการทำ obfuscation ของมันนั้นจะช่วยปิดบังทราฟฟิค VPN ให้ดูเหมือนเป็นทราฟฟิคปกติ เพื่อทำให้คุณสามารถผ่านไฟร์วอลล์หิน ๆ และการบล็อก VPN ได้ นี่จะมีประโยชน์มากเวลาที่คุณต้องการจะเข้าถึงเว็บไซต์ที่ต้องการผ่านเครือข่ายที่ถูกจำกัดการเข้าถึงอย่างที่โรงเรียนหรือที่ทำงาน

มันมีฟีเจอร์ความปลอดภัยอื่น ๆ ที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครอีกด้วย Threat Protection จะช่วยป้องกันตัวติดตาม มัลแวร์ และเว็บไซต์ที่มีไวรัส แถมยังช่วยกันโฆษณาด้วย ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้บล็อกโฆษณา YouTube แต่มันสามารถบล็อกโฆษณาในเกมบน Android ของเราและป๊อปอัพบนเบราว์เซอร์ได้ อีกฟีเจอร์ที่โดดเด่นก็คือเซิร์ฟเวอร์ Onion ซึ่งทำให้คุณสามารถเชื่อมต่อตรงไปยังเครือข่าย Tor เพื่อเพิ่มความปลอดภัยได้ รวมเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมดนี้เข้ากับการป้องกันการรั่วไหลและ kill switch ที่บิ้วท์อินมาในตัวจะช่วยรักษาความเป็นส่วนตัวให้คุณได้อย่างตลอดเวลา

ปัญหาใหญ่ที่สุดสำหรับเราก็คือบางครั้งมันใช้เวลานานมากในการเชื่อมต่อไปยังเซิร์ฟเวอร์ของ NordVPN มีครั้งหนึ่งที่เราต้องปิดเปิดแอปใหม่เพื่อลองอีกครั้ง ท้ายสุดแล้วเราก็สามารถเชื่อมต่อได้ทุกครั้ง ดังนั้นมันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่แต่เป็นเรื่องที่น่ารำคาญมากกว่า

NordVPN มีราคาสมัครสมาชิกที่น่าสนใจซึ่งเริ่มต้นที่ $3.39/เดือน คุณยังสามารถขอรับที่อยู่ IP เฉพาะได้ด้วยโดยมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถหลีกเลี่ยงปัญหาของเซิร์ฟเวอร์ที่คนใช้กันเยอะเกินไปได้ (เช่นความเร็วที่ต่ำและเรื่องความเสถียร)

มันยังมีการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วันสำหรับทุกแพลนอีกด้วย ดังนั้นคุณจึงสามารถ ทดลองใช้ NordVPN ได้ฟรีโดยไม่มีความเสี่ยงเรื่องค่าใช้จ่าย เราขอเงินคืนผ่านไลฟ์แชท 24/7 หลังจากที่เราใช้งานมาเกือบเดือน และเราก็ได้รับเงินคืนตามที่รับประกัน ใช้เวลาแค่ไม่กี่วันเราก็ได้รับเงินคืนเต็มจำนวน

5. Surfshark — ไม่จำกัด การเชื่อมต่อพร้อมกันเพื่อปกป้องอุปกรณ์ทั้งหมดของคุณ

  • 3,200 fast เซิร์ฟเวอร์ใน 100 ประเทศสำหรับใช้เข้าถึงเว็บไซต์ที่คุณชื่นชอบโดยที่ความเร็วไม่ตก
  • แอปใช้งานง่ายสำหรับผู้ใช้งานทุกระดับ
  • เชื่อมต่อได้พร้อมกัน ไม่จำกัด อุปกรณ์
  • ใช้งานได้กับ: Netflix, Disney+, BBC iPlayer, Hulu และอื่น ๆ
  • ใช้งานเข้ากันได้กับ: Windows, macOS, Android, iOS, Linux, เบราว์เซอร์, เราเตอร์ และอื่น ๆ

Surfshark มี3,200 เซิร์ฟเวอร์ใน 100 ประเทศ และมันก็มีความเร็วที่เสถียรไม่ว่าจะอยู่ไกลขนาดไหน  ระหว่างการทดสอบของเรานั้น เซิร์ฟเวอร์ในพื้นที่ใกล้เคียงให้ความเร็วพอ ๆ กับความเร็วฐานของเราเลย  เราสามารถสตรีม โหลด torrent และเล่นเกมได้อย่างไม่ถูกรบกวนและไม่แลคเลย ความเร็วทั่วไปที่ยอมรับได้จะตกลงไปประมาณ 20% และถ้าใช้ Surfshark ถึงแม้จะใช้เซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ห่างไกลมันก็จะตกลงไปน้อยกว่านั้นอีก

เมื่อพูดถึงเรื่องความปลอดภัยแล้ว มันมีการเข้ารหัส 256-bit AES ระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมซึ่งมีความปลอดภัยสูงที่สุด เพื่อให้แน่ใจว่าทราฟฟิคของคุณจะถูกเข้ารหัสตลอดเวลา มันจะมี kill switch สำหรับแอปทั้งหมด ซึ่งคุณสามารถเปิดใช้งานได้ในเมนูการตั้งค่าด้วยการคลิกแค่ 1 ครั้ง เราได้ทำการทดสอบโดยการเชื่อมต่อไปยังเซิร์ฟเวอร์แบบติดต่อกัน อินเทอร์เน็ตของเราจะตัดไปเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ระหว่างที่เปลี่ยนเซิร์ฟเวอร์ แต่ที่อยู่ IP 

Surfshark นั้นยังเป็นตัวเลือกที่ดีมากอีกด้วยถ้าคุณกำลังมองหาการเชื่อมต่อที่มีความเสถียรบนเครือข่ายที่ถูกจำกัด Camouflage Mode ของมันจะปิดบังทราฟฟิค VPN ของคุณและทำให้มันดูเหมือนทราฟฟิคปกติ นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ NoBorders ที่จะเปิดใช้งานอัตโนมัติเวลาที่แอปตรวจพบเครือข่ายที่มีปัญหา และมันจะแสดงรายการเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้งานได้ดีที่สุดในสถานการณ์นั้น ๆ ให้คุณดู

แอปของมันนั้นใช้งานง่ายมาก ๆ และก็จัดระเบียบมาเป็นอย่างดี ดังนั้นคุณจะไม่มีปัญหาเรื่องการใช้งานเลย ถึงแม้ว่าคุณจะเป็นมือใหม่ด้าน VPN ก็ตาม มีปุ่มเชื่อมต่ออย่างรวดเร็วให้กด ซึ่งมันจะเลือกเซิร์ฟเวอร์ที่เร็วที่สุดในประเทศหรือต่างประเทศที่ใกล้ที่สุดเพื่อให้คุณได้ความเร็วสูงสุด แต่คุณก็สามารถเลือกตำแหน่งที่คุณต้องการเองได้ด้วยเช่นกัน เราชอบที่มันเปิดให้เราสามารถตั้งรายการโปรดสำหรับตำแหน่งที่ใช้บ่อยที่สุดเพื่อให้เข้าถึงได้ง่ายในครั้งถัดไป

อย่างเดียวที่เราไม่ชอบเกี่ยวกับ Surfshark ก็คือมันตั้งอยู่ในเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพันธมิตรแชร์ข้อมูลที่ชื่อ 9 Eyes อย่างไรก็ตาม มันมีนโยบายการไม่บันทึกข้อมูล หมายความว่ามันไม่เก็บข้อมูลใด ๆ ของคุณเอาไว้ เซิร์ฟเวอร์ทั้งหมดของมันนั้นเป็นแบบ RAM-only ดังนั้นข้อมูลของคุณจะถูกนำออกทุกครั้งที่มีการปิดเปิดใหม่ นี่หมายความว่ามันจะไม่สามารถแบ่งปันข้อมูลใด ๆ ให้กับบุคคลที่สามได้ถึงแม้ว่าจะมีคนมาขอก็ตาม

คุณสามารถ สมัครใช้งาน Surfshark ระยะยาวได้ในราคาเพียง $2.89/เดือน เราแนะนำตัวเลือก Surfshark One ซึ่งจะมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเล็กน้อย มันจะมีแอนตี้ไวรัส, Search (search engine ส่วนตัว), และ Alert (ฟีเจอร์ที่เตือนคุณหากข้อมูลส่วนตัวของคุณเกิดการรั่วไหล)

แพลนทั้งหมดนั้นมีการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน ถ้าบริการนี้ไม่ตรงใจกับความคาดหวังของคุณ คุณก็สามารถขอเงินคืนได้อย่างง่ายดาย เราได้ทำการทดสอบดูแล้วด้วยการติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าผ่านไลฟ์แชท 24/7 หลังจากที่คุยกับตัวแทนอยู่ไม่นาน เราก็ได้รับเงินคืนทั้งหมดภายใน 4 วัน

6. IPVanish — เชื่อมต่อได้พร้อมกันไม่จำกัดอุปกรณ์สำหรับ Windows

  • ความเร็วดี ข้อมูลไม่จำกัด
  • 2,400+ เซิร์ฟเวอร์ใน 90+ ประเทศ
  • เชื่อมต่อได้พร้อมกัน ไม่จำกัด อุปกรณ์
  • ปลดบล็อก: Netflix, Disney+, Hulu, BBC iPlayer และอื่น ๆ
  • ใช้งานเข้ากันได้กับ: Windows 7, 8, 10, & 11, macOS, iOS, Android, เราเตอร์ และอื่น ๆ
  • โปรแกรมแปลอัตโนมัติในแชท: สามารถแชทเป็นภาษาใดก็ได้ รวมถึงภาษาไทย

IPVanish เปิดให้คุณเชื่อมต่อได้พร้อมกันไม่จำกัดจำนวน ระหว่างการทดสอบของเรา เราได้ทำการเชื่อมต่อแล็ปท็อป มือถือ Android และแท็บเล็ตไปยังเซิร์ฟเวอร์ลอสแอนเจลิสเซิร์ฟเวอร์เดียวกัน การเชื่อมต่อบนแต่ละอุปกรณ์ก็เชื่อมต่อสำเร็จภายใน 7 วินาที จากนั้นเราก็ดูวิดีโอบน Youtube ผ่านมือถือ Android ของเรา ในขณะที่ใช้แล็ปท็อปดาวน์โหลด Overwatch ถึงแม้ว่าจะเชื่อมต่อหลายอุปกรณ์พร้อมกัน เราก็ไม่รู้สึกเลยว่ามีความเร็วตกหรือวิดีโอมีการบัฟเฟอร์ นี่เป็นฟีเจอร์ที่ดีมากถ้าคุณต้องการจะแชร์ VPN สำหรับบ้านอยู่อาศัยขนาดใหญ่

มันมีความเร็วดี ดังนั้นคุณสามารถทำการสตรีมมิ่ง ท่องเว็บ โหลดบิตทอร์เรนต์ได้โดยที่ความเร็วไม่ตกเลย ตอนที่เราทดสอบเซิร์ฟเวอร์ในแอตแลนต้า อัมสเตอร์ดัม และมุมไบ ความเร็วในการดาวน์โหลดของเราก็อยู่ที่ 28 Mbps ซึ่งก็เร็วพอสำหรับการสตรีมมิ่งความชัดระดับ HD และ 4K ก็ยังไหว ความสามารถในการปลดบล็อกก็ดีเช่นกัน ถึงแม้ว่าเราจะไม่สามารถปลดบล็อก Amazon Prime Video ได้ แต่เราก็สามารถเข้าถึงบริการสตรีมมิ่งยอดนิยมอื่น ๆ บน Windows ได้ ซึ่งรวมถึง Netflix และ Disney+

Screenshot of a show streaming on Huluเราได้ทำ "รายการโปรด" เซิร์ฟเวอร์ซินซินนาติเอาไว้เพื่อให้เข้าใช้งานสะดวกในครั้งต่อไป

เมื่อพูดถึงเรื่องความปลอดภัย IPVanish ได้คะแนนอันดับต้น ๆ การเชื่อมต่อของคุณจะถูกทำการเข้ารหัส 256-bit AES ซึ่งแทบจะเจาะไม่เข้าเลย นี่หมายความว่าคุณจะไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องแฮ็กเกอร์และคนที่แอบดูข้อมูลของคุณเวลาใช้อินเทอร์เน็ตเลย และเนื่องจากมี kill switch ที่บิ้วท์อินมาในตัว คุณจึงสามารถเปลี่ยนเซิร์ฟเวอร์ได้โดยไม่ต้องกังวลว่าตัวตนของคุณจะถูกเปิดเผยออกไปโดยบังเอิญ นอกจากนี้พวกเขายังเป็นเจ้าของเซิร์ฟเวอร์ของตัวเอง ดังนั้นก็ไม่มีตัวกลางผู้ที่อาจจะมาเข้าถึงข้อมูลของคุณได้ ในขณะที่สำนักงานใหญ่ของพวกเขาตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกา (ไม่ใช่ประเทศที่เป็นมิตรต่อความเป็นส่วนตัวสักเท่าไร) แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพราะพวกเขามีนโยบายการไม่บันทึกข้อมูลที่เข้มงวด

คุณสามารถเลือกใช้งานได้จาก 6 VPN โปรโตคอล: WireGuard, IKEv2, OpenVPN, L2TP, SSTP และ PPTP เราชอบ WireGuard เนื่องจากมันมีความเร็วสูงสุดและใช้ความสามารถในการประมวลผลต่ำที่สุดเพื่อประสิทธิภาพที่ดีของอุปกรณ์ และก็มีความปลอดภัยสูงด้วย ถึงจะกล่าวเป็นเช่นนั้นแล้ว บางครั้ง OpenVPN ก็อาจจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าสำหรับการหลีกเลี่ยงการถูกจำกัดในพื้นที่

น่าเสียดายที่ IPVanish ไม่รับการชำระเงินสกุลดิจิทัลที่จะช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัว อย่างไรก็ตาม พวกเขารับบัตรเครดิตรายใหญ่ทั้งหมด รวมถึง PayPal คุณสามารถ สมัครสมาชิกได้ในราคาเพียง $2.75/เดือน แพลนรายเดือนนั้นมีราคาแพงที่สุดเนื่องจากไม่ได้ฟีเจอร์อะไรเพิ่มเติม เพื่อที่จะให้ได้ความคุ้มค่าสูงที่สุดสำหรับเงินที่คุณจ่ายไป เราแนะนำให้สมัครใช้งานแพลนรายปี

IPVanish ยังมาพร้อมกับการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน อีกด้วย เราชอบที่ไม่ต้องติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าก็ทำการยกเลิกได้ แค่ล็อกอินเข้าบัญชีของคุณ จากนั้นก็เลือกแท็บการสมัครสมาชิก และคลิก "ฉันต้องการขอยกเลิกการสมัครสมาชิก" เราได้ลองดูและก็ได้รับเงินคืนภายใน 6 วัน

7. PrivateVPN — Stealth Mode เพื่อช่วยหลีกเลี่ยงการบล็อก VPN บนอุปกรณ์ Windows ของคุณ

  • ความเร็วใช้ได้ แบนด์วิดท์ไม่จำกัด
  • 200+ เซิร์ฟเวอร์ใน 63+ ประเทศ
  • เชื่อมต่อได้พร้อมกัน 10 อุปกรณ์
  • ปลดบล็อก: Netflix, Disney+, Amazon Prime Video, Hulu และอื่น ๆ
  • ใช้งานเข้ากันได้กับ: Windows 7, 8, 10, & 11, macOS, iOS, Android, เราเตอร์ และอื่น ๆ

Stealth mode ของ PrivateVPN นั้นเหมาะมากสำหรับใช้เลี่ยงข้อจำกัดในการใช้อินเทอร์เน็ตและไฟร์วอลล์ที่ผ่านได้ยาก มันถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้ในหลายประเทศที่มีการเซ็นเซอร์อย่างรุนแรง เช่นจีน Stealth mode จะช่วยปิดบังการใช้ VPN ของคุณทำให้มันสามารถผ่านไฟร์วอลล์ที่โรงเรียน ที่ทำงาน และเครือข่ายอื่น ๆ ได้ เราทำการทดสอบกับ WiFi ในห้องสมุดสาธารณะ ที่ไม่เปิดให้เข้าเว็บโหลดบิตทอร์เรนต์ หลังจากที่เราเปิดฟีเจอร์นี้แล้ว เราก็สามารถเข้าเว็บบิตทอร์เรนต์ผ่านแล็ปท็อป Windows ได้อย่างไม่มีปัญหา

มันมีแอป Windows ที่ใช้งานได้ง่าย มีอินเทอร์เฟซ 2 แบบให้เลือก: เรียบง่ายและขั้นสูง ในมุมมองแบบเรียบง่าย VPN จะเลือกโปรโตคอลความปลอดภัยที่ดีที่สุดให้กับคุณ และคุณจะสามารถเชื่อมต่อไปยังเซิร์ฟเวอร์ได้เพียงแค่คลิกปุ่มทีเดียว มุมมองขั้นสูงจะเปิดให้คุณสามารถปรับแต่งตัวเลือกได้มากยิ่งขึ้น เช่นการเปลี่ยนโปรโตคอล การเปิดปิด kill switch การเข้าถึง Stealth mode และอื่น ๆ

Screenshot showing PrivateVPN's interfaceมุมมองขั้นสูงจะเปิดให้คุณดูได้ด้วยว่าคุณใช้ข้อมูลไปเท่าไรแล้ว

ฟีเจอร์ความปลอดภัยชั้นหนึ่งทำให้การใช้งานอินเทอร์เน็ตของคุณผ่านอุปกรณ์ Windows มีความปลอดภัยเป็นที่สุด แอป Windows มาพร้อมกับ kill switch อัตโนมัติและการเข้ารหัส 256-bit AES การป้องกันการรั่วไหลของมันก็ดีมากเช่นกัน; เราไม่พบการรั่วไหลในการทดสอบเลยบน ipleak.net

การทดสอบความเร็วก็ได้ผลที่ดีพอสำหรับการสตรีมมิ่งความชัดระดับ HD และการโหลดบิตทอร์เรนต์ ระหว่างการทดสอบของเรา ความเร็วเฉลี่ยที่ได้ อยู่ที่ 24 Mbps จากเซิร์ฟเวอร์แมนเชสเตอร์ ฟีนิกซ์ และญี่ปุ่น ถึงแม้ว่าเราจะพบอาการแลคอยู่บ้างตอนที่สตรีมมิ่งแบบความชัดระดับ 4K แต่ก็ไม่มีปัญหาเลยจากการสตรีมมิ่ง Netflix ในความชัดระดับ HD ยิ่งไปกว่านั้นเซิร์ฟเวอร์สำหรับ IP/การโหลดบิตทอร์เรนต์โดยเฉพาะนั้น ช่วยให้เราสามารถโหลดไฟล์ขนาดใหญ่บน Windows 10 PC ได้ภายในไม่กี่นาที

มันน่าผิดหวังเล็กน้อยที่เครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ของพวกเขามีขนาดเล็กกว่ารายอื่น และเราก็ไม่สามารถปลดบล็อก BBC iPlayer ได้ อย่างไรก็ตาม นั่นไม่ใช่ปัญหาใหญ่เนื่องจากมันสามารถปลดบล็อก Netflix, Amazon Prime Video, และ Hulu ได้

ราคานั้นก็ไม่แพง — คุณสามารถสมัครสมาชิกได้ในราคาถูกสุดถึง $2/เดือน แพลนระยะสั้นนั้นมีราคาแพงกว่า และไม่ได้เพิ่มฟีเจอร์ใด ๆ เข้ามา ดังนั้นถ้าเลือกแพลนระยะยาวจะมีความคุ้มค่ามากที่สุด

PrivateVPN มีการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน สำหรับทุกแพลน ดังนั้นคุณจึงสามารถ ทดลองใช้มันกับ Windows PC ได้ฟรี เพื่อทดสอบการรับประกันนี้ เราติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าทางไลฟ์แชท 24/7 และก็ขอเงินคืนหลังจากที่ใช้ไป 3 สัปดาห์ ตัวแทนนั้นก็ให้ความช่วยเหลือดีมาก และอนุมัติคำขอในทันที เราได้รับเงินคืนมาภายในเวลา 7 วัน

ตารางเปรียบเทียบอย่างเร็ว: ฟีเจอร์ของ VPN ที่ดีที่สุดสำหรับ Windows

ตารางข้างล่างนี้จะแสดงฟีเจอร์สำคัญของ VPN ที่เราแนะนำสำหรับ Windows

VPN ราคาถูกสุด จำนวนอุปกรณ์  ความเร็ว รองรับ P2P สามารถปลดบล็อก Windows

เวอร์ชัน

แอป Windows มีภาษาไทย Edge

Browser

Extension

🥇ExpressVPN $6.67/เดือน 8 เร็วมาก รองรับทุกเซิร์ฟเวอร์ Netflix, Disney+, HBO Max, Hulu, BBC iPlayer และอื่น ๆ 7, 8, 10, 11 มี มี
🥈CyberGhost $2.19/เดือน 7 เร็ว รองรับพร้อมมีเซิร์ฟเวอร์เฉพาะ Netflix, Disney+, Hulu, BBC iPlayer, HBO Max และอื่น ๆ 7, 8, 10, 11 ไม่มี ไม่มี
🥉PIA $2.19/เดือน ไม่จำกัด เร็ว รองรับทุกเซิร์ฟเวอร์ Netflix, Disney+, Hulu, BBC iPlayer และอื่น ๆ 7, 8, 10, 11 มี ไม่มี
NordVPN $3.39/เดือน 6 เร็ว ใช่ พร้อมเซิร์ฟเวอร์พิเศษ Netflix, Disney+, HBO Max, Hulu, BBC iPlayer และอื่น ๆ 7, 8, 10,11 ไม่มี ไม่
Surfshark $2.89/เดือน ไม่จำกัด เร็ว ใช่ บนทุกเซิร์ฟเวอร์ Netflix, Disney+, HBO Max, Hulu, BBC iPlayer และอื่น ๆ 7, 8, 10,11 ไม่มี ใช่
IPVanish $2.75/เดือน ไม่จำกัด เร็ว รองรับทุกเซิร์ฟเวอร์ Netflix, Disney+, Hulu, BBC iPlayer และอื่น ๆ 7, 8, 10, 11 ไม่มี ไม่มี
PrivateVPN $2/เดือน 10 ทั่วไป รองรับพร้อมมีเซิร์ฟเวอร์เฉพาะ Netflix, Disney+, Amazon Prime Video, Hulu และอื่น ๆ 7, 8, 10, 11 ไม่มี ไม่มี

ลองใช้งาน ExpressVPN วันนี้เลย

เคล็ดลับการเลือก VPN ที่ดีที่สุดสำหรับ Windows

VPN ทั้งหมดในรายการนี้ผ่านมาตรฐานต่าง ๆ เหล่านี้ อย่างไรก็ตามถ้าคุณไม่แน่ใจว่าต้องมองหาอะไรใน VPN ที่ดีสำหรับ Windows ก็สามารถลองอ่านตัวตัดสินที่เราใช้เลือก VPN ที่ดีที่สุดได้:

  • ความปลอดภัยที่แน่นหนา — VPN ของคุณควรจะมีฟีเจอร์ความปลอดภัยที่แน่นหนา เช่นมีการเข้ารหัสที่แน่นหนา มี kill switch อัตโนมัติ มีนโยบายการไม่บันทึกข้อมูลที่เข้มงวด และมีการป้องกันการรั่วไหลของ DNS/IP นี่จะช่วยดูแลข้อมูลของคุณให้ปลอดภัยจากบุคคลที่สามซึ่งจ้องจะสอดแนมกิจกรรมทางออนไลน์ของคุณ
  • ใช้งานเข้ากันได้กับ Windows เวอร์ชันล่าสุด — มองหา VPN ที่มีการอัปเดตอยู่เป็นประจำเพื่อให้ใช้งานเข้ากันได้กับ Windows ที่อัปเดตมาใหม่ VPN ทั้งหมดในรายการนี้นั้นสามารถใช้งานได้ง่ายและใช้งานเข้ากันได้กับ Windows 7 ถึง 11
  • ความเร็วสูง — ความเร็วสูงจะช่วยให้คุณสามารถเล่นเกมและทำการสตรีมมิ่งความชัดระดับ HD ได้โดยไม่มีอาการแลค VPNs ทั้งหมดที่เราแนะนำนั้นมีความเร็วเฉลี่ยอย่างน้อย 20 Mbps ระหว่างที่เราทำการทดสอบ (สูงกว่าความเร็วขั้นต่ำสำหรับสตรีมมิ่งความชัดระดับ HD ถึง 4 เท่า และสูงกว่าความเร็วขั้นต่ำสำหรับเล่นเกมออนไลน์ถึง 2 เท่า)
  • เครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่ — เครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่จะช่วยเรื่องความเร็วเนื่องจากผู้ใช้งานจะกระจายตัวออกไป เพื่อลดการแออัดของเซิร์ฟเวอร์ และคุณก็จะมีโอกาสเจอเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ใกล้คุณได้มากกว่า (ซึ่งปกติแล้วมักจะเร็วกว่า)
  • รองรับการสตรีมมิ่ง — VPN ที่ดีที่สุดต้องสามารถปลดบล็อกเว็บไซต์สตรีมมิ่งอย่างเช่น Netflix ได้ นี่จะมีประโยชน์เป็นอย่างยิ่งเวลาที่คุณเดินทางต่างประเทศ เพราะคุณจะสามารถรับชมเนื้อหาจากประเทศของคุณได้ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน VPN ทั้งหมดในรายการนี้สามารถปลดบล็อกได้หลายแพลตฟอร์ม รวมถึง Netflix, Disney+, APV และ BBC iPlayer
  • เป็นมิตรต่อ P2P — ถ้าคุณคิดจะใช้เพื่อทำการโหลดบิตทอร์เรนต์ คุณควรจะเลือก VPN ที่รองรับ P2P ยิ่งได้ทุกเซิร์ฟเวอร์เลยยิ่งดี หรือมีเซิร์ฟเวอร์พิเศษเพื่อเพิ่มความเร็วในการดาวน์โหลด
  • เชื่อมต่อได้หลายอุปกรณ์ — VPNs ทั้งหมดในรายการของเรานั้นสามารถเชื่อมต่อได้พร้อมกันอย่างน้อย 5 อุปกรณ์ เพื่อให้รองรับทุกอุปกรณ์ของคุณภายในการสมัครสมาชิกบัญชีเดียว
  • ฝ่ายบริการลูกค้าที่ไว้วางใจได้ — ผู้ให้บริการชั้นนำต้องมีไลฟ์แชท 24/7 VPNs ทั้งหมดในรายการของเรานั้นเปิดให้คุณสามารถติดต่อตัวแทนได้ทุกเมื่อที่ต้องการ
  • การรับประกันคืนเงินที่เชื่อถือได้ — เลือกผู้ให้บริการ VPN ที่มีการรับประกันคืนเงินซึ่งเชื่อถือได้ เราได้ทำการทดสอบทุก VPN ในรายการแล้วเพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะขอเงินคืนได้อย่างง่ายดายหากคุณไม่พอใจการใช้งาน

คู่มือแบบเร็ว: วิธีติดตั้ง VPN บน Windows ใน 3 ขั้นตอนง่าย ๆ

  1. ดาวน์โหลด VPN สำหรับ Windows เราแนะนำ ExpressVPN เนื่องจากมันมีความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง มีความเร็วสูง และมีเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์อยู่ทั่วโลก
  2. ติดตั้งแอป หลังจากที่ติดตั้งแล้ว ก็เปิดแอป VPN บนอุปกรณ์ Windows ที่คุณต้องการ
  3. เชื่อมต่อ! เลือกเซิร์ฟเวอร์และคลิกเชื่อมต่อ เท่านี้การเชื่อมต่อของคุณปลอดภัยแล้ว!

ลองใช้งาน ExpressVPN วันนี้เลย

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ VPN สำหรับ Windows ที่ดีที่สุด

Windows 10 มี VPN บิ้วท์อินในตัวไหม?

มี VPN client ซึ่งไม่ใช่สิ่งเดียวกันกับ VPN VPN client จะทำให้คุณสามารถเชื่อมต่อไปยังเครือข่าย VPN ของบุคคลที่สามแยกได้ คุณยังต้องทำการสมัครใช้งานกับผู้ให้บริการ VPN เพื่อใช้มันอยู่ดี เราได้ลองใช้แล้ว แต่ก็รู้สึกว่าขั้นตอนมันซับซ้อนและก็ไม่คุ้มค่าเวลาสักเท่าไร เพราะแบบนั้นเราเลยเลือกใช้แอป VPN ที่ผ่านการทดสอบมาแล้วแทน มันติดตั้งง่ายกว่า มีฟีเจอร์ที่เราเห็นว่าจำเป็นมากมาย เช่นเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่ ความสามารถในการปลดบล็อก kill switch และอื่น ๆ

และ client ที่บิ้วท์อินมานี้ก็ใช้งานได้กับแค่ Windows เท่านั้น ในขณะที่ VPN พรีเมียมอื่น ๆ จะสามารถใช้กับมือถือหรืออุปกรณ์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการอื่น ๆ ได้ด้วย และ Windows VPN client ก็ไม่สามารถเข้าถึง OpenVPN และ WireGuard ได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีกว่าโปรโตคอลเก่า ๆ ที่มันเปิดให้ใช้งาน (IKEv2, PPTP, L2TP/IPSec และ SSTP)

ต้องทำอย่างไรถ้า Windows VPN ของฉันใช้งานกับ Netflix (หรือแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งอื่น ๆ) ไม่ได้?

มีวิธีง่าย ๆ ให้คุณลองทำในกรณีที่ Windows VPN ของคุณใช้งานกับ Netflix หรือบริการอื่น ๆ ไม่ได้ แรกสุดเลย ตรวจสอบดูให้แน่ใจว่าคุณกำลังใช้ VPN ที่ผ่านการพิสูจน์มาแล้วว่าสามารถปลดบล็อกแพลตฟอร์มนั้น ๆ ได้อย่างมีความเสถียร หากคุณยังพบปัญหาอยู่ วิธีอื่น ๆ ที่คุณสามารถลองทำได้มีดังนี้:

  1. เปลี่ยนเซิร์ฟเวอร์ -- ถึงแม้ VPN ที่ดีที่สุดก็อาจจะถูกแพลตฟอร์มบล็อก IP ได้เป็นบางครั้ง VPN หลายรายทำการหมุนเวียน IPs เวลาที่คุณเลือกสถานที่ ดังนั้นคุณสามารถลองตัดการเชื่อมต่อและเชื่อมต่อใหม่อีกครั้ง
  2. เปลี่ยนเบราว์เซอร์ -- ถ้า Hulu ไม่สามารถใช้งานได้กับ Microsoft Edge บางครั้งมันอาจจะใช้งานได้ปกติบน Firefox หรือ Chrome
  3. ปิด IPv6 -- นี่เคยช่วยให้เราเข้าถึงได้หลายแพลตฟอร์มในอดีต บน Windows PC ของคุณ ไปที่ Network and Sharing Center คลิก "change adapter settings" คลิกขวาที่การเชื่อมต่อของคุณและไปที่ "properties" จากนั้นนำเครื่องหมายติ๊กออกจาก Internet Protocol Version 6 (TCP/IPv6)”
  4. ติดต่อฝ่ายให้บริการลูกค้า -- ถ้าลองหมดแล้วไม่เป็นผล คุณก็สามารถขอให้ฝ่ายบริการลูกค้าช่วยได้ อย่างน้อย คุณก็สามารถบอกพวกเขาได้ว่าเซิร์ฟเวอร์ไหนที่มีปัญหา เพื่อให้พวกเขาทำการอัปเดตมัน

VPN ไหนดีที่สุดสำหรับ Windows 11?

ทุก VPNs ในรายการนี้นั้นสามารถใช้งานกับ Windows 11 ได้ ดังนั้นเราถึงได้เลือกแนะนำ อย่างไรก็ตาม เราอยากแนะนำให้คุณรอ Microsoft จัดการปัญหากับระบบปฏิบัติการใหม่ที่อาจจะเกิดขึ้นก่อน ถ้าคุณยังไม่ได้อัปเกรดจาก Windows 10 Microsoft ได้แจ้งแล้วว่า OpenVPN UDP อาจทำงานได้ช้ากว่าบน Windows 11 การทดสอบทั้งหมดของเรานั้นได้ทดสอบบน Windows 10 และเราจะอัปเดตมันถ้ามีการเปลี่ยนแปลงสำคัญบน Windows 11 (แต่ตอนนี้เราก็ยังไม่เห็นอะไรสำคัญสักเท่าไร) เราใช้งาน Windows 10 ได้อย่างสบาย ๆ จนกว่าที่ระบบปฏิบัติการจะทำการอัปเดตและแก้บัคทั้งหมดแล้ว

ฉันควรจะใช้ VPN บน Windows PC เวลาที่ทำการโหลดบิตทอร์เรนต์หรือไม่?

แน่นอน ถึงแม้ว่าคุณจะอยู่ในประเทศที่การโหลดบิตทอร์เรนต์นั้นถูกกฎหมาย แต่เครือข่าย P2P มันก็ไม่ได้ปลอดภัย 100% เสมอไป ให้เลือกใช้ VPN ที่รองรับการโหลดบิตทอร์เรนต์ เนื่องจากไม่ใช่ทุก VPN ที่จะใช้ได้หมด VPNs ในรายการนี้รองรับการโหลดบิตทอร์เรนต์ทั้งหมด — บางรายถึงขั้นมีเซิร์ฟเวอร์พิเศษสำหรับ P2P เลยด้วย

VPNs ยังจะช่วยให้คุณสามารถเข้าถึงเว็บไซต์บิตทอร์เรนต์ได้มากยิ่งขึ้น (บางเว็บนั้นถูกจำกัดการเข้าถึงในพื้นที่ ไม่ก็ถูกไฟร์วอลล์บล็อก) VPN ยังสามารถช่วยไม่ให้ ISP ของคุณทำการ thorttling เพื่อให้คุณคงความเร็วในการดาวน์โหลดที่สูงเอาไว้ได้ด้วย พวกเราไม่สนับสนุนให้คุณทำเรื่องผิดกฎหมาย ดังนั้นกรุณาตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณจะดาวน์โหลดเฉพาะไฟล์ที่ถูกลิขสิทธิ์ อย่างไรก็ตาม บางครั้งคุณอาจจะคิดว่าคุณดาวน์โหลดทอร์เรนต์ที่ถูกกฎหมาย แต่คุณอาจจะไปกดโหลดผิดไฟล์ได้ ดังนั้นทำการเข้ารหัสไว้ย่อมดีกว่า

Windows 10 ปลอดภัยขนาดไหน?

Windows 10 นั้นปลอดภัยกว่าเวอร์ชันก่อนหน้า แต่มันก็ไม่ได้ปลอดภัย 100% ฟีเจอร์ความปลอดภัยพื้นฐานของมันยังไม่ดีพอที่จะปกป้องคุณ เนื่องจากอุปกรณ์ Windows นั้นจะเป็นเป้าหมายหลักของแฮ็กเกอร์และมัลแวร์ และ Microsoft ก็ระบุไว้ชัดเจนในนโยบายความเป็นส่วนตัวของพวกเขาเองว่ามีการเก็บข้อมูลของคุณ ดังนั้นถ้ามองในด้านความเป็นส่วนตัวแล้ว มันก็ไม่ใช่ระบบปฏิบัติการที่ปลอดภัย

วิธีที่ดีที่สุดเพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะใช้งาน Windows 10 ได้อย่างปลอดภัยก็คือการใช้ VPN ที่มีฟีเจอร์ความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง นอกจากจะช่วยป้องกันแฮ็กเกอร์ไม่ให้เข้าถึงข้อมูลคุณได้แล้ว; มันยังช่วยป้องกันบุคคลที่สาม ผู้โฆษณา รัฐบาล และ ISP ของคุณเองไม่ให้บันทึกการเคลื่อนไหวบนโลกออนไลน์ของคุณ

ฉันใช้ VPN ฟรีกับ Windows ได้หรือไม่?

ใช้ได้ แต่ไม่แนะนำ เพราะว่ามี VPNs ฟรีหลายรายที่ไม่ปลอดภัย การใช้ VPN ที่มีการรับประกันคืนเงินนั้นปลอดภัยและมีความเสถียรกว่าเยอะ แบบนั้นถ้าคุณใช้ภายในระยะเวลารับประกัน คุณก็ไม่ต้องผูกมัดเรื่องเงินใด ๆ และอุปกรณ์ Windows ของคุณก็ไม่ต้องเสี่ยงอันตรายด้วย

ถ้าจะให้ขยายความก็มีผู้ให้บริการ VPN หลายรายที่ถูกจับได้ว่านำข้อมูลของผู้ใช้งานไปขายให้บุคคลที่สาม (เช่น Betternet และ Hola VPN) ยิ่งกว่านั้น แพลนระดับฟรีมักจะถูกจำกัดในหลายด้าน เช่นขนาดเซิร์ฟเวอร์ที่เล็กและการจำกัดข้อมูล และมันก็มักจะมีฟีเจอร์ความปลอดภัยที่แย่กว่า ทั้งที่ Windows นั้นเป็นเป้าหมายหลักของแฮ็กเกอร์เนื่องจากมีผู้ใช้งานสูงที่สุด ยิ่งไปกว่านั้น Microsoft ก็ได้ประกาศในนโยบายความเป็นส่วนตัวแล้วว่ามันจะเก็บข้อมูลของคุณ ดังนั้นเราจึงแนะนำให้ใช้ VPN พรีเมียมเป็นอย่างมากบนอุปกรณ์ Windows ของคุณ

รับบริการ VPN ที่ดีที่สุดสำหรับ Windows ได้ตั้งแต่วันนี้

เนื่องจากมี VPNs สำหรับ Windows มากมาย การเลือก VPN ที่ใช้นั้นจึงเป็นเรื่องยาก ยิ่งไปกว่านั้น Microsoft ก็ไม่ได้ช่วยปกป้องความเป็นส่วนตัวของลูกค้าเลย แถม Windows ยังเป็นเป้าหมายหลักของแฮ็กเกอร์และมัลแวร์ด้วย เพื่อให้เป็นเรื่องง่ายในการค้นหา VPN ที่มีคุณภาพดีสำหรับ Windows เราจึงได้ทำการทดสอบ VPN มามากมายเพื่อค้นหาสิ่งที่ดีที่สุด

เราแนะนำ ExpressVPN เพราะมันมีฟีเจอร์ความปลอดภัยชั้นหนึ่ง มีนโยบายการไม่บันทึกข้อมูลที่ผ่านการพิสูจน์แล้ว มีความเร็วสูงมาก และก็มีเซิร์ฟเวอร์ให้เลือกมากมาย และที่ดีที่สุด คุณสามารถ ทดลองใช้ ExpressVPN ได้อย่างไม่มีความเสี่ยง มันมีการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วันและเราก็ทดสอบมาแล้วว่าเชื่อถือได้จริง คำขอยกเลิกของเราได้รับการอนุมัติในทันที และเราก็ได้รับเงินคืนใน 3 วัน

สรุปแล้ว VPN ที่ดีที่สุดสำหรับ Windows ใน 2024 ได้แก่...

อันดับ
ผู้ให้บริการ
คะแนนของเรา
ส่วนลด
ไปที่เว็บไซต์
1
medal
9.9 /10
9.9 คะแนนของเรา
ประหยัดถึง 49%!
2
9.7 /10
9.7 คะแนนของเรา
ประหยัดถึง 83%!
3
9.5 /10
9.5 คะแนนของเรา
ประหยัดถึง 82%!
4
9.4 /10
9.4 คะแนนของเรา
ประหยัดถึง 67%!
5
9.3 /10
9.3 คะแนนของเรา
ประหยัดถึง 81%!
พวกเราจัดอันดับผู้ให้บริการตามการทดสอบและการค้นคว้าอย่างเข้มงวด แต่ก็จะมีการคำนึงถึงความคิดเห็นของคุณและค่าคอมมิชชั่นจากผู้ให้บริการด้วย ผู้ให้บริการบางรายนั้นจะมีบริษัทแม่แห่งเดียวกันกับพวกเรา
เรียนรู้เพิ่มเติม
vpnMentor ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 2014 ในฐานะเว็บไซต์รีวิวบริการ VPN อย่างอิสระและเว็บไซต์ข่าวเกี่ยวกับเรื่องความเป็นส่วนตัว วันนี้ ทีมงานนักวิจัยความปลอดภัยทางไซเบอร์, นักเขียน และบรรณาธิการนับร้อยของพวกเราได้ช่วยผู้อ่านให้ต่อสู้เพื่ออิสรภาพทางออนไลน์ผ่านการจับมือกับ Kape Technologies PLC ซึ่งเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ดังต่อไปนี้: ExpressVPN, CyberGhost และ Private Internet Access ซึ่งอาจจะได้รับการจัดอันดับและรีวิวบนเว็บไซต์ของเราด้วย รีวิวที่ได้รับการเผยแพร่บน vpnMentor นั้นมีความแม่นยำถึงวันที่ทำการเผยแพร่ และแต่ละรีวิวก็จะถูกเขียนขึ้นโดยอ้างอิงมาตรฐานที่เข้มงวดด้านการรีวิวซึ่งจะเน้นความเป็นอิสระและการค้นคว้าวิจัยอย่างซื่อสัตย์และเป็นมืออาชีพของนักรีวิว โดยจะเน้นไปถึงความสามารถและคุณภาพของผลิตภัณฑ์รวมถึงความคุ้มค่าที่มันมีต่อผู้ใช้งาน การจัดอันดับและรีวิวที่พวกเราเผยแพร่นั้นอาจจะคำนึงถึงการเป็นเจ้าของเดียวกันที่กล่าวถึงด้านบน และค่าคอมมิชชั่นที่พวกเราได้รับในกรณีที่มีการสั่งซื้อผ่านลิงก์บนเว็บไซต์ของเราด้วย พวกเราไม่ได้ทำการรีวิวผู้ให้บริการ VPN ทั้งหมด และข้อมูลที่เผยแพร่นั้นจะมีความแม่นยำถึงวันที่เผยแพร่แต่ละบทความ

เกี่ยวกับผู้เขียน

  • Akash Deep
  • Akash Deep นักวิจัยด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์

อาคัชเป็นนักเขียนที่ vpnMentor ที่ทุ่มเทให้กับการให้คำแนะนำที่เป็นกลางและเที่ยงตรงเกี่ยวกับความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว เขาเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์เทรนด์ความปลอดภัยบนอินเตอร์เน็ตล่าสุดและนำเสนอข้อมูลใหม่ ๆ เพื่อช่วยให้ผู้อ่านตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ