พวกเราจัดอันดับผู้ให้บริการตามการทดสอบและการค้นคว้าอย่างเข้มงวด แต่ก็จะมีการคำนึงถึงความคิดเห็นของคุณและค่าคอมมิชชั่นจากผู้ให้บริการด้วย ผู้ให้บริการบางรายนั้นจะมีบริษัทแม่แห่งเดียวกันกับพวกเรา
เรียนรู้เพิ่มเติม
vpnMentor ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 2014 ในฐานะเว็บไซต์รีวิวบริการ VPN อย่างอิสระและเว็บไซต์ข่าวเกี่ยวกับเรื่องความเป็นส่วนตัว วันนี้ ทีมงานนักวิจัยความปลอดภัยทางไซเบอร์, นักเขียน และบรรณาธิการนับร้อยของพวกเราได้ช่วยผู้อ่านให้ต่อสู้เพื่ออิสรภาพทางออนไลน์ผ่านการจับมือกับ Kape Technologies PLC ซึ่งเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ดังต่อไปนี้: ExpressVPN, CyberGhost และ Private Internet Access ซึ่งอาจจะได้รับการจัดอันดับและรีวิวบนเว็บไซต์ของเราด้วย รีวิวที่ได้รับการเผยแพร่บน vpnMentor นั้นมีความแม่นยำถึงวันที่ทำการเผยแพร่ และแต่ละรีวิวก็จะถูกเขียนขึ้นโดยอ้างอิงมาตรฐานที่เข้มงวดด้านการรีวิวซึ่งจะเน้นความเป็นอิสระและการค้นคว้าวิจัยอย่างซื่อสัตย์และเป็นมืออาชีพของนักรีวิว โดยจะเน้นไปถึงความสามารถและคุณภาพของผลิตภัณฑ์รวมถึงความคุ้มค่าที่มันมีต่อผู้ใช้งาน การจัดอันดับและรีวิวที่พวกเราเผยแพร่นั้นอาจจะคำนึงถึงการเป็นเจ้าของเดียวกันที่กล่าวถึงด้านบน และค่าคอมมิชชั่นที่พวกเราได้รับในกรณีที่มีการสั่งซื้อผ่านลิงก์บนเว็บไซต์ของเราด้วย พวกเราไม่ได้ทำการรีวิวผู้ให้บริการ VPN ทั้งหมด และข้อมูลที่เผยแพร่นั้นจะมีความแม่นยำถึงวันที่เผยแพร่แต่ละบทความ
การเปิดเผยข้อมูลการโฆษณา

vpnMentor ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 2014 ในฐานะเว็บไซต์รีวิวบริการ VPN อย่างอิสระและเว็บไซต์ข่าวเกี่ยวกับเรื่องความเป็นส่วนตัว วันนี้ ทีมงานนักวิจัยความปลอดภัยทางไซเบอร์, นักเขียน และบรรณาธิการนับร้อยของพวกเราได้ช่วยผู้อ่านให้ต่อสู้เพื่ออิสรภาพทางออนไลน์ผ่านการจับมือกับ Kape Technologies PLC ซึ่งเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ดังต่อไปนี้: ExpressVPN, CyberGhost และ Private Internet Access ซึ่งอาจจะได้รับการจัดอันดับและรีวิวบนเว็บไซต์ของเราด้วย รีวิวที่ได้รับการเผยแพร่บน vpnMentor นั้นมีความแม่นยำถึงวันที่ทำการเผยแพร่ และแต่ละรีวิวก็จะถูกเขียนขึ้นโดยอ้างอิงมาตรฐานที่เข้มงวดด้านการรีวิวซึ่งจะเน้นความเป็นอิสระและการค้นคว้าวิจัยอย่างซื่อสัตย์และเป็นมืออาชีพของนักรีวิว โดยจะเน้นไปถึงความสามารถและคุณภาพของผลิตภัณฑ์รวมถึงความคุ้มค่าที่มันมีต่อผู้ใช้งาน การจัดอันดับและรีวิวที่พวกเราเผยแพร่นั้นอาจจะคำนึงถึงการเป็นเจ้าของเดียวกันที่กล่าวถึงด้านบน และค่าคอมมิชชั่นที่พวกเราได้รับในกรณีที่มีการสั่งซื้อผ่านลิงก์บนเว็บไซต์ของเราด้วย พวกเราไม่ได้ทำการรีวิวผู้ให้บริการ VPN ทั้งหมด และข้อมูลที่เผยแพร่นั้นจะมีความแม่นยำถึงวันที่เผยแพร่แต่ละบทความ

10 บริการ VPN แนะนำสำหรับประเทศไทยใน 2024

ธนพัฒน์ อัปเดตเมื่อ 22/02/2024 ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย เคท ริชาร์จส์ ผู้ที่ชื่นชอบเทคโนโลยี
สารบัญ
ไม่มีเวลามานั่งอ่านฉบับเต็มใช่ไหม? นี่คือบริการ VPN ที่ดีที่สุดสำหรับปี 2024

ExpressVPN — VPN ที่เร็วที่สุด มันมีความปลอดภัยมากที่สุด ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับการสตรีมมิ่ง และมีราคาไม่แพง รับส่วนลด 49% ด้วยข้อเสนอสุดพิเศษนี้

การค้นหา VPN ที่ดีทุกด้านนั้นอาจจะดูเหมือนเป็นเรื่องยาก VPN บางรายนั้นมีเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้สตรีมมิ่งได้อย่างเสถียร แต่ขาดฟีเจอร์ความปลอดภัยที่แน่นหนา ส่วนรายอื่น ๆ นั้นก็ปลอดภัยสุด ๆ แต่มีการเชื่อมต่อที่ความเร็วตกลงไปเยอะจนทำให้แม้แต่การท่องเว็บยังกลายเป็นเรื่องน่าหงุดหงิด นี่ยังไม่รวมถึง VPN อีกมากมายที่ไม่น่าเชื่อถือ ซึ่งพวกมันจะติดตามการเคลื่อนไหวทางออนไลน์ของคุณและไม่ทำการเข้ารหัสทราฟฟิคของคุณอย่างที่ควรจะทำ

เพื่อที่จะช่วยให้คุณประหยัดเวลา ทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ของพวกเราที่อาศัยอยู่ทั่วโลกได้ใช้เวลานานหลายเดือนไปกับการทดสอบบริการ VPN กว่า 300 รายเพื่อค้นหา VPN ที่ดีที่สุดโดยรวม

VPN เหล่านี้ต่างก็มีเซิร์ฟเวอร์ครอบคลุมทั่วโลก เหมาะสำหรับใช้สตรีมมิ่งดูเนื้อหาในประเทศของคุณได้ทั้งแบบความชัดระดับ HD และ UHD นอกจากนี้มันยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับการเชื่อมต่อของคุณโดยที่ไม่ทำให้ความเร็วตก และช่วยให้กิจกรรมออนไลน์ของคุณดำเนินไปได้อย่างมีความเป็นส่วนตัว VPN บางตัวนั้นแข็งแกร่งถึงขั้นสามารถนำไปใช้งานในประเทศที่มีการเซ็นเซอร์อินเทอร์เน็ตอย่างเข้มงวดได้ด้วย

สรุป: VPN หมายเลขหนึ่งที่เราเลือกคือ ExpressVPN เนื่องจากมันมีฟีเจอร์ความปลอดภัยระดับชั้นนำของโลก และมันก็มีความเร็วที่น่าประทับใจสำหรับใช้สตรีมมิ่ง โหลดบิท และเล่นเกม และมันก็ยังมีความโดดเด่นในแง่ของความพยายามที่จะรักษาความเป็นส่วนตัวให้กับกิจกรรมออนไลน์ของคุณด้วย

คุณสามารถทดลองใช้งาน ExpressVPN ได้อย่างไม่มีความเสี่ยงด้วยการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน มันมีไลฟ์แชท 24/7 ที่ฝ่ายให้บริการลูกค้าตอบสนองและให้การช่วยเหลือเป็นอย่างดี สามารถคุยเป็นภาษาของคุณได้ ไม่ว่าคุณจะมีคำถามหรือปัญหาใด ๆ ก็ตาม หากคุณแล้วรู้สึกไม่ประทับใจเหมือนอย่างที่เรารู้สึก คุณก็สามารถขอคืนเงินเต็มจำนวนได้

ทดลอง VPN #1 ที่พวกเราแนะนำ >>

ไม่ค่อยมีเวลาใช่ไหม? นี่คือบริการ VPN ที่ดีที่สุดสำหรับปี 2024

  1. ตัวเลือกของบรรณาธิการ
    ExpressVPN
    ExpressVPN
    VPN ที่ดีที่สุดโดยรวม มันมีความปลอดภัยดี มีความเร็วสูง และก็สามารถใช้สตรีมมิ่งได้เสถียร
    70% ของผู้อ่านของเราต่างก็เลือกใช้ ExpressVPN
  2. CyberGhost VPN
    CyberGhost
    เซิร์ฟเวอร์พิเศษสำหรับการสตรีมมิ่งที่ลื่นไหล โหลดบิทได้เร็ว และเล่นเกมได้ไม่มีแลค
  3. Private Internet Access
    Private Internet Access
    การตั้งค่ามากมายให้คุณเลือกปรับแต่งได้เพื่อรักษาสมดุลระหว่างความเร็วและความปลอดภัย
  4. NordVPN
    NordVPN
    Threat Protection (การป้องกันภัย) ช่วยบล็อกโฆษณา ตัวติดตาม และเว็บไซต์อันตราย
  5. Surfshark
    Surfshark
    IP หมุนเวียน, CleanWeb, Camouflage Mode (โหมดพรางตัว) จะช่วยปกป้องการเชื่อมต่อของคุณ

ดูอีก 5 บริการ VPN ที่ดีที่สุด

วิธีเลือก VPN ที่ดีที่สุดสำหรับคุณ

พวกเราสามารถทำการวิเคราะห์และนำผลการทดสอบทั้งหมดที่มีในโลกมาเปิดให้คุณดูได้ แต่ท้ายสุดแล้วคนที่เลือก VPN ก็ต้องเป็นตัวของคุณเอง และถึงแม้ว่า VPN บางตัวจะดีกว่าตัวอื่น ๆ อย่างเห็นได้ชัด แต่ VPN ที่ดีที่สุดสำหรับแต่ละคนนั้นก็ขึ้นกับว่าพวกเขาเหล่านั้นต้องการใช้มันทำอะไร

นี่เป็น 3 ขั้นตอนง่าย ๆ เพื่อให้คุณสามารถใช้เลือก VPN ที่ใช่สำหรับคุณได้

  1. ระบุความสำคัญที่คุณต้องการ ความปลอดภัยหรือความบันเทิง? VPN บางรายนั้นจะดีอย่างเสียอย่าง แต่ VPN ที่ดีที่สุดนั้นมักจะต้องมีความสมดุลในทั้งสองด้าน
  2. ระบุวัตถุประสงค์ของคุณ ค้นหาวัตถุประสงค์ว่าคุณจะนำมันไปใช้ทำอะไร (เพิ่มความเป็นส่วนตัว, สตรีมมิ่ง, เล่นเกม, โหลดบิท หรือทุกอย่างรวมกัน) และคุณต้องการใช้ VPN บ่อยแค่ไหน นี่จะช่วยให้คุณเลือกฟีเจอร์ที่ต้องการได้ถูก
  3. ตั้งงบประมาณของคุณ ตัดสินใจว่าคุณยินดีจะจ่ายเงินเท่าไร และคุณอยากจะจ่ายเป็นรายเดือนหรือจะเลือกใช้เป็นแพลนระยะยาว VPN ที่ดีที่สุดมักจะมีข้อเสนอดี ๆ อยู่เป็นประจำ แต่ขอให้ทราบไว้ว่าราคาที่สูงเพียงอย่างเดียวไม่ได้แปลว่าบริการจะดีเสมอไป

ฟีเจอร์สำคัญ

เวลาที่คุณอ่านรีวิว VPN คุณควรจะมองหาฟีเจอร์เหล่านี้เอาไว้ จากประสบการณ์ที่ผ่านมาของเรา นี่เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดที่คุณควรมองหา

  • ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย ให้เลือก VPN ที่ไม่มีการบันทึกข้อมูล ซึ่งมีนโยบายความเป็นส่วนตัวที่ผ่านการตรวจสอบแล้ว, มีการเข้ารหัส 256-bit, การป้องกันการรั่วไหลของ IP/DNS และโปรโตคอลที่มีความปลอดภัยอย่าง OpenVPN และ WireGuard
  • สตรีมมิ่ง หากคุณต้องการให้การใช้งานสตรีมมิ่งได้ดีที่สุด คุณควรจะเลือก VPN ที่มีเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่ในประเทศของคุณ และมันก็ต้องมีความเร็วสูงด้วยเพื่อที่จะสตรีมแบบ HD ได้อย่างไม่แลค นอกจากนี้คุณควรจะตรวจสอบให้แน่ใจว่ามันสามารถใช้งานกับบัญชีสตรีมมิ่งของคุณอย่าง Netflix, Hulu, BBC iPlayer หรือ DAZN ได้อย่างมีความเสถียร
  • การโหลดบิท เลือก VPN สำหรับโหลดบิท ที่จะช่วยปิดบัง IP ของคุณ, เข้ารหัสทราฟฟิคของคุณ และมีโปรไฟล์ P2P คุณยังจะต้องการความเร็วที่สูง และคุณอาจจะต้องการฟีเจอร์เสริมอย่างพร็อกซี่ SOCKS5 ด้วย
  • ใช้งานง่าย VPN ที่ดีนั้นควรจะต้องมีแอปเนทีฟสำหรับหลายแพลตฟอร์ม และก็ต้องมีโซลูชันสำหรับเราเตอร์หรือ Smart DNS สำหรับอุปกรณ์ที่ไม่รองรับ VPN ด้วย VPN ทั้งหมดในรายการนี้นั้นต่างก็มีแอปที่ติดตั้งใช้งานง่ายให้เลือกได้จากบนเว็บไซต์ ซึ่งรองรับอุปกรณ์ยอดนิยมอย่าง Windows, macOS, Android, iOS, Linux และอีกมากมาย
  • หลบหลีกไฟร์วอลล์ได้ ให้มองหาฟีเจอร์อย่าง "obfuscation" เพื่อที่จะปิดบังทราฟฟิค VPN ของคุณและตรวจสอบให้แน่ใจว่า VPN นั้นได้ผ่านการทดสอบในประเทศที่มีการจำกัดการเข้าถึงมาแล้ว ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณต้องการ VPN จีน ก็ให้ตรวจสอบให้แน่ใจก่อนว่ามันใช้งานที่นั่นได้ ถ้ามีฝ่ายให้บริการลูกค้า 24/7 จะเป็นเรื่องดีมาก เพราะคุณจะสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลที่ต้องการได้ตลอดเวลา

บริการ VPN ที่ดีที่สุด — การวิเคราะห์เต็มรูปแบบ (อัปเดตล่าสุด 2024)

1. ExpressVPN — VPN ที่ดีที่สุดโดยรวมในแง่ความเร็ว ความปลอดภัย และความเสถียร

ฟีเจอร์ที่ดีที่สุด ความเร็วสูงที่สุดจากที่เราเคยทดสอบมา, มีฟีเจอร์ความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง และใช้งานได้อเนกประสงค์
เครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ 3,000 เซิร์ฟเวอร์ใน 105 ประเทศ (รวมถึงประเทศไทย)
เชื่อมต่อได้พร้อมกันกี่อุปกรณ์ สูงถึง 8
ใช้งานได้กับ Netflix, Disney+, Amazon Prime Video, BBC iPlayer, (HBO) Max, Hulu, Vudu และอื่น ๆ
UI มีภาษาไทย ใช่
บริการสนับสนุนภาษาไทย ไลฟ์แชทผ่านโปรแกรมแปลอัตโนมัติและฐานข้อมูล

ExpressVPN นั้นเป็น VPN ที่ดีที่สุดโดยรวมจากการทดสอบของทีมงานที่อยู่รอบโลกของเรา มันมีความเร็วที่น่าประทับใจและความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง

อย่างแรกเลย ExpressVPN นั้นเป็น VPN ที่เร็วที่สุดที่พวกเราเคยทำการทดสอบมาสำหรับทั้งการเชื่อมต่อระยะใกล้และไกล ผู้ทดสอบความเร็ว VPN ในสหราชอาณาจักรของเราได้ทำการทดสอบอยู่หลายเซิร์ฟเวอร์ด้วยการใช้โปรโตคอลที่เน้นด้านความเร็วอย่าง Lightway โดยเฉลี่ยแล้ว ExpressVPN นั้นแทบจะไม่ส่งผลกระทบกับความเร็วในการเชื่อมต่อเลย ความเร็วในพื้นที่นั้นจะช้าลงไปเพียงแค่ 5% เท่านั้น ในขณะที่การเชื่อมต่อไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ไกลไปเป็นพัน ๆ ไมล์ก็จะช้าลงแค่เพียง 10%   

ExpressVPN's speed test results for Toronto and Londonผลลัพธ์เหล่านี้อ้างอิงความเร็วพื้นฐานที่ 105.51 Mbps    

เป็นมิตรต่อผู้ใช้งานและสมบูรณ์แบบสำหรับสตรีมมิ่ง

เซิร์ฟเวอร์ทั่วโลกของ ExpressVPN นั้นจะช่วยให้มั่นใจได้ว่าคุณจะได้รับการเชื่อมต่อที่อยู่ใกล้เคียงและมีความเสถียรสำหรับใช้สตรีมมิ่งดูเนื้อหาในประเทศของคุณ และมันก็จะช่วยป้องกันเรื่องความเร็วตกที่เกิดจากการที่หลาย ๆ คนแย่งกันใช้เซิร์ฟเวอร์เดียวกันด้วย

โปรดทราบว่าถึงแม้ ExpressVPN และบริการอื่น ๆ นั้นจะสามารถทำให้คุณดูเนื้อหาที่ไม่ได้รับลิขสิทธิ์ในประเทศของคุณได้ก็ตาม แต่การกระทำนี้จะเป็นการทำผิดข้อตกลงการใช้งานของแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง ยิ่งไปกว่านั้น มันอาจเป็นการทำผิดลิขสิทธิ์ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่เราและทีมงานไม่สนับสนุนเป็นอย่างยิ่ง พวกเราขอแนะนำให้คุณใช้งาน VPN อย่างมีความรับผิดชอบและใช้ให้ถูกกฎหมาย

ทีมงานที่อยู่ทั่วโลกและเราได้ทำการทดสอบมันกับ Netflix 10+ ประเทศในแต่ละพื้นที่ที่ได้รับลิขสิทธิ์ — พวกเราต่างก็สามารถสตรีมดูเนื้อหาได้อย่างรวดเร็วและลื่นไหล มันยังสามารถใช้งานกับ Hulu, Disney+ และ Amazon Prime Video ได้ด้วยตอนที่เพื่อนร่วมงานชาวอเมริกันได้ทำการทดสอบแพลตฟอร์มเหล่านี้จากในสหรัฐอเมริกา ทีมงานที่สหราชอาณาจักรของพวกเราก็ยืนยันว่ามันสามารถใช้งานกับ Sky Go และ BBC iPlayer ได้อย่างลื่นไหลด้วยเช่นกัน

มันมีฟีเจอร์ Smart DNS (MediaStreamer) ซึ่งช่วยให้คุณสามารถติดตั้งเพื่อสตรีมมิ่งดูเนื้อหาผ่านอุปกรณ์ที่ปกติมักจะไม่รองรับ VPN อย่างเช่นเครื่องเล่นเกมและสมาร์ททีวีได้ โปรดทราบว่ามันจะไม่ได้ทำการเข้ารหัสทราฟฟิคของคุณเหมือนกับการเชื่อมต่อ VPN ปกติ

แอปเนทีฟของมันนั้นทำให้คุณสามารถติดตั้งได้อย่างง่ายดาย มันสามารถใช้งานได้กับระบบปฏิบัติการและอุปกรณ์ยอดนิยมส่วนใหญ่ เราชอบมากที่ส่วนขยายเบราว์เซอร์ของมันนั้นจะทำให้คุณสามารถเข้าถึง VPN ได้อย่างเต็มรูปแบบ — มันไม่ได้เป็นแค่พร็อกซี่เหมือนอย่างกับส่วนขยาย VPN ส่วนใหญ่ เรื่องที่เราอยากติเกี่ยวกับแอปของมันก็คือมันไม่มี kill switch สำหรับแอป iOS และอินเทอร์เฟซของ Linux นั้นไม่ค่อยเป็นมิตรต่อผู้ใช้งานสักเท่าไร

คุณสามารถติดตั้ง ExpressVPN บนเราเตอร์ของคุณได้ด้วยเรื่องจากมันมีเฟิร์มแวร์แบบปรับแต่งเอง มันจะต่างจาก VPN ตัวอื่น ๆ คุณจะไม่ต้องเจาะรายละเอียดไปติดตั้งอะไรในเราเตอร์มากมายนัก ดังนั้นคุณจึงสามารถปกป้องอุปกรณ์ทั้งหมดของคุณได้อย่างง่ายดาย หรือถ้าจะให้ง่ายยิ่งขึ้นไปอีก คุณก็สามารถซื้อเราเตอร์ Aircove ของ ExpressVPN ได้เลย — มันถูกตั้งค่าล่วงหน้ามาแล้วให้สามารถใช้งานกับ VPN ได้เพื่อที่จะช่วยประหยัดเวลาของคุณ

ExpressVPN รองรับการแชร์ไฟล์แบบ P2P ได้ทั้งเครือข่าย ทำให้มันคุณสามารถค้นหาเซิร์ฟเวอร์ที่มีความเร็วสูงและคนใช้ไม่เยอะได้อย่างง่ายดาย มันจะรองรับการทำ port forwarding เฉพาะกับการตั้งค่าบนเราเตอร์เท่านั้น แต่ split tunneling ก็สามารถช่วยเพิ่มความเร็วในขณะโหลดบิทได้เช่นกัน เราใช้มันเพื่อทำการเข้ารหัสทราฟฟิค BitTorrent ของเราในขณะที่ทราฟฟิคที่เหลือจะใช้งานเครือข่ายปกติของเรา

ความปลอดภัยและการปกป้องความเป็นส่วนตัวชั้นหนึ่ง

เหตุผลที่เราไว้ใจ VPN นี้ก็เพราะเรื่อง ความปลอดภัยและการปกป้องความเป็นส่วนตัวของ ExpressVPN นั้นมาพร้อมกับฟีเจอร์ระดับชั้นนำของโลกและได้ผ่านการตรวจสอบของบุคคลที่สามมาแล้ว โปรโตคอล Lightway, แอป และส่วนขยายเบราว์เซอร์นั้นต่างก็ผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยมาแล้วหลายครั้งเพื่อพิสูจน์ว่ามันแน่นหนาจริง แถมในปี 2022 ทาง KPMG (สำนักงานตรวจสอบที่มีชื่อเสียง) ก็ได้ทำการยืนยันแล้วว่า ExpressVPN นั้นทำตามนโยบายการไม่บันทึกข้อมูลจริง

ฟีเจอร์ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวอื่น ๆ:

  • การปกป้องความเป็นส่วนตัว มันตั้งอยู่ที่หมู่เกาะบริติชเวอร์จินซึ่งอยู่นอกพื้นที่ของ พันธมิตร 14-Eyes และเซิร์ฟเวอร์แบบ RAM (หรือที่พวกเขาเรียกว่าเทคโนโลยี TrustedServer) นั้นก็จะล้างข้อมูลของคุณหลังจากที่ทำการรีบูทในทุก ๆ ครั้งด้วย
  • การเข้ารหัสระดับทหาร มันจะผสมการเข้ารหัส AES 256-bit กับ SHA512 hashing และ 4096-bit RSA key — สรุปสั้น ๆ ว่าต่อให้แม้แต่แฮ็กเกอร์ที่มีฝีมือที่สุดก็ไม่สามารถเจาะระบบเข้ามาได้ นอกจากนี้ perfect forward secrecy ยังช่วยให้มั่นใจได้ด้วยว่าในกรณีที่คีย์การเข้ารหัสเกิดรั่วไหลออกไปนั้น การสื่อสารในอดีตและในอนาคตก็จะไม่รั่วไหลออกไปตาม
  • ไม่มีการรั่วไหลของข้อมูล Network Lock นั้นเป็น kill switch ของ ExpressVPN ที่จะช่วยป้องกันไม่ให้ข้อมูลของคุณรั่วไหลออกไปในกรณีที่คุณสูญเสียการเชื่อมต่อกับ VPN ExpressVPN นั้นยังสามารถป้องกันการรั่วไหลของ DNS/IP และ WebRTC ได้ด้วย
  • ตัวเลือกโปรโตคอล นอกจาก Lightway แล้ว คุณยังจะสามารถเข้าถึง OpenVPN — และ IKEv2 แต่ได้เฉพาะบน macOS
  • Threat Manager ExpressVPN นั้นจะมีรายการเว็บไซต์ที่ถูกบล็อกเนื่องจากมีการติดตามข้อมูลและมีมัลแวร์ และมันก็จะป้องกันไม่ให้อุปกรณ์ของคุณสื่อสารกับเว็บไซต์ที่ไม่น่าเชื่อถือเหล่านั้น
  • มี obfuscation สำหรับทุกเซิร์ฟเวอร์ ฟีเจอร์นี้เป็นสิ่งที่ทำให้ ExpressVPN นั้นสามารถทำงานในประเทศที่ถูกเซ็นเซอร์อย่างเข้มงวดอย่างเช่นจีนได้

บริการลูกค้าคุณภาพดี และการรับประกันความเสถียร

คุณสามารถทดลองใช้งาน ExpressVPN ได้อย่างไม่มีความเสี่ยงด้วยการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน ตอนที่เราได้ทำการทดสอบเรื่องนี้ มันก็มีความตรงไปตรงมา เราใช้ฟีเจอร์ไลฟ์แชท 24/7 เพื่อทำการขอคืนเงิน ทางตัวแทนก็ถามคำถามเราไม่กี่ข้อเกี่ยวกับประสบการณ์ในการใช้งาน จากนั้นก็อนุมัติคำขอคืนเงินให้เราในทันที เราได้รับเงินคืนเข้าบัญชีหลังจากนั้นภายใน 2 วัน

ExpressVPN นั้นดีที่สุดสำหรับ...

  • ความอเนกประสงค์โดยรวม — การผสมผสานระหว่างความเร็ว, ความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง และความเสถียรนั้นทำให้ ExpressVPN เป็นตัวเลือกที่ครบครันสำหรับการใช้งานทางออนไลน์ที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นการสตรีมมิ่ง, โหลดบิท, เล่นเกม หรือท่องเว็บอย่างปลอดภัยก็ตาม นอกจากนี้มันยังเป็นหนึ่งใน VPN เดียวที่ได้รับการพิสูจน์แล้วด้วยว่าสามารถใช้ทำกิจกรรมทั้งหลายเหล่านี้ในจีนได้

ExpressVPN นั้นอาจจะไม่เหมาะสำหรับ...

  • ผู้ใช้งานที่มีงบประมาณจำกัด — ExpressVPN นั้นไม่ใช่ตัวเลือกที่ถูกที่สุดในรายการของเรา (แพลนของมันมีราคาเริ่มต้นที่ $6.67/เดือน) แต่มันก็มักจะมีการลดราคาบนเว็บไซต์อยู่บ่อยครั้ง เราได้รับส่วนลด 49% ตอนที่สมัครใช้งานแพลนระยะยาว
ส่วนลด ExpressVPNมีนาคม 2024: มีเวลาจำกัด คุณสามารถรับส่วนลด ExpressVPNได้มากถึง49% ! อย่าพลาดข้อเสนอสุดพิเศษ!

2. CyberGhost — เซิร์ฟเวอร์พิเศษสำหรับการเล่นเกม ,สตรีมมิ่ง และโหลดบิท ได้อย่างมีความเสถียร

ฟีเจอร์ที่ดีที่สุด เซิร์ฟเวอร์พิเศษทำให้มันเป็น VPN ที่ใช้งานง่ายที่สุดตัวหนึ่ง
เครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ 11,690 เซิร์ฟเวอร์ใน 100 ประเทศ(รวมถึงในประเทศไทย)
เชื่อมต่อได้พร้อมกันกี่อุปกรณ์ 7
ใช้งานได้กับ Netflix, Disney+, Amazon Prime Video, BBC iPlayer, (HBO) Max, Hulu, Vudu และอื่น ๆ

CyberGhost นั้นเป็นหนึ่งใน VPN สำหรับสตรีมมิ่งที่เราชื่นชอบ มันมีเซิร์ฟเวอร์พิเศษมากมาย ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อให้คุณใช้งานได้อย่างมีความเร็วสูงและมีความเสถียรสูง สามารถใช้ดูเนื้อหาในประเทศได้อย่างไม่ถูกขัดจังหวะ เซิร์ฟเวอร์พิเศษแต่ละแห่งจะถูกระบุไว้ชัดเจนว่าทำงานได้ดีที่สุดสำหรับแพลตฟอร์มใด

เพื่อนร่วมงานของเราที่สหรัฐอเมริกาได้ ทำการทดสอบเซิร์ฟเวอร์สำหรับ Netflix สหรัฐอเมริกาของ CyberGhost เป็นเวลากว่า 3 ปี และเขาก็ไม่เคยพบปัญหาการเชื่อมต่อที่ช้าหรือขาดการเชื่อมต่อเลย เพื่อนร่วมงานต่างชาติคนอื่น ๆ ก็ได้รายงานว่า ระหว่างการทดสอบของพวกเขานั้น เซิร์ฟเวอร์พิเศษสำหรับสตรีมมิ่งของ CyberGhost สามารถใช้งานกับแพลตฟอร์มต่าง ๆ ในพื้นที่ที่ได้รับลิขสิทธิ์ได้อย่างไม่มีปัญหา ซึ่งรวมถึง Disney+, BBC iPlayer, Amazon Prime Video และอื่น ๆ อีกมากมาย

Screenshot showing easy to find streaming servers using CyberGhost appCyberGhost นั้นมีเซิร์ฟเวอร์สำหรับสตรีมมิ่งที่รองรับมากกว่า 30 แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งทั่วโลก

นอกจากนี้มันยังมีเซิร์ฟเวอร์พิเศษสำหรับใช้เล่นเกมและโหลดบิทด้วย เซิร์ฟเวอร์เล่นเกมนั้นถูกออกแบบมาเพื่อให้มีค่าปิงต่ำและมีความเร็วที่เสถียร ในขณะที่เซิร์ฟเวอร์โหลดบิทนั้นจะเน้นความปลอดภัยที่แน่นหนาและความเร็วในการดาวน์โหลด เราได้ลองเล่นเกม Call of Duty: Warzone ออนไลน์ผ่านเซิร์ฟเวอร์พิเศษในนิวยอร์ก และค่าปิงของเราก็มีความเสถียรอยู่ที่ 41 ms เราพบอาการแลคเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวระดับชั้นนำของโลก

CyberGhost นั้นได้พิสูจน์ถึงความตั้งมั่นที่จะปกป้องข้อมูลของคุณด้วยการจัดสรรให้มีฟีเจอร์ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวที่หลากหลาย เรารู้ว่าเราจะได้รับการป้องกันอยู่เสมอ — ไม่ว่าเราจะต้องการการป้องกันจาก WiFi สาธารณะ, การป้องกันมัลแวร์ หรือต้องการความเป็นส่วนตัวมากเป็นพิเศษก็ตามในขณะที่ต้องกรอกข้อมูลที่ละเอียดอ่อนทางออนไลน์

ฟีเจอร์ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวอื่น ๆ:

  • ตั้งอยู่ที่โรมาเนียและมีเซิร์ฟเวอร์ NoSpy สำนักงานใหญ่ของ CyberGhost นั้นตั้งอยู่นอกพื้นที่ของพันธมิตร 14 Eyes ที่นั่นจะมีเซิร์ฟเวอร์ส่วนตัวอยู่จำนวนหนึ่งด้วย (NoSpy) พวกมันจะถูกบริหารจัดการโดยพนักงานของ CyberGhost เองเพื่อลดความเสี่ยงในการถูกดักจับข้อมูล
  • การป้องกันที่ปรับแต่งได้ ฟีเจอร์ Block Content (บล็อกเนื้อหา) จะช่วยปกป้องกันโฆษณา, ตัวติดตาม และมัลแวร์ได้ แถม Smart Rules (กฎอัจฉริยะ) ก็จะช่วยปกป้องคุณบน WiFi สาธารณะโดยให้คุณปรับแต่งได้ว่าต้องการให้แอปปกป้องทราฟฟิคของคุณเมื่อไร Smart Rules (กฎอัจฉริยะ) นั้นจะเปิดให้คุณตั้งค่า "ยกเว้น" กับแอปและเว็บไซต์ได้ด้วย (เหมือน split tunneling)
  • โปรโตคอลที่มีคุณภาพ คุณจะมีตัวเลือกระหว่าง IKEv2, L2TP/ IPSec, OpenVPN และ WireGuard น่าเสียดายที่ไม่มี OpenVPN สำหรับ iOS หรือ macOS
  • ตัวเลือก IP เฉพาะ คุณสามารถรับสิ่งนี้ได้โดยมีค่าใช้จ่ายรายเดือนเพิ่มเติมเล็กน้อย — มันจะเป็นที่อยู่ IP "ส่วนตัว" ที่จะมีแต่คุณเท่านั้นที่สามารถเข้าถึงได้ ดังนั้นคุณจะสามารถหลีกเลี่ยงการแออัดและป้องกันไม่ให้เว็บไซต์ตรวจจับการเชื่อมต่อ VPN ของคุณได้ สามารถใช้งานได้ในสหรัฐอเมริกา, สหราชอาณาจักร, แคนาดา, เยอรมนี และฝรั่งเศส
  • การปกป้องความเป็นส่วนตัวที่เชื่อถือได้ นโยบายการไม่บันทึกข้อมูลของมันก็ผ่านการตรวจสอบแล้วโดย Deloitte ผู้ที่ได้ทำการยืนยันว่าไม่มีข้อมูลใด ๆ ถูกบันทึกไว้จริง ๆ และเช่นเดียวกันกับ ExpressVPN ตรงที่ CyberGhost นั้นได้เปลี่ยนมาใช้เซิร์ฟเวอร์แบบไม่มีดิสก์เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลของคุณจะไม่ถูกบันทึกเอาไว้
  • สิ่งสำคัญด้านความปลอดภัย คุณจะได้รับการเข้ารหัส 256-bit รวมถึง perfect forward secrecy เพื่อที่จะช่วยป้องกันไม่ให้แฮ็กเกอร์มาเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของคุณได้ นอกจากนี้ยังมีการป้องกันการรั่วไหลของ DNS/IP และ kill switch ด้วย

แอปที่ใช้งานง่ายและการเชื่อมต่อที่รวดเร็ว

แอปของ CyberGhost นั้นดูเนี้ยบและใช้งานง่าย — คุณสามารถเปิดใช้งานฟีเจอร์ส่วนใหญ่ได้ภายในคลิกเดียว มันยังมีส่วนขยายเบราว์เซอร์ให้ใช้ฟรีอีกด้วย แต่นั่นจะเป็นเพียงพร็อกซี่ และก็ไม่ได้มีให้ใช้งานได้ในทุกประเทศ ถึงแม้ว่ามันจะใช้งานเข้ากันได้กับระบบปฏิบัติการยอดนิยมส่วนใหญ่ (เช่น Windows, macOS และ Linux) แต่ใช้กับ Chromebook ไม่ได้

มันมีความเร็วดีโดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาใช้กับการเชื่อมต่อที่อยู่ใกล้เคียง พวกเราได้ทำการทดสอบ 3 เซิร์ฟเวอร์ใกล้เคียง (ในสหราชอาณาจักร, ฝรั่งเศส และเยอรมนี) และก็สูญเสียความเร็วไปเพียง 5% โดยเฉลี่ยเท่านั้น เซิร์ฟเวอร์ญี่ปุ่นของมันนั้นก็เร็วเช่นกัน ความเร็วตกลงไปไม่ถึง 23% แต่พอลองใช้เซิร์ฟเวอร์ออสเตรเลียแล้วความเร็วตกลงไปถึง 70% เลยทีเดียว โชคยังดีที่ CyberGhost นั้นมีเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่ เราจึงยังพอไปค้นเจอเซิร์ฟเวอร์ออสเตรเลียที่ทำให้ความเร็วตกไปเพียง 27% อยู่บ้าง

แพลนราคาถูกและรับประกันนานเป็นพิเศษ

แพลนของมันนั้นมีราคาไม่แพง และก็มีให้ทดลองใช้ฟรี 24 ชั่วโมง คุณจะสามารถลองใช้ฟีเจอร์ทั้งหมดได้ เนื่องจากการทดลองใช้ VPN อย่างเต็มรูปแบบนั้นต้องใช้เวลา เราจึงเลือกที่จะใช้ CyberGhost โดยมีการรับประกันคืนเงินภายใน 45 วันแทน ทุกแพลนระยะยาวจะมีการรับประกันเท่ากันหมด (ถ้าเป็นแพลนระยะสั้นจะมีการรับประกันแค่ 14 วัน)

คุณสามารถเชื่อใจนโยบายคืนเงินของมันได้ — เราได้ทำการทดสอบมาเองกับมือแล้ว เช่นเดียวกันกับแบบ ExpressVPN ตรงที่มันจะมีบริการลูกค้า 24/7 ซึ่งเราก็พบว่าพวกเขามีความเป็นมิตรและมีความรู้ดี

CyberGhost นั้นดีที่สุดสำหรับ...

  • ความบันเทิง — เซิร์ฟเวอร์พิเศษนั้นทำให้ CyberGhost เป็นตัวเลือกในอุดมคติสำหรับการสตรีมมิ่ง, เล่นเกม และโหลดบิท แถมมันยังมีฟีเจอร์ Smart DNS ที่จะช่วยให้คุณสามารถสตรีมบนอุปกรณ์ได้หลากหลายขึ้นด้วย

CyberGhost นั้นอาจจะไม่เหมาะสำหรับ...

  • ใช้งานในประเทศที่มีการเซ็นเซอร์อย่างเข้มงวด — CyberGhost นั้นไม่สามารถใช้งานในประเทศที่มีการเซ็นเซอร์อย่างเข้มงวดเช่นจีนและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้
ข้อเสนอมีนาคม 2024 : CyberGhost กำลังนำเสนอส่วนลด83% จากแผนยอดนิยม! ใช้ประโยชน์จากส่วนลดนี้และประหยัดเงินค่าสมัครบริการเพิ่มขึ้นกับ CyberGhost

3. Private Internet Access — สามารถปรับแต่งได้อย่างยืดหยุ่น ทำให้คุณสามารถจัดสมดุลระหว่างความเร็วและความปลอดภัยได้

ฟีเจอร์ที่ดีที่สุด ฟีเจอร์ปรับแต่งมากมายในราคาคุ้มค่า
เครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ 29,650 เซิร์ฟเวอร์ใน 91 ประเทศ
เชื่อมต่อได้พร้อมกันกี่อุปกรณ์ ไม่จำกัด
ใช้งานได้กับ Netflix, Disney+, Amazon Prime Video, BBC iPlayer, (HBO) Max, Hulu, Vudu และอื่น ๆ
UI มีภาษาไทย ใช่

Private Internet Access (หรือ PIA) นั้นมีความปลอดภัยดีเยี่ยมในราคาที่ถูกมาก ๆ นี่จึงทำให้มันเป็น VPN ที่คนต่างก็นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ยิ่งไปกว่านี้คุณยังสามารถทำการเชื่อมต่อได้ไม่จำกัดจำนวนอุปกรณ์อีกด้วย ทำให้นี่เป็น VPN ที่มีความคุ้มค่ามาก ๆ

ฟีเจอร์ความปลอดภัยที่ปรับแต่งได้อย่างเต็มรูปแบบ

คุณสามารถควบคุมการเชื่อมต่อของคุณได้อย่างเต็มรูปแบบ เพื่อที่จะปรับแต่งได้ตามที่คุณต้องการ คุณจะสามารถเลือกได้ระหว่างโปรโตคอลยอดนิยมทั้งสอง: OpenVPN และ WireGuard หากคุณต้องการสตรีมมิ่งดูเนื้อหาแบบเร็ว ๆ เราแนะนำให้เปลี่ยนไป WireGuard เนื่องจากมันมีความเร็วดีกว่า OpenVPN ในการทดสอบของเราถึง 9%

แต่ถ้าเวลาเข้าบัญชีธนาคารแล้วเราต้องการความปลอดภัยเป็นสำคัญ เราก็แนะนำให้หันมาใช้ OpenVPN ที่มีความปลอดภัยสูง นอกจากนี้เรายังรู้สึกชอบมากที่สามารถเลือกระดับการเข้ารหัสได้ — ระหว่าง 128-bit และ 256-bit เพื่อที่จะเก็บข้อมูลลับของเราให้ปลอดภัยที่สุด เรามักจะเพิ่มระดับการเข้ารหัสของเราเป็น 256-bit อยู่เสมอ

PIA's Windows app displaying different protocol and encryption settingsคุณยังจะได้รับตัวเลือกการปรับแต่งมากมาย (รวมถึง MACE) โดยสามารถคลิกได้ที่แท็บทางด้านซ้าย

ฟีเจอร์ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวอื่น ๆ:

  • ความปลอดภัยหลายชั้น — PIA นั้นมีตัวบล็อกโฆษณาและมัลแวร์ติดมาในตัวชื่อว่า MACE คุณยังสามารถเปิดใช้งาน "การสื่อสารแบบหลายฮอป" เพื่อเปลี่ยนเส้นทางการเชื่อมต่อผ่านไปยัง SOCKS5 หรือ Shadowsocks obfuscation พร็อกซี่พร้อมกับเซิร์ฟเวอร์ VPN ได้ด้วย แต่ฟีเจอร์ obfuscation ของมันยังไม่สามารถทำให้มันใช้งานในจีนได้เหมือนกับของ VPN รายอื่น ๆ
  • เซิร์ฟเวอร์ NextGen — เพื่อเป็นการกำจัดความเสี่ยงของการแทรกแซงจากบุคคลที่สาม PIA นั้นจะมีตัวเลือกเซิร์ฟเวอร์ที่พวกเขาเป็นเจ้าของเอง (อยู่ในตำแหน่งร่วมกัน) ใช้งานได้ 3 พื้นที่: อเมริกาเหนือ, ยุโรป และออสเตรเลีย
  • มีฟีเจอร์พื้นฐาน — นอกจากจะมีการเข้ารหัสระดับทหารแล้วนั้น คุณยังจะได้รับการป้องกันการรั่วไหลและ kill switch ที่สามารถปรับแต่งได้ซึ่งจะช่วยปกป้องคุณจากการรั่วไหลถึงแม้ว่า VPN จะถูกตัดการเชื่อมต่อไป  เราก็ไม่พบการรั่วไหลใด ๆ เลยระหว่างการทดสอบ
  • ส่วนขยายเบราว์เซอร์พร็อกซี่ — คุณสามารถใช้งานส่วนขยายพร็อกซี่ได้ฟรีบน Chrome Firefox และ Opera มันจะไม่ได้เข้ารหัสทราฟฟิคของคุณเหมือนอย่างกับ VPN แต่มันสามารถเปลี่ยนตำแหน่งเสมือนของคุณได้
  • นโยบายการไม่บันทึกข้อมูลที่พิสูจน์ในชั้นศาลแล้ว นโยบายการไม่บันทึกข้อมูลของมันได้รับการพิสูจน์ในชั้นศาลมาแล้วหลายครั้ง ถึงแม้จะมีการเรียกร้องขอข้อมูลผู้ใช้งาน แต่ PIA ก็ไม่มีข้อมูลใด ๆ จะมอบให้ได้ นี่เป็นเรื่องที่ช่วยให้อุ่นใจ เนื่องจากมันตั้งอยู่ที่สหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นหัวใจของ พันธมิตร 14 Eyes เลย

เซิร์ฟเวอร์มากมายและมีความเร็วสูง

ด้วยเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่ถึง 29,650 เซิร์ฟเวอร์ จึงไม่น่าประหลาดใจเลยที่ PIA จะมีความเร็วที่น่าประทับใจมาก ๆ การเชื่อมต่อที่อยู่ใกล้นั้นจะสูญเสียความเร็วไปไม่ถึง 5% ในขณะที่เซิร์ฟเวอร์ระยะไกลจะสูญเสียความเร็วเฉลี่ยอยู่ที่ 32%

PIA รองรับการแชร์ไฟล์ P2P บนทุกเซิร์ฟเวอร์ และมันจะไม่เหมือนกับ ExpressVPN และ CyberGhost ตรงที่มันมี port forwarding ดังนั้นคุณจะสามารถเชื่อมต่อเข้าหา seeder ได้โดยตรงเพื่อเพิ่มความเร็วในการดาวน์โหลด

มันมีเซิร์ฟเวอร์พิเศษสำหรับใช้สตรีมมิ่งตั้งอยู่ใน 8 ประเทศ เซิร์ฟเวอร์เหล่านี้มีความเสถียรมากกว่าเซิร์ฟเวอร์ปกติ — บางครั้งตอนที่เราใช้การเชื่อมต่อปกติของมัน เราก็พบปัญหาเรื่องความเร็วและความเสถียรอยู่เหมือนกัน สำหรับ Netflix สหรัฐอเมริกา และ Hulu เพื่อนร่วมงานที่อเมริกาของเราเลือกใช้การเชื่อมต่อสำหรับสตรีมมิ่งในสหรัฐอเมริกาตะวันออก เนื่องจากมันใกล้ตำแหน่งในสหรัฐอเมริกาของเขามากที่สุด นอกจากนี้ก็ยังมีเซิร์ฟเวอร์สตรีมมิ่งสหรัฐอเมริกาตะวันตกด้วย

อีกฟีเจอร์หนึ่งที่ไม่เหมือนใครก็คือ PIA นั้นมีอย่างน้อย 1 เซิร์ฟเวอร์ในทั้งหมด 50 รัฐของสหรัฐอเมริกา นี่จะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าคุณจะมีเซิร์ฟเวอร์อยู่ใกล้คุณไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนในสหรัฐก็ตาม ในกรณีส่วนใหญ่ เซิร์ฟเวอร์ที่ใกล้ที่สุดนั้นทำให้การเชื่อมต่อมีความเร็วดีที่สุด นอกจากนี้ ยิ่งมีการเชื่อมต่อให้เลือกได้มากก็ยิ่งเป็นการลดโอกาสที่ผู้ใช้งานจะแย่งกันใช้จนความเร็วตกลงไปด้วย

ฝ่ายให้บริการลูกค้าและทรัพยากรที่มีคุณภาพดี

แอปของ PIA นั้นติดตั้งง่ายและก็มีฟีเจอร์ Smart DNS ให้ใช้งานด้วย เราชอบเป็นพิเศษที่ มันมีเนทีฟ GUI แอปสำหรับ Linux หากคุณต้องการความช่วยเหลือ คุณก็สามารถติดต่อฝ่ายให้บริการลูกค้าได้ทางไลฟ์แชท นอกจากนั้นมันก็ยังมีฐานข้อมูลขนาดใหญ่ มีทั้งคำถามที่พบบ่อย, ขั้นตอนต่าง ๆ รวมถึงคู่มือติดตั้ง

แพลนของมันมีราคาเริ่มต้นเพียง $2.19/เดือน นี่จึงเป็นตัวเลือกที่มีราคาถูกที่สุดในรายการเลย แพลนทั้งหมดมาพร้อมกับการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน ดังนั้นคุณสามารถทดลองใช้ PIA ได้อย่างไม่มีความเสี่ยง PIA นั้นมีไลฟ์แชท 24/7 เพื่อช่วยให้การคืนเงินเร็วขึ้นด้วย

PIA นั้นดีที่สุดสำหรับ...

  • ความยืดหยุ่น — PIA สามารถปรับแต่งการตั้งค่าความปลอดภัยได้ ทำให้คุณเลือกความปลอดภัยที่คุณต้องการสำหรับแต่ละกิจกรรมออนไลน์ได้ — ไม่ว่าคุณจะโหลดบิท, ทำธุรกรรมธนาคาร หรือแค่ท่องเว็บก็ตาม

PIA นั้นอาจจะไม่เหมาะสำหรับ...

  • มือใหม่ด้าน VPN — ตัวเลือกการปรับแต่งที่มากมายอาจจะดูเยอะเกินไปสำหรับผู้ใช้งานที่ยังใหม่ด้าน VPN แต่ถ้าคุณเป็นผู้ชื่นชอบเทคโนโลยีอย่างเรา นี่ก็เป็นตัวเลือกที่เยี่ยมมาก ๆ
อัพเดท มีนาคม 2024 : ส่วนลด PIA ไม่ได้มาบ่อย ๆ (ราคาถูกอยู่แล้ว) แต่ตอนนี้คุณสามารถรับบริการพร้อมส่วนลด82% !

4. NordVPN — Threat Protection (การป้องกันภัย) จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยจากโฆษณา, ตัวติดตาม และมัลแวร์

ฟีเจอร์ที่ดีที่สุด Threat Protection (การป้องกันภัย) จะใช้การตั้งค่าความปลอดภัยที่ปรับแต่งได้เพื่อปกป้องคุณจากมัลแวร์, โฆษณา และตัวติดตาม
เครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ 6,139 เซิร์ฟเวอร์ใน 67 ประเทศ (รวมถึงในประเทศไทย)
เชื่อมต่อได้พร้อมกันกี่อุปกรณ์ 6
ใช้งานได้กับ Netflix, Disney+, Amazon Prime Video, BBC iPlayer, (HBO) Max, Hulu, Vudu และอื่น ๆ
บริการสนับสนุนภาษาไทย ไลฟ์แชทผ่านโปรแกรมแปลอัตโนมัติ

NordVPN นั้นติดอันดับรายการ VPN ที่ดีที่สุดของเราเพราะฟีเจอร์ที่ไม่เหมือนใครของมัน อย่าง Threat Protection (การป้องกันภัย) และ NordLynx — ซึ่งเป็นโปรโตคอลที่พัฒนาขึ้นเองซึ่งเน้นความเร็วและความปลอดภัย

ฟีเจอร์ใช้งานง่าย

ฟีเจอร์ Threat Protection (การป้องกันภัย) จะช่วยบล็อกเว็บไซต์อันตราย, โฆษณา, และการพยายามฟิชชิง ถึงแม้ว่า VPN จะไม่ได้เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ก็ตาม มันยังสามารถสแกนและนำไฟล์อันตรายออกจากอุปกรณ์ของคุณได้ด้วย ทุกครั้งที่เราได้ทำการทดสอบ สำหรับเว็บไซต์ที่เต็มไปด้วยโฆษณาอย่าง allrecipes.com ทางฟีเจอร์นี้ก็สามารถกำจัดโฆษณาได้ทั้งหมด พร้อมมีรายการให้เราดูว่าบล็อกอะไรบ้าง

NordVPN นั้นยังมี Dark Web Monitor ซึ่งจะแจ้งเตือนคุณในกรณีที่อีเมลซึ่งลิงก์อยู่กับ VPN นั้นเกิดการรั่วไหลออกไปบน dark web ฟีเจอร์ Meshnet นั้นจะช่วยทำการเชื่อมต่อแบบเข้ารหัสไปยังอุปกรณ์ได้หลายเครื่อง ยกตัวอย่างเช่น คุณจะสามารถเข้าถึงแฟ้มงานบนคอมพิวเตอร์ที่บ้านจากแล็ปท็อปของคุณในขณะเดินทางได้

ฟีเจอร์ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวอื่น ๆ:

  • เซิร์ฟเวอร์พิเศษสำหรับความปลอดภัย การสื่อสารแบบหลายฮอปและเซิร์ฟเวอร์แบบ obfuscation จะทำให้บุคคลที่สามนั้นแทรกแซงข้อมูลของคุณได้ยาก นี่จะช่วยให้คุณสามารถเอาชนะไฟร์วอลล์บางประเภทได้ด้วย มีเซิร์ฟเวอร์ Onion Over VPN เพื่อให้คุณสามารถเชื่อมต่อไปยัง Tor อย่างปลอดภัยโดยไม่ต้องดาวน์โหลดเบราว์เซอร์ Tor ได้ด้วย
  • การปกป้องความเป็นส่วนตัวที่เชื่อถือได้ นโยบายการไม่บันทึกข้อมูลของ NordVPN นั้นผ่านการตรวจสอบมาแล้ว 3 ครั้ง — ครั้งล่าสุด (โดย Deloitte เมื่อปี 2022) สรุปว่า NordVPN นั้นทำตามนโยบาย 100% นอกจากนี้มันยังใช้เซิร์ฟเวอร์แบบ RAM รวมถึงตั้งอยู่ที่ปานามา ซึ่งเป็นประเทศที่ไม่มีกฎหมายเกี่ยวกับการเก็บข้อมูล
  • สิ่งสำคัญด้านความปลอดภัยและอื่น ๆ NordVPN นั้นมี kill switch ที่มี 2 การตั้งค่า (สำหรับอินเทอร์เน็ตและแอป หรือทั้งสองอย่าง), การเข้ารหัส 256-bit และการป้องกันการรั่วไหล DNS/IP และมันก็ยังมีเซิร์ฟเวอร์ DNS เป็นของตนเอง เพื่อช่วยดูแลไม่ให้ใครมาติดตามกิจกรรมออนไลน์ของคุณได้อีกด้วย
  • ตัวเลือกโปรโตคอลสามตัวเลือก นอกจากที่จะมี NordLynx ซึ่งพัฒนาขึ้นเองแล้ว คุณยังสามารถเลือกใช้ OpenVPN และ IKEv2/IPsec ได้ด้วย

VPN นี้ดีมากสำหรับสตรีมมิ่งและโหลดบิท

NordVPN มีฟีเจอร์ที่ติดมาในตัวชื่อว่า SmartPlay ซึ่งทำให้มันสามารถสตรีมมิ่งได้เสถียรมาก ๆ มันสามารถใช้งานได้กับทุกเว็บไซต์ที่เราและทีมงานที่อยู่ทั่วโลกได้ทำการทดสอบจากในแต่ละประเทศของพวกเราซึ่งประกอบไปด้วย Netflix (ใน 5 ประเทศ), BBC iPlayer, Max (HBO Max) และ Hulu

นอกจากนี้ถ้าคุณจ่ายค่าธรรมเนียมรายเดือนเพิ่มเล็กน้อย คุณจะได้รับ IP เฉพาะโดยสามารถเลือกได้จากเซิร์ฟเวอร์ 15 แห่ง ซึ่งรวมถึงสหราชอาณาจักร, สหรัฐอเมริกา, ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย เนื่องจากที่อยู่นี้จะมีคุณใช้ได้แค่คนเดียว จึงมีโอกาสน้อยมากที่คุณจะได้การเชื่อมต่อที่ช้าหรือไม่เสถียรที่ปกติมักจะพบเจอได้จาก IP ที่แชร์กันใช้

นอกจากนั้นยังมีเซิร์ฟเวอร์พิเศษที่รองรับ P2P ตั้งอยู่ในอีกหลายประเทศ และถ้าคุณเชื่อมต่อไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่ไม่รองรับการโหลดบิท คุณก็จะถูกเปลี่ยนเส้นทางไปเซิร์ฟเวอร์ที่เชื่อมต่อโดยอัตโนมัติ (ในแคนาดาหรือเนเธอร์แลนด์)

โปรโตคอล NordLynx ที่เน้นพิเศษด้านความเร็วของมันจะทำให้คุณสามารถสตรีมและดาวน์โหลดได้อย่างลื่นไหล เซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ใกล้เคียงนั้นจะเร็วที่สุด — ผู้ทดสอบความเร็วที่สหราชอาณาจักรของพวกเรารายงานว่าความเร็วตกลงไปเพียงแค่ 6% โดยเฉลี่ยระหว่าง 3 เซิร์ฟเวอร์ที่ได้ทดสอบ และด้วยการใช้ 3 เซิร์ฟเวอร์ระยะไกล ความเร็วเฉลี่ยที่ตกไปนั้นก็อยู่ประมาณ 19% ซึ่งก็ยังถือว่าน่าประทับใจมาก

ใช้งานง่าย ฝ่ายดูแลลูกค้าตอบสนองไว

เราและทีมงานได้ทำการทดสอบแอปแต่ละตัว (เดสก์ท็อป, อุปกรณ์เคลื่อนที่, อุปกรณ์สตรีมมิ่ง และอื่น ๆ) — แต่ละตัวก็ใช้เวลาติดตั้งแค่ไม่กี่นาที นอกจากนี้ NordVPN ก็มีฟีเจอร์ Smart DNS ด้วย

การสมัครสมาชิกทั้งหมดมาพร้อมกับการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน ซึ่งเราได้พิสูจน์มาแล้วว่าเชื่อถือได้ตอนที่เราทำการทดสอบ เราแนะนำให้ติดต่อไปทางไลฟ์แชท 24/7 หากมีคำถามใด ๆ หรือต้องการขอคืนเงิน พวกเขาตอบไวมาก

NordVPN นั้นดีที่สุดสำหรับ...

  • สตรีมมิ่งและโหลดบิท — ด้วยตัวบล็อกโฆษณา/มัลแวร์ที่มีประสิทธิภาพ, ความเร็วสูง, SmartPlay และเซิร์ฟเวอร์พิเศษที่รองรับ P2P มันจึงมีความครบครันสำหรับใช้ทำกิจกรรมเหล่านี้ คุณสามารถเพิ่มความเร็วในการดาวน์โหลดได้ด้วยการใช้ split tunneling หรือการเชื่อมต่อพร็อกซี่ SOCKS5 ของมัน

NordVPN นั้นอาจจะไม่เหมาะสำหรับ...

  • การเชื่อมต่ออย่างรวดเร็ว — อินเทอร์เฟซแผนที่โลกของมันนั้นมีขนาดใหญ่และเทอะทะ แต่บางคนอาจจะรู้สึกชอบมันมากกว่าแบบรายการเซิร์ฟเวอร์ก็ได้ มันยังใช้เวลานานถึง 40 วินาทีกว่าจะเชื่อมต่อไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ระยะไกลได้

5. Surfshark — ฟีเจอร์ความปลอดภัยที่ไม่เหมือนใครสำหรับใช้ปกป้องข้อมูลของคุณ

ฟีเจอร์ที่ดีที่สุด ฟีเจอร์ความปลอดภัยขั้นสูงที่ไม่เหมือนใครมากมายให้คุณเลือกใช้
เครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ 3,200 เซิร์ฟเวอร์ใน 100 ประเทศ (ซึ่งรวมถึงประเทศไทย)
เชื่อมต่อได้พร้อมกันกี่อุปกรณ์ ไม่จำกัด
ใช้งานได้กับ Netflix, Disney+, Amazon Prime Video, BBC iPlayer, (HBO) Max, Hulu, Vudu และอื่น ๆ

Surfshark นั้นมีฟีเจอร์ความปลอดภัยขั้นสูงมากที่สุดในอุตสาหกรรมและก็มีการเชื่อมต่อไม่จำกัดจำนวนอุปกรณ์เหมือน PIA แต่จะมีราคาไม่ถูกเท่า

มันมีฟีเจอร์ IP หมุนเวียนไว้เปลี่ยนที่อยู่ IP ของคุณในทุก ๆ 5-10 นาที นอกจากนี้ยังเหมือนมีโบนัสพิเศษเป็น CleanWeb ซึ่งจะช่วยป้องกันโฆษณา, ตัวติดตาม, การฟิชชิง — และป๊อปอัพน่ารำคาญที่ขออนุญาตคุกกี้ด้วย

Surfshark มีฟีเจอร์ NoBorders ซึ่งช่วยให้เราสามารถท่องอินเทอร์เน็ตได้อย่างอิสระ ด้วยการตรวจจับข้อจำกัดของเครือข่ายและมันก็จะเลือกรายการเซิร์ฟเวอร์ที่ดีที่สุดสำหรับแก้ปัญหาข้อจำกัดเหล่านั้นให้ ยิ่งไปกว่านั้น Camouflage Mode ยังสามารถช่วยทำ obfuscation ให้ทราฟฟิคของคุณได้ด้วย แต่ถึงงั้น Surfshark ก็ยังไม่สามารถใช้งานในจีนได้

Surfshark's Windows app displaying security settings, like NoBorders and Rotating IPการเปิด NoBorders จะช่วยย่อรายการเซิร์ฟเวอร์ของคุณเพื่อให้คุณเลือกเฉพาะเซิร์ฟเวอร์ที่จะเอาชนะไฟร์วอลล์เครือข่ายหรือการบล็อก VPN ได้

ฟีเจอร์ความปลอดภัยอื่น ๆ

  • IP เฉพาะ Surfshark นั้นมีที่อยู่ IP เฉพาะสำหรับสหราชอาณาจักร, สหรัฐอเมริกา, เยอรมนี และเนเธอร์แลนด์ นี่เป็นสิ่งที่ดีมาก ๆ ถ้าคุณอาศัยอยู่ในประเทศเหล่านั้น และคุณก็จะสามารถใช้มันเพื่อสตรีมมิ่งดูเนื้อหาในประเทศได้อย่างมีความเสถียร
  • รายการอนุญาต คุณสามารถให้อนุญาตอีเมลและที่อยู่ IP, เว็บไซต์และแอปพลิเคชันสื่อสารกับอุปกรณ์ของคุณในขณะที่บล็อกสิ่งที่ไม่อยู่ในรายการทั้งหมดได้
  • การเข้ารหัสระดับทหาร Surfshark นั้นเปิดให้คุณเลือกได้ระหว่าง WireGuard, OpenVPN และ IKEv2 นอกจากนี้มันยังใช้การเข้ารหัส 256-bit คู่กับ perfect forward secrecy, kill switch และการป้องกันการรั่วไหลของ IP/DNS หลังจากที่ทดสอบหาการรั่วไหลจาก 8 เซิร์ฟเวอร์แล้ว เราก็ไม่ตรวจพบการรั่วไหลใด ๆ
  • การแทนที่ GPS (เฉพาะ Android) นี่จะเป็นการเปลี่ยนตำแหน่ง GPS โทรศัพท์ของคุณให้ตรงกับตำแหน่งของเซิร์ฟเวอร์ที่คุณกำลังเชื่อมต่อไป ด้วยวิธีนี้คุณจะสามารถป้องกันไม่ให้แอปมาติดตามตำแหน่งของคุณได้

สตรีมมิ่งได้เร็วและมีความเสถียร

Surfshark นั้นสามารถทำงานกับแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งได้ทุกแพลตฟอร์มอย่างมีความเสถียร นอกจากนี้มันยังสามารถใช้โหลดบิทได้ดีและมีฟีเจอร์ความปลอดภัยที่แน่นหนาอีกด้วย ทั้งยังมีฟีเจอร์ Bypasser (split tunneling) ไว้ช่วยเพิ่มความเร็ว และมันก็รองรับการโหลดบิทบนทุกเซิร์ฟเวอร์ด้วย

เราใช้ 'Fastest location (ตำแหน่งที่เร็วที่สุด)' เวลาที่เราต้องการความเร็วสูงที่สุดสำหรับสตรีมมิ่งและเล่นเกม ในการทดสอบของพวกเรา ความเร็วเฉลี่ยนั้นอยู่ที่ 119.19Mbps สำหรับเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ใกล้เคียงซึ่งก็ตกจากความเร็วฐานเพียง 4% เท่านั้น การเชื่อมต่อระยะไกลนั้นก็ถือว่าใช้ได้ — ความเร็วเฉลี่ยไม่เคยตกลงไปมากกว่า 33% โดยเฉลี่ย

ความเป็นส่วนตัวดีเยี่ยมรวมถึงมีนโยบายคืนเงิน

ถึงแม้ว่า Surfshark จะตั้งอยู่ที่เนเธอร์แลนด์ — ซึ่งเป็นสมาชิกของพันธมิตร 14 Eyes แต่ด้วยเซิร์ฟเวอร์แบบ RAM รวมถึงนโยบายการไม่บันทึกข้อมูลของมัน ทำให้มั่นใจได้ว่าจะไม่มีใครสามารถเข้าถึงข้อมูลของคุณ การทำตามนโยบายการไม่บันทึกข้อมูลของ Surfshark นั้นยังผ่านการตรวจสอบโดย Deloitte แล้วเมื่อปี 2022 อีกด้วย

Surfshark เปิดให้คุณทดลองใช้งานได้อย่างไม่มีความเสี่ยงเป็นเวลา 30 days ผ่านการรับประกันคืนเงิน หลังจากที่เรายื่นเรื่องไปแล้ว เราก็ได้รับเงินคืนทางบัตรเครดิตก่อนจะสิ้นสัปดาห์

Surfshark นั้นดีที่สุดสำหรับ...

  • ฟีเจอร์ความปลอดภัยที่ไม่เหมือนใคร — มี VPN ไม่กี่รายที่มีฟีเจอร์อย่างการแทนที่ GPS และการสื่อสารแบบหลายฮอปที่ปรับแต่งได้ เป็นต้น

Surfshark นั้นอาจจะไม่เหมาะสำหรับ...

  • ผู้ใช้งาน macOS  — แอป Mac ของมันนั้นไม่มีโปรโตคอล OpenVPN นี่เป็นสิ่งที่ควรจะต้องคำนึงถึงสำหรับคนที่ต้องการใช้มัน

6. IPVanish — เป็นเจ้าของเครือข่ายทั้งหมดเองเพื่อความเป็นส่วนตัวขั้นสุดยอด

ฟีเจอร์ที่ดีที่สุด IPVanish นั้นไม่ได้เช่าเซิร์ฟเวอร์จากบุคคลที่สาม แต่พวกเขาเป็นเจ้าของเองทั้งหมด
เครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ 2,400 เซิร์ฟเวอร์ใน 90 ประเทศ
เชื่อมต่อได้พร้อมกันกี่อุปกรณ์ ไม่จำกัด
ใช้งานได้กับ Netflix, Disney+, BBC iPlayer, (HBO) Max, Vudu และอื่น ๆ

IPVanish นั้นเป็น VPN ที่ดีมาก มันมีสิ่งสำคัญด้านความปลอดภัยครบครัน แต่สิ่งที่ทำให้มันโดดเด่นก็คือความมุ่งมั่นเรื่องความเป็นส่วนตัว VPN ส่วนใหญ่นั้นจะเช่าเซิร์ฟเวอร์จากบุคคลที่สาม แต่ IPVanish นั้นเป็นเจ้าของเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมดเอง นี่เป็นการลดความเสี่ยงจากบุคคลที่สาม ในอีกแง่มุมหนึ่ง IPVanish นั้นตั้งอยู่ที่สหรัฐอเมริกา — แต่มันก็มีนโยบายการไม่บันทึกข้อมูลที่เข้มงวดซึ่งผ่านการตรวจสอบโดย Leviathan Security Group เพื่อยืนยันแล้วว่ามันไม่ได้บันทึกข้อมูลของคุณ

ใช้งานง่าย ความเร็วในพื้นที่ใกล้เคียงดี

ใช้งานง่ายมีการตั้งค่าปรับแต่งได้เล็กน้อย แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่ทำให้ IPVanish เป็นมิตรต่อผู้ใช้งาน แต่ละเซิร์ฟเวอร์นั้นจะแสดงค่าปิงและโหลดเอาไว้ด้วย นี่จะมีให้บริการบนแอปเนทีฟ Amazon Fire ดังนั้นคุณจะสามารถค้นหาการเชื่อมต่อที่ดีที่สุดในประเทศได้อย่างรวดเร็วเพื่อสามารถสตรีมมิ่งได้อย่างไม่มีแลค เราชอบฟีเจอร์นี้มาก มันช่วยให้เราค้นหาเซิร์ฟเวอร์ที่มีค่าเวลาแฝงต่ำสำหรับใช้เล่นเกมบน PC ได้

IPVanish Windows app displaying each server's ping and load percentเซิร์ฟเวอร์ที่มีค่าปิงและโหลดผู้ใช้งานต่ำกว่านั้นจะสามารถรักษาความเร็วได้ดีที่สุด

ผลการทดสอบความเร็วของทีมเรานั้นดูจะมีผสม ๆ กันไป เซิร์ฟเวอร์ระยะไกลนั้นสามารถทำให้ความเร็วตกลงไปได้ระหว่าง 12% ถึง 72% ในขณะที่เซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ใกล้เคียงจะมีความเร็วตกลงไปเฉลี่ยที่ 4%

ฟีเจอร์ความปลอดภัยอื่น ๆ:

  • ความปลอดภัยพื้นฐาน IPVanish นั้นมี kill switch ที่ใช้งานได้อย่างเสถียร, การป้องกันการรั่วไหลของ DNS/IP และ split tunneling — แต่อย่างหลังนี่จะมีเฉพาะในแอป Android เท่านั้น และมันก็ไม่มีฟีเจอร์ขั้นสูงอย่างการป้องกันมัลแวร์, ตัวบล็อกโฆษณา และฟีเจอร์การสื่อสารแบบหลายฮอปด้วย
  • Scramble หากคุณใช้งานในเครือข่ายที่มีการบล็อก VPN คุณก็สามารถใช้ฟีเจอร์นี้เพื่อทำการ obfuscation ให้กับทราฟฟิคของคุณเพื่อปิดบังการใช้ VPN ของคุณได้
  • โปรโตคอลสี่แบบ WireGuard, IKEv2, OpenVPN และ IPSec นั้นสามารถใช้งานได้กับ IPVanish

ฝ่ายให้บริการลูกค้า 24/7 และการรับประกันที่เชื่อถือได้

เนื่องจาก IPVanish นั้นใช้งานค่อนข้างง่าย คุณจึงน่าจะไม่เจอกับปัญหาอะไรอยู่แล้ว แต่ในกรณีที่เจอปัญหา คุณก็สามารถติดต่อฝ่ายให้บริการลูกค้าผ่านทางไลฟ์แชท 24/7, อีเมล หรือทางโทรศัพท์ได้เป็นภาษาอังกฤษ

มันมีการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน ดังนั้นคุณจึงสามารถสมัครใช้งาน IPVanish ได้อย่างไม่ต้องกังวล กระบวนการขอคืนเงินนั้นก็ง่ายมาก คุณไม่ต้องติดต่อตัวแทนเลย คุณสามารถยื่นเรื่องได้โดยตรงผ่านพอร์ทัลบัญชีของคุณบนเว็บไซต์

IPVanish นั้นดีที่สุดสำหรับ...

  • โหลดบิท — เซิร์ฟเวอร์ที่ IPVanish เป็นเจ้าของเองทั้งหมดนั้นรองรับการโหลดบิท มันมีการเชื่อมต่อพร็อกซี่ SOCKS5 สำหรับเพิ่มความเร็วในการดาวน์โหลด

IPVanish นั้นอาจจะไม่เหมาะสำหรับ...

7. PrivateVPN — VPN คุณภาพดีที่มีเครือข่ายขนาดเล็กแต่ใช้งานได้เสถียร

ฟีเจอร์ที่ดีที่สุด ใช้งานได้เสถียรสำหรับการสตรีมมิ่งและความปลอดภัย
เครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ 200 เซิร์ฟเวอร์ใน 63 ประเทศ (รวมถึงประเทศไทย)
เชื่อมต่อได้พร้อมกันกี่อุปกรณ์ 10
ใช้งานได้กับ Netflix, Disney+, Amazon Prime Video, BBC iPlayer, (HBO) Max, Hulu, Vudu และอื่น ๆ
บริการสนับสนุนภาษาไทย ไลฟ์แชทและอีเมลผ่านโปรแกรมแปลอัตโนมัติ

PrivateVPN นั้นมีเครือข่ายที่ค่อนข้างเล็ก — แต่พวกเขาก็ได้ดูแลเป็นอย่างดีเพื่อช่วยให้มั่นใจว่าคุณจะสามารถใช้งานได้อย่างเสถียรสำหรับการสตรีมมิ่งดูเนื้อหาในประเทศหรือทำกิจกรรมออนไลน์อื่น ๆ

ทีมงานนานาชาติของพวกเราได้ทำการทดสอบเซิร์ฟเวอร์ จากในแต่ละพื้นที่ของพวกเขา ในสหรัฐอเมริกา, สหราชอาณาจักร, อิตาลี, และออสเตรเลียเพื่อดูว่า PrivateVPN นั้นสามารถเชื่อมต่อได้อย่างรวดเร็วสำหรับแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งยอดนิยมที่มีในแต่ละพื้นที่ของพวกเขาหรือไม่ พวกเขาสามารถใช้งานสตรีมมิ่งดูผ่านเว็บไซต์ในพื้นที่ของพวกเขาได้อย่างลื่นไหลไม่มีแลค ไม่ว่าจะเป็น Netflix, Sling TV, BBC iPlayer หรืออื่น ๆ

Streaming Netflix in HD from the US while connected to PrivateVPN's Miami serverเพื่อนร่วมงานที่สหรัฐอเมริกาของเราได้ใช้เซิร์ฟเวอร์ไมอามี่เพื่อให้ได้ความเร็วสูงที่สุดเนื่องจากเซิร์ฟเวอร์นี้อยู่ใกล้เขาที่สุดในสหรัฐอเมริกา

ในการทดสอบความเร็วของพวกเรา PrivateVPN นั้นแสดงให้เห็นว่าเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ใกล้เคียงนั้นมีความเร็วดี แต่ถ้าอยู่ไกลความเร็วก็จะตกลงไปพอประมาณ (48% โดยเฉลี่ย) ไม่ว่าพวกเราจะใช้เซิร์ฟเวอร์ไหน มันก็ยังมีความเร็วมากพอสำหรับการท่องเว็บและการสตรีมมิ่งในความชัดระดับ HD อยู่

VPN ที่ไม่บันทึกข้อมูลซึ่งใช้งานในจีนได้

PrivateVPN นั้นตั้งอยู่ที่สวีเดน — ถึงแม้ว่าสำนักงานใหญ่ของมันจะอยู่ในพื้นที่ของ 14 Eyes แต่มันก็ทำตามนโยบายการไม่บันทึกข้อมูลอันเข้มงวด

เพื่อที่จะเป็นการปกป้องความเป็นส่วนตัวของคุณ มันยังมี Stealth mode ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อให้เอาชนะการบล็อก VPN และไฟร์วอลล์ DPI ได้ด้วย พวกเรารู้ว่า Stealth mode นั้นใช้งานได้ผลจริงเนื่องจากนักวิจัยที่ประเทศจีนของพวกเราได้ทำการยืนยันแล้ว

ฟีเจอร์ความปลอดภัยอื่น ๆ

  • Advanced View (มุมมองขั้นสูง) PrivateVPN นั้นมี kill switch และ IPv6 และการป้องกันการรั่วไหล DNS ซึ่งสามารถเปิดใช้งานได้ใน ‘Advanced View (มุมมองขั้นสูง)’
  • โปรโตคอลห้าแบบ มันใช้การเข้ารหัส 256-bit AES และมีตัวเลือกโปรโตคอลระหว่าง AnyConnect, IKEv2, IPSec, OpenVPN และ WireGuard
  • Port forwarding และ SOCKS5 การตั้งค่าทั้งสองนี้จะมีประโยชน์เป็นพิเศษสำหรับการเพิ่มความเร็วในการโหลดบิท

แอปที่เรียบง่ายและการรับประกันคืนเงิน

มันมีแอปที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้งานมากสำหรับอุปกรณ์และระบบปฏิบัติการส่วนใหญ่ ถึงแม้ว่ามันจะไม่มีส่วนขยายเบราว์เซอร์ แต่การใช้งานออนไลน์ของคุณก็ยังคงได้รับการคุ้มกันโดย VPN อยู่ดี นอกจากนี้ก็ยังไม่มีฟีเจอร์ Smart DNS แต่คุณสามารถตั้งค่า PrivateVPN บนเราเตอร์เพื่อใช้งานมันกับอุปกรณ์อย่างสมาร์ททีวี, เครื่องเล่นเกม และอุปกรณ์สตรีมมิ่งอื่น ๆ ได้

การรับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน นั้นเป็นเวลาที่มากพอสำหรับคุณในการตัดสินใจว่านี่เป็นตัวเลือกที่ใช่หรือไม่ PrivateVPN นั้นมีไลฟ์แชท 24/7 เพื่อช่วยตอบคำถามของคุณอย่างรวดเร็วอีกด้วย

PrivateVPN นั้นดีที่สุดสำหรับ...

  • มือใหม่ด้าน VPN — มันมี ‘Simple View (มุมมองอย่างง่าย)’ ซึ่งจะซ่อนฟีเจอร์ความปลอดภัยที่ซับซ้อนทั้งหมดของ PrivateVPN และจะเปิดให้คุณเชื่อมต่อได้ภายใน 1 คลิก

PrivateVPN นั้นอาจจะไม่เหมาะสำหรับ...

  • การเข้าถึงเครือข่ายขนาดใหญ่ — ถึงแม้ว่าการเชื่อมต่อนั้นจะมีความเสถียรและมีความเร็วดี แต่ด้วยเครือข่ายขนาดเล็ก ทำให้มันไม่ครอบคลุมในทุกพื้นที่

8. Proton VPN — VPN ที่ไม่เรื่องเยอะ เป็นมิตรต่อผู้ใช้งาน และมีความปลอดภัย

ฟีเจอร์ที่ดีที่สุด ใช้งานง่าย
เครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ 3,851 เซิร์ฟเวอร์ใน 85 ประเทศ (รวมถึงประเทศไทย)
เชื่อมต่อได้พร้อมกันกี่อุปกรณ์ 10
ใช้งานได้กับ Netflix, Disney+, Amazon Prime Video, BBC iPlayer, (HBO) Max, Hulu, Vudu และอื่น ๆ

Proton VPN นั้นเป็น VPN ที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้งานมือใหม่ซึ่งสามารถใช้งานได้กับแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งส่วนใหญ่ ความเร็วของมันนั้นน่าประทับใจมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้กับฟีเจอร์ VPN Accelerator ผู้ทดสอบของพวกเราแจ้งว่าความเร็วที่ตกลงไปมากที่สุดมาจากเซิร์ฟเวอร์ในโตเกียวที่ 43%

เซิร์ฟเวอร์ Secure Core พิเศษและสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่สวิตเซอร์แลนด์

มันตั้งอยู่ที่สวิตเซอร์แลนด์ซึ่งเป็นมิตรต่อความเป็นส่วนตัวและก็มีนโยบายการไม่บันทึกข้อมูล นอกจากนี้ มันยังมีเซิร์ฟเวอร์ Secure Core ที่ไม่เหมือนใคร ตั้งอยู่ในประเทศที่กฎหมายเป็นมิตรต่อความเป็นส่วนตัว (ไอซ์แลนด์, สวิตเซอร์แลนด์ และสวีเดน) คุณสามารถเปลี่ยนเส้นทางทราฟฟิคไปยังเซิร์ฟเวอร์ Secure Core ก่อนที่จะส่งไปเซิร์ฟเวอร์ VPN แห่งอื่นได้

ProtonVPN's Windows app displaying Secure Core locations from Swedenข้อเสียของการส่งทราฟฟิคไปยัง 2 เซิร์ฟเวอร์ก่อนก็คือมันจะทำให้การเชื่อมต่อของคุณช้าลงอย่างเห็นได้ชัด

ฟีเจอร์ความปลอดภัยอื่น ๆ

  • โปรโตคอลที่มีชื่อเสียง Proton VPN นั้นรองรับ OpenVPN, IKEv2, WireGuard, และ Stealth แต่ไม่ใช่ทุกแอปที่จะมีให้เลือกครบทั้งหมดนี้
  • Perfect Forward Secrecy การใช้สิ่งนี้คู่กับการเข้ารหัสระดับทหารจะช่วยปกป้องคุณจากอาชญากรไซเบอร์ไม่ให้พวกเขาเข้าถึงข้อมูลของคุณได้
  • Netshield — บล็อกโฆษณา, มัลแวร์ และตัวติดตามก่อนที่มันจะเข้ามาถึงเครื่องของคุณ

ฟีเจอร์ที่มีประโยชน์และแพลนระดับฟรีที่ใช้งานได้จำกัด

Proton VPN เปิดให้คุณสามารถปรับแต่งการเชื่อมต่อของคุณได้ ยกตัวอย่างเช่น คุณสามารถเลือกใช้งานเซิร์ฟเวอร์ที่รองรับ P2P ได้, เลือกโปรโตคอลที่คุณต้องการได้, และก็เขียนรายละเอียดการเชื่อมต่อว่ามีไว้สำหรับ "โหลดบิท" ได้เพื่อเอาไว้ใช้ตอนที่คุณต้องการดาวน์โหลดไฟล์

เซิร์ฟเวอร์เกือบทั้งหมดของ Proton VPN นั้นก็รองรับการโหลดบิทได้ด้วย เซิร์ฟเวอร์ P2P นั้นจะถูกระบุเอาไว้ด้วยสัญลักษณ์ขนาดเล็กข้าง ๆ ชื่อเซิร์ฟเวอร์ แต่น่าเสียดายที่พวกเราอาจจะมองกันไม่ค่อยเห็นเนื่องจาก UI ของมันดูจะใช้พื้นที่แออัดไปหน่อย

คุณสามารถลองใช้ Proton VPN เวอร์ชันฟรีได้ — มันมีข้อมูลให้ใช้ได้ไม่จำกัดและก็ไม่มีโฆษณา แต่แพลนระดับฟรีนั้นจะไม่รองรับการโหลดบิท และก็ไม่เร็วและไม่เสถียรเทียบเท่าสำหรับการสตรีมมิ่ง นอกจากนี้มันก็ยังไม่มีไลฟ์แชท 24/7 เหมือนในแพลนแบบจ่ายเงินด้วย

มันสามารถใช้งานกับเราเตอร์ได้ แต่จะเหมือนกับ PrivateVPN ตรงที่มันไม่มีฟีเจอร์ smart DNS คุณสามารถบันเดิล Proton VPN เข้ากับอีเมล, ปฏิทิน และ/หรือ บริการคลาวด์แบบเข้ารหัสได้โดยมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม คุณสามารถทดลองใช้งานมันได้อย่างไม่มีความเสี่ยงผ่านการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน

Proton VPN นั้นดีที่สุดสำหรับ...

  • การท่องเว็บอย่างลื่นไหลไม่มีโฆษณา — มันมีส่วนขยายเบราว์เซอร์ที่เป็น VPN เต็มรูปแบบ (Firefox และ Chrome) รวมถึงฟีเจอร์ NetShield ของมันซึ่งทำให้ Proton VPN นั้นเหมาะสำหรับการท่องเว็บอย่างปลอดภัยและไม่มีโฆษณา

Proton VPN นั้นอาจจะไม่เหมาะสำหรับ...

  • ผู้ต้องการบริการราคาถูก — Proton VPN นั้นเป็นหนึ่งใน VPN ที่มีราคาแพงที่สุดในรายการนี้ ถึงแม้จะเลือกใช้แพลนระยะยาวแล้วก็ตาม โดยมันมีราคาเริ่มต้นที่ $4.99/เดือน

9. Hotspot Shield — ความปลอดภัยที่แข็งแกร่งและความเร็วดี

ฟีเจอร์ที่ดีที่สุด โปรโตคอล Hydra
เครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ 1,800 เซิร์ฟเวอร์ใน 80 ประเทศ (รวมถึงประเทศไทย)
เชื่อมต่อได้พร้อมกันกี่อุปกรณ์ 5
ใช้งานได้กับ Netflix, Disney+, BBC iPlayer, (HBO) Max, Hulu, Vudu และอื่น ๆ
บริการสนับสนุนภาษาไทย ไลฟ์แชทและอีเมลผ่านโปรแกรมแปลอัตโนมัติ

Hydra โปรโตคอลที่พัฒนาขึ้นเองของ Hotspot Shield นั้นจะช่วยป้องกันเรื่องความเร็วตกอันเป็นสาเหตุมาจากการเข้ารหัสได้อย่างดี

ตอนที่ใช้ Hydra ทางทีมผู้ทดสอบความเร็วก็บอกว่าเซิร์ฟเวอร์ในพื้นที่นั้นมีความเร็วตกไปเพียงแค่ 3% โดยเฉลี่ย แม้แต่ตอนที่ใช้เซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ห่างไกลอย่างในญี่ปุ่น, ออสเตรเลีย และสหรัฐอเมริกาก็ยังสามารถรักษาความเร็วเฉลี่ยเอาไว้ได้ถึง 74 Mbps (ช้ากว่าความเร็วฐานแค่ 35%) เซิร์ฟเวอร์ที่มีความเร็วสูงของมันนั้นเหมาะสำหรับใช้ทำกิจกรรมอย่างการสตรีมมิ่งในความชัดระดับ HD/UHD — ซึ่งต้องใช้ความเร็วเป็นหลัก

Hotspot Shield's speed test results in LA and Londonความเร็วที่ตกไปสำหรับเซิร์ฟเวอร์ในพื้นที่นั้นแทบจะไม่มีนัยสำคัญเลย

เพื่อนร่วมงานของเราที่ได้ทำการทดสอบมันจากสหรัฐอเมริกา รายงานว่า Hotspot Shield นั้นทำงานได้อย่างลื่นไหลและมีความเสถียรดีสำหรับแอปสตรีมมิ่งส่วนใหญ่ที่เขา ชื่นชอบอย่าง Netflix และ Disney+ แต่กับ Amazon Prime Video ยังใช้งานได้ไม่ดีนัก มันไม่มี Smart DNS แต่ถ้าคุณตั้งค่าใช้งานมันกับเราเตอร์ คุณก็จะสามารถใช้มันกับสมาร์ททีวีและเครื่องเล่นเกมได้ เราติดตั้งมันบนเราเตอร์ ASUS เพื่อใช้ดู Disney+ บน Apple TV ได้อย่างรวดเร็ว

สิ่งสำคัญด้านความปลอดภัย

นอกจากจะใช้โปรโตคอลที่เน้นความเร็วสูงได้แล้ว คุณยังสามารถเลือกระหว่าง OpenVPN, SSTP, IPSec และ L2TP ได้ด้วย ทั้งหมดนี้มีการเข้ารหัส 256-bit ทุกตัว มันไม่มีฟีเจอร์ขั้นสูงอะไรมากที่จะสามารถใช้เอาชนะไฟร์วอลล์หรือการเซ็นเซอร์ที่แน่นหนาได้ แต่ คุณสามารถพึ่งพาให้มันปกป้องข้อมูลของคุณได้ระหว่างการใช้งานที่ไม่จริงจังนักอย่างเช่น การท่องเว็บ, สตรีมมิ่ง และโหลดบิท

ฟีเจอร์ความปลอดภัยอื่น ๆ

แพลนระดับฟรีที่ใช้งานได้จำกัด พร้อมระยะเวลาคืนเงินที่ยาวกว่าปกติ

แพลนแบบจ่ายเงินของ Hotspot Shield นั้นเรียกได้ว่าค่อนข้างแพง มันมีเวอร์ชันฟรีให้ใช้งาน แต่คุณจะสามารถเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ได้แค่ 4 แห่ง (สิงคโปร์, สหราชอาณาจักร และอีก 2 แห่งในสหรัฐอเมริกา) หากคุณต้องการลองใช้ Hotspot Shield อย่างไม่มีความเสี่ยง มันก็มีการรับประกันคืนเงินภายใน 45 วัน

Hotspot Shield นั้นดีที่สุดสำหรับ...

  • สตรีมมิ่งและโหลดบิท — โปรโตคอล Hydra ที่เน้นความเร็ว, ความสามารถในการสตรีมมิ่งระดับ HD ที่มีความเสถียร และสามารถรองรับ P2P ทำให้ VPN นี้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับกิจกรรมเหล่านี้

Hotspot Shield นั้นอาจจะไม่เหมาะสำหรับ...

  • ผู้ใช้งานที่เป็นห่วงเรื่องความเป็นส่วนตัวมาก ๆ — มันตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกาและก็มีนโยบายความเป็นส่วนตัวที่คลุมเครือ แต่หลังจากที่ได้ลองสืบค้นดูแล้ว เราก็พบว่ามันมีการบันทึกที่อยู่ IP ของคุณเอาไว้ชั่วคราวเพื่อป้องกันการฉ้อโกง มันจะทำการเข้ารหัสในทันทีจากนั้นก็จะลบมันทิ้งหลังจากที่คุณเลิกใช้ VPN ในแต่ละครั้ง

10. hide.me — ฟีเจอร์ Stealth Guard ที่ไม่เหมือนใคร จะช่วยปกป้องคุณในแอปต่าง ๆ

ฟีเจอร์ที่ดีที่สุด Stealth Guard
เครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ 2,400 เซิร์ฟเวอร์ใน 89 ประเทศ
เชื่อมต่อได้พร้อมกันกี่อุปกรณ์ 10
ใช้งานได้กับ Netflix, Disney+, Amazon Prime Video, BBC iPlayer, (HBO) Max, Hulu, Vudu และอื่น ๆ
บริการสนับสนุนภาษาไทย ไลฟ์แชทผ่านโปรแกรมแปลอัตโนมัติ

hide.me นั้นมีฟีเจอร์ Stealth Guard ทำให้คุณสามารถระบุได้ว่าแอปไหนที่ต้องการให้ใช้งานเฉพาะผ่านการเชื่อมต่อ VPN ถ้าขาดการเชื่อมต่อจาก VPN ขึ้นมา แอปเหล่านั้นก็จะหยุดทำงานโดยอัตโนมัติเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ข้อมูลรั่วไหลไปยังการเชื่อมต่อที่ไม่ปลอดภัย มันเป็นเหมือน kill switch ผสมกับ split tunneling

คุณยังสามารถปรับแต่งการตอบสนองต่อการเชื่อมต่ออีเทอร์เน็ตที่ปลอดภัยและไม่ปลอดภัยของ hide.me ได้ด้วย เมื่อมันตรวจพบหนึ่งในการเครือข่ายเหล่านี้ คุณก็สามารถตั้งค่าให้มันถามคุณได้ว่าต้องการเชื่อมต่อ, เปิด VPN, ปิด VPN หรือเมินเครือข่ายนั้น

Screenshot of hideme's Windows app displaying a range of security settingsเราชอบคำอธิบายของมัน เพราะว่ามันช่วยให้เราเข้าใจแต่ละฟีเจอร์ของแอปได้ง่ายยิ่งขึ้น

ฟีเจอร์ความปลอดภัยอื่น ๆ:

  • การป้องกันการรั่วไหล hide.me นั้นมีการใช้การป้องกันการรั่วไหลของ DNS/IP และ kill switch เพื่อช่วยรักษาสถานะการไม่เปิดเผยตัวตนของคุณในทุกสถานการณ์
  • การไม่บันทึกข้อมูล กิจกรรมออนไลน์ของคุณนั้นจะไม่ถูกบันทึกเอาไว้และไม่ถูกนำไปแชร์ต่อ hide.me นั้นตั้งอยู่ที่มาเลเซียซึ่งไม่มีกฎหมายเรื่องการเก็บบันทึกข้อมูล
  • การเข้ารหัสและโปรโตคอลที่แข็งแกร่ง hide.me นั้นรองรับ SoftEther, WireGuard, OpenVPN, IKEv2 และ SSTP และใช้การเข้ารหัส 256-bit

เป็นมิตรกับการสตรีมมิ่งและโหลดบิท

hide.me มีฟีเจอร์ Bolt ที่จะช่วยหลบหลีกการแออัดของเครือข่ายและลดเวลาแฝง เพื่อให้คุณได้การเชื่อมต่อที่รวดเร็ว, ลื่นไหล และเสถียรมากยิ่งขึ้น มีการรองรับ P2P สำหรับทุกเซิร์ฟเวอร์ เพื่อช่วยให้คุณโหลดบิทได้อย่างรวดเร็วไม่ติดขัด

มันสามารถทำงานได้อย่างเสถียรและก็มีความเร็วดีสำหรับการสตรีมมิ่งคุณภาพสูง แถมมันยังสามารถใช้งานกับสมาร์ททีวีและเครื่องเล่นเกมได้ผ่านการตั้งค่าเราเตอร์ เราสามารถสตรีมเนื้อหา Netflix ภายในประเทศในความชัดระดับ HD ได้บน Apple TV ของเราหลังจากที่ตั้งค่ากับเราเตอร์แล้ว

เวอร์ชันฟรีและการรับประกันคืนเงิน

hide.me นั้นมีแพลนระดับฟรีที่ค่อนข้างจำกัด ซึ่งมีตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์อยู่ 9 แห่ง และก็จำกัดการใช้ข้อมูลไว้ที่ 10 GB ต่อเดือน คุณสามารถเปลี่ยนมาลองใช้เวอร์ชันพรีเมียมที่ไม่มีการจำกัดแบบนั้นได้ผ่านการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน

hide.me นั้นดีที่สุดสำหรับ...

hide.me นั้นอาจจะไม่เหมาะสำหรับ...

  • ผู้ที่ต้องการความเร็วการเชื่อมต่อระยะไกลที่สูง — โดยรวมแล้ว hide.me นั้นเร็วมาก ๆ สำหรับการเชื่อมต่อระยะใกล้ แต่ก็มีผู้ทดสอบความเร็วของเราบางรายที่แจ้งว่าความเร็วตกลงไปถึง 71% ตอนที่ใช้เซิร์ฟเวอร์ในออสเตรเลียและญี่ปุ่นซึ่งก็มีนัยสำคัญมาก

บริการ VPN ที่ดีที่สุด: ตารางเปรียบเทียบอย่างเร็ว

VPN นั้นอาจมีความแตกต่างกันมากขึ้นกับฟีเจอร์ที่มันมีให้ นี่อาจจะทำให้ VPN บางตัวนั้นเหมาะกับบางกิจกรรมมากกว่าตัวอื่น ๆ

เครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่นั้นจะมีประโยชน์สำหรับการใช้ค้นหาเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ใกล้และมีความเร็วดีได้ง่ายพร้อมป้องกันการโอเวอร์โหลด ในเวลาเดียวกันเรื่องของความเร็วก็สำคัญเพราะมันจะช่วยให้คุณทำกิจกรรมออนไลน์ได้อย่างราบรื่น — VPN ที่ช้าจะก่อให้เกิดการบัฟเฟอร์หรืออาการแลค

หากคุณเป็นแฟน Netflix คุณควรจะเลือกใช้ VPN ที่ทำงานได้อย่างมีความเสถียรในประเทศของคุณ — ไม่ว่าคุณจะอยู่ในประเทศไหนที่ Netflix ให้บริการก็ตาม มันควรจะต้องช่วยให้คุณเชื่อมต่อได้อย่างปลอดภัยโดยไม่ลดคุณภาพของการสตรีมมิ่งลง หากเรื่องความเป็นส่วนตัวนั้นเป็นเรื่องสำคัญสำหรับคุณ การใช้ VPN ที่ตั้งอยู่นอกพื้นที่ของ 14 Eyes ก็จะช่วยทำให้คุณมั่นใจได้มากยิ่งขึ้นว่าจะไม่มีคนมาสอดแนมดูข้อมูลของคุณ

ใช้ตารางด้านล่างเพื่อเปรียบเทียบฟีเจอร์สำคัญของ VPN ที่ดีที่สุด

ราคารายเดือนต่ำสุด ข้อดีที่สำคัญที่สุด ข้อเสียที่สำคัญที่สุด จำนวนเซิร์ฟเวอร์ ความเร็ว จำนวนประเทศของ Netflix ที่ใช้งานด้วยได้ ตั้งอยู่นอกพื้นที่ของ 14 Eyes หรือไม่? UI มีภาษาไทย
🥇ExpressVPN $6.67/เดือน ใช้งานได้อย่างราบรื่นสำหรับทุกกรณี ราคาสูงเล็กน้อย 3,000 ใน 105 ประเทศ(รวมถึงประเทศไทย) เร็วมาก 13+ ใช่ ใช่
🥈CyberGhost $2.19/เดือน เซิร์ฟเวอร์พิเศษสำหรับการสตรีมมิ่ง, เล่นเกม และโหลดบิท ใช้งานในประเทศจีนไม่ได้ 11,690 ใน  100 ประเทศ (รวมถึงในประเทศไทย) เร็วมาก 13+ ใช่ ไม่
🥉PIA $2.19/เดือน ฟีเจอร์ความปลอดภัยที่ปรับแต่งได้ ฟีเจอร์ขั้นสูงเข้าใช้งานยาก 29,650 ใน 91 ประเทศ เร็ว 10+ ไม่ ใช่
NordVPN $3.39/เดือน บล็อกโฆษณา, มัลแวร์ และตัวติดตามได้ดีมาก แอปดูล้าสมัย 6,139 ใน 67 ประเทศ (รวมถึงในประเทศไทย) เร็ว 16+ ใช่ ไม่
Surfshark $2.89/เดือน ฟีเจอร์ความปลอดภัยมากมายที่ไม่เหมือนใคร สำนักงานใหญ่ 9-Eyes, แอป macOS ไม่มี OpenVPN 3,200 ใน 100 ประเทศ (ซึ่งรวมถึงประเทศไทย) เร็วมาก 14+ ไม่ ไม่
IPVanish $2.75/เดือน เป็นเจ้าของเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ของตัวเอง ไม่ค่อยเหมาะสำหรับสตรีมมิ่ง 2,400 ใน 90 ประเทศ ทั่วไป 10+ ไม่ ไม่
PrivateVPN $2/เดือน สามารถสตรีมมิ่งและใช้งานในจีนได้เสถียร เครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ขนาดเล็ก 200 ใน 63 ประเทศ ทั่วไป 12+ ไม่ ไม่
Proton VPN $4.99/เดือน แอปที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้งาน ราคาสูงเล็กน้อย 3,851 ใน 85 ประเทศ เร็วมาก 7+ ใช่ ไม่
Hotspot Shield $2.99/เดือน โปรโตคอลที่ไม่เหมือนใครซึ่งเน้นเรื่องความเร็ว นโยบายความเป็นส่วนตัวที่คลุมเครือ 1,800 ใน 80 ประเทศ รวมถึงประเทศไทย เร็ว 2+ ไม่ ไม่
hide.me $2.59/เดือน ความปลอดภัยแอปที่ปรับแต่งได้ การเชื่อมต่อระยะไกลช้า 2,400 ใน 89 ประเทศ ทั่วไป 4+ ใช่ ไม่

คู่มือแบบเร็ว: วิธีการตั้งค่า VPN ใน 3 ขั้นตอนง่าย ๆ

  1. สมัครใช้งาน VPN เราแนะนำ ExpressVPN เนื่องจากมันมีความเร็วดี, ปลอดภัย และใช้งานได้เสถียรไม่ว่าคุณจะต้องการ VPN ไว้ทำอะไรก็ตาม
  2. ดาวน์โหลด VPN เข้าไปยังเว็บไซต์ทางการของ VPN และติดตั้งแอป VPN ที่เหมาะสมกับอุปกรณ์ของคุณ
  3. เชื่อมต่อ เลือกเซิร์ฟเวอร์ — เซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ใกล้คุณที่สุดนั้นจะเร็วที่สุด

วิธีการวิจัย: พวกเราจัดอันดับและเปรียบเทียบ VPN อย่างไร

มี VPN เป็นร้อยที่อ้างว่าตัวเองนั้นดีที่สุด แล้วจะเลือกตัวที่ใช่ได้อย่างไร? มันคงจะเป็นไปไม่ได้ที่จะทำการค้นคว้าวิจัยเกี่ยวกับ VPN ทุกตัวบนโลก...เว้นแต่ว่าคุณจะมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญอยู่ทั่วโลก ผู้ที่พร้อมจะทำการทดสอบให้กับคุณ นั่นคือสิ่งที่พวกเราทำเพื่อจัดอันดับด้านบนขึ้นมา — รวมถึงรายการและรีวิวอื่น ๆ ด้วย

พวกเราได้ทำการวิเคราะห์ VPN แต่ละตัวโดยอ้างอิงจากหลายปัจจัย โดยเน้นพิเศษไปที่บางจุด ปัจจัยเหล่านี้เรียงจากที่สำคัญมากที่สุดไปน้อยที่สุด:

  • ความเป็นส่วนตัวและนโยบายการบันทึกข้อมูล — พวกเราได้ทำการสำรวจนโยบายความเป็นส่วนตัวของ VPN แต่ละตัว และก็คอยสังเกตถึงความเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นในระยะยาว
  • ความเร็ว — ทีมงานของเราได้ทำการทดสอบความเร็วของ VPN แต่ละตัวเพื่อดูว่ามันสามารถทำงานได้ดีแค่ไหนในระยะไกล และก็เพื่อให้มั่นใจว่าความเร็วเหล่านี้นั้นมีความแม่นยำและเสถียร
  • ฟีเจอร์ความปลอดภัย — พวกเราได้ตรวจสอบให้แน่ใจแล้วว่า VPN แต่ละตัวนั้นมีสิ่งสำคัญอย่างการเข้ารหัส 256-bit, การป้องกันการรั่วไหล และ kill switch VPN ทั้งหมดนั้นต่างก็ผ่านการตรวจสอบการรั่วไหล ซึ่งเราได้ดำเนินการทดสอบกับหลายเซิร์ฟเวอร์ทั่วโลก
  • สตรีมมิ่ง — เราและทีมงานนานาชาติได้ร่วมกันทดสอบ VPN แต่ละตัวกับเว็บไซต์สตรีมมิ่งยอดนิยมในแต่ละแห่ง (ที่ซึ่งแพลตฟอร์มได้รับลิขสิทธิ์) พวกเราได้ตรวจสอบให้แน่ใจแล้วว่าคุณจะสามารถเชื่อมต่อด้วย VPN ได้อย่างปลอดภัยโดยไม่ส่งผลต่อความเร็วและความเสถียรในการสตรีมมิ่ง
  • ความสะดวกในการใช้งาน — พวกเราได้ตรวจสอบ VPN แต่ละตัวว่ามันมีความเป็นมิตรต่อผู้ใช้งานทุกระดับ, ต้องมีแอปที่ติดตั้งง่าย, เชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์ง่าย และต้องมีคำอธิบายฟีเจอร์ (บนเว็บไซต์หรือภายในแอป)
  • ฝ่ายให้บริการลูกค้า — ทีมงานของเราได้ทำการทดสอบฝ่ายให้บริการลูกค้าของแต่ละ VPN เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะได้รับคำตอบสำหรับคำถามของคุณ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง พวกเราได้ถามคำถามไปยังไลฟ์แชทเพื่อดูเกี่ยวกับเวลาในการตอบและก็ได้เปิดดูฐานข้อมูลบนเว็บไซต์ของผู้ให้บริการเกี่ยวกับข้อมูลที่สามารถใช้อ้างอิงได้
  • โหลดบิท — พวกเราได้ทำการทดสอบ VPN แต่ละตัวด้านการโหลดบิทเพื่อดูว่ามันเร็วแค่ไหน, และตัวบล็อกโฆษณา (ถ้ามี) นั้นทำงานได้ดีหรือไม่ และมันสามารถป้องกันมัลแวร์อันตรายไม่ให้มาติดในเครื่องของคุณได้หรือเปล่า และการตรวจสอบการรั่วไหลอย่างสม่ำเสมอก็จะช่วยบอกได้ว่าที่อยู่ IP รั่วไหลหรือไม่ระหว่างการโหลดบิท

เหตุผลที่คุณควรใช้ VPN

VPN จะช่วยให้คุณสามารถเข้าถึงเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ส่วนตัวทั่วโลก เมื่อไรก็ตามที่คุณทำการเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ VPN ในประเทศใดก็ตาม มันจะทำการเข้ารหัสทราฟฟิคออนไลน์ของคุณและเปลี่ยนเส้นทางมันไปยังตำแหน่งนั้น ๆ คุณจะสามารถใช้ที่อยู่ IP ของเซิร์ฟเวอร์เพื่อซ่อนที่อยู่ IP ดั้งเดิมของคุณได้ด้วย

นี่จะช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวทางออนไลน์ และช่วยให้การเชื่อมต่อของคุณนั้นปลอดภัยจากภัยอันตรายอย่างเช่นการสอดแนม, การแฮ็ก และการโจมตีทางไซเบอร์อื่น ๆ

VPN นั้นมีประโยชน์และใช้งานได้หลากหลาย ขึ้นกับฟีเจอร์ที่มันมีให้ โดยทั่วไปแล้วนี่จะเป็นสิ่งที่คุณสามารถใช้งาน VPN ทำได้:

  • ป้องกันข้อมูลของคุณจากอาชญากรรมไซเบอร์ VPN ที่ดีที่สุดนั้นจะมีการเข้ารหัสทราฟฟิคของคุณด้วยอัลกอริทึม AES 256-bit — ซึ่งเป็นการเข้ารหัสแบบเดียวกันกับที่รัฐบาล, ธนาคาร และกองทัพเลือกใช้ นอกจากนี้ยังมีการใช้โปรโตคอล VPN ที่น่าเชื่อถือเพื่อทำการ scramble ทราฟฟิค และช่วยให้การท่องเว็บของคุณนั้นมีความเป็นส่วนตัว ไม่ว่าคุณจะเชื่อมต่อกับเครือข่ายบ้านหรือเครือข่าย WiFi สาธารณะที่ไม่ปลอดภัยก็ตาม
  • ปกป้องความเป็นส่วนตัวให้ที่อยู่ IP ของคุณ การเชื่อมต่อ VPN จะช่วยปิดบังที่อยู่ IP ของคุณซึ่งจะเป็นการหยุดไม่ให้บุคคลที่สามมาสะกดรอยกิจกรรมของคุณกลับมาถึงตัวคุณได้ นี่จะช่วยป้องกันคุณจากแฮ็กเกอร์ และช่วยป้องกันการจำกัดความเร็วของ ISP (ที่มักจะเกิดขึ้นถ้าคุณใช้ข้อมูลเยอะเกินไป เหมือนเวลาที่คุณโหลดบิท) สำหรับความเป็นส่วนตัวขั้นสุดยอด คุณสามารถใช้ VPN กับเบราว์เซอร์ Tor ที่มีความปลอดภัยได้
  • โหลดบิทอย่างปลอดภัย การแชร์ไฟล์ P2P นั้นมีความเสี่ยงเนื่องจากมันเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและผิดจรรยาบรรณ และก็อาจทำให้คุณติดมัลแวร์หรือเจอแฮ็กเกอร์ได้ด้วย การใช้ VPN ในขณะโหลดบิทนั้นจะช่วยปกป้องคุณและลดความเสี่ยงที่ไม่จำเป็นลง ทีมงาน vpnMentor ไม่สนับสนุนการโหลดบิทอย่างผิดกฎหมาย ตรวจสอบให้แน่ใจทุกครั้งว่าคุณกำลังดาวน์โหลดไฟล์ที่ไม่ติดลิขสิทธิ์!
  • เล่นเกมออนไลน์ได้อย่างปลอดภัย VPN นั้นจะช่วยป้องกันคุณจากการโจมตีแบบ DDoS ซึ่งเกมเมอร์คนอื่นอาจทำเพื่อก่อกวนเครือข่ายบ้านของคุณ VPN ที่ดีที่สุดนั้นจะมีเซิร์ฟเวอร์ที่มีค่าเวลาแฝงต่ำซึ่งเหมาะสำหรับใช้เล่นเกมอย่าง Call of Duty: Warzone และ Valorant

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับบริการ VPN

VPN ตัวไหนที่เร็วที่สุด?

VPN ที่ได้รับอันดับ 1 จากเรามีผลคะแนนการทดสอบความเร็วดีอย่างสม่ำเสมอ แต่โปรดทราบว่า VPN ที่เร็วที่สุดนั้นอาจจะไม่ใช่สิ่งที่คุณต้องการ ความเร็วของ VPN นั้นจะขึ้นกับตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ที่ใกล้ที่สุด, มีคนใช้เซิร์ฟเวอร์นั้นมากแค่ไหน, ความเร็วฐานของคุณ และปัจจัยอื่น ๆ อีกมากมาย

ถึงจะกล่าวเป็นเช่นนั้น แต่ในช่วงหลายปีที่พวกเราได้ทำงานร่วมกับผู้ให้บริการ VPN ระดับชั้นนำมา มันก็มีความเร็วในการอัปโหลด/ดาวน์โหลดสูง รวมถึงค่าปิงต่ำและอาการแลคน้อยอยู่อย่างเสมอ นี่หมายความว่าคุณจะสามารถใช้มันสตรีมดูเนื้อหาในความชัดระดับสูงได้โดยไม่มีการบัฟเฟอร์, โหลดบิทได้เร็ว และเล่นเกมออนไลน์ได้อย่างที่ความเร็วไม่ตก

VPN ถูกกฎหมายหรือไม่?

ในประเทศส่วนใหญ่ การใช้ VPN นั้นเป็นเรื่องถูกกฎหมาย VPN นั้นเป็นเครื่องมือที่ไม่ได้มีความผิดอะไร มันสามารถช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัว, ความปลอดภัย และอิสระในการใช้อินเทอร์เน็ต ฟังก์ชันหลักของมัน (การเข้ารหัสข้อมูลและการช่วยเรื่องความเป็นส่วนตัว) นั้นเป็นเรื่องที่รับได้ 100% ในระบบกฎหมายส่วนใหญ่

มีบางแห่งที่ VPN นั้นไม่เป็นที่ยอมรับหรือถูกสั่งห้ามอย่างเช่นในจีน, อิรัก, อิหร่าน, รัสเซีย, เบลารุส, ตุรกี, โอมาน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หากคุณอาศัยอยู่ในประเทศที่มีการเซ็นเซอร์อินเทอร์เน็ต คุณควรจะตรวจสอบดูว่ากฎหมายในประเทศกล่าวว่าอย่างไรเกี่ยวกับ VPN

บางครั้งก็มีคนนำ VPN ไปใช้ทำเรื่องผิดกฎหมายซึ่งพวกเราไม่สนับสนุนในทุกกรณี ยกตัวอย่างเช่น คุณสามารถนำ VPN ไปใช้เพื่อให้ได้ที่อยู่ IP ในพื้นที่ที่อยู่นอกประเทศของคุณและก็สามารถนำมันไปดูเนื้อหาที่ปกติไม่ได้เปิดให้ดูได้ โปรดทราบว่าการทำแบบนี้นั้นจะเป็นการทำผิดข้อตกลงการใช้งานของแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งส่วนใหญ่และก็อาจจะเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย โปรดจำไว้ว่า อะไรก็ตามที่ผิดกฎหมายตอนที่ไม่ได้ใช้ VPN ก็ยังคงเป็นเรื่องผิดกฎหมายอยู่ดีถึงแม้จะใช้ VPN แล้ว และคุณควรจะหลีกเลี่ยงเรื่องเหล่านั้น

VPN นั้นปลอดภัยหรือไม่?

VPN นั้นสามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัย มันถูกออกแบบมาเพื่อให้คุณสามารถใช้งานบนโลกออนไลน์ได้ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม คุณต้องเป็นผู้ใช้งานมันอย่างมีความรับผิดชอบบนโลกออนไลน์และไม่นำมันไปใช้ทำเรื่องผิดกฎหมายหรือข้อบังคับในพื้นที่

คุณอาจจะทำให้ตัวเองได้รับความเสี่ยงถ้า:

  • คุณอาศัยอยู่ในประเทศที่รัฐบาลอนุญาตให้ใช้งาน VPN แค่บางตัว และคุณเลือกใช้งานตัวที่ไม่ได้รับการอนุญาตอย่างเป็นทางการ
  • คุณดาวน์โหลดหรือดูเนื้อหาติดลิขสิทธิ์ด้วย VPN (หรือโดยไม่มี VPN ก็ตาม)

เป็นเรื่องสำคัญมากด้วยที่ว่า VPN "ฟรี" บางรายนั้นจะทำให้ความเป็นส่วนตัวของคุณนั้นตกอยู่ในอันตรายแทนที่จะช่วยปกป้องมัน ยกตัวอย่างเช่น พวกเราพบ VPN ฟรีที่นำข้อมูลของคุณไปขายให้กับบุคคลที่สามหรือทำให้คุณเปราะบางต่อมัลแวร์ เพราะแบบนี้ จึงเป็นเรื่องสำคัญที่คุณควรจะเลือก VPN ที่มีคุณภาพที่มีมาตรฐานความปลอดภัยที่เข้มงวดและมีนโยบายความเป็นส่วนตัวที่เชื่อถือได้

VPN ที่ดีที่สุดสำหรับใช้ดู Netflix คือ?

VPN ทั้งหมดในรายการนี้นั้นเป็นตัวเลือกที่ดีเยี่ยมสำหรับ Netflix แต่มันจะต่างกันตรงจำนวนประเทศของ Netflix ที่สามารถดูได้ รวมถึงเรื่องของความเร็วในการสตรีมมิ่ง คุณควรจะเลือก VPN ที่สามารถใช้งานกับ Netflix ในประเทศของคุณได้และไม่ทำให้คุณภาพการสตรีมมิ่งตกลง

โปรดทราบว่าถึงแม้ VPN จะทำให้คุณสามารถเปิดดู Netflix ในต่างประเทศได้ แต่การทำแบบนั้นเป็นการทำผิดข้อตกลงการใช้งาน และอาจจะเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย เราและทีมงานขอเน้นย้ำให้คุณใช้ VPN อย่างมีความรับผิดชอบ

ความเร็วฐานของคุณนั้นก็จะส่งผลด้วยว่าคุณต้องใช้ VPN ที่มีความเร็วมากแค่ไหนเพื่อจะหลีกเลี่ยงการบัฟเฟอร์ คุณอาจจะควรคำนึงถึงด้วยว่า VPN นั้นมีฟีเจอร์ smart DNS หรือสามารถใช้งานกับเราเตอร์ได้หรือไม่ เพื่อให้คุณสามารถสตรีม Netflix บนอุปกรณ์ได้เยอะขึ้น (เช่นเครื่องเล่นเกมและสมาร์ททีวี)

VPN สามารถติดตามกิจกรรมออนไลน์ของฉันได้หรือไม่?

ทางเทคนิคแล้ว VPN สามารถติดตามคุณได้ — แต่ บริการที่ดีที่สุดจะไม่ทำแบบนั้น เวลาที่คุณใช้ VPN คุณจะปกป้องข้อมูลส่วนตัวของคุณจากบุคคลที่สามอย่าง ISP, แฮ็กเกอร์, ผู้โฆษณา และรัฐบาล แต่ VPN เองนั้นจะยังเข้าถึงทุกอย่างได้ เพราะแบบนี้ VPN จึงมีนโยบายการไม่บันทึกข้อมูลที่จะสัญญาว่าพวกเขาจะไม่บันทึกข้อมูลของคุณเก็บเอาไว้

VPN บางรายนั้นจะใช้เทคโนโลยีอย่างเช่นเซิร์ฟเวอร์แบบ RAM เพื่อลดโอกาสที่ข้อมูลของคุณจะตกไปอยู่ในมือคนผิด เซิร์ฟเวอร์เหล่านี้จะถูกล้างทุกครั้งที่มีการรีบูท และข้อมูลทั้งหมดของคุณก็จะถูกลบโดยอัตโนมัติ

การใช้ VPN นั้นมีข้อจำกัดใด ๆ หรือไม่?

แน่นอน VPN นั้นเป็นเหมือนซูเปอร์ฮีโร่ทางออนไลน์ของคุณ มันจะช่วยเพิ่มความปลอดภัย, ความเป็นส่วนตัว แต่ซูเปอร์ฮีโร่นั้นยังไงก็ต้องมีจุดอ่อนอยู่ดี แม้แต่ VPN ที่ดีที่สุดก็ไม่สามารถทำเรื่องต่อไปนี้ได้:

  • การป้องกันไวรัสและมัลแวร์อย่างเต็มรูปแบบ ซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสที่น่าเชื่อถือนั้นยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ถึงแม้ว่าคุณจะมีเครื่องมือบล็อกมัลแวร์แล้วก็ตาม
  • เพิ่มความเร็วอินเทอร์เน็ต VPN นั้นจะไม่ช่วยเพิ่มความเร็วเน็ตของคุณ เว้นแต่ว่า ISP ของคุณจะแอบจำกัดความเร็วการเชื่อมต่อของคุณ
  • การไม่เปิดเผยตัวตนอย่างเต็มรูปแบบ VPN นั้นจะช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับคุณ แต่ไม่ได้ทำให้ไม่สามารถสะกดรอยตามคุณได้เลย ลายนิ้วมือจากเบราว์เซอร์, สคริปต์ติดตาม และการวิเคราะห์ทราฟฟิคนั้นยังสามารถติดตามกิจกรรมออนไลน์ของคุณได้อยู่ นอกจากนี้ถ้า VPN เก็บบันทึกข้อมูลของคุณและตั้งอยู่ในพื้นที่ของ 14 Eyes มันก็จะมีความเสี่ยงที่ข้อมูลของคุณอาจจะถูกส่งต่อให้กับหน่วยงานรัฐบาล
  • ใบอนุญาตให้ทำเรื่องผิดกฎหมาย จำไว้ว่า VPN นั้นไม่ได้มีไว้ช่วยให้คุณทำเรื่องผิดกฎหมายอย่างเช่นการโหลดบิทไฟล์ที่มีลิขสิทธิ์หรือการเข้าเว็บไซต์ที่ถูกห้ามในประเทศของคุณ คุณควรจะทำตามกฎหมายอยู่ตลอดเวลา

VPN ไหนที่ใช้งานได้ดีที่สุดสำหรับโรงเรียน

VPN ทั้งหมดในรายการนี้นั้นสามารถใช้งานในโรงเรียนได้ ทุกตัวนั้นมีฟีเจอร์ความปลอดภัยที่ใช้งานได้เสถียรสำหรับโรงเรียน นอกจากนี้ VPN ในรายการนี้ก็ทำงานได้เร็วพอสำหรับทุกกิจกรรมในโรงเรียน — ไม่ว่าคุณจะใช้มันดาวน์โหลดพอดแคสต์เพื่อสืบค้นข้อมูลหรือเพื่อสตรีมดูสารคดีก็ตาม VPN นั้นมีฟีเจอร์ขั้นสูงอย่างเช่นการทำ obfuscation ซึ่งจะเหมาะที่สุดสำหรับใช้เอาชนะไฟร์วอลล์ที่บล็อกการใช้ VPN (อย่างเช่นในเครือข่ายของโรงเรียนรัฐ)

ฉันควรจะใช้ VPN ที่บ้านหรือไม่?

ตอบสั้น ๆ ว่าแน่นอน แม้แต่จะใช้งานที่บ้าน VPN ก็สามารถช่วยพัฒนาประสบการณ์ใช้อินเทอร์เน็ตได้หลากหลายทาง VPN นั้นจะช่วยเข้ารหัสข้อมูลของคุณให้ปลอดภัยจากบุคคลที่สาม และก็อย่าลืมเรื่องของความเป็นส่วนตัว มันจะช่วยป้องกันไม่ให้ ISP มาติดตามดูได้ว่าคุณมีพฤติกรรมในการท่องเว็บอย่างไร สำหรับการใช้เป็นข้อมูลเพื่อควบคุมความเร็ว

สำหรับการเล่นเกม VPN นั้นจะสามารถช่วยปกป้องคุณจากการโจมตีแบบ DDoS, เปิดภูมิภาคใหม่ในการเล่นเกม และอาจจะเพิ่มประสิทธิภาพได้ด้วย แถมถ้าคุณเป็นคนชอบโหลดบิทนั้น VPN ก็จะช่วยให้มั่นใจว่าการดาวน์โหลดของคุณนั้นมีความเป็นส่วนตัวและปลอดภัย

ดังนั้นถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่สิ่งจำเป็น แต่การมี VPN ที่บ้านนั้นก็จะช่วยคุณได้มากอย่างแน่นอน

เซิร์ฟเวอร์ VPN ไหนที่ดีที่สุดสำหรับใช้งาน?

เซิร์ฟเวอร์ VPN "ที่ดีที่สุด" นั้นจะขึ้นกับว่าคุณจะใช้มันทำอะไรบนโลกออนไลน์ ส่วนตัวแล้วเราชอบ VPN ที่มีรายการเซิร์ฟเวอร์พิเศษให้เลือกใช้ แบบนั้นคุณจะรู้ได้เลยว่าเซิร์ฟเวอร์ไหนใช้ทำอะไรได้ดีที่สุด ยกตัวอย่างเช่น VPN ที่ได้อันดับที่สองในรายการของเราด้านบนนั้นมีเซิร์ฟเวอร์พิเศษสำหรับสตรีมมิ่ง, ความเป็นส่วนตัว, โหลดบิท และเล่นเกม

สำหรับการท่องเว็บทั่วไปและความเป็นส่วนตัว คุณควรจะเชื่อมต่อไปยังเซิร์ฟเวอร์ในประเทศที่มีกฎหมายเรื่องความเป็นส่วนตัวที่แข็งแกร่งอย่างเช่นสวิตเซอร์แลนด์หรือไอซ์แลนด์ สำหรับการเชื่อมต่อที่เร็วที่สุด ส่วนใหญ่แล้วเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ใกล้ตำแหน่งของคุณที่สุดมักจะเร็วที่สุด

VPN ระดับชั้นนำส่วนใหญ่นั้นจะมีฟีเจอร์ "การเชื่อมต่ออย่างเร็ว" ซึ่งจะเลือกเซิร์ฟเวอร์ที่ดีที่สุดให้คุณโดยอัตโนมัติ ดังนั้นสุดท้ายมันก็ขึ้นกับความต้องการของคุณเอง

VPN มีราคาเท่าไร?

ราคานั้นจะแตกต่างกันออกไปขึ้นกับผู้ให้บริการ แต่ VPN ทุกตัวที่เราแนะนำนั้นต่างก็มีราคาที่ถูกมาก ๆ บางตัวนั้นมีราคาแค่ไม่ถึง 2$ ต่อเดือน! คุณจึงสามารถแบ่งเงินค่ากาแฟหนึ่งแก้วมาใช้ปกป้องข้อมูลของคุณบนโลกออนไลน์ และปกป้องอิสระบนโลกดิจิทัลของคุณได้ ความสบายใจนั้นคุ้มค่าเงินที่จ่ายไปอย่างแน่นอน

โดยทั่วไปนั้น การสมัครสมาชิกระยะยาวมักจะมีราคาที่ถูกกว่าเมื่อเทียบกับแพลนระยะสั้น ยิ่งคุณผูกมัดนานแค่ไหน ค่าใช้จ่ายต่อเดือนก็ยิ่งลดลงมากแค่นั้น

VPN ที่ดีที่สุดนั้นมักจะมาพร้อมกับการรับประกันคืนเงินด้วย ซึ่งก็หมายความว่าถ้าคุณเปลี่ยนใจหลังจากที่สมัครสมาชิก คุณก็สามารถขอคืนเงินได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด (ส่วนใหญ่จะ 30 วัน) นี่จะไม่ส่งผลต่อราคา แต่มันจะช่วยให้คุณรู้สึกสบายใจได้ในกรณีที่คุณไม่มั่นใจเกี่ยวกับค่าใช้จ่าย

ถ้าคุณพร้อมที่จะทำการสั่งซื้อแล้ว แวะไปที่หน้าคูปองของเราเพื่อค้นหาส่วนลดสุดพิเศษสำหรับ VPN ได้เลย

มี VPN ฟรี ให้ใช้งานได้หรือเปล่า?

VPN ฟรีนั้นมีให้ใช้งานได้แต่จากผลการทดสอบของเรานั้นแสดงให้เห็นว่า VPN พรีเมียมทำงานได้ดีกว่ามาก

นั่นก็เพราะว่า VPN ฟรีนั้นมักจะไม่มีทรัพยากรในการลงทุนเพื่อรักษาความปลอดภัย, ประสิทธิภาพ และความเสถียรได้ดีเหมือนกับคู่แข่งระดับพรีเมียม พวกมันสามารถใช้งานได้ดีสำหรับการท่องเว็บพื้นฐาน แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มากนอกจากนั้น มันจะใช้งานได้ไม่ค่อยเสถียรนักกับแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง และเซิร์ฟเวอร์ที่แออัดก็หมายความว่าการโหลดบิทของคุณจะช้าลงอย่างเห็นได้ชัด

แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มี VPN ฟรี ดี ๆ ให้ใช้เลยเหมือนกัน ยังมี VPN ที่เรียกว่า "ฟรีเมียม" — หรือเวอร์ชันฟรีของซอฟต์แวร์พรีเมียมอยู่ มันจะไม่ดีเทียบเท่ากับบริการแบบจ่ายเงิน แต่มันก็เป็นตัวเลือกที่พอใช้ได้หากคุณมีงบประมาณจำกัด

อย่าลืมสุภาษิตที่ว่า "ถ้าคุณไม่ได้จ่ายเงินค่าผลิตภัณฑ์ ตัวคุณเองนั่นแหละที่เป็นผลิตภัณฑ์" VPN ฟรี ทุกตัวที่เราแนะนำนั้นจะมีความเสถียรและใช้งานได้ปลอดภัยแต่ไม่ใช่ทุกตัวจะเป็นแบบนี้หมด พวกเราเจอ VPN ฟรีมากมายที่เอาข้อมูลของคุณไปขายให้กับผู้โฆษณาเพื่อทำกำไร และพวกเราเจอตัวที่จริง ๆ แล้วเป็นแหล่งปล่อยมัลแวร์และสแกมด้วย

รับบริการ VPN ที่ดีที่สุดตอนนี้เลย

การค้นหา VPN ที่สมบูรณ์แบบนั้นเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลามาก บางตัวนั้นใช้สตรีมมิ่งได้ดี แต่จะอ่อนแอเรื่องความปลอดภัย ในขณะที่บางตัวจะดีด้านความเป็นส่วนตัวแต่แย่ด้านความเร็ว เพื่อเป็นการช่วยประหยัดเวลาของคุณ ทีมงานของเราได้มุ่งมั่นทำการทดสอบกว่า 300 VPN เพื่อค้นหาตัวที่ดีที่สุด

ตัวเลือกอันดับหนึ่งของพวกเราคือ ExpressVPN — มันมีความโดดเด่นเพราะความปลอดภัยที่แน่นหนา, ความเร็วอันน่าประทับใจ และความมุ่งมั่นด้านความเป็นส่วนตัว ดียิ่งขึ้นไปอีกตรงที่ คุณสามารถ ทดลองใช้ ExpressVPN ได้อย่างไม่มีความเสี่ยง เนื่องจากมันมีการรับประกันคืนเงิน หากคุณลองใช้แล้วรู้สึกว่ามันไม่ใช่ VPN สำหรับคุณ การขอคืนเงินนั้นก็เป็นเรื่องง่าย

สรุปแล้ว VPN ที่ดีที่สุดคือ...

อันดับ
ผู้ให้บริการ
คะแนนของเรา
ส่วนลด
ไปที่เว็บไซต์
1
medal
9.9 /10
9.9 คะแนนของเรา
ประหยัดถึง 49%!
2
9.7 /10
9.7 คะแนนของเรา
ประหยัดถึง 83%!
3
9.5 /10
9.5 คะแนนของเรา
ประหยัดถึง 82%!
4
9.4 /10
9.4 คะแนนของเรา
ประหยัดถึง 67%!
5
9.3 /10
9.3 คะแนนของเรา
ประหยัดถึง 81%!
พวกเราจัดอันดับผู้ให้บริการตามการทดสอบและการค้นคว้าอย่างเข้มงวด แต่ก็จะมีการคำนึงถึงความคิดเห็นของคุณและค่าคอมมิชชั่นจากผู้ให้บริการด้วย ผู้ให้บริการบางรายนั้นจะมีบริษัทแม่แห่งเดียวกันกับพวกเรา
เรียนรู้เพิ่มเติม
vpnMentor ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 2014 ในฐานะเว็บไซต์รีวิวบริการ VPN อย่างอิสระและเว็บไซต์ข่าวเกี่ยวกับเรื่องความเป็นส่วนตัว วันนี้ ทีมงานนักวิจัยความปลอดภัยทางไซเบอร์, นักเขียน และบรรณาธิการนับร้อยของพวกเราได้ช่วยผู้อ่านให้ต่อสู้เพื่ออิสรภาพทางออนไลน์ผ่านการจับมือกับ Kape Technologies PLC ซึ่งเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ดังต่อไปนี้: ExpressVPN, CyberGhost และ Private Internet Access ซึ่งอาจจะได้รับการจัดอันดับและรีวิวบนเว็บไซต์ของเราด้วย รีวิวที่ได้รับการเผยแพร่บน vpnMentor นั้นมีความแม่นยำถึงวันที่ทำการเผยแพร่ และแต่ละรีวิวก็จะถูกเขียนขึ้นโดยอ้างอิงมาตรฐานที่เข้มงวดด้านการรีวิวซึ่งจะเน้นความเป็นอิสระและการค้นคว้าวิจัยอย่างซื่อสัตย์และเป็นมืออาชีพของนักรีวิว โดยจะเน้นไปถึงความสามารถและคุณภาพของผลิตภัณฑ์รวมถึงความคุ้มค่าที่มันมีต่อผู้ใช้งาน การจัดอันดับและรีวิวที่พวกเราเผยแพร่นั้นอาจจะคำนึงถึงการเป็นเจ้าของเดียวกันที่กล่าวถึงด้านบน และค่าคอมมิชชั่นที่พวกเราได้รับในกรณีที่มีการสั่งซื้อผ่านลิงก์บนเว็บไซต์ของเราด้วย พวกเราไม่ได้ทำการรีวิวผู้ให้บริการ VPN ทั้งหมด และข้อมูลที่เผยแพร่นั้นจะมีความแม่นยำถึงวันที่เผยแพร่แต่ละบทความ

เกี่ยวกับผู้เขียน

ธนพัฒน์เป็นนักเขียนฟรีแลนซ์และเป็นผู้ที่มีความชื่นชอบด้านเทคโนโลยี เขามีความตั้งใจที่จะแบ่งปันข้อมูลเรื่องความปลอดภัยบนโลกออนไลน์ให้กับทุกคนผ่านในแต่ละบทความ