พวกเราจัดอันดับผู้ให้บริการตามการทดสอบและการค้นคว้าอย่างเข้มงวด แต่ก็จะมีการคำนึงถึงความคิดเห็นของคุณและค่าคอมมิชชั่นจากผู้ให้บริการด้วย ผู้ให้บริการบางรายนั้นจะมีบริษัทแม่แห่งเดียวกันกับพวกเรา
เรียนรู้เพิ่มเติม
vpnMentor ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 2014 ในฐานะเว็บไซต์รีวิวบริการ VPN อย่างอิสระและเว็บไซต์ข่าวเกี่ยวกับเรื่องความเป็นส่วนตัว วันนี้ ทีมงานนักวิจัยความปลอดภัยทางไซเบอร์, นักเขียน และบรรณาธิการนับร้อยของพวกเราได้ช่วยผู้อ่านให้ต่อสู้เพื่ออิสรภาพทางออนไลน์ผ่านการจับมือกับ Kape Technologies PLC ซึ่งเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ดังต่อไปนี้: ExpressVPN, CyberGhost และ Private Internet Access ซึ่งอาจจะได้รับการจัดอันดับและรีวิวบนเว็บไซต์ของเราด้วย รีวิวที่ได้รับการเผยแพร่บน vpnMentor นั้นมีความแม่นยำถึงวันที่ทำการเผยแพร่ และแต่ละรีวิวก็จะถูกเขียนขึ้นโดยอ้างอิงมาตรฐานที่เข้มงวดด้านการรีวิวซึ่งจะเน้นความเป็นอิสระและการค้นคว้าวิจัยอย่างซื่อสัตย์และเป็นมืออาชีพของนักรีวิว โดยจะเน้นไปถึงความสามารถและคุณภาพของผลิตภัณฑ์รวมถึงความคุ้มค่าที่มันมีต่อผู้ใช้งาน การจัดอันดับและรีวิวที่พวกเราเผยแพร่นั้นอาจจะคำนึงถึงการเป็นเจ้าของเดียวกันที่กล่าวถึงด้านบน และค่าคอมมิชชั่นที่พวกเราได้รับในกรณีที่มีการสั่งซื้อผ่านลิงก์บนเว็บไซต์ของเราด้วย พวกเราไม่ได้ทำการรีวิวผู้ให้บริการ VPN ทั้งหมด และข้อมูลที่เผยแพร่นั้นจะมีความแม่นยำถึงวันที่เผยแพร่แต่ละบทความ
การเปิดเผยข้อมูลการโฆษณา

vpnMentor ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 2014 ในฐานะเว็บไซต์รีวิวบริการ VPN อย่างอิสระและเว็บไซต์ข่าวเกี่ยวกับเรื่องความเป็นส่วนตัว วันนี้ ทีมงานนักวิจัยความปลอดภัยทางไซเบอร์, นักเขียน และบรรณาธิการนับร้อยของพวกเราได้ช่วยผู้อ่านให้ต่อสู้เพื่ออิสรภาพทางออนไลน์ผ่านการจับมือกับ Kape Technologies PLC ซึ่งเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ดังต่อไปนี้: ExpressVPN, CyberGhost และ Private Internet Access ซึ่งอาจจะได้รับการจัดอันดับและรีวิวบนเว็บไซต์ของเราด้วย รีวิวที่ได้รับการเผยแพร่บน vpnMentor นั้นมีความแม่นยำถึงวันที่ทำการเผยแพร่ และแต่ละรีวิวก็จะถูกเขียนขึ้นโดยอ้างอิงมาตรฐานที่เข้มงวดด้านการรีวิวซึ่งจะเน้นความเป็นอิสระและการค้นคว้าวิจัยอย่างซื่อสัตย์และเป็นมืออาชีพของนักรีวิว โดยจะเน้นไปถึงความสามารถและคุณภาพของผลิตภัณฑ์รวมถึงความคุ้มค่าที่มันมีต่อผู้ใช้งาน การจัดอันดับและรีวิวที่พวกเราเผยแพร่นั้นอาจจะคำนึงถึงการเป็นเจ้าของเดียวกันที่กล่าวถึงด้านบน และค่าคอมมิชชั่นที่พวกเราได้รับในกรณีที่มีการสั่งซื้อผ่านลิงก์บนเว็บไซต์ของเราด้วย พวกเราไม่ได้ทำการรีวิวผู้ให้บริการ VPN ทั้งหมด และข้อมูลที่เผยแพร่นั้นจะมีความแม่นยำถึงวันที่เผยแพร่แต่ละบทความ

ExpressVPN รีวิว 2024: ปลอดภัย แต่คุ้มค่าราคาแค่ไหน

คะแนนของเรา: 9.9/10
ดีที่สุดสำหรับ Torrent และสตรีมมิ่ง
มุก อัปเดตเมื่อ 14/02/2024 ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย เคท ริชาร์จส์ บรรณาธิการอาวุโส

ExpressVPN เป็นหนึ่งใน VPN ที่ให้บริการได้ปลอดภัยและเร็วที่สุด แต่ข้อเสียก็คือราคาค่าบริการ แต่บริการมักนำเสนอส่วนลดช่วยให้บริการมีราคาไม่แพง แต่มี VPN อื่น ๆ ที่ดีที่นำเสนอฟีเจอร์ความปลอดภัยที่คล้ายกันในราคาที่ถูกกว่ามาก คุณต้องจ่ายบริการราคาแพงสำหรับ VPN ที่ดีเหมือนกับ ExpressVPN หรือเปล่า

เพื่อหาคำตอบ ฉันได้ทำการทดสอบอย่างละเอียดบนเดสก์ท็อปและอุปกรณ์มือถือที่ใช้ Windows, Mac, Linux, Android และ iOS ฉันทดสอบความเร็วขณะเล่นเกม สตรีมและทอร์เรนต์ ฉันยังสำรวจฟีเจอร์ด้านความปลอดภัย ความสามารถในการปลดบล็อก ความเข้ากันได้กับอุปกรณ์ต่าง ๆ และโปรโตคอล Lightway ของบริการ เพื่อดูว่ายังคงเชื่อถือได้หรือไม่ ฉันได้ศึกษานโยบายความเป็นส่วนตัว การตรวจสอบโดยอิสระและประวัติบริษัท

ข้อสรุปของฉัน: ExpressVPN นั้นให้บริการได้ดีมาก ยากที่จะมีใครเทียบและมันคุ้มราคาอย่างแน่นอน บริการนี้เป็นหนึ่งใน VPN ที่เร็วที่สุดที่ฉันเคยทดสอบมา มันใช้งานง่ายมากและมาพร้อมกับฟีเจอร์ความปลอดภัยที่ทรงพลัง นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งใน VPN ที่ดีที่สุดที่สามารถใช้เพื่อปลดบล็อกเว็บสตรีมมิ่งได้ นอกจากนี้ยังมีการรับประกันคืนเงินด้วย ดังนั้นคุณจึงสามารถ ทดสอบฟีเจอร์ทั้งหมดของ ExpressVPN ได้โดยปราศจากความเสี่ยงคุณมีเวลา 30 วันเพื่อขอรับเงินคืนหากบริการนี้ไม่เหมาะกับคุณ

ทดลองใช้ ExpressVPN โดยไม่มีความเสี่ยงได้แล้ววันนี้

มีเวลาไม่พอใช่ไหม สาระสำคัญ

ข้อดี

ข้อเสีย

  • มีราคาค่อนข้างแพง แต่มีความคุ้มค่ามากกว่าเมื่อสมัครบริการระยะยาว ราคาจะถูกกว่ามากเมื่อคุณเลือกสมัครบริการรายปี นอกจากนี้คุณยังจะได้รับบริการฟรีอีกเป็นเวลา 3 เดือนและพื้นที่จัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ไม่จำกัดอีกเป็นเวลา 1 ปี ดูวิธีรับข้อเสนอที่น่าสนใจได้เลยที่นี่

ส่วนลด ExpressVPNมีนาคม 2024: มีเวลาจำกัด คุณสามารถรับส่วนลด ExpressVPNได้มากถึง49% ! อย่าพลาดข้อเสนอสุดพิเศษ!

ฟีเจอร์ ExpressVPN — อัปเดตเมื่อ 2024

10.0
💸 ราคา 6.67 USD/เดือน
📆 รับประกันคืนเงิน 30 วัน
📝 VPN มีการบันทึกข้อมูลการใช้งานหรือไม่ง ไม่
🖥 จำนวนเซิร์ฟเวอร์ 3000+
💻 จำนวนอุปกรณ์ที่อนุญาตให้เชื่อมต่อ 8
🛡 ปุ่มยกเลิกการเชื่อมต่อ ใช่
🗺 ในประเทศ Virgin Islands (British)
📥 สนับสนุนการทอร์เรนต์ ใช่

สตรีมมิ่ง — ปลดบล็อกมากกว่า 35 แพลตฟอร์ม รวมถึง Netflix และ Disney+

10.0

ExpressVPN นั้นเหมาะมากสำหรับใช้เข้าถึงบริการสตรีมมิ่ง อย่างเช่น Netflix, Disney+, Amazon Prime Video, BBC iPlayer, รวมถึงบริการในประเทศอย่าง ONE 31 และ Channel 7 (ดูตารางด้านล่างสำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม) หนึ่งในสาเหตุที่ ExpressVPN มีความเสถียรมาก นั่นก็เพราะว่ามันมีการเฝ้าสังเกตเซิร์ฟเวอร์ของตัวเองอยู่เป็นประจำ หากบริการสตรีมมิ่งทำการบล็อกที่อยู่ IP ของพวกเขา พวกเขาก็จะแทนที่มันในเวลาไม่นาน

ยิ่งไปกว่านั้น ทางบริษัทยังมีรายการของแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งทั้งหมดที่พวกเขารองรับ เขียนเอาไว้บนเว็บไซต์อีกด้วย เราได้ทำการทดสอบเองมาแล้วทุกแพลตฟอร์ม รวมถึงบางแพลตฟอร์มที่ไม่ได้เขียนเอาไว้ในรายการด้วย และเราก็ไม่พบเจอปัญหาใด ๆ เลย ข้อเสียเล็กน้อยของ ExpressVPN ก็คือว่ามันไม่สามารถเข้าถึง Netflix ในบางประเทศที่มีความนิยมสูงได้

ฉันทดสอบมากกว่า 30 เซิร์ฟเวอร์และสามารถปลดบล็อกแพลตฟอร์มต่อไปนี้ได้:

Netflix Hulu Disney+ BBC iPlayer HBO Max Crunchyroll
Amazon Prime Video Peacock ESPN+ Paramount+ Rai Play Globoplay
DStv ProSieben 6play ORF CBC Gem Vudu
Pluto TV Discovery+ Locast Rakuten Viki IPTV AT&T TV
NOW TV ITV Hotstar Crackle Zattoo Channel 4
Sky TV beIN Sports DAZN fuboTV Sling TV Kodi
Showtime Apple TV YouTube Spotify UKTV Crave

เคล็ดลับจากมือโปร: ถ้าคุณมีปัญหากับการเข้าถึงแพลตฟอร์ม ให้ลองเปลี่ยนเบราเซอร์ เมื่อฉันมีปัญหาในการเข้าถึง HBO Max และ Hulu ฉันได้เปลี่ยนเบราเซอร์จาก Chrome เป็น Microsoft Edge และฉันก็สามารถเข้าถึงแพลตฟอร์มได้ในทันที

สามารถปลดบล็อก: ไลบารี Netflix กว่า 20 แห่ง รวมถึงสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักรและญี่ปุ่น

ExpressVPN ช่วยให้ฉันสามารถเข้าถึง Netflix ในทั่วโลกได้และรับชมได้โดยไม่มีสะดุด เนื่องจาก Netflix พัฒนาเทคโนโลยีบล็อก VPN อยู่เสมอ แม้แต่ VPN ที่มีชื่อเสียงที่สุดบางตัวก็ยังพัฒนาตามแทบไม่ทัน ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ VPN (แม้แต่ ExpressVPN) จะเจอกับข้อผิดพลาดพร็อกซี Netflix แต่ในระหว่างการทดสอบของฉัน ฉันสามารถเข้าถึงไลบารีมากกว่า 20 แห่งได้อย่างสม่ำเสมอและแทบไม่ต้องใช้ความพยายามเลย ฉันไม่เคยพบเจอปัญหาใด ๆ

ฉันเริ่มทำการทดสอบโดยเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ในดัลลัสและฉันก็สามารถเข้าถึง Netflix ได้โดยไม่มีปัญหา ฉันไม่พบกับปัญหาในการโหลดหรือความล้าช้าแต่อย่างใด หนังที่ฉันเลือกสามารถเล่นในความคมชัดแบบ HD ได้ในตลอดเวลา

Screenshot of Netflix Player streaming Stand by Me while connected to ExpressVPNทุกวิดีโอที่ฉันดูโหลดทันที

ฉันสามารถปลดบล็อกไลบารี Netflix ได้ 20 แห่ง แม้แต่เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ไกลที่สุด ฉันก็สามาถรับชมเนื้อหาแบบ HD ได้โดยไม่สะดุด เมื่อฉันใช้เชื่อมต่อในเวมบลีย์ ฉันสามารถเข้าถึง UK Netflix ได้และประสิทธิภาพก็เหมือนกับการดู Netflix โดยไม่ต้องเชื่อมต่อ VPN แต่วิดีโอมักจะใช้เวลาในการโหลดนานขึ้นเมื่อเชื่อมต่อในเซิร์ฟเวอร์ระยะทางที่ไกลออกไป ตัวอย่างเช่น เมื่อฉันรับชม Netflix บนเซิร์ฟเวอร์ Tokyo 2 (ห่างออกไป 8,494 กม.) ฉันต้องรอประมาณ 8-10 วินาทีเพื่อโหลดวิดีโอ

นอกจากไลบารีในสหรัฐฯ แล้ว ฉันสามารถปลดบล็อก Netflix ในประเทศต่อไปนี้ได้:

สหราชอาณาจักร แคนาดา สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย ฝรั่งเศส
ชิลี ญี่ปุ่น เยอรมนี อิตาลี บราซิล
สวีเดน นิวซีแลนด์ ฮ่องกง เนเธอร์แลนด์ สวิสเซอร์แลนด์
โคลอมเบีย มาเลเซีย โรมาเนีย สเปน กรีซ

น่าเสียดายที่เซิร์ฟเวอร์เสมือนของ ExpressVPN นั้นสามารถเข้าถึงได้แต่ Netflix Originals นี่แปลว่าเซิร์ฟเวอร์เหล่านี้นั้นจริง ๆแล้วไม่ได้ช่วยให้คุณเข้าถึงเนื้อหาในภูมิภาค Netflix Originals นั้นส่วนใหญ่แล้วมีอยู่ใน Netflix ทุกประเทศอยู่แล้ว เราไม่สามารถเข้าถึงเนื้อหาเฉพาะในภูมิภาคด้วยตำแหน่งเสมือนในอาเจนติน่า ไต้หวัน อียิปต์ หรือปากีสถานได้

แม้ว่าสถานที่เสมือนจริงจะไม่สามารถแสดงเนื้อหาเพิ่มเติมแก่คุณได้ แต่ฉันสามารถเข้าถึงไลบารี Netflix ได้มากมายหลายที่ Netflix ค่อนข้างเข้มงวดกับการปิดกั้นเนื้อหาทางภูมิศาสตร์ ดังนั้น ExpressVPN จึงสามารถปลดบล็อกเนื้อหาในหลายภูมิภาคได้อย่างน่าประทับใจ

เคล็ดลับสำหรับมือโปร: หากคุณเคยพบข้อความผิดพลาดของพร็อกซี Netflix มีบางสิ่งที่คุณสามารถทำได้ อย่างแรก ให้ลองเปลี่ยนเบราว์เซอร์ การล้างแคชและคุกกี้ของเบราว์เซอร์ก็สามารถแก้ไขปัญหาได้เช่นกัน สุดท้ายนี้ คุณสามารถลองเปลี่ยนเป็นเซิร์ฟเวอร์อื่นในภูมิภาคได้หากมีให้บริการ หากคุณยังคงพบหน้าจอแสดง คุณสามารถติดต่อฝ่ายสนับสนุนด้วยไลฟ์แชทสดของ ExpressVPN ได้ตลอด 24/7 และพวกเขาจะแนะนำเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้งานได้กับไลบรารีที่คุณต้องการได้

การปลดบล็อก: Disney+

ฉันสามารถสตรีม Disney+ ได้ในคุณภาพสูงและ ExpressVPN ก็สามารถเข้าถึงแพลตฟอร์มและช่วยให้ฉันสามารถรับชม Eternals ได้โดยไม่มีสะดุดในทั้ง 10 ที่ฉันทดสอบ

Screenshot of Disney+ player streaming Eternals while connected to ExpressVPNฉันเลิกบล็อก Disney+ กับเซิร์ฟเวอร์ในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร แคนาดา และอิตาลี

ฉันได้ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์แบบเมื่อทดสอบเซิร์ฟเวอร์ในสหรัฐฯ .. นอกจากนี้ ฉันยังสามารถรับชม Disney+ จากเซิร์ฟเวอร์ในออสเตรเลีย แคนาดา อิตาลีและสหราชอาณาจักรได้อีกด้วย ฉันสามารถรับชมได้โดยไม่มีการสะดุดในแต่ละเซิร์ฟเวอร์ ข้อแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือเซิร์ฟเวอร์ของแคนาดาใช้เวลาประมาณ 2-3 วินาทีในการโหลดวิดีโอ

การปลดบล็อก Amazon Prime Video

ฉันมีปัญหาเล็กน้อยในการเข้าถึง Amazon Prime Video แต่ส่วนใหญ่แล้วก็สามารถใช้บริการได้ดีตามปกติ Amazon Prime Video มีให้บริการทั่วโลก และฉันใช้เซิร์ฟเวอร์ในสหรัฐอเมริกา เยอรมนีและแคนาดาเพื่อปลดบล็อกบริการ รายการและภาพยนตร์สามารถเล่นในรูปแบบ HD ได้ทันทีโดยไม่มีการสะดุด

Screenshot of Amazon Prime Video player streaming No Time to Die while connected to ExpressVPNฉันสามารถปลดบล็อก Amazon Prime Video กับเซิร์ฟเวอร์ในเยอรมนี แคนาดาและสหรัฐอเมริกาได้

ฉันพบปัญหาหนึ่งเมื่อฉันใช้เซิร์ฟเวอร์ Docklands ในสหราชอาณาจักร มันใช้งานไม่ได้ แม้ว่าฉันจะทำตามขั้นตอนการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นด้วยการเปลี่ยนเบราว์เซอร์ ลบแคชและเปลี่ยนไปใช้เซิร์ฟเวอร์อื่น ๆ ในสหราชอาณาจักร เซิร์ฟเวอร์ในลอนดอนแสดงหน้าจอแสดงข้อผิดพลาด ดังนั้นฉันจึงติดต่อฝ่ายสนับสนุน

Prime Video อาจไม่ทำงานเมื่อที่อยู่สำหรับการชำระเงินของคุณไม่ตรงกับหมายเลข IP

สมาชิกทีมสนับสนุนของ ExpressVPN บอกฉันว่า Amazon Prime Video เห็นที่อยู่สำหรับการเรียกเก็บเงินของฉันแล้ว มันอยู่ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งไม่ตรงกับภูมิภาคของ VPN ดังนั้นฉันจึงไม่สามารถเข้าถึงได้ มันเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ แต่บริการก็ยังใช้ได้ในสหรัฐอเมริกา แคนาดาและเยอรมนี คุณจึงยังคงรับชม APV ได้ในหลายภูมิภาค

การปลดบล็อก: Hulu

ฉันสามารถปลดบล็อก Hulu และดูรายการและภาพยนตร์ในรูปแบบ HD ได้ด้วยการโหลดที่รวดเร็วมาก ปกติแล้วฉันปลดบล็อก Hulu ด้วย VPN อื่นอย่างยากลำบาก แต่ฉันสามารถใช้ 7 เซิร์ฟเวอร์ของ ExpressVPN เข้าถึงบริการได้อย่างง่ายดาย

Screenshot of Hulu player streaming Fullmetal Alchemist Brotherhood while connected to ExpressVPNลองเปลี่ยนเบราว์เซอร์หากไม่สามารถเข้าถึง Hulu ได้

หนังเรื่อง Fullmetal Alchemist: Brotherhood เริ่มสตรีมในความคมชัดแบบ HD ได้ใน 2 วินาทีหลังจากที่ฉันกดเล่น ฉันสามารถรับชมได้โดยไม่มีสะดุด

การปลดบล็อก: HBO Max

ฉันปลดบล็อก HBO Max และรับชมรายการต่าง ๆ บนแพลตฟอร์มโดยไม่มีปัญหาใด ๆ Game of Thrones เป็นหนึ่งในรายการโปรดของฉัน ดังนั้นฉันจึงมีความสุขที่ ExpressVPN ช่วยให้ฉันสามารถเข้าถึงได้

Screenshot of HBO Max player streaming Game of Thrones while connected to ExpressVPNทุกวิดีโอที่ฉันดูบนแพลตฟอร์มสามารถเล่นได้โดยไม่สะดุด

HBO Max ใช้งานได้ดี วิดีโอสามารถเล่นได้ทันทีและไม่เคยสะดุดเลย ฉันทดสอบเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมดในอเมริกาที่ ExpressVPN นำเสนอ ตั้งแต่ซานต้าโมนิก้าไปจนถึงนิวยอร์คซิตี้และเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมดในอเมริกาช่วยให้ฉันสามารถเข้าถึงแพลตฟอร์มได้อย่างง่ายดาย

ปลดบล็อก: BBC iPlayer

ตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ในสหราชอาณาจักรทั้ง 4 แห่งของ ExpressVPN ให้ฉันสามารถรับ BBC iPlayer ได้ทั้งหมด ฉันรู้สึกโล่งใจเพราะบริการเคยมีปัญหาในการปลดบล็อกแพลตฟอร์มในอดีต

Screenshot of BBC iPlayer streaming Fern Brady: Power & Chaos unblocked by ExpressVPNคุณจะสามารถสตรีมวิดีโอได้โดยไม่มีปัญหา

ฉันประทับใจสิ่งนี้เพราะ VPN จำนวนมากมุ่งเน้นไปที่การให้ริการเซิร์ฟเวอร์ในอเมริกามากกว่าในสหราชอาณาจักร (เนื้อหาจากทางฝั่งอเมริกามักจะเป็นที่นิยมมากที่สุด) ทำให้การหา VPN ที่สามารถเข้าถึง BBC iPlayer ได้อย่างน่าเชื่อถือนั้นทำได้ยาก

หากคุณประสบปัญหา คุณสามารถลองเปลี่ยนไปใช้เซิร์ฟเวอร์อื่น ๆ ในสหราชอาณาจักรได้ เคล็ดลับอีกอย่างหนึ่งก็คือการเปลี่ยนโปรโตคอล ฟีเจอร์ MediaStreamer Smart DNS เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่สามารถช่วยแก้ปัญหาข้อผิดพลาดได้

ปลดบล็อค: Kodi

ฉันสามารถสตรีมบน Kodi ได้เมื่อเชื่อมต่อกับ ExpressVPN ฉันไม่มีปัญหาการสะดุดหรือปัญหาด้านเสียง/ภาพเลยแม้แต่ครั้งเดียว Kodi เป็นซอฟต์แวร์แบบโอเพ่นซอร์สที่คุณสามารถใช้เพื่อเข้าถึงบริการสตรีมมิ่ง P2P ได้ ฉันดาวน์โหลดโปรแกรมเสริม PopcornFlix ผ่าน Kodi เพื่อชมภาพยนตร์เรื่อง The Wasp Woman จากเว็บที่ไม่มีลิขสิทธิ์

อย่าลืมศึกษากฎหมายท้องถิ่นของคุณให้ดี เนื่องจากบางไซต์ที่ Kodi เชื่อมต่อนั้นอาจมีเนื้อหาที่มีลิขสิทธิ์

การใช้ Kodi ในการสตรีมภาพยนตร์หรือวิดีโอปลอดลิขสิทธิ์นั้นเป็นเรื่องถูกกฎหมาย อย่างไรก็ตาม แพลตฟอร์มอย่าง PopcornFlix โฮสต์เนื้อหาที่มีลิขสิทธิ์และคุณอาจประสบปัญหาทางกฎหมายหากคุณรับชม ฉันและทีมงานไม่สนับสนุนให้ทำกิจกรรมที่ผิดกฎหมายใด ๆ แต่ฉันได้ทำการทดสอบกับบริการ Kodi เพื่อให้ผู้ที่ใช้ Kodi อย่างมีความรับผิดชอบรู้ว่าพวกเขาสามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัย

นอกจากนี้ยังสามารถเข้าถึง: Crunchyroll, Peacock, ESPN+ และอีกบริการอื่น ๆ อีกมากมาย

ExpressVPN สามารถปลดบล็อกทุกแพลตฟอร์มที่ฉันทดลองใช้งานได้ รวมถึง Crunchyroll, Peacock, ESPN+ และบริการอื่น ๆ อีกมากมาย

ใน Peacock วิดีโอใช้เวลาประมาณ 10 วินาทีในการโหลดและมันเริ่มต้นด้วยคุณภาพที่ไม่ดีนัก จากนั้นก็เปลี่ยนเป็น HD ใน 2 วินาที ฉันสามารถรับชมถ่ายทอดสดบาสเก็ตบอลบน ESPN+ ได้อย่างดีเยี่ยม เกมโหลดทันทีและเล่นย้อนหลังได้โดยไม่มีข้อผิดพลาด How Not to Summon a Demon Lord สามารถเล่นได้อย่างสมบูรณ์แบบบน Crunchyroll เช่นกัน

โดยรวมแล้ว ExpressVPN เป็น VPN ที่ยอดเยี่ยมสำหรับการสตรีม ฉันสามารถเข้าถึงทุกแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งที่ฉันทดสอบได้และวิดีโอก็เล่นได้อย่างสมบูรณ์แบบโดยมีข้อยกเว้นเพียงเล็กน้อย

นอกจากการสตรีมแล้ว ExpressVPN ยังใช้งานได้กับเว็บไซต์และแอปโซเชียลมีเดียยอดนิยมมากมายที่ถูกปิดกั้นในบางประเทศ หากคุณเดินทางไปต่างประเทศและไม่สามารถเข้าถึงบัญชีโซเชียลมีเดีย คุณสามารถใช้ ExpressVPN เพื่อปลดบล็อก Facebook, Instagram, Google (และบริการของ Google เช่น Gmail), Twitter, YouTube, Whatsapp, Snapchat, Tinder และอื่น ๆ ได้

ส่วนลด 49%

ประหยัด 49% กับ ExpressVPN เลยตอนนี้!

การันตีการคืนเงิน: 30 วัน

จ่ายน้อยลงสำหรับแผนบริการ ExpressVPN เลยวันนี้!

เครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ — มีเซิร์ฟเวอร์จำนวนมากที่กระจายอยู่ในทั่วโลก

9.6

เครือข่ายเซิร์ฟเวอร์อันกว้างขวางของ ExpressVPN นั้นมีมากถึง 3,000 เซิร์ฟเวอร์ใน 105 ประเทศ (รวมถึงประเทศไทย) นี่ทำให้คุณสามารถเข้าถึงการเชื่อมต่อที่มีความรวดเร็วและความเสถียรได้อย่างง่ายดาย หากทราฟฟิคผู้ใช้งานสูง มันก็จะส่งผลให้ความเร็วตกได้ ยิ่งไปกว่านั้น ระยะทางระหว่างคุณและเซิร์ฟเวอร์นั้นก็สามารถส่งผลต่อความเร็วที่ตกลงได้เช่นกัน เนื่องจากจำนวนเซิร์ฟเวอร์มากมายที่มีอยู่ ทำให้คุณสามารถค้นหาเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ใกล้เคียงและมีความเร็วสูงได้อย่างง่ายดาย เนื่องจากไม่มีคนแย่งกันใช้

สหรัฐอเมริกาและยุโรปมีเซิร์ฟเวอร์มากที่สุด

ExpressVPN ไม่เพียงแต่มีความครอบคลุมทั่วโลก แต่ยังมีหลายเซิร์ฟเวอร์ภายในประเทศด้วย ตัวอย่างเช่นเซิร์ฟเวอร์บนสองชายฝั่งของออสเตรเลีย นอกจากนี้ยังมีเซิร์ฟเวอร์ในหลายประเทศที่ VPN อื่นๆ มักจะไม่มีให้บริการ รวมถึงฮ่องกง, ไต้หวัน, มาเก๊า, เวเนซุเอลา, แอลจีเรีย และตุรกี แต่ว่าตำแหน่งที่เหล่านี้คือตำแหน่งที่เสมือนเท่านั้นและมันอาจส่งผลต่อความเร็ว ยุโรปตะวันตกและอเมริกาเหนือมีเซิร์ฟเวอร์ที่ครอบคลุมมากที่สุด โดยกระจายเซิร์ฟเวอร์อย่างเท่าเทียมกันในแต่ละแห่ง

เซิร์ฟเวอร์ระดับเมืองทำให้คุณปรับแต่งความเร็วได้ง่ายยิ่งขึ้น นั่นก็เพราะว่าพวกเขาจะบอกให้คุณรู้ว่าเซิร์ฟเวอร์ตั้งอยู่ในเมืองไหน คุณจึงสามารถค้นหาที่อยู่ใกล้คุณได้ง่ายยิ่งขึ้น แต่ถ้าเป็นเซิร์ฟเวอร์ระดับประเทศอย่างในเม็กซิโก มันก็อาจจะอยู่ตรงไหนก็ได้ในระยะ 10,000 กม. ExpressVPN นั้นมีเซิร์ฟเวอร์ระดับเมืองอยู่ใน 16 ประเทศ ประกอบไปด้วยสหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา และบราซิล

เซิร์ฟเวอร์ทั้งหมดของ ExpressVPN นั้นผ่านการทำ obfuscation อัตโนมัติทั้งหมด VPN บางรายทำให้คุณต้องใช้เซิร์ฟเวอร์อื่น ๆ หรือใช้โปรโตคอลพิเศษเพื่อให้ใช้ VPN บนเครือข่ายที่บล็อกพวกเขาได้ เราดีใจมากที่ใช้ ExpressVPN แล้วไม่ต้องยุ่งเรื่องอะไรแบบนั้นเลย ถ้ามันมีระบุในหน้าเว็บสักหน่อยก็คงจะดี แต่ว่าตัวแทนบริการลูกค้าได้ยืนยันแล้วว่ามันจะเปิดใช้งาน obfuscation(หรือเทคโนโลยี stealth) อัตโนมัติ ตอนที่มันตรวจพบ deep packet inspection บนเครือข่าย

แม้ว่าหมายเลข IP จะเป็นของ ExpressVPN เองทั้งหมด แต่พวกเขาก็มีศูนย์ข้อมูลร่วมกับบุคคลที่สาม บุคคลที่สามทำหน้าที่เพียงการดูแลเซิร์ฟเวอร์ แต่พวกเขาไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลในเซิร์ฟเวอร์ได้ หลังจากติดต่อ ExpressVPN แล้ว ฉันได้รับแจ้งว่าผู้ให้บริการของพวกเขาสามารถดูการรับส่งข้อมูลเข้าและออกจากเซิร์ฟเวอร์ได้ แต่ในเมื่อไม่มีข้อมูลผู้ให้แสดงพวกเขาก็ไม่สามารถระบุกิจกรรมออนไลน์ใด ๆ กับผู้ใช้แต่ละรายได้ ดังนั้นแม้ว่าจะให้บริการร่วมกับบุคคลที่สามเพื่อดูแลเซิร์ฟเวอร์ แต่ก็ไม่กระทบต่อความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้

Smart Location

Smart Location นั้นใช้งานได้สะดวก แต่ฉันสามารถค้นหาเซิร์ฟเวอร์ที่เร็วกว่าได้ด้วยตัวเอง ฟีเจอร์นี้จะเลือกเซิร์ฟเวอร์ที่เหมาะสมให้กับคุณตามระยะทาง, ความหน่วงและความเร็ว แม้ว่าจะช่วยคุณประหยัดเวลาได้ แต่คุณสามารถค้นหาเซิร์ฟเวอร์ที่เร็วกว่าได้ด้วยตัวเองอย่างแน่นอน ตัวอย่างเช่น Smart Location เชื่อมต่อฉันกับเซิร์ฟเวอร์ในซานฟรานซิสโก แต่เมื่อฉันลองใช้เซิร์ฟเวอร์ในลอนดอนตะวันออก ความเร็วของฉันเร็วขึ้น 31 Mbps

Screenshot of ExpressVPN app showing where to find Smart Location and server listจุด 3 จุดข้าง ๆ Smart Location จะแสดงรายการเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมด

ฟีเจอร์นี้มีประโยชน์เมื่อคุณอยู่ในประเทศที่มีข้อจำกัดเกี่ยวกับ VPN ตัวอย่างเช่น การใช้ตำแหน่งอัจฉริยะในจีนจะช่วยให้คุณประหยัดเวลาได้มาก แทนที่จะค้นหาผ่านเซิร์ฟเวอร์ในประเทศใกล้เคียงด้วยตัวเอง คุณสามารถพึ่งพาอัลกอริทึมของ ExpressVPN เพื่อทำการค้นหาให้กับคุณได้

เทคโนโลยี TrustedServer

ExpressVPN เพิ่มความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของคุณด้วยการใช้เซิร์ฟเวอร์บน RAM เท่านั้น พวกเขาเรียกสิ่งนี้ว่าเทคโนโลยี TrustedServer RAM ไม่สามารถจัดเก็บข้อมูลใด ๆ ได้ เมื่อคุณปิดและเปิดการใช้งานอีกครั้ง ข้อมูลจากเซสชั่นก่อนหน้าที่คุณใช้งานนั้นจะถูกลบทิ้ง ที่จริงแล้วพวกเขาลบทุกอย่างทิ้ง ระบบปฏิบัติการจะโหลดใหม่ทุกครั้งเมื่อมีการรีบูท เพิ่มความปลอดภัยของเทคโนโลยีด้วยวิธีต่อไปนี้:

  • ไม่มีข้อมูลใดของคุณถูกเก็บไว้ในฮาร์ดไดรฟ์
  • ข้อมูลจะถูกเก็บไว้ในช่วงเวลาที่สั้นลง
  • ซอฟต์แวร์จะถูกติดตั้งใหม่ทุกครั้งที่เซิร์ฟเวอร์รีบูต ดังนั้นซอฟต์แวร์ทั้งหมดจึงได้รับการอัปเดตด้วยแพตช์ความปลอดภัยล่าสุด
  • นอกจากนี้ยังช่วยให้มั่นใจว่าซอฟต์แวร์มีความสอดคล้องกันในทุกเซิร์ฟเวอร์ ในบางบริการ VPN ซอฟต์แวร์อาจแตกต่างกันไปตามเซิร์ฟเวอร์ ทำให้บางบริการมีช่องโหว่มากขึ้น

VPN ส่วนใหญ่เก็บข้อมูลไว้ในฮาร์ดไดรฟ์ ซึ่งมีความปลอดภัยน้อยกว่า เนื่องจากฮาร์ดไดรฟ์เก็บข้อมูลไว้จนกว่าจะถูกลบ เซิร์ฟเวอร์ของ ExpressVPN จะรีบูตทุก 1-2 สัปดาห์ เนื่องจากเซิร์ฟเวอร์เหล่านี้จะไม่จัดเก็บข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของคุณ ข้อมูลคุณจะปลอดภัยไม่ว่าจะรีบูตบ่อยเพียงใด อย่างไรก็ตาม พวกเขาทำการรีบูทอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาใช้เทคโนโลยีที่มีการอัปเดตล่าสุดอยู่เสมอ

ExpressVPN นั้นพร้อมที่จะมอบเงินรางวัลการตามล่าบัคถึง $100,000 สำหรับใครก็ตามที่ค้นพบช่องโหว่ในเซิร์ฟเวอร์ของพวกเขา นี่เป็นเงินรางวัลที่สูงที่สุดที่บริษัทไหน ๆ เคยประกาศเอาไว้บน Bugcrowd (เว็บไซต์สำหรับการประกาศเงินรางวัลการตามล่าบัค) เลยทีเดียว ExpressVPN มั่นใจว่าจะไม่มีใครสามารถเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ของพวกเขาได้โดยไม่ได้รับอนุญาต หรือจะมีใครค้นพบการรั่วไหลใด ๆ ดังนั้น นี่ก็เป็นการแสดงให้เราเห็นได้ว่า พวกเขามีความมั่นใจในความปลอดภัยของเซิร์ฟเวอร์เป็นอย่างสูง

ExpressVPN ใช้ตำแหน่งเสมือนหรือไม่ ใช่

เซิร์ฟเวอร์ของ ExpressVPN น้อยกว่า 3% เป็นตำแหน่งเสมือน ซึ่งหมายความว่าเซิร์ฟเวอร์จริงนั้นตั้งอยู่ที่อื่น หมายเลข IP ใหม่ของคุณอยู่ภายในประเทศเป้าหมาย แต่เซิร์ฟเวอร์จริงตั้งอยู่ในตำแหน่งใกล้เคียง เว็บไซต์ ExpressVPN แสดงรายการตำแหน่งเสมือนของทั้งหมดเอาไว้

นอกจากนี้ยังมีรายการที่ตั้งของเซิร์ฟเวอร์จริงอีกด้วย

เซิร์ฟเวอร์เสมือนช่วยให้ ExpressVPN แสดงหมายเลข IP ให้เหมือนกับว่าคุณใช้งานจากประเทศที่มีการจำกัดอินเทอร์เน็ตที่เข้มงวด การค้นหาตำแหน่งที่ปลอดภัยเพื่อตั้งศูนย์ข้อมูลในประเทศที่ห้ามหรือจำกัด VPN อาจเป็นเรื่องยาก การไม่มีเซิร์ฟเวอร์จริงในประเทศต่าง ๆ เช่น ซาอุดีอาระเบีย จีน และรัสเซีย ทำให้ ExpressVPN อยู่นอกเขตอำนาจของประเทศเหล่านั้น

ExpressVPN ถอดเซิร์ฟเวอร์จริงออกจากอินเดียในปี 2022 และนำเสนอเพียงเซิร์ฟเวอร์เสมือนเท่านั้น เนื่องจากรัฐบาลของประเทศได้ผ่านกฎหมายใหม่ที่กำหนดให้ VPN ต้องบันทึกข้อมูลส่วนบุคคล เช่น หมายเลขโทรศัพท์และตำแหน่งจริงของลูกค้า การนำเซิร์ฟเวอร์จริงออกหมายความว่า ExpressVPN ไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎหมายเหล่านี้และสามารถรักษาความเป็นส่วนตัวทางของคุณต่อไปได้

และมันยังสามารถให้ความเร็วที่ดีขึ้นและการเชื่อมต่อที่เชื่อถือได้มากขึ้นอีกด้วย ในประเทศที่มีความเร็วอินเทอร์เน็ตที่ไม่มากหรือไม่เสถียร VPN สามารถเพิ่มสิ่งเหล่านี้ได้ เนื่องจากเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตในประเทศที่มีโครงสร้างพื้นฐานที่ดีกว่า

ข้อเสียคือตำแหน่งเหล่านี้ไม่สามารถปลดบล็อกเว็บสตรีมมิ่งได้ดีเท่าไหร่นัก ยิ่งไปกว่านั้นในบางครั้งมันก็สามารถลดความเร็วของคุณได้ หากตำแหน่งจริงของเซิร์ฟเวอร์อยู่ไกลกว่าตำแหน่งเสมือน น่าเสียดายที่เซิร์ฟเวอร์เสมือนในอินเดียก็ยังไม่สามารถเข้าถึง Netflix อินเดียและ Hotstar ได้ แต่โดยรวมแล้ว ExpressVPN มีเซิร์ฟเวอร์ที่ครอบคลุมในทั่วโลกมากกว่า VPN ชั้นนำอื่น ๆ

ExpressVPN นำเสนอหมายเลข IP แบบคงที่/เฉพาะหรือไม่ ไม่

ExpressVPN ไม่มีที่หมายเลข IP เฉพาะผู้ใช้ทุกคนใช้เซิร์ฟเวอร์เดียวกันทั้งหมด

มีแค่บาง VPN ที่ให้คุณซื้อบริการหมายเลข IP เฉพาะ สิ่งนี้มีประโยชน์สำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานเว็บไซต์และต้องการหมายเลข IP เดียว เพื่อให้สามารถค้นหาได้ง่าย นอกจากนี้ยังมีบริการออนไลน์บางอย่าง เช่น การซื้อขายหุ้น ที่อาจห้ามไม่ให้คุณฃเข้าสู่ระบบจากหลาย IP

อย่างไรก็ตาม IP เฉพาะนั้นไม่ปลอดภัยเท่ากับ IP ที่ใช้ร่วมกัน ดังนั้นฉันขอแนะนำให้หลีกเลี่ยงบริการนี้ ExpressVPN รวมหมายเลข IP ของคุณเข้ากับข้อมูลการใช้งานของผู้ใช้รายอื่น ทำให้การติดตามข้อมูลและกิจกรรมของคุณทำได้ยากขึ้นมาก เซิร์ฟเวอร์ทั้งหมดของ ExpressVPN ถูกแสดงเอาไว้เป็นตำแหน่งเดียว แต่ว่ามีหมายเลข IP ที่หลากหลายสำหรับแต่ละเซิร์ฟเวอร์ ทุกครั้งที่คุณเชื่อมต่อใหม่ คุณจะสุ่มเลือกหมายเลข IP ใหม่ เนื่องจากมีการหมุนเวียนใช้หมายเลข IP เป็นประจำ

การเวียนหมายเลข IP จะเพิ่มความปลอดภัยและการสตรีมให้กับ ExpressVPN แม้ว่าหมายเลข IP แบบคงที่จะมีจุดประสงค์ของมันอยู่ แต่หมายเลข IP แบบหมุนเวียนเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการใช้งานอินเตอร์เน็ตอย่างปลอดภัย

ความเร็ว — ความเร็วสูงในทั้งเซิร์ฟเวอร์ในพื้นที่และเซิร์ฟเวอร์ระยะไกล

10.0

ExpressVPN มอบความเร็วที่เหนือบริการ VPN ใด ๆ ที่ฉันเคยทดสอบ ฉันยังประทับใจกับความเร็วที่สม่ำเสมอบนเซิร์ฟเวอร์ในทั้งตำแหน่งใกล้เคียงและเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ทางไกล ฉันไม่การสะดุดในขณะสตรีมเมื่อเชื่อมต่อกับตำแหน่งใด ๆ วิดีโอของฉันใช้เวลาโหลดนานขึ้นบนในบางเซิร์ฟเวอร์ แต่ฉันไม่เคยพบว่าคุณภาพวิดีโอนั้นลดลงหรือมีการสะดุดเลย

การทดสอบทั้งหมดของฉันดำเนินการบนแล็ปท็อป Microsoft Surface ที่ใช้ Windows 10 ฉันบันทึกข้อมูลด้วยเครื่องมือทดสอบความเร็วของ Ookla แม้ว่าโปรโตคอลความปลอดภัยทั้งหมดจะให้การเชื่อมต่อที่รวดเร็ว แต่ฉันก็ยังเลือกใช้ Lightway TCP เพื่อให้แน่ใจว่าผลลัพธ์ของฉันจะสม่ำเสมอ

นี่คือ 3 สิ่งที่ฉันเน้นในระหว่างการทดสอบเปรียบเทียบความเร็วของเซิร์ฟเวอร์:

  • Ping คือระยะเวลาที่ใช้ข้อมูลในการเดินทาง นี่เป็นสิ่งสำคัญเมื่อคุณกำลังเล่นเกม ยิ่งค่า ping ต่ำเท่าไหร่ คุณก็จะได้รับอินพุตเร็วขึ้นเท่านั้น มีหน่วยวัดเป็นมิลลิวินาที (ms)
  • ความเร็วในการดาวน์โหลด คือความเร็วในการรับข้อมูล สิ่งนี้ส่งผลต่อประสิทธิภาพของคอมพิวเตอร์ของคุณในขณะสตรีมวิดีโอ โหลดหน้าเว็บ ดาวน์โหลด ฯลฯ มีหน่วยวัดเป็นเมกะบิตต่อวินาที (Mbps)
  • ความเร็วในการอัปโหลด คือความเร็วที่คุณสามารถส่งข้อมูลได้ ข้อมูลนี้จะบอกคุณว่าคุณสามารถอัปโหลดวิดีโอ โพสต์ไปยังโซเชียลมีเดีย แชร์ไฟล์ได้เร็วเพียงใด ฯลฯ นอกจากนี้ยังวัดเป็น Mbps เครือข่ายภายในบ้านส่วนใหญ่นั้นจะมีความเร็วในการอัปโหลดจะช้ากว่าความเร็วในการดาวน์โหลด การเชื่อมต่อของคุณได้รับการตั้งค่าแบบนี้ เนื่องจากคนส่วนใหญ่ใช้เวลาในการดาวน์โหลด (รับข้อมูล) มากกว่าการอัปโหลด (ส่งข้อมูล) มาก

ExpressVPN นั้นมีความเร็วสูง ฉันทดสอบเซิร์ฟเวอร์ในมากกว่า 30 ตำแหน่งและไม่เคยเจอความเร็วที่ต่ำกว่า 362 Mbpsหรือพูดง่ายๆ ว่าความเร็วของฉันไม่เคยลดลงเกิน 21.5% ฉันเคยเห็นความเร็วลดลงประมาณ 35% บนบางเซิร์ฟเวอร์และสูงถึง 75% ในเซิร์ฟเวอร์ระยะไกลด้วย VPN อย่าง CyberGhost และ Private Internet Access ความเร็วที่ลดลงในบางครั้งถือเป็นเรื่องปกติสำหรับ VPN ส่วนใหญ่ นั่นคือเหตุผลที่ทำให้ ExpressVPN โดดเด่น

ในเดือนมิถุนายนปี 2022 ExpressVPN ได้อัปเกรดแบนด์วิดท์ของเซิร์ฟเวอร์จาก 1Gbps เป็น 10Gbps ซึ่งทำให้เกิดปัญหาแออัดในเซิร์ฟเวอร์น้อยลง เซิร์ฟเวอร์ในกว่า 20 ตำแหน่งใช้เซิร์ฟเวอร์ 10Gbps ซึ่งรวมถึงทุกแห่งในอเมริกาและอังกฤษ มันอาจไม่ได้ส่งผลต่อความเร็วในการเชื่อมต่อ แต่การชะลอตัวที่เกิดจากความแออัดในเซิร์ฟเวอร์จะน้อยลง

เซิร์ฟเวอร์ในพื้นที่ลดความเร็วในการดาวน์โหลดของฉันลงเพียง 1.5% ในขณะที่เซิร์ฟเวอร์ทางไกลจะสูญเสียความเร็วเฉลี่ยเพียง 10%

ExpressVPN มีระบบวัดความเร็วแบบบิ้วท์อิน ซึ่งก็มีประโยชน์ถึงแม้ว่าจะไม่แม่นยำ 100% มันมีไว้แสดงถึงความแตกต่างของ ping (แสดงเป็น latency) ความเร็วในการดาวน์โหลดและอัปโหลดระหว่างแต่ละเซิร์ฟเวอร์ เซิร์ฟเวอร์จะได้รับการจัดเรียงใหม่ตามความเร็วในการดาวน์โหลดและ ping นี่จะช่วยให้คุณเลือกใช้เซิร์ฟเวอร์ที่เหมาะที่สุดสำหรับความต้องการของคุณได้ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกม torrent หรือสตรีมมิ่งก็ตาม

ข้อมูลมันก็เกือบจะใกล้เคียงกับการทดสอบของฉัน แต่บางครั้งก็ได้ค่าที่ต่างกันออกไป ยกตัวอย่างเช่น มันจะแจ้งว่าเซิร์ฟเวอร์ที่ลอสแอนเจลิสนั้นเร็วกว่าที่ซานฟรานซิสโกอยู่ 33% อย่างที่คุณเห็นตามกราฟข้างบนว่า ซานฟรานซิสโกนั้นเร็วกว่าเล็กน้อย อย่างไรก็ตามหากคุณต้องการเลือกดูอย่างเร็ว ๆ ว่าเซิร์ฟเวอร์ไหนในพื้นที่ของคุณที่มีความเร็วสูงหรือมี ping ต่ำ มันก็ถือว่าเป็นเครื่องมือที่ดีมีประโยชน์

เป็นเรื่องปกติที่ VPN จะทำให้ความเร็วคุณช้าลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระยะไกล ดังนั้นฉันจึงรู้สึกประทับใจที่เมื่อเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ห่างไกล 2 แห่ง ความเร็วของฉันก็เพิ่มขึ้นจริง ๆ ตำแหน่งในลอนดอนตะวันมีความเร็วมากกว่าความเร็วในการดาวน์โหลดปกติของฉันที่ 5% หรือ 461 Mbps ซึ่งน่าจะเกิดจากความผันผวนของความเร็วพื้นฐานของฉันในขณะที่ทำการทดสอบ โดยรวมแล้วความเร็วของฉันลดลงเล็กน้อยเมื่อเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์อยู่ห่างออกไป แต่การชะลอตัวนั้นน้อยมากจนแทบไม่สังเกตุเห็น

ในการทดสอบครั้งแรก ฉันใช้ Smart Location เพื่อเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ San Francisco ฉันเปรียบเทียบข้อมูลนี้กับผลลัพธ์เมื่อไม่ได้เชื่อมต่อ VPN

ไม่เชื่อมต่อ VPN
(Fresno)
เชื่อมต่อ VPN
(San Francisco)
ความเร็วลดลง
เชื่อมต่อ VPN
ดาวน์โหลด 461.38 455.17 ช้าลง 1.2%
อัพโหลด 42.03 42.05 ไม่มี
Ping 16 21

VPN แทบไม่ส่งผลต่อความเร็วของฉันเลย ค่า ping สูงกว่า 2-3 ms แต่มันน้อยมากจนคุณไม่สามารถสังเกตุเห็นความแตกต่างได้

ความเร็วเซิร์ฟเวอร์ท้องถิ่น

โดยเฉลี่ยแล้ว เซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ห่างออกไป 4,000 กม. หรือน้อยกว่านั้นทำให้ความเร็วของฉันลดลงเพียง 1.5%! ฉันรู้สึกทึ่งกับความเร็วในการเชื่อมต่อฉัน เนื่องจาก VPN ต้องเปลี่ยนเส้นทางและเข้ารหัสการรับส่งข้อมูลของคุณ ทำให้ลดความเร็วการเชื่อมต่อของคุณลงมาก หลังจากการทดสอบ Smart Location ในซานฟรานซิสโก ฉันได้เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ในลอสแองเจลิส 3 ตำแหน่ง

Los Angeles 3:

Ping (ms) 26 (ช้าลง 10 ms)
ดาวน์โหลด (Mbps): 441.19 (ลดลง 4%)
อัพโหลด (Mbps): 42.03 (ลดลง 0%)

ลอสแองเจลิสอยู่ห่างจากซานฟรานซิสโก 110 กม. และช้ากว่าปกติประมาณ 3% ค่าปิงยังสูงกว่า 5 ms ต่อมาฉันได้ทดสอบเซิร์ฟเวอร์ในดัลลัสซึ่งอยู่ห่างจากฉัน 2,547 กม.

ดัลลัส:

Ping (ms) 56 (ช้าลง 40 ms)
ดาวน์โหลด (Mbps): 443.14 (ลดลง 4%)
อัพโหลด (Mbps): 41.97 (ลดลง 0.1%)

มันเร็วกว่าเซิร์ฟเวอร์ลอสแองเจลิสเล็กน้อย ความเร็วของ ExpressVPN นั้นสม่ำเสมอในระยะทางไกล แต่บางครั้งแม้แต่ตำแหน่งที่ใกล้ที่สุดก็อาจจะใช่ตำแหนางที่เร็วที่สุด แต่น่าเสียดายที่คุณไม่สามารถดูได้ว่าแต่ละเซิร์ฟเวอร์มีการใช้งานมากแค่ไหนในแอปพลิเคชั่น ฉันคิดว่าดัลลัสนั้นอาจมีผู้ใช้เชื่อมต่อน้อยกว่าในตอนนี้ มันเลยทำให้เร็วกว่า

ฉันไม่สังเกตเห็นความแตกต่างของประสิทธิภาพในแต่เซิร์ฟเวอร์ที่ฉันทดสอบ การเล่นเกมและการสตรีมนั้นทำได้ราบรื่นและไม่มีความล่าช้าในทุกเซิร์ฟเวอร์หรือแม้แต่เซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ห่างออกไป 4,000 กม.

ความเร็วเฉลี่ยของฉันลดลงจากเซิร์ฟเวอร์ในท้องถิ่นเพียง 1.5%

ความเร็วของเซิร์ฟเวอร์ระยะไกล

โดยส่วนใหญ่แล้วความเร็วของฉันจะลดลงเล็กน้อยเมื่อเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ที่มีระยะทางไกล แต่ความเร็วก็ยังน่าประทับใจมาก เซิร์ฟเวอร์ Tokyo 2 อยู่ห่างจากตำแหน่งของฉันออกไป 8,494 กม. แต่ฉันสูญเสียความเร็วการเชื่อมต่อจากความเร็วพื้นฐานเพียง 11% เท่านั้น เป็นเรื่องปกติที่ VPN จะทำให้คุณช้าลงประมาณ 15-20% ดังนั้นนี่จึงเป็นผลลัพธ์ที่ดีมาก ๆ สำหรับเซิร์ฟเวอร์ระยะไกล

Tokyo 2:

Ping (ms) 124 (ช้าลง 108 ms)
ดาวน์โหลด (Mbps): 409.06 (ลดลง 11%)
อัพโหลด (Mbps): 37.36 (ลดลง 11%)

ซึ่งช้ากว่าการเลือกเชื่อมต่อโดย Smart Location ในซานฟรานซิสโก 10% ฉันไม่พบความแตกต่างใด ๆ ในขณะสตรีมหรือใช้งาน เมื่อเปรียบเทียบกับเซิร์ฟเวอร์พื้นที่ ต่อไป ฉันลองใช้เซิร์ฟเวอร์ Easton London ซึ่งอยู่ห่างจากฉันมากกว่าโตเกียว 100 กม.

East London:

Ping (ms) 148 (ช้าลง 132 ms)
ดาวน์โหลด (Mbps): 486.30 (เร็วกว่า 5%)
อัพโหลด (Mbps): 39.48 (ลดลง 6%)

แม้ว่ามันจะอยู่ในอีกซีกโลก แต่ความเร็วของฉันเพิ่มขึ้น 5% ในขณะที่เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ในลอนดอน ความเร็วจะผันผวนเสมอ ดังนั้นนี่อาจเป็นผลจากความเร็วพื้นฐานของฉันที่เร็วขึ้นเล็กน้อยในขณะที่ฉันทดสอบ ไม่ว่าจะยังไงผลลัพธ์ก็แสดงให้เห็นว่าความเร็วของ ExpressVPN นั้นยังเร็วมากแม้ในเซิร์ฟเวอร์ระยะไกล

โดยรวมแล้ว ความเร็วในการเชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์ระยะทางไกลของ ExpressVPN นั้นยอดเยี่ยมอย่างมาก แม้แต่เซิร์ฟเวอร์ใน Reykjavik ซึ่งอยู่ห่างไกลออกไป ก็ให้ความเร็วในการดาวน์โหลดที่ 414 Mbps ซึ่งลดลงเพียง 10% เท่านั้น!

โดยรวมแล้วเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ห่างไกลนั้นช้ากว่า แต่เซิร์ฟเวอร์ในลอนดอนให้ความเร็วที่ดีที่สุดแก่ฉัน

การทดสอบความเร็วของโปรโตคอล

L2TP/IPsec ให้ความเร็วที่ดีที่สุดในการทดสอบของฉัน เมื่อเปรียบเทียบความเร็วของแต่ละโปรโตคอล แม้ว่า L2TP/IPsec จะมีความเร็วมากที่สุด แต่โปรโตคอลแต่ละอันก็ทำงานได้ดี ฉันมีความเร็วมากกว่า 300 Mbps

ทุกโปรโตคอลให้ความเร็วมากกว่า 300 Mbps

แม้ว่า L2TP/IPsec จะเร็วที่สุด แต่ฉันก็มักจะแนะนำให้ใช้โปรโตคอลอื่นถ้าเป็นไปได้ เนื่องจากเป็นโปรโตคอลรุ่นเก่าและความปลอดภัยน้อยกว่า Lightway TCP, OpenVPN UDP และ IKEv2 มีความเร็วเกือบเท่ากัน ฉันแนะนำให้ใช้ Lightway TCP เพื่อความปลอดภัยและความเร็วที่ดีที่สุด

ความเร็วของ ExpressVPN นั้นเร็วเพียงพอสำหรับการเล่นเกมหรือไม่ ใช่

9.5

ExpressVPN เป็น VPN ที่ยอดเยี่ยมสำหรับการเล่นเกม ตราบใดที่คุณใช้กับเซิร์ฟเวอร์ในพื้นที่ เมื่อเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ทางไกล ฉันไม่สามารถโหลดเกมเล่นได้เนื่องจากค่าปิงสูงเกินไป

เมื่อคุณเล่นเกมออนไลน์ที่มีการแข่งขัน ข้อมูลของคุณมีความสำคัญมาก นี่คือเหตุผลที่คุณต้องการให้ค่า ping ต่ำกว่า 100 ms หากเกมใช้เวลาในการคำนวนคำสั่งของคุณนานเกินไป เกมก็จะไม่สนุกอีกต่อไป การสะดุดเพียงเสี้ยววินาทีก็ทำให้คุณเสียเปรียบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเกมที่ต้องการการตอบสนองแบบทันที

นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันทำการทดสอบกับ Counter-Strike Global Offensive มันเป็นเกมยิงออนไลน์ที่ใช้ความรวดเร็ว ซึ่งคุณสามารถควบคุมตัวละครของคุณได้อย่างเต็มที่และสังเกตเห็นความแลคได้ง่ายที่สุดแม้จะเพียงเล็กน้อยก็ตาม ฉันเริ่มต้นที่เซิร์ฟเวอร์ซานฟรานซิสโกด้วย ping 21 ms

ฉันต้องรอเริ่มเกมเพียง 8 วินาทีเท่านั้น

ฉันสามารถเริ่มเกมได้ในเวลาไม่นาน เมื่อโหลดเกมขึ้นแล้ว ฉันสามารถวิ่ง หลบ กระโดดและยิงได้โดยไม่แลค ฉันเล่นเกมไม่เก่ง เราแพ้เกมนั้นไป แต่มันไม่เกี่ยวอะไรกับ VPN เลย

อย่างไรก็ตาม การเล่นเกมบนเซิร์ฟเวอร์ทางไกลนั้นเป็นไปไม่ได้เลย ฉันมีความเร็วในการดาวน์โหลดที่ดีที่สุดจากเซิร์ฟเวอร์ใน East London ซึ่งอยู่ห่างออกไป 8,562 กม. ดังนั้นฉันจึงทดสอบด้วยการเล่นเกมบนเซิร์ฟเวอร์นั้น อัตราการดาวน์โหลดอย่างรวดเร็วไม่สำคัญเพราะ ping ของฉันสูงกว่าซานฟรานซิสโกถึง 6 เท่าที่ 148 ms ฉันรอ 3 นาทีเพื่อเริ่มเกม หลังจากนั้นฉันตัดสินใจออกจากระบบและเชื่อมต่อใหม่ สิ่งเดียวกันนี้เกิดขึ้นอีกครั้ง ดังนั้นฉันจึงไม่สามารถทดสอบได้ด้วยซ้ำว่ามันเป็นอย่างไรตอนเล่นเกม

แต่น่าเสียดายที่ปัญหาเดียวกันนี้เกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อฉันลองใช้เซิร์ฟเวอร์ในนิวยอร์ก มันห่างจากฉันเพียง 4,743 กม. แต่ฉันก็ไม่สามารถเริ่มเกมได้ แม้ว่าจะพยายามหลายครั้งแล้วก็ตาม ด้วยเหตุนี้ฉันจะแนะนำ ExpressVPN ให้กับเกมเมอร์ได้ก็ต่อเมื่อมีเซิร์ฟเวอร์อยู่ใกล้คุณ

ดังนั้นความเร็วที่รวดเร็วของ ExpressVPN จะช่วยให้คุณเล่นเกมได้อย่างรวดเร็วและไม่มีแลค แต่เซิร์ฟเวอร์จะต้องอยู่ใกล้ ๆ กับคุณเท่านั้น

ความปลอดภัย — การเข้ารหัสระดับสูงที่มาพร้อมกับการปรับแต่งได้สูง

10.0

ฟีเจอร์การรักษาความปลอดภัยที่หลากหลายของ ExpressVPN และการเข้ารหัสระดับทหารจะทำให้ข้อมูลของคุณปลอดภัยในทุกสถานการณ์ ผู้ให้บริการ VPN หลาย ๆ รายกล่าวว่าพวกเขาสามารถปกป้องคุณได้จากการเชื่อมต่อที่ล้มเหลวหรือการันตีว่าหมายเลข IP ของคุณนั้นจะยังคงถูกซ่อนอยู่ การค้นคว้า ทดสอบและการยืนยันนั้นเป็นเพียงแค่วิธีเดียวในการค้นหาว่าสิ่งที่พวกเขาทั้งนั้นเป็นจริงหรือไม่

ฉันทดสอบฟีเจอร์ความปลอดภัยพิเศษของ ExpressVPN อย่างละเอียด เช่น Kill switch, Split tunneling และใช้งานร่วมกันกับ Tor นอกจากนี้ ฉันยังเปรียบเทียบโปรโตคอลและเจาะลึกเทคโนโลยี Lightway ที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของบริการอีกด้วย สุดท้ายนี้ ฉันได้ตรวจสอบผลการตรวจสอบโดยบุคคลที่สามอย่างละเอียด เพื่อดูว่าโครงสร้างพื้นฐานและแนวปฏิบัตินั้นเป็นอย่างไรบ้าง

ข้อเสียอย่างเดียวที่ฉันพบคือ ExpressVPN ไม่มีเครื่องมือบล็อกโฆษณาและมัลแวร์ในตัว มันเป็นฟีเจอร์ที่มอบความสะดวกสบายให้อย่างมาก แต่เครื่องมือปิดกั้นโฆษณาและมัลแวร์ที่นำเสนอโดย VPN อื่นมักจะทำงานได้ไม่ดีนัก คุณต้องใช้แอปพลิเคชั่นหรือส่วนขยายเฉพาะเพื่อการป้องกันอย่างเต็มรูปแบบอยู่ดี เนื่องจากมีเครื่องมือบล็อกโฆษณาที่มีประสิทธิภาพฟรีมากมายให้ใช้งาน ฉันจึงไม่กังวลมากเท่าไหร่ที่ ExpressVPN ไม่ได้นำเสนอสิ่งนี้ไว้ในแอป

การเข้ารหัส — การป้องกันระดับทหาร

เทคโนโลยีการเข้ารหัสของ ExpressVPN จะช่วยปกป้องข้อมูลส่วนตัวของคุณ บริการปกป้องคุณให้ปลอดภัยด้วยการเข้ารหัส AES 256-bit ซึ่งเป็นการรวม Cypher AES 256-bit กับคีย์ 4096-bit RSA และยืนยันความถูกต้องด้วย SHA-512 HMAC สำหรับคนธรรมดาแล้ว ข้อมูลของคุณจะไม่สามารถถอดรหัสได้ นี่คือระดับการเข้ารหัสที่ใช้โดยกองทัพและรัฐบาลทั่วโลกเพื่อปกป้องข้อมูลที่ละเอียดอ่อน

จำนวนบิต bit จะช่วยให้คุณทราบจำนวนชุดค่าผสมที่เป็นไปได้ในการสร้างคีย์ 1 บิตจะมี 2 ชุดค่าผสมที่เป็นไปได้ เมื่อคุณมี 8 บิตแล้วมันก็มีชุดค่าผสมมากกว่า 256 ชุดแล้ว — ที่ 256 บิตชุดค่าผสมก็มีตัวเลขยาวถึง 78 หลักแล้ว! แม้แต่คอมพิวเตอร์ที่ทรงพลังที่สุดในโลกก็ยังใช้เวลามากกว่าล้านปีในการถอดรหัสข้อมูลเพียงแค่ 0.1%

การยืนยัน SHA-512 HMAC ที่ ExpressVPN ใช้นั้นมีความปลอดภัยสูงสำหรับการถ่ายโอนข้อมูล เช่นการแชร์ไฟล์ P2P การใช้คีย์ลับที่แชร์ทั้งผู้ส่งและผู้รับของการดาวน์โหลดมีวิธีการตรวจสอบความถูกต้องของไฟล์ การเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในรหัสลับจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่ามีใครบางคนเข้าถึงไฟล์ของคุณ ดังนั้นการละเมิดใด ๆ จะถูกระบุและจัดการอย่างรวดเร็ว

ExpressVPN ยังใช้ Perfect Forward Secrecy Perfect Forward Secrecy จะเปลี่ยนคีย์การเข้ารหัสของคุณทุกครั้งที่คุณเข้าสู่ระบบ ดังนั้น แม้ว่าจะมีใครก็ตามที่สามารถถอดคีย์ (แทบเป็นไปไม่ได้) ข้อมูลเซสชัน VPN ในอดีตหรือในอนาคตของคุณก็ไม่สามารถถอดรหัสได้ (เนื่องจากข้อมูลเหล่านั้นใช้คีย์อื่น)

แต่ละโปรโตคอลจะเปลี่ยนระดับการเข้ารหัสของคุณเล็กน้อย ตัวอย่างเช่น โปรโตคอล Lightway ใช้ wolfSSL แทน AES นี่ยังคงเป็นการเข้ารหัส 256-bit มันมีความปลอดภัยพอ ๆ กันและเป็นโอเพ่นซอร์ส ซึ่งหมายความว่าได้รับการทดสอบและอัปเดตอย่างต่อเนื่องโดยบุคคลที่สาม

โปรโตคอลความปลอดภัย — มีหลากหลายตัวเลือกสำหรับอุปกรณ์ทั้งหมด

ExpressVPN มีโปรโตคอลความปลอดภัยที่หลากหลายที่ให้คุณปรับแต่ง VPN ได้ทุกสถานการณ์ โปรโตคอลคือชุดของกฎที่ VPN ใช้เพื่อบอกวิธีเข้ารหัสข้อมูลของคุณ ซึ่งคุณสามารถเปลี่ยนมันได้ในแท็บโปรโตคอลสำหรับ Windows, Mac, Android และ iOS บน Linux คุณจะต้องใช้คำสั่งในเทอร์มินัล

Screenshot showing protocols tab in ExpressVPN app for Windowsตัวเลือกขั้นสูงสำหรับ Lightway ช่วยให้คุณเปลี่ยนระดับการเข้ารหัส

แต่ละโปรโตคอลมีมีความแตกต่างกันเล็กน้อย:

  • Lightway: โปรโตคอลนี้พัฒนาโดย ExpressVPN และไม่มี VPN อื่นให้บริการ มันใช้พลังงานแบตเตอรี่น้อยลงและสลับเปลี่ยนเครือข่ายได้อย่างลงตัว ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับโทรศัพท์ ตัวเลือก TCP นั้นดีกว่าสำหรับเครือข่ายที่ไม่น่าเชื่อถือและเร็วกว่า UDP 10% ในการทดสอบของฉัน
  • OpenVPN: เนื่องจากเป็นโอเพ่นซอร์ส นี่จึงเป็นหนึ่งในโปรโตคอลที่ปลอดภัยที่สุด ผู้คนทั่วโลกสามารถทำการตรวจสอบโค้ดอย่างต่อเนื่องเพื่อเสริมความแข็งแกร่ง นอกจากนี้ยังมีตัวเลือก UDP และ TCP มันให้ความเร็วเกือบเท่ากันกับการทดสอบของฉัน
  • IKEv2: คนส่วนใหญ่คิดคิดว่ามันเร็วกว่า OpenVPN แต่ในการทดสอบของฉัน มันเร็วกว่าแค่ 1% ฉันใช้โปรโตคอลนี้เฉพาะในกรณีที่โปรโตคอลอื่นไม่สามารถใช้งานได้เพราะมันไม่ปลอดภัย มันไม่มีตัวเลือก TCP ดังนั้นมันอาจถูกบล็อกโดยไฟร์วอลล์บางตัว
  • L2TP/IPsec: เนื่องจากเป็นหนึ่งในโปรโตคอลที่เก่า มันจึงเป็นตัวเลือกที่มีความปลอดภัยน้อยที่สุด อย่างไรก็ตาม มันให้ความเร็วมากที่สุดในการทดสอบของฉัน มันเป็นตัวเลือกที่ดีเมื่อคุณให้ความสำคัญกับความเร็วมากกว่าความปลอดภัย

คุณจะมีตัวเลือกต่าง ๆ สำหรับโปรโตคอลขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ของคุณ:

Windows Mac Android iOS Linux Routers
Lightway
OpenVPN
L2TP/IPsec
IKEv2

นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกอัตโนมัติอีกด้วย ตัวเลือกนี้จะเลือกโปรโตคอลที่ดีที่สุดโดยอัตโนมัติสำหรับตามการเชื่อมต่อปัจจุบันของคุณ นอกจากนี้ บางเซิร์ฟเวอร์ยังไม่รองรับ L2TP/IPsec อีกด้วย คุณสามารถตรวจสอบรายการเซิร์ฟเวอร์บนเว็บไซต์ของ ExpressVPN เพื่อดูว่าเซิร์ฟเวอร์ใดสนับสนุนอะไรบ้าง

โดยรวมแล้ว ฉันขอแนะนำ Lightway TCP เนื่องจากมันให้ความสมดุลระหว่างความเร็วและความปลอดภัยที่ดีที่สุดแก่คุณ

Lightway

Lightway เป็นโปรโตคอลที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ ExpressVPN ซึ่งกินเนื้อที่ทรัพยากรน้อย ทำให้เหมาะสำหรับอุปกรณ์พกพา นี่คือประโยชน์บางประการของการใช้ Lightway:

  • ความเร็วสูง ฉันมีความเร็วในการดาวน์โหลดเร็วกว่าการเชื่อมต่อปกติ 5% คุณยังสามารถเปลี่ยนจากการเข้ารหัส wolfSSL เป็น ChaCha20 เพื่อเพิ่มความเร็วให้มากยิ่งขึ้น หากคุณใช้อุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพน้อยกว่า เช่นสมาร์ทโฟน
  • ปรับปรุงการเข้ารหัส wolfSSL เป็นไลบารีเข้ารหัสที่ทันสมัยซึ่งมีการตรวจสอบโดยบุคคลที่สามและให้การเข้ารหัสระดับทหาร 256-bit
  • สามารถเปลี่ยนเครือข่ายได้อย่างรวดเร็ว เมื่อความเร็วในการเชื่อมต่อลดลง Lightway ไม่ยุติการเชื่อมต่อ VPN ของคุณ แต่จะยังคงสถานะการเชื่อมต่อเอาไว้ ซึ่งจะทำให้คุณสามารถเชื่อมต่อใหม่ได้ทันที เมื่อคุณเปลี่ยนการเชื่อมต่อจาก WiFi ไปยังเครือข่ายมือถือ นอกจากนี้ยังช่วยให้คุณเชื่อมต่อได้เร็วขึ้นเมื่อคุณเปิดใช้งานโทรศัพท์อีกครั้งจากโหมดสลีปหรือโหมดเครื่องบิน
  • สร้างการเชื่อมต่อได้ทันที ฉันสามารถเชื่อมต่อกับ Lightway ได้ภายในเวลาไม่ถึงวินาที
  • มีโค้ดไม่เยอะ Lightway มีโค้ดเพียง 1,000 บรรทัด ซึ่งเป็นหนึ่งในฐานรหัสโปรโตคอล VPN ที่มีขนาดเล็กที่สุด ทำให้การตรวจสอบ Lighway ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังใช้แบตเตอรี่น้อยลง ดังนั้นจึงเป็นสิ่งที่ดีเมื่อคุณใช้การเข้ารหัสการรับส่งข้อมูลบนโทรศัพท์

แม้ว่า ExpressVPN จะไม่ได้นำเสนอ Wireguard แต่ Lightway ก็เป็นทางเลือกที่ใกล้เคียง ซึ่งมีความรวดเร็วและปลอดภัยเท่ากัน Lightway ได้รับการตรวจสอบโดยบริษัทอิสระอย่าง Cure53 และมีไลบรารีหลักโอเพ่นซอร์ส (มีอยู่ใน GitHub) ดังนั้น หากคุณไม่แน่ใจเกี่ยวกับการใช้โปรโตคอลที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ VPN คุณก็ไม่ต้องเป็นกังวล Lightway ของ ExpressVPN นั้นใหม่และพิเศษแต่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าปลอดภัย

ผลการทดสอบการรั่วไหล — ผ่าน

ExpressVPN ผ่านการทดสอบการรั่วไหลทั้งหมดของฉันบนแอปพลิเคชั่น Windows, Mac, Android และ iPhone ในการทดสอบแรกของฉัน ฉันใช้ ipleak.net กับ 10 เซิร์ฟเวอร์

ฉันจะอยู่ในแคลิฟอร์เนีย แต่การทดสอบตรวจพบว่าตำแหน่งของฉันอยู่ในเซิร์ฟเวอร์ Montreal ของ VPN

ภาพด้านบนแสดงให้เห็นว่าการทดสอบแต่ละครั้งเห็นเฉพาะหมายเลข IP ของมอนทรีออลและเซิร์ฟเวอร์ DNS ที่ฉันเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชั่น การรั่วไหลของ IPv4, IPv6, WebRTC และ DNS นั้นมีวิธีการในการเข้าถึงข้อมูลของคุณที่แตกต่างกัน แม้ว่า VPN จะปกป้องคุณในทุกวิถีทางได้อย่างดีเยี่ยม แต่การรั่วไหลเช่นนี้ก็ยังสามารถเกิดขึ้นได้ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ดีที่ ExpressVPN มีการป้องกันการรั่วไหลในตัวเพื่อปกปิดข้อมูลของคุณจากทุกวิธีที่แฮ็กเกอร์ใช้ในการเข้าถึง

DNS ส่วนตัวบนเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมด

เหตุผลหนึ่งที่ ExpressVPN ผ่านการทดสอบการรั่วไหลของฉัน ก็เพราะบริการมีเซิร์ฟเวอร์ DNS ส่วนตัว คุณต้องเข้าถึงเครือข่ายที่เรียกว่า Domain Name Server เพื่อเข้าถึงเว็บไซต์ต่าง ๆ เซิร์ฟเวอร์ DNS ส่วนตัวจะตัวกลางนี้ออกไป กำจัดพื้นที่อื่นที่ข้อมูลของคุณอาจรั่วไหลออกไป

มีตัวเลือกให้ใช้ DNS ของคุณเอง แต่ฉันขอแนะนำให้ใช้เซิร์ฟเวอร์ DNS ส่วนตัวของ ExpressVPN ให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ดีกว่า

ได้รับการตรวจสอบจากบริการอิสระ

ผ่านการตรวจสอบอย่างเป็นอิสระจากองค์กรด้านความปลอดภัยที่น่าเชื่อถือทั้งหลาย นี่ถือเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า ExpressVPN นั้นปลอดภัยอย่างที่กล่าวอ้างจริง รายงานการตรวจสอบทั้งหลายนี้ต่างก็ไม่พบปัญหาใหญ่ ๆ ใด ๆ ในขณะที่ปัญหาเล็ก ๆ ก็ได้รับการแก้ไขในทันทีที่พบ

จาก VPN ทั้งหมดที่เราได้ทำการทดสอบมา ExpressVPN นั้นผ่านตรวจสอบจากหลายองค์กรมากที่สุดแล้ว มันได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องโดยผู้เชี่ยวชาญระดับโลก และเราก็รู้สึกประทับใจเป็นพิเศษที่มันผ่านการตรวจสอบจากหลายบริษัทซึ่งได้ตรวจสอบนโยบายความเป็นส่วนตัวของพวกเขาแล้ว

Cure53

บริษัทนี้ได้ทำการตรวจสอบโปรโตคอล Lightway (2021), เทคโนโลยี TrustedServer (2022) และส่วนขยาย Chrome กับ Firefox (2018) ส่วนขยายนั้นเป็นแบบโอเพนซอร์ซ ดังนั้นคนที่มีความสามารถทางเทคนิคก็สามารถทำการตรวจสอบที่คล้ายกันได้ การตรวจสอบล่าสุดนั้นเป็นเรื่องของแอปบน Linux และ macOS ในปี 2022

PricewaterhouseCoopers (PwC)

PwC นั้นเป็นหนึ่งในองค์กรตรวจสอบชั้นนำของโลก พวกเขาได้ใช้เวลาทั้งเดือนไปกับการตรวจสอบนโยบายความเป็นส่วนตัวของ ExpressVPN และเทคโนโลยี TrustedServer ด้วยการตรวจดูโค้ดและสัมภาษณ์ทีมงาน (2019)

KPMG

KPMG ได้เป็นผู้ทำการตรวจสอบองค์กรมากมายหลายแห่งทั่วโลกในหลายอุตสาหกรรม ตั้งแต่เรื่องประกันไปจนกระทั่งองค์กรของรัฐบาล มันยังได้่ทำการทดสอบเทคโนโลยี TrustedServer กับนโยบายความเป็นส่วนตัวของ ExpressVPN มาแล้วในปี 2022

F-secure

เป็นทีมงานที่ทดสอบเรื่องความปลอดภัยให้กับธนาคารชั้นนำหลายแห่งทั่วโลก ในปี 2022 พวกเขาได้ตรวจสอบถึงจุดอ่อนของแอป Windows v.12 และก็ไม่พบจุดอ่อนใด ๆ

ioXt Alliance

ExpressVPN ได้รับประกาศนียบัตรจาก ioXt Alliance สำหรับแอป Android มาแล้ว แอปนี้ได้ถูกตรวจสอบในปี 2021 เกี่ยวกับปัญหาด้านความปลอดภัยเล็กน้อย เพื่อให้มั่นใจว่าการออกแบบของมันนั้นมีความปลอดภัยและเชื่อถือได้ ยกตัวอย่างเช่น ความปลอดภัยเครือข่าย, สถานที่จัดเก็บคีย์การเข้ารหัส และดีไซน์ของซอฟต์แวร์นั้นได้รับการอัปเดตและมีความปลอดภัย

Kill Switch

Kill Switch ของ ExpressVPN จะบล็อกการรับส่งข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตของคุณ หาก VPN ตัดการเชื่อมต่อ คุณจึงได้รับการปกป้องเสมอ นี่เป็นฟีเจอร์ที่สำคัญใน VPN และ ExpressVPN เรียกสิ่งนี้ว่า “Network Lock”

ในแอปพลิเคชั่น Android มันจะอยู่ภายใต้ Network Protection

เพื่อทดสอบฟีเจอร์นี้ ฉันได้ลองรีเฟรชเว็บไซต์ในขณะที่เปลี่ยนมาใช้เซิร์ฟเวอร์ในโตรอนโต เมื่อใดก็ตามที่การเชื่อมต่อนั้นไม่สมบูรณ์ ExpressVPN จะแจ้งให้คุณทราบในเบราว์เซอร์ว่าการรับส่งข้อมูลถูกปิดกั้น

Network Lock ไม่มีให้บริการใน iOS

Kill Switch จะเปิดใช้งานโดยอัตโนมัติบน Windows, Linux และ Mac คุณยังสามารถให้สิทธิ์การเข้าถึงอุปกรณ์บน LAN ได้อีกด้วย สิ่งนี้มีประโยชน์หากคุณมีเครื่องพิมพ์ที่เชื่อมต่อกับ WiFi ดังนั้นเอกสารของคุณจะไม่ได้รับผลกระทบจากข้อผิดพลาดของเซิร์ฟเวอร์ ด้วยแอปพลิเคชั่นเดสก์ท็อปและ Android คุณสามารถสลับเปิดและปิด Kill Switch ได้ แต่คุณไม่สามารถทำได้ในแอปพลิเคชั่นเราเตอร์ มันมีชื่อว่า Network Protection บน Android และต้องใช้ขั้นตอนเพิ่มเติมในการเปิดใช้งาน: คุณเพียงแค่ต้องตั้งค่า VPN เป็น "Always On" ในการตั้งค่า Android

แม้ว่า Network Lock จะพร้อมใช้งานบนเดสก์ท็อป, Android และเราเตอร์ แต่ไม่มี Kill switch สำหรับ iOS ฉันได้ทำการรีวิว VPN ที่ดีที่สุดสำหรับอุปกรณ์มือถือ รวมถึงสำหรับ iOS และ ExpressVPN ก็เป็นหนึ่งใน VPN ที่ดีที่สุด แต่น่าเสียดายที่ฟีเจอร์ที่สำคัญนี้ขาดหายไป

Split Tunneling

Split Tunneling ช่วยให้คุณยกเว้นการรับส่งข้อมูลบางส่วนจาก VPN สิ่งนี้มีประโยชน์หากคุณต้องการเชื่อมต่อกับบริการในพื้นที่ อย่างเช่น การทำธุรกรรมธนาคาร, สตรีมเนื้อหาในภูมิภาค คุณยังสามารถใช้สำหรับการพิมพ์เอกสารหรือเพื่อประหยัดแบนด์วิดท์ในขณะที่คุณกำลังดาวน์โหลดไฟล์ (โดยการเข้ารหัสเฉพาะแอปพลิเคชั่นทอร์เรนต์ของคุณ)

เพื่อการเริ่มต้น คุณเพียงแค่ต้องตัดสินใจว่าแอปพลิเคชั่นใดที่จะใช้ผ่าน VPN การเพิ่มและลบแอปพลิเคชั่นนั้นทำได้ง่าย แต่คุณจะต้องยกเลิกการเชื่อมต่อ VPN ในขณะที่เพิ่มบริการที่ยกเว้น

Screenshot of ExpressVPN split tunneling features on Android and Windows appsคุณจะต้องยกเลิกการเชื่อมต่อจาก VPN ในขณะที่เพิ่มหรือลบแอปและเว็บไซต์

ภายใต้การตั้งค่า Split Tunneling คุณมี 3 ตัวเลือก:

  • แอปพลิเคชั่นทั้งหมดใช้ VPN
  • ไม่อนุญาตให้แอปพลิเคชั่นที่เลือกใช้ VPN
  • อนุญาตเฉพาะแอปพลิเคชั่นที่เลือกให้ใช้ VPN

ฉันเลือกตัวเลือกที่สองเพื่อลบแอปพลิเคชั่นธนาคารออนไลน์ของฉันออกจากการรับส่งข้อมูลและทดสอบฟีเจอร์นี้

ฉันเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ในสหราชอาณาจักรและกลับไปใช้งาน BBC iPlayer มันใช้งานได้และฉันสามารถสตรีม Sherlock ได้ในขณะที่ยังคงใช้งานากับธนาคารในสหรัฐอเมริกาของฉัน

ฟีเจอร์นี้มีให้สำหรับแอปพลิเคชั่นบน Linux, Windows, Android, Mac และเราเตอร์ น่าเสียดายที่ไม่มีฟีเจอร์ Split Tunneling ในแอปพลิเคชั่น iOS

ความเข้ากันได้กับ Tor

คุณสามารถใช้ ExpressVPN กับ Tor (The Onion Router) โดยใช้วิธี Tor over VPN Tor เป็นเบราว์เซอร์พิเศษที่เข้ารหัสการรับส่งข้อมูลทั้งหมดภายในเครือข่าย ทำให้ข้อมูลของคุณเป็นส่วนตัว เนื่องจากเป็นหนึ่งในฮับหลักในการเข้าถึงดาร์กเว็บ มันจึงมีชื่อเสียงที่ไม่ดีเนื่องจากส่วนใหญ่ถูกใช้เพื่อการเข้าถึงดาร์กเว็บที่อาจให้เพิ่งทำกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย อย่างไรก็ตาม Tor ก็มีความจำเป็นเช่นกัน เนื่องจากอนุญาตให้นักเคลื่อนไหวและผู้แจ้งเบาะแสจากทุกที่สามารถแบ่งปันข้อมูลสำคัญโดยไม่เปิดเผยตัวตนได้

เพื่อให้ ExpressVPN ทำงานกับ Tor ได้ คุณต้องเชื่อมต่อกับ VPN ก่อน วิธีนี้ช่วยให้คุณเข้าถึง Tor แม้ว่าจะถูกบล็อกในเครือข่ายของคุณ คุณไม่ต้องกังวลว่าจะถูกปิดกั้นเมื่อใช้ Tor แต่คุณยังจะได้รับการป้องกันเพิ่มเติมจากบั๊กในเบราว์เซอร์อีกด้วย

ExpressVPN ยังมีเว็บไซต์ .onion ของตัวเองในเครือข่าย Tor สิ่งนี้มีประโยชน์ เพราะคุณสามารถเข้าถึงเว็บไซต์ที่ถูกบล็อกในประเทศที่มีการเซ็นเซอร์อินเทอร์เน็ตจำนวนมาก ดังนั้น หากคุณลืมดาวน์โหลด VPN ก่อนเดินทางไปประเทศจีนโดยไม่ได้ตั้งใจ คุณยังสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นผ่าน Tor ได้

คุณต้องเชื่อมต่อกับ VPN ก่อนโหลด TOR

เนื่องจาก Tor มีการเข้ารหัสหลายชั้น มันจึงช้ากว่าเบราว์เซอร์ทั่วไปเล็กน้อย เมื่อเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ Los Angeles 1 ฉันโหลดเบราว์เซอร์ Tor ได้ใน 4 วินาที การเข้าถึงไซต์ .onion ของ ExpressVPN ใช้เวลา 9 วินาที มันเทียบเท่ากับความเร็วของฉันเมื่อไม่ได้เชื่อมต่อ VPN ดังนั้นฉันจึงใช้ Tor ได้โดยไม่มีความล่าช้าเพิ่มเติม

ความเร็วที่น่าทึ่ง, นโยบายการไม่บันทึกข้อมูลการใช้งาน, การเข้ารหัสที่เข้มงวด, kill switch และเทคโนโลยี TrustedServer ทำให้ ExpressVPN เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะใช้เพื่อเข้าถึง TOR

ความเป็นส่วนตัว — บริษัทที่น่าเชื่อถือที่ไม่จัดเก็บข้อมูลของคุณ

10.0

ExpressVPN นั้นมีนโยบายการไม่บันทึกข้อมูล และมันก็ตั้งอยู่นอกพื้นที่ของพันธมิตร 14 Eyes มันเป็นของ Kape Technologies ซึ่งยังเป็นเจ้าของ VPN อีกหลายราย (เช่น CyberGhost และ Private Internet Access)

ExpressVPN บันทึกข้อมูลการใช้งานไหม ไม่

ExpressVPN มีนโยบายการไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานที่เข้มงวด ดังนั้นพวกเขาจึงไม่จัดเก็บ แบ่งปันหรือขายข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ

พวกเขาจัดเก็บเฉพาะอีเมลและข้อมูลการเรียกเก็บเงินพร้อมกับข้อมูลที่ไม่ระบุตัวตนเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ

ExpressVPN ระบุว่าจะรวบรวมข้อมูลเหล่านี้เท่านั้น:

  • ข้อมูลที่คุณใช้ในการสมัคร (รายละเอียดการชำระเงินและที่อยู่อีเมล)
  • คุณใช้งานกี่แอปพลิเคชั่นและเวอร์ชันอะไร
  • วันที่ทำการเชื่อมต่อ (ไม่ระบุเวลา)
  • ตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ที่คุณเชื่อมต่อ (แต่ไม่ใช่หมายเลข IP ที่ให้กับคุณ)
  • จำนวนข้อมูลที่ใช้ในหนึ่งวัน

ฉันประทับใจกับการจัดเก็บข้อมูลเพียงเล็กน้อยของพวกเขา ฉันไม่คิดว่าจะมี VPN ไหนที่รวบรวมได้น้อยกว่านี้อีกแล้ว นี่เป็นข้อมูลจำนวนน้อยที่สุดที่จำเป็นในการปรับปรุงคุณภาพ VPN และติดต่อกับลูกค้า มันแสดงให้เห็นว่าคุณได้ใช้ VPN เท่านั้น แต่ไม่มีอะไรมากไปกว่านี้อีกแล้ว

เพื่อป้องกันตัวคุณเองเพิ่มเติม คุณสามารถชำระเงินด้วยสกุลเงินดิจิทัลและสร้างอีเมลใหม่สำหรับบัญชีของคุณได้ ฉันติดต่อฝ่ายสนับสนุน ExpressVPN ผ่านไลฟ์แชทเพื่อดูว่าข้อมูล, ข้อมูลการชำระเงินและอีเมลของคุณสามารถลบออกได้หรือไม่ มันทำได้ แต่หลังจากที่คุณยกเลิกการสมัครใช้บริการแล้วเท่านั้น

สิ่งนี้จะสามารถทำได้หลังจากที่คุณได้ยกเลิกบัญชีของคุณแล้วเท่านั้น

ExpressVPN ไม่รวบรวม:

  • หมายเลข IP ส่วนตัวของคุณหรือหมายเลข IP ที่คุณใช้ของ VPN
  • ข้อมูลประวัติการใช้งานของคุณ (เว็บไซต์ที่คุณเข้าถึง)
  • Metadata
  • คำขอ DNS (เว็บไซต์ที่คุณพยายามเข้าถึง)

พูดง่าย ๆ ก็คือมันเท่ากับว่าไม่มีบันทึกว่าคุณใช้ ExpressVPN จากที่ใดหรือทำอะไรในขณะที่เชื่อมต่อ

คุณสามารถเลือกแบ่งปันข้อมูลเพื่อการปรับปรุงบริการกับ ExpressVPN ได้โดยสมัครใจ เมื่อคุณดาวน์โหลดแอป ให้เลือก “ไม่ ขอบคุณ” ในหน้า “ช่วยปรับปรุงเรา ExpressVPN”

หากคุณเลือกที่จะแบ่งปันข้อมูล ก็แบ่งปันเฉพาะข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนที่สามารถเชื่อมโยงกับคุณได้

นอกจากนี้นโยบายการไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานของ ExpressVPN ยังได้รับการทดสอบในปี 2017 อีกด้วย หนึ่งในเซิร์ฟเวอร์ของ ExpressVPN ถูกรัฐบาลตุรกียึดขณะค้นหาข้อมูลที่เชื่อมโยงกับการลอบสังหาร แต่พวกเขาไม่พบอะไรเลยเพราะไม่มีการจัดเก็บข้อมูล จึงเป็นการพิสูจน์ว่านโยบายการไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานนั้นถูกบังคับใช้จริง ๆ

ExpressVPN International Limited (บริษัทแม่ที่อยู่เบื้องหลังแอป) ใช้ ExpressVPN เป็นแหล่งรายได้เพียงแหล่งเดียว บริษัทยังได้ทำงานร่วมกับศูนย์เพื่อประชาธิปไตยและเทคโนโลยีเพื่อช่วยปรับปรุงสิทธิ์ความเป็นส่วนตัวทั่วโลก สิ่งนี้พร้อมด้วยประวัติที่ได้รับพิสูจน์แล้ว แสดงให้ฉันเห็นว่า ExpressVPN ทุ่มเทให้กับการปิดบังตัวตนของคุณมากแค่ไห

บริการตั้งอยู่ในหมู่เกาะบริติชเวอร์จินที่ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัว

ExpressVPN ตั้งอยู่ในหมู่เกาะบริติชเวอร์จิน ซึ่งเป็นประเทศที่ไม่มีกฎหมายว่าด้วยการเก็บรักษาข้อมูล ประเทศที่บริษัท VPN จัดตั้งขึ้นจึงมีความสำคัญมาก เนื่องจากต้องปฏิบัติตามกฎและข้อบังคับของเขตอำนาจศาล นอกจากกฎหมายความเป็นส่วนตัวที่เข้มงวดแล้ว ยังเป็นเรื่องยากที่อัยการจะได้รับหมายจับ พวกเขาไม่มีโครงการเฝ้าระวังระหว่างประเทศและ BVI ก็อยู่นอกเขตพันธมิตร 14 Eyes (หรือ SIGINT Seniors Europe) นี่เป็นข้อตกลงระหว่างประเทศเพื่อแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับพลเมืองของตน

แม้ว่าจะเป็นดินแดนโพ้นทะเลของอังกฤษ แต่ BVI มีรัฐบาลที่ปกครองตนเองโดยสมบูรณ์ นี่เป็นสิ่งที่ดีเพราะสหราชอาณาจักรเป็นสมาชิกของ 14 Eyes ประเทศอื่น ๆ สามารถยื่นคำร้องต่อศาลสูงของ BVI เพื่อแบ่งปันข้อมูลได้ แต่ไม่สามารถบังคับให้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับพลเมืองหรือบริษัทในเขตอำนาจศาลได้ แม้ว่าประเทศอื่นจะสามารถโน้มน้าวพวกเขาได้ แต่ ExpressVPN ก็ไม่เก็บข้อมูลใด ๆ เกี่ยวกับลูกค้าของตนอยู่ดี บริการจึงเพิ่มการป้องกันอีกชั้นหนึ่งด้วยการมีสำนักงานใหญ่อยู่ในพื้นที่ที่เป็นมิตรต่อความเป็นส่วนตัว

ทอร์เรนต์ — รองรับ P2P ในทุกเซิร์ฟเวอร์สำหรับการดาวน์โหลดอย่างรวดเร็ว

10.0

ExpressVPN อนุญาตให้แบ่งปันไฟล์ P2P ด้วยแบนด์วิดท์ไม่จำกัดบนทุกเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งทำให้เหมาะสำหรับการทอร์เรนต์

VPN จำนวนมากจำกัดการใช้งาน P2P ไว้ที่เซิร์ฟเวอร์ใดเซิร์ฟเวอร์หนึ่ง แต่ด้วย ExpressVPN คุณจะสามารถใช้ตำแหน่งที่ดีที่สุดที่อยู่ใกล้คุณด้วยความเร็วสูงสุดได้ ExpressVPN ทำงานร่วมกับ qBitTorrent, Transmission, Vuze, Deluge, uTorrent, siambit, bitded และ tt-torrent และแอปพลิเคชัน P2P อื่น ๆ ได้ มันยังใช้งานได้กับ Kodi ซึ่งคุณสามารถเข้าถึงไซต์สตรีมมิ่ง P2P ได้

เพื่อทดสอบประสิทธิภาพการทอร์เรนต์ของ ExpressVPN ฉันใช้ uTorrent เพื่อดาวน์โหลดภาพยนตร์ที่ไม่มีลิขสิทธิ์อย่าง A Boy and His Dog บนเซิร์ฟเวอร์ในนิวยอร์ก ฉันสามารถดาวน์โหลดได้ที่ 2.1 MB/s โดยมี seeder เพียง 0.44 เท่านั้น ฉันสามารถโหลดไฟล์ขนาด 700 MB ได้เสร็จภายใน 10 นาที

แม้จะมี seeders เพียง 0.44 ฉันก็มีความเร็วในการดาวน์โหลดถึง 2.1 Mb/s

ExpressVPN รองรับ port forwarding เฉพาะบนแอปเราเตอร์ แต่ไม่รองรับในแอปพลิเคชั่นอื่น ๆ นอกจากนี้ยังไม่มีพร็อกซี SOCKS5 คนส่วนใหญ่ใช้สิ่งเหล่านี้เพื่อให้ seed ได้เร็วขึ้น แต่จากการทดสอบของฉัน คุณจะสามารถดาวน์โหลดได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องใช้ฟีเจอร์เหล่านี้เลย

โปรโตคอลความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของ ExpressVPN จะช่วยให้คุณปลอดภัยในขณะทอร์เรนต์ ในขณะที่คุณใช้ซอฟต์แวร์แชร์ไฟล์ P2P การป้องกันการรั่วไหลและ Kill switch จะทำงานร่วมกันเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครในเครือข่ายที่แชร์สามารถเข้าถึงข้อมูลของคุณได้ ด้วย Split tunneling คุณจะสามารถติดตามข้อมูลล่าสุดในพื้นที่ (เช่น ข่าว) ในขณะที่หมายเลข IP ของคุณถูกเข้ารหัสในแอปทอร์เรนต์ นอกจากนี้ ExpressVPN ยังมีความเร็วที่ยอดเยี่ยม ดังนั้นจึงเป็น VPN ที่ยอดเยี่ยมสำหรับการทอร์เรนต์

อย่างไรก็ตาม ทีมของฉันและฉันไม่สนับสนุนการทอร์เรนต์หรือสตรีมมิงสิ่งที่ผิดกฎหมาย แต่หลายคนใช้บริการ P2P เพื่อแชร์ไฟล์อย่างถูกกฎหมาย ฉันแนะนำให้ศึกษาแอปพลิเคชันใด ๆ ที่คุณใช้ดาวน์โหลดทอร์เรนต์ เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่แบ่งปันภาพยนตร์หรือรายการที่มีลิขสิทธิ์

ExpressVPN สามารถใช้งานได้ในประเทศจีนหรือไม่ ใช่

คุณสามารถใช้ ExpressVPN ในประเทศจีนได้ แต่ควรดาวน์โหลดก่อนเข้าประเทศ แม้ว่ารัฐบาลจะอนุมัติให้ใช้ VPN ที่ถูกกฎหมายในประเทศจีน แต่จนถึงตอนนี้รัฐบาลก็ทำการบล็อก VPN เหล่านี้อย่างต่อเนื่อง แต่รัฐบาลไม่ค่อยสนใจผู้ใช้รายบุคคลซักเท่าไหร่ อย่างไรก็ตาม เราขอแนะนำให้คุณอ่านเกี่ยวกับการใช้ VPN ในประเทศจีนให้มากที่สุด เพื่อให้คุณตระหนักถึงความเสี่ยงอย่างเต็มที่

รัฐบาลจีนเซ็นเซอร์การใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศอย่างหนัก เว็บไซต์ต่าง ๆ เช่น Google, Twitch, Twitter, Facebook และ YouTube ไม่สามารถเข้าถึงได้ด้วยการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตมาตรฐานของจีน ระบบการเซ็นเซอร์ที่ซับซ้อนนี้เรียกว่า The Great Firewall of China อย่างไรก็ตามเมื่อรัฐบาลจีนปราบปรามการใช้ VPN เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ExpressVPN เป็นหนึ่งใน VPN เดียวที่ยังคงใช้งานได้ (และยังคงใช้งานได้)

อย่างที่เราได้เห็นกันไปแล้ว ExpressVPN นั้นมีเซิร์ฟเวอร์อยู่ในฮ่องกงที่ให้คุณสามารถเข้าถึงรายการทีวีและเว็บไซต์ของประเทศจีนได้ แม้ว่าคุณอาศัยอยู่นอกประเทศจีน

แม้ว่า ping จะสูงเกินไปสำหรับการเล่นเกม (202 ms) แต่เซิร์ฟเวอร์ Hong Kong 2 ก็เพิ่มความเร็วในการดาวน์โหลดของฉันขึ้น 19%! ฉันสามารถสตรีมรายการภาษาจีนในรูปแบบ HD ได้โดยไม่กระตุก

มันใช้งานได้สำหรับคนในจีนด้วยเช่นกัน: ผู้ใช้ในประเทศจีนสามารถเข้าถึงเว็บไซต์ที่ถูกดิจิทัลเซ็นเซอร์ในต่างประเทศได้ แม้ว่า ExpressVPN จะใช้เทคโนโลยี Obfuscation แต่บริการก็ยังมีการอัปเดตเซิร์ฟเวอร์อยู่เสมอทำให้รับประกันว่าจะใช้งานได้ในประเทศจีน ดังนั้นคุณจึงพร้อมใช้งานอยู่เสมอเมื่อเดินทางไปประเทศจีน เพื่อความปลอดภัย เราขอแนะนำให้คุณทำการค้นคว้าอย่างละเอียด เพราะกฎหมายและข้อบังคับมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ

คุณต้องตั้งค่าโปรโตคอลเป็นอัตโนมัติและเชื่อมต่อกับหนึ่งในเซิร์ฟเวอร์ที่แนะนำสำหรับประเทศจีน

ทีมสนับสนุนบอกฉันว่า มันใช้งานได้ในประเทศที่มีข้อจำกัด เช่น ตุรกี ซาอุดีอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ทุกที่ที่มีอินเทอร์เน็ต) สำหรับผู้ใช้ในประเทศจีน บริษัทมีเว็บไซต์พร้อมคำแนะนำในการแก้ไขปัญหาสำหรับที่นี่โดยเฉพาะ คุณต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าแอปของคุณได้รับการอัปเดต ตั้งค่าโปรโตคอลเป็นอัตโนมัติและใช้เซิร์ฟเวอร์ใดเซิร์ฟเวอร์หนึ่งที่แนะนำสำหรับประเทศจีน สิ่งเหล่านี้เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ดังนั้นอย่าลืมตรวจสอบรายการทุกครั้งที่คุณเชื่อมต่อ

ExpressVPN ช่วยให้คุณสามารถเข้าถึง Facebook, Google, WhatsApp, Netflix และอื่น ๆ จากในประเทศจีนได้ อย่างไรก็ตาม อย่าลืมติดตั้งก่อนเข้าประเทศเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่ถูกบล็อก หากคุณต้องดาวน์โหลดในขณะที่อยู่ในประเทศจีน คุณยังคงสามารถทำได้หากคุณใช้เบราว์เซอร์ของ Tor เพื่อเข้าถึงเว็บไซต์ .onion

แอปและการติดตั้ง

10.0

แอพพลิเคชั่นบนเดสก์ท็อปและมือถือของ ExpressVPN นั้นสวยงาม เสถียรและใช้งานง่าย มีการดีไซน์ที่ดูทันสมัย พร้อมปุ่มเปิดปิดขนาดใหญ่ตรงกลาง ฉันรู้ว่ามันฟังดูง่ายมาก แต่คุณจะต้องแปลกใจว่ามี VPN หลายตัวที่ทำให้เรื่องง่าย ๆ นั้นการเป็นเรื่องยุ่งยากอย่างไม่น่าเชื่อ

ไอคอนสามจุดจะนำคุณไปยังรายการเซิร์ฟเวอร์และไอคอนสามขีดจะช่วยให้คุณเข้าถึงตัวเลือกต่าง ๆ ได้

คุณสามารถเลือกตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ที่ต้องการใช้หรือใช้ฟีเจอร์ Smart Location ได้ในเพียงแค่คลิกเดียว มันจะช่วยเชื่อมต่อให้คุณโดยอัตโนมัติโดยเลือกจากเซิร์ฟเวอร์ที่ใกล้ที่สุดที่มีความเร็วมากที่สุด เพื่อการปกป้องที่รวดเร็วมากที่สุด

อีกสิ่งหนึ่งที่ฉันชอบก็คือ แอปพลิเคชั่นแสดงตำแหน่งล่าสุดที่คุณเชื่อมต่อ สิ่งเหล่านี้มีทำเพื่อให้คุณสามารถเชื่อมต่ออีกครั้งได้อย่างรวดเร็ว หลังจากที่คุณเปิดใช้งานแอปพลิเคชั่น นอกจากนี้แอปของ Windows และ Mac นั้นยังเหมือนกันทุกประการ

การตั้งค่าในแอปพลิเคชั่นนั้นสามารถทำได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่คลิกไปที่ไอคอน 3 ขีด จากที่นี่คุณสามารถใช้การทดสอบความเร็ว, เปลี่ยนโปรโตคอลความปลอดภัย, เข้าถึงฟีเจอร์ split tunneling, เปิดปิดฟีเจอร์อื่น ๆ อย่างเช่น Network Lock

แดชบอร์ด ExpressVPN บนเว็บไซต์มีการตั้งค่าและฟีเจอร์บางอย่างที่คุณสามารถเข้าถึงได้ เมื่อคุณไปที่ "บัญชีของฉัน" และเข้าสู่ระบบ คุณจะสามารถเข้าถึงรหัสเปิดใช้งานและรายละเอียดการสมัครและคุณสามารถเปลี่ยนรายละเอียดการชำระเงินหรือดูใบแจ้งหนี้ได้ คุณยังสามารถปรับแต่งการตั้งค่า DNS และเข้าถึง MediaStreamer IP ของคุณได้ นอกจากนี้ คุณยังจะพบหน้าการตั้งค่าที่สามารถดาวน์โหลดแอป ExpressVPN ทั้งหมดได้ (พร้อมกับคู่มือการตั้งค่าที่มีประโยชน์ที่จะแสดงวิธีติดตั้งในแต่ละอุปกรณ์)

การติดตั้งและการตั้งค่า — ทำได้ง่ายและรวดเร็วในทุกอุปกรณ์

ฉันใช้เวลาน้อยกว่า 4 นาทีในการลงทะเบียนและติดตั้ง ExpressVPN

เพียงเลือกอุปกรณ์ของคุณแล้วกดปุ่มดาวน์โหลดสีเขียวขนาดใหญ่

คำแนะนำอย่างละเอียดสำหรับการติดตั้ง ExpressVPN:

คู่มือฉบับย่อ: วิธีการติดตั้ง ExpressVPN ใน 3 ขั้นตอนง่ายๆ

  1. เลือกแผนบริการ ไปที่เว็บไซต์ของ ExpressVPN เพื่อเริ่มขั้นตอนการลงทะเบียน เลือกแผนบริการและกรอกข้อมูลของคุณ
  2. ติดตั้งแอปพลิเคชั่น ลงทะเบียนบนเว็บไซต์เพื่อให้คุณมีสิทธิ์ได้รับ MBG จากนั้นดาวน์โหลดแอปบนอุปกรณ์ที่คุณต้องการและป้อนรหัสเพื่อเปิดใช้งาน
  3. ใช้งานอินเตอร์เน็ตได้อย่างปลอดภัย! เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ได้ภายในคลิกเดียวและใช้งานได้อย่างสบายใจเพราะคุณได้รับการปกป้องอย่างดี!

วิธีนี้ใช้ได้กับอุปกรณ์ Windows, Mac, iOS และ Android หากคุณกำลังใช้ Linux คุณจะต้องใช้ Command line มันเร็วพอ ๆ กับการติดตั้งในเวอร์ชันอื่น ๆ และ ExpressVPN มีคู่มือการตั้งค่าโดยละเอียดบนเว็บไซต์

Firestick มีแอปของตัวเองที่สามารถดาวน์โหลดได้เหมือนกับแอปอื่น ๆ MediaStreamer เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการตั้งค่าบน Android TV, Nvidia Shield, Roku, Apple TV, Chromecast, Samsung TV, Kindle Fire, Xbox, Playstation และ Nintendo Switch

ความเข้ากันได้ของอุปกรณ์ — สามารถใช้งานได้ในฮาร์ดแวร์มากมาย

ExpressVPN เข้ากันได้กับทุกระบบปฏิบัติการหลัก บนอุปกรณ์ที่หลากหลาย แอปเนทีฟพร้อมใช้งานสำหรับอุปกรณ์ที่ใช้ Windows, Mac, Android, iOS และ Linux นอกจากนี้ยังมีแอปสำหรับเราเตอร์อีกหลายตัว

Mediastreamer ช่วยให้การเชื่อมต่ออุปกรณ์ที่ไม่มีแอปในเครื่องทำได้ง่ายขึ้น

สิ่งที่ยอดเยี่ยมอย่างหนึ่งเกี่ยวกับ ExpressVPN ก็คือความง่ายของแอปในทุกอุปกรณ์ แอปส่วนใหญ่ใช้งานในลักษณะเดียวกัน ไม่ว่าอุปกรณ์ของคุณจะใช้ระบบปฏิบัติการใด ยกเว้นแอปพลิเคชั่นของ Linux มันไม่มีอินเทอร์เฟซแบบกราฟิก ดังนั้นฉันจึงต้องโต้ตอบกับแอปโดยใช้ข้อความ ฉันยังพบว่าการสลับเซิร์ฟเวอร์และการเข้าถึงทุกฟีเจอร์นั้นสามารถทำได้ง่ายโดยใช้ Command line

แม้ว่าแอปส่วนใหญ่จะมีลักษณะคล้ายกัน แต่จะมีฟีเจอร์ที่แตกต่างกันเล็กน้อยในแต่ละอุปกรณ์

Windows Mac Android iOS Linux เราท์เตอร์
กราฟฟิคอินเตอร์เฟส (GUI)
Kill Switch
IKEv2
Lightway
Split Tunneling

นอกจากระบบปฏิบัติการเหล่านี้แล้ว MediaStreamer ยังให้คุณเชื่อมต่ออุปกรณ์ที่ปกติไม่รองรับ VPN ได้อย่างง่ายดาย ซึ่งรวมถึง Xbox, Playstation, เราเตอร์ที่ไม่รองรับและสมาร์ททีวี นอกจากนี้ยังมีส่วนขยายเบราว์เซอร์สำหรับ Chrome, Firefox และ Microsoft Edge ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถใช้งานได้บนอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้มากกว่า VPN อื่น ๆ

เดสก์ท็อป — แอปสำหรับ Windows, Mac และ Linux ในประเทศไทย

แอป Windows และ Mac ของ ExpressVPN นั้นมีทุกอย่างเกือบจะเหมือนกันทั้งหมด มีโปรโตคอลเดียวกัน (OpenVPN, IKEv2, L2TP/IPsec และ Lightway) แต่ข้อแตกต่างอย่างหนึ่งคือ ไม่ได้มีฟีเจอร์ Split tunnel ใน OS 11 ขึ้นไปบน Mac

คุณจะต้องใช้ Windows 7 หรือใหม่กว่า และ macOS 10.10 หรือใหม่กว่า ExpressVPN ได้เพิ่มแอปพื้นฐานสำหรับอุปกรณ์ Silicon Mac ของ Apple (บางครั้งเรียกว่า M1 และ M2) แอปจำนวนมากจำเป็นต้องถูก "แปล" ก่อนจึงจะสามารถทำงานกับอุปกรณ์เหล่านี้ได้ ซึ่งมักจะทำให้เกิดปัญหา แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาของที่นี่ แค่ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้อัปเดตเป็นแอป Mac ล่าสุดและ ExpressVPN จะสามารถใช้งานได้กับ Apple Silicon ของคุณอย่างสมบูรณ์

ข้อแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือแอป Mac จะไม่มีฟีเจอร์ Split tunnel

ฉันพบว่าแอปนี้ใช้งานง่ายบนเดสก์ท็อปทั้ง 3 เวอร์ชัน แม้ว่าฉันจะต้องใช้เวลาเล็กน้อยในการเรียนรู้คำสั่งสำหรับ Linux เพราะมันไม่มีอินเทอร์เฟซผู้ใช้แบบกราฟิก (GUI) มี VPN ไม่กี่บริการที่นำเสนอบริการในแพลตฟอร์มนี้ แต่ Private Internet Access นำเสนอแอปที่ที่คุณควบคุมได้เช่นเดียวกับแอป PC หรือ Mac ของคุณ

อย่างไรก็ตามส่วนขยายเบราว์เซอร์ของ ExpressVPN สำหรับ Firefox และ Chrome นั้นมีอินเตอร์เฟส เนื่องจากส่วนขยายเหล่านี้เป็นเหมือนรีโมตคอนโทรลสำหรับแอป ไม่ใช่แค่พรอกซี การใช้ส่วนขยายเหล่านี้จะปกป้องอุปกรณ์ทั้งหมดของคุณ (ไม่ใช่แค่กิจกรรมในเบราว์เซอร์) ข้อเสียเพียงอย่างเดียวคือคุณไม่สามารถเปลี่ยนการตั้งค่าได้ คุณสามารถเชื่อมต่อ ตัดการเชื่อมต่อและเปลี่ยนเซิร์ฟเวอร์ได้เท่านั้น

ในการติดตั้ง ExpressVPN และเข้าถึงการตั้งค่าบน Linux คุณจะต้องใช้คำสั่งในเทอร์มินัล ตัวอย่างเช่น “expressvpn connect” จะเชื่อมต่อคุณอีกครั้งกับตำแหน่งสุดท้ายที่คุณใช้ คำสั่ง "expressvpn list all" จะแสดงคอลเล็กชันเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมดให้คุณเลือก เนื่องจากส่วนขยายของเบราว์เซอร์นั้นใช้งานง่ายกว่า ฉันจึงใช้งานเทอร์มินัลเฉพาะเมื่อฉันต้องการเปลี่ยนโปรโตคอลเท่านั้น

นอกจาก Split tunneling แล้ว Linux ก็มีฟีเจอร์เหมือนกับที่สำคัญของแอปเดสก์ท็อปอื่น ๆ ทั้งหมดอีกด้วย ความแตกต่างที่น่าสังเกตอื่น ๆ ก็คือมันใช้เฉพาะ Lightway และ OpenVPN และคุณไม่สามารถใช้ทางลัดของแอปเหมือนอย่าง Windows และ Mac ได้ ฟีเจอร์นี้ช่วยให้คุณเข้าถึงเว็บไซต์จากแอปได้ในคลิกเดียว ซึ่งฉันไม่ค่อยได้ใช้เลย แอปมีให้สำหรับผู้ใช้ Linux ที่ใช้ระบบ Ubuntu, Fedora, Arch และ Raspbian

ฟีเจอร์เดียวที่ไม่มีคือทางลัดของแอปและ Split tunneling

ไม่ว่าคุณจะใช้ระบบปฏิบัติการใด คุณจะได้ใช้ ExpressVPN เวอร์ชันที่มีฟีเจอร์ครบครันเหมือนบนเดสก์ท็อป

Android และ iPhone (iOS) ในประเทศไทย

แอป Android และ iOS นั้นคล้ายกับแอปเดสก์ท็อปมาก แต่ iOS ไม่มีฟีเจอร์หลักบางอย่าง

แอป Android มีฟีเจอร์ทั้งหมดเหมือนกับแอปเดสก์ท็อป (Split tunneling, kill switch, การเชื่อมต่ออัตโนมัติ) พร้อมด้วยฟีเจอร์พิเศษบางอย่าง ข้อมูลสรุปการป้องกันจะแสดงเปอร์เซ็นต์ของความถี่ที่คุณเชื่อมต่อกับ VPN ตั้งแต่ติดตั้ง นอกจากนี้ยังมีการรวบรวมข้อมูลที่ด้านล่างของหน้าจอหลัก พร้อมคำแนะนำที่มีลิงค์ไปยังบล็อกของ ExpressVPN อีกด้วย

อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่น่าสนใจบน Android ก็คือ แอปให้คุณสามารถปิดการจับภาพหน้าจอของคุณได้ ซึ่งฟีเจอร์นี้จะช่วยไม่ให้แอปหรือบุคคลที่สามสามารถจับภาพหน้าจอที่มีข้อมูลที่ละเอียดอ่อนในแอป ExpressVPN ของคุณได้ ตอนนี้ฟีเจอร์นี้มีให้ใช้งานแค่ใน Android อย่างเดียว (แต่ก็คล้ายกับฟีเจอร์ in-the-works ของ iOS)

คุณต้องลงทะเบียนบนเว็บไซต์ของ ExpressVPN ก่อนดาวน์โหลดแอป Android ผ่าน Google Play Store และคุณจะต้องใช้ Android เวอร์ชัน 5.0 หรือใหม่กว่า

เวอร์ชัน Android มีฟีเจอร์มากกว่า iOS . เล็กน้อย

ExpressVPN Keys เป็นฟีเจอร์สำหรับแอป Android และ iOS ที่จะช่วยเข้ารหัสและจัดเก็บรหัสผ่านทั้งหมดของคุณ (ไม่จำกัดจำนวน) เพื่อให้คุณลงชื่อเข้าใช้บัญชีของคุณได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือสร้างรหัสผ่าน ที่ช่วยให้คุณสสามารถสร้างรหัสผ่านที่ปลอดภัยและไม่ซ้ำกันสำหรับทุกบริการ แถมยังใช้งานกับแอปต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกอีกด้วย แม้ว่า Keys จะไม่มีให้บริการในแอปเดสก์ท็อป แต่คุณยังสามารถใช้งานได้บน Windows, Mac และ Linux ผ่านส่วนขยายเบราว์เซอร์

แอป Android มีตัวเลือกโปรโตคอล Lightway หรือ OpenVPN การเข้าถึง Lightway นั้นยอดเยี่ยมมาก เพราะเป็นโปรโตคอลที่ดีที่สุดสำหรับโทรศัพท์ มันได้รับการออกแบบมาสำหรับการสลับระหว่างเครือข่ายอย่างราบรื่นโดยเฉพาะและประหยัดแบตเตอรี่ เวอร์ชัน Android ยังมีทางลัดแอปและเว็บไซต์ (สูงสุด 5 รายการ) ที่สามารถเพิ่มเข้าไปได้ โดยรวมแล้วแอป Android นั้นทำงานได้ดีพอ ๆ กับเวอร์ชั่นเดสก์ท็อป ฉันสามารถสตรีมรายการในรูปแบบ HD ได้สมบูรณ์แบบและสามารถสลับระหว่างข้อมูลมือถือและ WiFi ได้ทันทีโดยใช้ Lightway

น่าเสียดายที่ เวอร์ชันสำหรับ iPhone นั้นยังขาดเรื่องของ split tunneling และ Network Protection (ฟีเจอร์ kill switch) และก็ยังขาดเรื่อง Protection Summary รวมถึงเคล็ดลับการใช้งานแบบเดียวกับที่ปรากฏใต้หน้าจอของแอปบน Android ด้วย อย่างไรก็ตาม คุณจะได้รับฟีเจอร์เสริมพิเศษสองอย่างที่ผู้ใช้งานบนระบบ Android ไม่มี หากคุณเลือกใช้บน iPhone

Threat Manager และ Parallel Connections นั้นจะมีเฉพาะบน iOS ดังนั้นคุณจะปลอดภัยจากมัลแวร์และสามารถเชื่อมต่อกับ VPN ได้รวดเร็วกว่าบนเครือข่ายที่ถูกจำกัด แอปมากมายต่างก็นำข้อมูลของคุณไปแชร์กับบุคคลที่สาม Safari จะช่วยป้องกันตัวติดตามเรื่องพวกนี้ได้เป็นอย่างดี แต่ Threat Manager จะช่วยทำให้มั่นใจว่าคุณจะปลอดภัยจากการใช้แอปทั้งหมดบนอุปกรณ์ iOS (นอกจากนี้ยังมีให้ใช้บน macOS และ Linux อีกด้วย)

Parallel Connections จะทำให้คุณเชื่อมต่อเข้าหาเซิร์ฟเวอร์ได้เร็วขึ้น (โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนเครือข่ายที่มีข้อจำกัด) เพราะว่า VPN จะพยายามเชื่อมต่อโดยใช้หลายวิธีไปพร้อม ๆ กัน ยกตัวอย่างเช่น โรงเรียนบางแห่งอาจจะบล็อกการเชื่อมต่อแบบ UDP แต่ VPN ก็จะสามารถลองเชื่อมต่อด้วย TCP ไปในเวลาเดียวกันได้ นั่นหมายความว่าคุณจะไม่ต้องเสียเวลาลองโปรโตคอลหลายรูปแบบเพื่อที่จะค้นหาวิธีเชื่อมต่อที่ได้ผล ยิ่งไปกว่านั้น แอป ExpressVPN บน iOS ก็ยังเก็บ shortcut สำหรับแอปและเว็บไซต์ที่มีในแอปเวอร์ชันอื่น ๆ อีกด้วย

ตอนนี้โปรโตคอล Lightway พร้อมใช้งานบน iPhone อย่างเต็มรูปแบบแล้ว หลังจากที่ใช้เวอร์ชั่นเบต้าเป็นเวลานาน หลังจากที่เชื่อมต่อกับ Lightway ฉันลงชื่อเข้าใช้เครือข่ายใหม่ได้ภายในหนึ่งวินาทีหรือน้อยกว่า ฉันยังสามารถปลดบล็อกแพลตฟอร์มการสตรีมและดูรายการโดยไม่มีการสะดุดได้เหมือนกับที่ฉันทำกับแอปเดสก์ท็อป IKEv2 ก็มีให้บริการเช่นกัน แต่ฉันแนะนำให้ใช้ Lightway (TCP เร็วกว่า UDP) ดีกว่า

ฟีเจอร์หนึ่งที่คุณจะใช้ได้แต่บน iOS แต่ไม่มีใน Android คือ "Reinstall VPN Configuration" วิธีนี้ช่วยให้คุณติดตั้ง VPN ใหม่จากภายในแอปได้ หากคุณมีปัญหา บน Android คุณต้องถอนการติดตั้งและติดตั้งใหม่จาก Play Store ด้วยตนเอง ซึ่งจะทำให้การรีสตาร์ทแอปหากคุณมีปัญหาได้ง่ายขึ้น

เมื่อใช้ iPhone คุณจะต้องซื้อและติดตั้งผ่าน App Store และต้องใช้ iOS เวอร์ชัน 12 หรือใหม่กว่า

โดยรวมแล้ว ExpressVPN มีแอปที่ยอดเยี่ยมบนอุปกรณ์มือถือ น่าเสียดายที่ iPhone ไม่มี split tunneling หรือ kill switch แต่นี่เป็นเรื่องปกติธรรมดาสำหรับแอปพลิเคชัน VPN บน iOS จำนวนมาก

ส่วนขยายเบราว์เซอร์สำหรับ Chrome, Firefox, Edge, Brave และ Vivaldi

ส่วนขยายเบราว์เซอร์ของ ExpressVPN นำเสนอตัวเลือกความปลอดภัยเพิ่มเติมบางอย่างแก่คุณ แต่คุณสามารถใช้ได้เฉพาะบนเดสก์ท็อปเท่านั้น ExpressVPN มีส่วนขยายบราวเซอร์สำหรับ Chrome และ firefox คุณสามารถเพิ่มลงใน Microsoft Edge ได้เช่นกัน แต่คุณจะต้องดาวน์โหลดผ่าน Chrome Web Store และอนุญาตส่วนขยายจากร้านค้าอื่น ๆ ในการตั้งค่าของ Edge กระบวนการนี้ยังใช้ได้กับ Brave และ Vivaldi

ส่วนขยายเหล่านี้เป็นเหมือนรีโมตคอนโทรลสำหรับแอปของคุณ แทนที่จะเป็นพร็อกซี นี่เป็นสิ่งที่ดีเพราะแอปมีฟีเจอร์ทั้งหมดนำเสนอให้แก่คุณ คุณจะต้องดาวน์โหลด ExpressVPN ไปยังเดสก์ท็อปของคุณ การเชื่อมต่อในเบราว์เซอร์จะเชื่อมต่อกับแอปของคุณด้วย

การปลอมแปลงตำแหน่งของคุณช่วยเมื่อแพลตฟอร์จำกัดการเข้าถึงจากตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ในเบราว์เซอร์

การใช้ส่วนขยายเบราว์เซอร์ช่วยให้ฉันเข้าถึงแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น Hulu ที่ต้องการตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ในเบราว์เซอร์ที่บริการกำหนด Hulu สามารถใช้เทคโนโลยีการติดตามทางภูมิศาสตร์ในอุปกรณ์ของคุณเพื่อดูว่าจริง ๆ แล้วคุณอยู่ที่ไหน แต่การใช้ "Spoof your location" จะทำให้ดูเหมือนว่าคุณอยู่ในตำแหน่งเดียวกับเซิร์ฟเวอร์ของ VPN ซึ่งจะสามารถปลดบล็อกแพลตฟอร์มได้

ส่วนขยายยังช่วยให้คุณบล็อกการรั่วไหลของ WebRTC ได้อีกด้วย WebRTC เป็นซอฟต์แวร์การสื่อสารที่ใช้งานในเบราว์เซอร์จำนวนมากที่สามารถเปิดเผยหมายเลข IP ของคุณได้ ฉันทดสอบสิ่งนี้ในระหว่างการทดสอบการรั่วไหลและไม่พบการรั่วไหลของ WebRTC

คุณสามารถทำให้การท่องเว็บของคุณปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วยการเปิดใช้งาน “HTTPS Everywhere” เมื่อเว็บไซต์ใช้ HTTPS (เว็บเวอร์ชันที่ปลอดภัยที่ใช้การเข้ารหัส) ExpressVPN จะเข้าถึงเว็บไซต์นั้นโดยอัตโนมัติ ฉันเข้าใช้งานเว็บไซต์ต่าง ๆ 6 เว็บที่ฉันใช้โดยปกติ โดยเปิดใช้งานตัวเลือกนี้และฉันเข้าถึงเว็บเวอร์ชัน HTTPS ได้ในทุกครั้ง

ส่วนขยายเบราว์เซอร์มีประโยชน์อย่างยิ่ง แต่น่าเสียดายที่ไม่มีให้ใช้ในโทรศัพท์หรือแท็บเล็ต การสลับไปมาระหว่างแอปและเบราว์เซอร์บนเดสก์ท็อปทำได้ง่าย แต่บนหน้าจอทัชสกรีนนั้นค่อนข้างยุ่งยาก ส่วนขยายเบราว์เซอร์มีให้ใช้งานสำหรับ Chromebook (ซึ่งใช้ ChromeOS) แต่ฉันมีปัญหาในการซิงค์เมื่อทดสอบ จึงไม่แนะนำให้ใช้ น่าเสียดายที่ไม่มีส่วนขยาย Safari

แอปเนทีฟสำหรับอุปกรณ์ Amazon Fire TV, Nvidia Shield และ Android TV

ExpressVPN มีแอปพื้นฐานสำหรับ Amazon Fire TV และ Nvidia Shield พร้อมกับสมาร์ททีวีอื่น ๆ ที่ทำงานบนระบบ Android

ใน Amazon Fire TV คุณต้องมีเวอร์ชัน 2 เป็นอย่างน้อยจึงจะใช้งานได้ ฉันสามารถดาวน์โหลดแอปบน Fire TV Stick ได้ภายใน 2 นาที ฉันเพิ่งพบมันใน Amazon App store และดาวน์โหลดและติดตั้งมันเหมือนกับแอปพลิเคชันอื่น ๆ

ตราบใดที่คุณใช้ Android 2 ขึ้นไป คุณสามารถดาวน์โหลดแอปไปยัง Android TV ผ่าน Play Store ได้ แม้ว่าคุณจะดาวน์โหลดแอปผ่าน Store สมัครบริการบนเว็บไซต์ ExpressVPN

ไม่ค่อยมี VPN ไหนที่ให้คุณดาวน์โหลดแอปพลิเคชันลงบนทีวีหรืออุปกรณ์สตรีมมิ่งของคุณได้โดยตรง นี่เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ทำให้ ExpressVPN โดดเด่น หากคุณต้องการเปลี่ยนตำแหน่งใน Amazon หรือ Android TV ของคุณ มันไม่มีตัวเลือกที่ง่ายกว่านี้อีกแล้ว

MediaStreamer — ใช้งานได้กับ Xbox, PlayStation, Nintendo, Apple TV, สมาร์ททีวีและอุปกรณ์อื่น ๆ

MediaStreamer (SmartDNS) ให้คุณเชื่อมต่อ ExpressVPN กับอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ VPN ไม่ได้ตามปกติ เช่น เกมคอนโซลและสมาร์ททีวี

โปรดทราบว่า MediaStreamer มีไว้สำหรับการสตรีมเท่านั้นและไม่เหมือนกับ VPN — คุณไม่สามารถสลับไปมาระหว่างตำแหน่งต่าง ๆ ได้ มันเชื่อมต่ออุปกรณ์ของคุณกับเซิร์ฟเวอร์ของสหรัฐอเมริกาที่ได้รับการปรับแต่งมาแล้ว ซึ่งจะช่วยให้คุณเข้าถึงแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งยอดนิยมที่สุดในสถานที่นั้นได้

การกำหนดค่าอุปกรณ์ด้วย MediaStreamer จะทำให้คุณสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์พร้อมกัน 5 เครื่องพร้อมกันได้ นอกจากนี้มันยังไม่เข้ารหัสการรับส่งข้อมูลหรือซ่อนหมายเลข IP ของคุณ ดังนั้นจึงไม่มีการป้องกันแบบเดียวกับการใช้แอป VPN เต็มรูปแบบ อย่างไรก็ตาม ด้วยเหตุนี้ฉันจึงไม่ได้บันทึกความแตกต่างของความเร็วเมื่อใช้งาน

ฉันใช้เวลาน้อยกว่า 5 นาทีในการตั้งค่า MediaStreamer บน PS4 ของฉัน ฉันแต่ต้องลงทะเบียน IP ของฉันในบัญชี ExpressVPN ของฉัน ฉันได้รับ MediaStreamer IP ใหม่และใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีในการป้อนที่อยู่ใหม่ในการตั้งค่าเครือข่าย PlayStation ของฉัน

ลงทะเบียน IP ของคุณ จากนั้นคลิก “Configure DNS on this device” เพื่อรับ MediaStreamer IP ของคุณ

เนื่องจากฉันอาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา ฉันจึงสามารถเข้าถึงแพลตฟอร์มที่ปลดบล็อกได้เสมอ เพื่อให้ได้ข้อมูลการใช้งานจากนอกประเทศที่แท้จริง ฉันได้ติดต่อผู้ทดสอบ VPN ในทีมของเราจากบรัสเซลส์ ซึ่งยืนยันว่า MediaStreamer สามารถปลดบล็อก Hulu, HBO Max, Amazon Prime Video และ US Netflix บน PS4 ได้จริง ๆ

MediaStreamer เป็นวิธีที่สะดวกในการเข้าถึงแพลตฟอร์มที่คุณชื่นชอบบนอุปกรณ์ที่ไม่รองรับ VPN แต่ถ้าคุณต้องการฟังก์ชันการทำงานเต็มรูปแบบและฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยของ VPN วิธีที่ดีที่สุดคือใช้แอปสำหรับเราเตอร์

แอปพลิเคชั่นสำหรับเราท์เตอร์

ExpressVPN มีแอปแบบเนทีฟสำหรับเราท์เตอร์ พร้อมด้วยการกำหนดค่าด้วยตนเองในอุปกรณ์ที่เลือก นี่เป็นฟีเจอร์ที่ยอดเยี่ยมที่ทำให้ ExpressVPN โดดเด่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านความสะดวกในการใช้งาน มีไม่กี่ VPN ที่มีแอปที่ทันสมัยสำหรับเราเตอร์

การติดตั้งแอปแบบนี้จะสามารถช่วยคุณได้ในหลายด้าน คุณจะสามารถปกป้องทุกอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายในบ้านของคุณได้ แม้ว่าอุปกรณ์จะไม่รองรับซอฟต์แวร์ VPN ก็ตาม ซึ่งรวมถึงสมาร์ททีวี คอนโซลเกมและอุปกรณ์สตรีม เช่น Chromecast หรือ Roku และไม่มีข้อจำกัดเกี่ยวกับจำนวนอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อเมื่อคุณติดตั้งลงในเราท์เตอร์ด้วย

คุณจะสามารถเข้าถึง Kill switch และ Split tunneling ได้อีกด้วย คู่มือการตั้งค่าแบบโต้ตอบมีประโยชน์มากและฉันสามารถติดตั้งทุกอย่างได้ภายในเวลาไม่ถึง 10 นาที คุณสามารถติดตั้งแอป ExpressVPN ได้ในเราเตอร์ Asus, Linksys และ Netgear เกือบทุกรุ่น

ExpressVPN ได้อัปเดตซอฟต์แวร์เราท์เตอร์เมื่อเร็ว ๆ นี้ ทำให้เปลี่ยนตำแหน่งได้ง่ายขึ้น มีการเพิ่มฟีเจอร์การอัปเดตอัตโนมัติ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องติดตั้งใหม่เมื่อมีการอัปเกรดหรืออัปเดต สำหรับโครงสร้างพื้นฐาน ตอนนี้ซอฟ์แวร์ใช้ OpenSSL เวอร์ชัน 1.1.1k เพื่อความปลอดภัยที่ดีขึ้น มีการติดตั้งไดรเวอร์ Linksys Wi-Fi เพื่อเพิ่มความเสถียรอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้นในเวอร์ชันล่าสุดยังมีโปรโตคอล Lightway ให้ใช้งานบนอีกด้วย

คุณยังสามารถติดตั้ง ExpressVPN ด้วยตนเองบนเราเตอร์รุ่นต่าง ๆ อย่าง Asus, D-Link, DD-WRT, Netduma, Sabai, Tomato, TP-Link และ Xiaomi อย่างไรก็ตามการกำหนดค่าด้วยตนเองนั้นต้องใช้เวลามากพอสมควรและคุณจะสามารถสลับได้เฉพาะ IP เท่านั้น การกำหนดค่าด้วยตนเองและแอปเราเตอร์จะสามารถควบคุมผ่านเบราว์เซอร์ของคุณได้

วิธีที่ง่ายที่สุดในการตั้งค่าคือซื้อเราท์เตอร์ที่ติดตั้ง ExpressVPN ไว้ล่วงหน้า คุณสามารถค้นหาเราเตอร์ที่มีเฟิร์มแวร์ที่กำหนดค่าไว้แล้วสำหรับคุณบนเว็บไซต์ ExpressVPN

ExpressVPN ยังมีเราท์เตอร์ WiFi เป็นของตัวเอง ที่มีชื่อว่า AirCove 6 เราท์เตอร์นี้มี 6 เทคโนโลยี WiFi เพื่อความเร็วที่รวดเร็วและยังให้คุณสามารถแบ่งกลุ่มอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ WiFi ทุกเครื่องในบ้านของคุณออกเป็น 5 กลุ่มสำหรับเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ที่ต่างกันได้อีกด้วย Aircove ยังได้รับการตรวจสอบและรับรองความปลอดภัยโดย Cure53 อีกด้วย

คุณยังสามารถติดตั้งบนเราเตอร์ที่เข้ากันได้หรือใช้การกำหนดค่าด้วยตนเอง

คุณยังสามารถแทนที่เฟิร์มแวร์ดั้งเดิมของเราเตอร์ของคุณด้วย ExpressVPN อย่างไรก็ตามการทำเช่นนี้อาจทำให้ประกันของคุณเป็นโมฆะและทำให้อุปกรณ์ของคุณเสียหาย ฉันไม่แนะนำให้ทำ เว้นแต่คุณจะมีความรู้ขั้นสูงในด้านนี้

สุดท้ายนี้คุณยังสามารถใช้ Mediastreamer เพื่อเชื่อมต่อเราท์เตอร์ของคุณกับเซิร์ฟเวอร์ของสหรัฐอเมริกาที่ปรับให้เหมาะสมกับการสตรีม อย่างไรก็ตามโปรดทราบว่าฟีเจอร์นี้จะไม่เข้ารหัสข้อมูลของคุณและวิธีที่ดีที่สุดในการเชื่อมต่อเราเตอร์ของคุณคือการใช้แอปที่มาพร้อมเครื่อง

การเชื่อมต่ออุปกรณ์พร้อมกัน — ปกป้องสูงสุด 8 อุปกรณ์

ทางเทคนิคแล้ว คุณจะสามารถใช้งาน ExpressVPN ได้บน 8 อุปกรณ์ไปพร้อม ๆ กัน บาง VPN นั้นสามารถใช้พร้อมกันได้มากกว่า (ยกตัวอย่างเช่น Private Internet Access, Surfshark, และ IPVanish ซึ่งเปิดให้เชื่อมต่อได้พร้อมกันอย่างไม่จำกัดจำนวนอุปกรณ์) แต่ก็มีวิธีแก้ไขอยู่ — ExpressVPN นั้นรองรับเราเตอร์ได้เป็นอย่างดี มันสามารถติดตั้งใช้งานได้ง่ายกว่า VPN รายอื่น ๆ เพราะว่ามันมีแอปและเฟิร์มแวร์ที่รองรับสำหรับเราเตอร์โดยเฉพาะ หลังจากที่ติดตั้งบนเราเตอร์แล้ว คุณก็จะสามารถเชื่อมต่อได้ไม่จำกัดจำนวนอุปกรณ์เช่นกัน

เพื่อทดสอบฟีเจอร์นี้ ฉันจึงติดตั้ง ExpressVPN บนแล็ปท็อป, พีซี, โทรศัพท์ iPhone, Android และ PS4 ผ่าน MediaStreamer ฉันสามารถเข้าถึง 4 แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งได้ ในขณะที่เล่น Doom Eternal แบบผู้เล่นหลายคนทางออนไลน์ไปด้วยได้ ไม่มีวิดีโอใดที่มีคุณภาพต่ำหรือสะดุดและเกมเล่นได้โดยไม่แลค ดังนั้นคุณไม่ต้องกังวลว่าการเชื่อมต่อพร้อมกันที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพของ ExpressVPN

ราคา

9.4
1 ปี + 3 เดือน
$ 6.67 / เดือน ต่อเดือน
6 เดือน
$ 9.99 / เดือน ต่อเดือน
1 เดือน
$ 12.95 / เดือน ต่อเดือน
เคล็ดลับมือโปร: ข้อเสนอ "ฟรี 3 เดือน" จาก ExpressVPN นั้นไม่ได้แสดงในทุกหน้าเพจ แต่หน้าทดลองใช้ฟรี นั้นมีข้อเสนอราคาที่ดีที่สุดที่คุณควรลองเข้าไปดู

 

คุณสามารถเลือกแผนบริการได้ 3 แบบ โดยแผนที่ยาวที่สุดจะมอบความคุ้มค่าให้สูงสุด แผน 1 เดือนนั้นเป็นตัวเลือกที่ดี หากคุณไม่แน่ใจว่าคุณต้องการ VPN ในระยะยาวหรือไม่ แต่ที่ราคาเกือบ $13/เดือน มันค่อนข้างแพงเมื่อเทียบกับ VPN อื่น ๆ

คุณจะต้องจ่ายเงินล่วงหน้าสำหรับแผน 6 และ 12 เดือน แต่คุณจะได้รับส่วนลด (แผนรายปีมีราคาเพียง $6.67/เดือน ซึ่งมีราคาถูกกว่า 49% แผน 1 เดือน (นอกจากนี้คุณยังได้รับพื้นที่เก็บข้อมูลสำรองบนคลาวด์ฟรี 3 เดือนและหนึ่งปีเต็มจาก Backblaze อีกด้วย)

ExpressVPN นั้นคุ้มค่าราคาที่จ่ายไป เพราะว่ามันเป็น VPN ที่ดีที่สุดที่เราได้ทดลองมา ถึงแม้ว่าจะมี VPN คุณภาพดีที่คุณสามารถรับบริการได้ในราคาที่ถูกกว่า แต่ ExpressVPN นั้นดีกว่าตัวเลือกอื่น ๆ ทั้งหมดเมื่อพูดถึงเรื่องความเร็ว ความเสถียร ฝ่ายบริการลูกค้า ความเป็นส่วนตัว และความปลอดภัย แพลนแบบ 12 เดือนนั้นมีความคุ้มค่าที่สุด และมันก็มีราคาสูงกว่ารายอื่นที่ถูกที่สุดเพียงเล็กน้อยต่อเดือน

เนื่องจากแผนทั้งหมดมาพร้อมกับฟีเจอร์และบริการที่เหมือนกัน สิ่งเดียวที่คุณต้องคำนึงถึงคือระยะเวลาที่คุณต้องการใช้ บริการ VPN อื่น ๆ นำเสนอบริการที่ถูกกว่า แต่มันมาพร้อมกับฟีเจอร์ที่จำกัด ดังนั้นฉันชอบที่ ExpressVPN ไม่หวงฟีเจอร์กับผู้ใช้

คุณสามารถซื้อบริการของ ExpressVPN ด้วย Visa, Mastercard, Paypal, Qiwi Wallet, Maestro, Bitcoin และอีกมากมาย หากคุณชำระเงินด้วยสกุลเงินดิจิทัลและใช้อีเมลที่คุณสร้างขึ้นสำหรับบริการนี้โดยเฉพาะ คุณจะสามารถสมัครใช้งาน ExpressVPN ได้โดยไม่เปิดเผยตัวตน

นอกจากนี้ยังมีการรับประกันคืนเงินที่ไม่ยุ่งยาก ดังนั้นคุณมีเวลาสูงสุด 30 วันในการขอเงินคืนหากคุณไม่พอใจ เพื่อทดสอบสิ่งนี้ ฉันได้ติดต่อฝ่ายสนับสนุนทางไลฟ์แชทเพื่อขอเงินคืน พวกเขาถามฉันว่าทำไมฉันถึงยกเลิกบริการและอนุมัติการยกเลิกในเวลาประมาณ 12 นาที สมาชิกทีมสนับสนุนบอกฉันว่าจะใช้เวลา 5-7 วันในการดำเนินการ แต่ฉันจะได้เงินทั้งหมดคืนในบัญชีของฉันใน 3 วัน

ฉันได้เงินทั้งหมดคืนใน 3 วัน

ข้อยกเว้นเพียงอย่างเดียวสำหรับผู้ใช้ iPhone คือต้องดาวน์โหลด ExpressVPN ผ่าน Apple store ที่นี่คุณจะสามารถทดลองใช้ได้ฟรี 7 วันและต้องขอเงินคืนจาก Apple หากคุณตัดสินใจที่จะไม่ใช้งานต่อหลังจากครบ 7 วัน พวกเขาไม่มีภาระผูกพันในการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน นี่คือเหตุผลที่ฉันแนะนำให้คุณสมัครใช้งานบนเว็บไซต์ของ ExpressVPN เสมอ คุณสามารถดาวน์โหลดมันลงในโทรศัพท์ได้อย่างง่ายดายและลงชื่อเข้าใช้ในภายหลัง

เคล็ดลับอีกอย่างหนึ่งที่สามารถช่วยคุณประหยัดเงินได้คือการแนะนำเพื่อน เมื่อคุณทำเช่นนี้คุณทั้งคู่จะได้รับบริการฟรี 30 วัน ภายใต้บัญชีของคุณ คุณจะเห็นไอคอนแพ็คเกจของขวัญเล็ก ๆ ที่คุณสามารถป้อนอีเมลของพวกเขาได้

ความเสถียร & การช่วยเหลือ

10.0

การจะเข้าถึงไลฟ์แชท 24/7 ของ ExpressVPN นั้นง่ายมาก หลังจากทื่คุณเชื่อมต่อแล้ว คุณก็จะถูกเชื่อมต่อหาคนจริง ๆ ในทันที ไม่ใช่บอทน่ารำคาญเหมือน VPN รายอื่น ๆ ยิ่งไปกว่านั้น คุณจะสามารถติดต่อเป็นภาษาไทยได้เนื่องจากตัวแทนจะใช้ฟีเจอร์โปรแกรมแปลภาษาเพื่อทำให้สื่อสารกันได้ง่ายขึ้น ทีมบริการลูกค้าของมันนั้นยังมีความรู้มากด้วย — ใช้เวลาแค่ไม่กี่นาที

ฉันติดต่อฝ่ายสนับสนุนมากกว่า 20 ครั้งในขณะเขียนรีวิวนี้และได้รับการตอบกลับจากตัวแทนภายใน 10 วินาทีทุกครั้ง พวกเขามีคำตอบให้สำหรับทุกคำถามของฉันเสมอ แม้ว่าบางครั้งพวกเขาจะใช้เวลา 2 หรือ 3 นาทีในหาคำตอบสำหรับคำถามยาก ๆ ก็ตาม

ตัวอย่างเช่นการค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับการใช้ส่วนขยายเบราว์เซอร์บนแท็บเล็ตหรือ Chromebook บนเว็บไซต์นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย สมาชิกทีมสนับสนุนตอบกลับทุกสิ่งที่ฉันต้องการทราบเกี่ยวกับอุปกรณ์เหล่านี้ได้หลังจากผ่านไปไม่กี่นาที

ฉันเชื่อมต่อกับตัวแทนสนับสนุนำเ้ใน 10 วินาทีหรือต่ำกว่านั้นในทุกครั้ง

อย่างหนึ่งที่ต้องทราบเอาไว้ก็คือ ช่องแชทจะถูกปิดไปอัตโนมัติ ถ้าคุณไม่ได้ใช้งานอุปกรณ์สักระยะ เราเห็นว่ามันจะปิดการสนทนาของเราหลังจากที่ผ่านไป 5 นาที และนั่นก็เป็นเรื่องน่ารำคาญเล็กน้อยที่ต้องมานั่งเชื่อมต่อใหม่ แต่มันมีความสะดวกตรงที่คุณสามารถขอติดต่อกับตัวแทนคนเดิมได้ หลังจากที่คุณกลับมาแล้ว

คุณยังสามารถขอการถอดเสียงบทสนทนาของคุณ หรือขอให้ตัวแทนตอบคำถามทางอีเมลได้ด้วย เราแนะนำให้ปิดตัวบล็อกโฆษณาเพราะมันจะส่งผลต่อการโหลดได้

เว็บไซต์ของ ExpressVPN มีรายการคำถามที่พบบ่อย, คู่มือการตั้งค่าในภาษาไทยและวิดีโอคำแนะนำจำนวนมาก หากคุณไม่ต้องการพูดคุยกับตัวแทน คุณสามารถค้นหาคำตอบของคุณได้ที่นี่ นอกจากนี้คุณยังสามารถใช้ระบบตั๋วหรือส่งอีเมลโดยตรงได้ แม้ว่าฉันจะพบว่าไลฟ์แชทนั้นสะดวกกว่าก็ตาม

คุณสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเทคโนโลยี VPN หรือดูคู่มือการตั้งค่าสำหรับแต่ละอุปกรณ์ได้ที่นี่

เว็บไซต์ ExpressVPN นั้นสามารถนำทางได้อย่างง่ายดายและเต็มไปด้วยข้อมูลที่เป็นนอกจากนี้ยังมีให้บริการใน 16 ภาษา เช่น อังกฤษ, ไทย, สเปน, ฝรั่งเศสและดัตช์

สิ่งที่สำคัญที่สุด

สรุป — บริการมีความน่าเชื่อถือสูง ความเร็วสูงและการรักษาความปลอดภัยที่ยอดเยี่ยมทำให้คุ้มค่าอย่างมาก

ExpressVPN เป็น VPN ที่เร็วและน่าเชื่อถือที่สุดเท่าที่ฉันเคยใช้มา เซิร์ฟเวอร์ทางไกลบางตัวได้เพิ่มความเร็วของฉันและฉันสามารถสตรีมแบบ HD ได้โดยปราศจากจากสะดุด นอกจากนี้ยังสามารถปลดบล็อกแพลตฟอร์มการสตรีมได้อย่างน่าเชื่อถืออย่างมาก ทุกแพลตฟอร์มที่ฉันทดสอบโหลดขึ้นมาได้เกือบจะในทันทีโดยไม่มีปัญหา

เมื่อพูดถึงเรื่องความปลอดภัย ExpressVPN ก็ยากที่จะหาใครเทียบได้เช่นกัน การเข้ารหัสระดับทหารและเซิร์ฟเวอร์ DNS ส่วนตัวช่วยให้ผ่านการทดสอบการรั่วไหลทั้งหมดของฉัน ยิ่งไปกว่านั้นยังมีนโยบายไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานที่เข้มงวดและมีสำนักงานใหญ่ในหมู่เกาะบริติชเวอร์จินที่เป็นมิตรต่อความเป็นส่วนตัว ทำให้นี่เป็นบริการ VPN ที่ฉันไว้วางใจในการจัดการข้อมูลของฉัน

ข้อเสียที่ฉันพบคือมันไม่ได้มาพร้อมกับเครื่องมือบล็อกโฆษณา ซึ่ง VPN ชั้นนำอื่น ๆ นำเสนอ อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่เนื่องจากมีเครื่องมือบล็อกโฆษณาที่ยอดเยี่ยมหลายตัวที่ให้บริการฟรี

โดยรวมแล้ว ฉันแนะนำ ExpressVPN ให้กับทุกคนที่สนใจใช้ VPN มันคุ้มค่ากับราคาอย่างแน่นอน

jo4moAR7jbY
  • การเชื่อมต่อความเร็วสูงสำหรับการสตรีมโดยไม่มีการสะดุด
  • ยอดเยี่ยมสำหรับการปลดบล็อกแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งอย่าง Netflix
  • เครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่กว่า 3,000+ เซิร์ฟเวอร์ใน ประเทศ 105+
  • การเข้ารหัสระดับทหารและ Kill switch อัตโนมัติเพื่อปกป้องข้อมูลของคุณ
  • นโยบายการไม่บันทึกข้อมูลที่เข้มงวด
  • แอปสำหรับอุปกรณ์มากมายรวมถึง เราเตอร์
  • โปรโตคอล Lightway ของบริการนั้นเร็วมากและยอดเยี่ยมสำหรับอุปกรณ์พกพา
  • การสนับสนุนผ่านไลฟ์แชทตลอด 24 ชั่วโมง
  • แผนบริการราคาไม่แพงพร้อมกับการรับประกันคืนเงินภายใน วัน 30

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ ExpressVPN

ฉันสามารถใช้ ExpressVPN เพื่อดู Netflix US และไลบรารียอดนิยมอื่น ๆ จากประเทศไทยได้หรือไม่

ได้ ExpressVPN ช่วยให้คุณสามารถเข้าถึงไลบารี Netflix ในทั่วโลกได้ ฉันใช้บริการเพื่อปลดบล็อก Netflix ใน 20 ประเทศ คุณยังสามารถใช้เพื่อเข้าถึง Disney+, Hulu, BBC iPlayer และแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งอื่น ๆ ที่คุณต้องการได้ ที่จริงแล้ว ฉันยังไม่พบบริการสตรีมมิ่งใด ๆ ที่บริการไม่สามารถปลดบล็อกได้ ฉันยังสามารถสตรีมในรูปแบบ HD ได้โดยไม่กระตุกบนทุกแพลตฟอร์มที่ฉันทดสอบด้วย นอกจากนี้ คุณยังสามารถสตรีม Netflix บนอุปกรณ์ใดก็ได้โดยใช้ฟีเจอร์ MediaStreamer ของ ExpressVPN

ฉันสามารถใช้ ExpressVPN บนอุปกรณ์ใดได้บ้าง

คุณสามารถใช้บริการ ExpressVPN ได้กับทุกอุปกรณ์ที่สามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้

อุปกรณ์ต่อไปนี้มีแอปสำหรับอุปกรณ์:

  • พีซีที่ใช้ Windows 7 หรือใหม่กว่า, macOS 10.10 ขึ้นไป และ Linux (Ubuntu, Fedora, Arch และ Raspbian)
  • iPhone และ iPad ที่ใช้ iOS 12 และใหม่กว่า
  • สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต Android ที่ใช้เวอร์ชัน 2 ขึ้นไป
  • เราเตอร์มากมายตั้งแต่ Asus, Linksys และ Netgear
  • Android TV
  • อุปกรณ์ Amazon Fire (Fire TV, แท็บเล็ต และ Fire Stick)
  • Nvidia Shield

การเชื่อมต่อ ExpressVPN กับเราท์เตอร์ของคุณทำให้คุณสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ที่เปิดใช้งาน WiFi กับ VPN รวมถึง Chromecast, ระบบบ้านอัจฉริยะและสมาร์ททีวีรุ่นใดก็ได้

คุณยังสามารถใช้ฟีเจอร์ MediaStreamer เพื่อเชื่อมต่ออุปกรณ์เหล่านี้ได้อีกด้วย:

  • เกมคอนโซลเช่น Xbox, Xbox One, PS4, PS5, Wii U, Nintendo Switch
  • สมาร์ททีวี เช่น Samsung, Vizio, Sony, LG และอื่น ๆ
  • อุปกรณ์สตรีมมิ่ง เช่น Apple TV และ Roku
  • เราเตอร์ที่ไม่รองรับแอปของ ExpressVPN

ฉันสามารถใช้ ExpressVPN ฟรีได้หรือไม่

บริการนี้ไม่มีแผนบริการฟรี แต่ในอุปกรณ์บางอย่างมีการทดลองใช้ฟรีอย่างไรก็ตาม ฉันขอแนะนำให้ใช้การการันตีคืนเงินของ ExpressVPN แทนการทดลองใช้งานฟรี

การทดลองใช้ฟรีนี้ถูกยกเลิกสำหรับผู้ใช้เดสก์ท็อป แต่สำหรับ iPhone หรือ Android ยังมีการทดลองใช้ฟรี 7 วัน ฉันไม่แนะนำเพราะคุณจะไม่สามารถใช้การรับประกันคืนเงินภายใน 30 วันได้ คุณต้องยกเลิกอย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนสิ้นสุดช่วงทดลองใช้ สุดท้ายนี้ การทดลองใช้ฟรีเหล่านี้ได้รับการจัดการผ่านร้าน Apple และ Google Play ซึ่งหมายความว่าคุณไม่สามารถติดต่อบริการไลฟ์แชท 24/7 ของ ExpressVPN เพื่อขอเงินคืนได้

ExpressVPN ราคาเท่าไหร่

แผนรายเดือนมีราคาอยู่ที่ $6.67/เดือน/เดือน แผนระยะสั้นโดยทั่วไปจะมีราคาแพงกว่าแผนระยะยาว ด้วยการสมัครสมาชิกระยะยาว คุณจะสามารถประหยัด 49% เมื่อเทียบกับแผนรายเดือน ฉันขอแนะนำให้ใช้แผนรายปี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากคุณยังมีเวลา 30 วันในการขอเงินคืนหากคุณไม่พึงพอใจ

การขอยกเลิกการสมัครสมาชิกของ ExpressVPN นั้นยากไหม?

ไม่เลย การขอยกเลิกการสมัครสมาชิกของ ExpressVPN นั้นทำได้ง่ายไม่ยุ่งยาก หากคุณลองใช้แล้วรู้สึกไม่เหมาะ คุณก็สามารถขอใช้สิทธิ์การรับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน เพื่อขอเงินคืนเต็มจำนวนได้ เราได้ทำการทดลองเรื่องนี้มาเองแล้ว และพวกเขาก็คืนเงินจริง ใช้เวลาแค่ไม่กี่นาทีในการติดต่อฝ่ายบริการลูกค้า และขออนุมัติให้ยกเลิก เราได้รับเงินคืนเต็มจำนวนเข้าบัญชีหลังจากนั้นภายในสามวัน

ExpressVPN ใช้งานได้อย่างปลอดภัยในประเทศไทยหรือไม่

ใช่ การเข้ารหัสระดับเดียวกับทางการทหาร, ฟีเจอร์การรักษาความปลอดภัยขั้นสูงและนโยบายการไม่บันทึกข้อมูลที่เข้มงวดทำให้ ExpressVPN มีความปลอดภัยอย่างมาก การเข้ารหัส AES-256 bit จะซ่อนคีย์ข้อมูลของคุณเป็นตัวเลขยาว 78 หลัก เพื่อไม่ให้คอมพิวเตอร์ถอดรหัสได้ Kill switch จะทำให้หมายเลข IP ของคุณถูกซ่อน แม้ว่าเซิร์ฟเวอร์ VPN จะถูกยุติการเชื่อมต่อไปยิ่งไปกว่านั้น ExpressVPN ยังไม่มีการเก็บบันทึกข้อมูลและตำแหน่งของลูกค้าหรือกิจกรรมออนไลน์ สิ่งนี้ถูกนำไปทดสอบในปี 2017 เมื่อรัฐบาลตุรกียึดเซิร์ฟเวอร์ ExpressVPN และพบว่าไม่มีข้อมูลที่พวกเขาสามารถใช้ได้

ExpressVPN นั้นใช้งานได้อย่างปลอดภัยเพราะอยู่ในหมู่เกาะบริติชเวอร์จิน นี่คือประเทศที่ไม่มีกฎหมายว่าด้วยการเก็บรักษาข้อมูลซึ่งอยู่นอกเขตอำนาจศาล 14 Eyes พวกเขาไม่สามารถบังคับให้คนอื่นเปิดเผยข้อมูลพลเมืองหรือบริษัทของตนได้ และแม้ว่าพวกเขาจะเป็นดินแดนโพ้นทะเลของอังกฤษ แต่พวกเขาก็ดำเนินการทั้งหมดภายใต้การปกครองของตนเอง

คุณสามารถใช้ ExpressVPN ในประเทศจีนได้หรือไม่

ใช่ คุณสามารถใช้ ExpressVPN ในประเทศจีนได้ ExpressVPN มีเซิร์ฟเวอร์ในฮ่องกง ซึ่งฉันเคยเข้าถึงโทรทัศน์ของจีนและมันเป็นที่รู้จักว่าเป็นหนึ่งใน VPN ที่ดีที่สุดในการใช้งานในประเทศจีน อย่างไรก็ตาม ExpressVPN ถูกแบนในประเทศจีนและทีมของฉัน และฉันแนะนำให้คุณศึกษากฎและข้อบังคับที่นั่นก่อนที่จะใช้งาน แต่โดยทั่วไปแล้วการปิดกั้นจะทำต่อ VPN โดยการบล็อกเทคโนโลยี แทนที่จะติดตามผู้ที่ใช้งาน คุณควรดาวน์โหลด VPN ก่อนเข้าประเทศ หากคุณวางแผนที่จะเดินทางไปที่นั่น

ExpressVPN จะทำให้การเชื่อมต่อของฉันช้าลงหรือไม่

โดยปกติแล้ว VPN จะทำให้การเชื่อมต่อของคุณช้าลงเล็กน้อย เนื่องจากต้องใช้เวลาในการเข้ารหัสและกำหนดเส้นทางการรับส่งข้อมูลของคุณผ่านเซิร์ฟเวอร์ เซิร์ฟเวอร์ในพื้นที่ของ ExpressVPN ลดความเร็วในการดาวน์โหลดของฉันลงถึง 1.5% VPN ส่วนใหญ่ลดความเร็วของคุณลงอีกมาก ดังนั้นนี่จึงเป็นสถิติที่น่าประทับใจจริง ๆ ที่จริงแล้วยังมีเซิร์ฟเวอร์อีกหลายแห่ง (Chicago และ East London) ที่เพิ่มความเร็วของฉันขึ้นได้จริง ๆ

หากเซิร์ฟเวอร์ ExpressVPN ลดความเร็วของคุณ ปกติแล้วมันก็มักจะลดลงเพียงเล็กน้อยจะไม่สร้างความแตกต่างให้กับกิจกรรมออนไลน์ของคุณ

รับประกันคืนเงิน (วัน): 30
โมบายแอพพลิเคชั่น:
จำนวนอุปกรณ์ที่อนุญาตให้เชื่อมต่อ: 8
แพลน VPN: expressvpn.com
พวกเราจัดอันดับผู้ให้บริการตามการทดสอบและการค้นคว้าอย่างเข้มงวด แต่ก็จะมีการคำนึงถึงความคิดเห็นของคุณและค่าคอมมิชชั่นจากผู้ให้บริการด้วย ผู้ให้บริการบางรายนั้นจะมีบริษัทแม่แห่งเดียวกันกับพวกเรา
เรียนรู้เพิ่มเติม
vpnMentor ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 2014 ในฐานะเว็บไซต์รีวิวบริการ VPN อย่างอิสระและเว็บไซต์ข่าวเกี่ยวกับเรื่องความเป็นส่วนตัว วันนี้ ทีมงานนักวิจัยความปลอดภัยทางไซเบอร์, นักเขียน และบรรณาธิการนับร้อยของพวกเราได้ช่วยผู้อ่านให้ต่อสู้เพื่ออิสรภาพทางออนไลน์ผ่านการจับมือกับ Kape Technologies PLC ซึ่งเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ดังต่อไปนี้: ExpressVPN, CyberGhost และ Private Internet Access ซึ่งอาจจะได้รับการจัดอันดับและรีวิวบนเว็บไซต์ของเราด้วย รีวิวที่ได้รับการเผยแพร่บน vpnMentor นั้นมีความแม่นยำถึงวันที่ทำการเผยแพร่ และแต่ละรีวิวก็จะถูกเขียนขึ้นโดยอ้างอิงมาตรฐานที่เข้มงวดด้านการรีวิวซึ่งจะเน้นความเป็นอิสระและการค้นคว้าวิจัยอย่างซื่อสัตย์และเป็นมืออาชีพของนักรีวิว โดยจะเน้นไปถึงความสามารถและคุณภาพของผลิตภัณฑ์รวมถึงความคุ้มค่าที่มันมีต่อผู้ใช้งาน การจัดอันดับและรีวิวที่พวกเราเผยแพร่นั้นอาจจะคำนึงถึงการเป็นเจ้าของเดียวกันที่กล่าวถึงด้านบน และค่าคอมมิชชั่นที่พวกเราได้รับในกรณีที่มีการสั่งซื้อผ่านลิงก์บนเว็บไซต์ของเราด้วย พวกเราไม่ได้ทำการรีวิวผู้ให้บริการ VPN ทั้งหมด และข้อมูลที่เผยแพร่นั้นจะมีความแม่นยำถึงวันที่เผยแพร่แต่ละบทความ
ExpressVPN รีวิวจากผู้ใช้งาน (รีวิวผู้ใช้งานไม่ได้ผ่านการตรวจสอบ)
9.7
จาก 1404 รีวิว ใน 29 ภาษา

เขียนรีวิวเกี่ยวกับ ExpressVPN

กรุณาให้คะแนน VPN

ทั้งหมด ความเร็ว สตรีมมิ่ง ความปลอดภัย บริการลูกค้า
ไม่ระบุชื่อ
ไม่ระบุชื่อ
10/10
ExpressVPN ใช้งานง่ายและดีค่ะ

ใช้ผ่านโทรศัพท์มือถือดีมากๆ ไม่มีปัญหา ใช้ง่ายไม่ยุ่งยาก แต่เมื่อใช้กับสมาร์ทีวีแล้วเข้าดูซีรี่ย์ออนไลน์โดยตั้งค่าเป็นประเทศอื่นๆ สามารถใช้งานได้แค่ครั้งแรกครั้งเดียว จากนั้นพอเลือกอีกโปรแกรมซีรี่ย์จะไม่ทำงาน แต่โดยรวมแล้วถ้าใช้ผ่านโทรศัพท์มือถือไม่มีปัญหานี้ สรุปว่าดีค่ะ

สุชาติ
สุชาติ
10/10
รวดเร็วมาก ช่วยเหลือลูกค้าได้ดีมาก

ผมได้เริ่มใช้บริการนี้เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมาและรู้สึกประทับใจมาก ผมได้ลองใช้บริการอื่น ๆ มาก่อนแต่ไม่มีตัวไหนที่ทำได้เหมือน ExpressVPN พวกเขาให้บริการได้ดีมาก ผมมีแอพนี้ติดตั้งอยู่บน iPhone และคอมพิวเตอร์ Windows ทั้งสองทำงานได้ดี

พิษณุ
พิษณุ
10/10
คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป

ถึงแม้ว่านี่ไม่ใช่ตัวเลือกที่ถูกที่สุด ผมได้ลองตัวเลือกอื่น ๆ มามากแล้ว Express VPN เป็นตัวเลือกที่พึ่งพาได้มากที่สุดสำหรับตัวผมซึ่งทำงานอยู่ในประเทศจีน ฝ่ายช่วยเหลือลูกค้าของพวกเขายอดเยี่ยมมาก พวกเขาเป็นมิตรและตอบกลับได้อย่างรวดเร็วและยังมีการช่วยเหลือผ่านทางแชทอีกด้วย ผมคิดว่าบริการที่มีความเป็นมืออาชีพเช่นนี้คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป

เปรียบเทียบ ExpressVPN กับตัวเลือก VPN ทางเลือกระดับชั้นนำ
คะแนนของเรา: 9.7
คะแนนของเรา: 9.2
คะแนนของเรา: 9.2
คะแนนของเรา: 9.2

เกี่ยวกับผู้เขียน

  • มุก
  • มุก บรรณาธิการอาวุโส

มุกเป็นผู้ที่ชื่นชอบเทคโนโลยี เธอศึกษาด้านโลจิสติกการบินที่มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เธอชอบค้นคว้าและเรียนรู้วิธีเก็บข้อมูลส่วนบุคคลและพฤติกรรมออนไลน์ให้ปลอดภัย

บทความนี้มีประโยชน์หรือไม่
ต้องขอโทษด้วย!
(ขั้นต่ำ 10 ตัวอักษร)