นโยบายข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับเว็บไซต์ – เท็มเพลทฟรี
เจ้าของกิจการบางแห่งพบว่านโยบายข้อมูลส่วนบุคคลออนไลน์ถือเป็นปัญหาอย่างหนึ่งเมื่อพวกเขาสร้างเว็บไซต์เป็นของตัวเอง อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยจะบอกว่านโยบายเหล่านี้เป็นการช่วยปกป้องตัวบริษัทและผู้ใช้ ดังนั้นในโพสต์นี้เราจะบอกองค์ประกอบของนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลที่มีประสิทธิภาพและ แสดงเท็มเพลทที่สามารถนำไปใช้ได้ฟรีที่ด้านล่างของโพสต์นี้
พื้นฐานเกี่ยวกับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลออนไลน์
เรามาเริ่มต้นด้วยการดูที่ข้อมูลพื้นฐานบางอย่างเกี่ยวกับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลออนไลน์ของเว็บไซต์
เว็บไซต์ประเภทใดบ้างที่ต้องใช้นโยบายข้อมูลส่วนบุคคล?
เว็บไซต์หรือบริการใด ๆ ที่มีการเก็บข้อมูลจากผู้ใช้งาน มีการติดตามผู้ใช้งานด้วย analytics หรือมีการแสดงโฆษณาต้องมีนโยบายนี้
เพราะเหตุใดนโยบายเหล่านี้ถึงมีความจำเป็น?
นโยบายข้อมูลส่วนบุคคลออนไลน์ของคุณจะมีการอธิบายสิ่งเหล่านี้ให้กับผู้ใช้:
- คุณมีการเก็บข้อมูลอะไรบ้าง
- คุณมีวิธีการเก็บข้อมูลนี้อย่างไร
- คุณมีการจัดเก็บและปกป้องข้อมูลนี้อย่างไร
การจัดเก็บข้อมูลแต่ละประเภทจะมีข้อแตกต่างกันหรือไม่?
มี นโยบายส่วนใหญ่มีการแยกข้อมูลส่วนบุคคลออกจากข้อมูลที่ไม่ใช่ข้อมูลส่วนบุคคล
National Institute of Standards and Technology (NIST) ได้กำหนดนิยามของข้อมูลที่สามารถระบุตัวตนได้ไว้ดังนี้:
“ข้อมูลใด ๆ เกี่ยวกับบุคคลที่อยู่ภายใต้การดูแลของตัวแทน ซึ่งรวมถึง (1) ข้อมูลใด ๆ ที่สามารถนำมาใช้เพื่อแยกแยะหรือติดตามตัวตนของบุคคลได้ เช่น ชื่อ หมายเลขประจำตัวประชาชน วันเดือนปีเกิดและสถานที่เกิด เป็นต้น; และ (2) ข้อมูลอื่น ๆ ที่มีการเชื่อมโยงหรือสามารถเชื่อมโยงไปยังตัวบุคคลได้ เชน ข้อมูลเกี่ยวกับการรักษา การศึกษา การเงิน และการจ้างงาน”
ข้อมูลที่ไม่ใช่ข้อมูลส่วนบุคคลหมายถึง:
“ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับบุคคล บัญชี หรือโปรไฟล์แต่ไม่เพียงพอที่จะสามารถระบุตัวตน ใช้ติดต่อ หรือระบุตัวบุคคลโดยใช้ข้อมูลเหล่านี้ได้”
ตัวอย่าง:
- ประเภทของบราวเซอร์
- รายละเอียด plug-in ของบราวเซอร์
- โซนเวลา
- วันที่และเวลาของการเยี่ยมชม (เช่น เวลาที่เข้า ออกจากเว็บไซต์)
- ภาษาที่ใช้
- เว็บไซต์ที่แนะนำมา
- ประเภทของอุปกรณ์ (เช่น เดสท็อป แล็ปท็อป หรือสมาร์ทโฟน)
- ขนาดของหน้าจอ ขนาดสีของหน้าจอ และแบบตัวอักษร
ผู้ใช้งานหลายคนที่กังวลเกี่ยวกับการแชร์ข้อมูลที่ไม่ใช่ข้อมูลส่วนบุคคลนี้ได้มีการใช้ extensions ของบราวเซอร์เพื่อปิดการแชร์นี้ นอกจากนี้ VPNs ยังช่วยปกป้องการแชร์ข้อมูลที่ไม่ใช่ข้อมูลส่วนบุคคลบางประเภท เช่น VPN สามารถซ่อนเวลาที่ไปเยี่ยมชมเว็บไซต์และโซนเวลาของผู้ใช้ได้
ถ้าหากไม่มีการแสดงนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลนี้ จะมีผลทางกฎหมายใด ๆ หรือไม่?
มี การเก็บข้อมูลโดยไม่แสดงรายละเอียดต่าง ๆ ให้กับผู้ใช้สามารถก่อนให้เกิดการลงโทษตามกฎหมายได้ นอกจากนี้คุณยังจะพบกับความเสี่ยงถ้าหากคุณละเมิดนโยบายของคุณเองด้วยการจัดเก็บข้อมูลมากกว่าที่คุณได้ระบุไว้หรือทำการเปลี่ยนแปลงการจัดเก็บ/ใช้งานข้อมูลโดยไม่ทำการแจ้งไว้ในนโยบายของคุณ
เท็มเพลทนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลออนไลน์ - นำไปใช้งานได้ฟรี
เนื่องจากนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลนั้นค่อนข้างยาวและซับซ้อน ดังนั้นนโยบายนี้จึงไม่ค่อยมีคนอ่าน จริง ๆ แล้วมีการสำรวจข้อมูลและพบว่านโยบายเหล่านี้ค่อนข้างน่าเบื่อ คนทั่วไปจะต้องใช้เวลาถึง 30 วันเต็มในการอ่านนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไซต์ทั้งหมดที่พวกเขาได้เข้าไปเยี่ยมชมใน 1 ปี
ถึงแม้ว่าจะมีความซับซ้อนแต่นโยบายเหล่านี้จะตัวที่บอกเกี่ยวกับข้อข้องใจต่าง ๆ ที่ผู้ใช้งานส่วนใหญ่กังวลใจ: ความปลอดภัยของข้อมูล การป้องกันการนำข้อมูลไปใช้ในทางที่ผิด และความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ เนื่องจากในปัจจุบันผู้บริโภคได้เริ่มตระหนักถึงปัญหาต่าง ๆ เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล ดังนั้นเจ้าของเว็บไซต์ต่าง ๆ จึงจำเป็นที่จะต้องทำให้นโยบายข้อมูลส่วนบุคคลนี้ชัดเจนและแม่นยำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ในการวิเคราะห์ด้านล่างนี้เราจะแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับส่วนต่าง ๆ ของนโยบายเหล่านี้และมีเท็มเพลทที่สามารถนำไปใช้งานได้ฟรี
สิ่งสำคัญ #1: การจัดเก็บข้อมูล
นโยบายทุกประเภทควรอธิบายข้อมูลที่เว็บไซต์มีการจัดเก็บและวิธีการจัดเก็บข้อมูลเหล่านี้
สิ่งสำคัญ #2: การใช้งานข้อมูล
หลังจากที่ได้มีการแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับการจัดเก็บข้อมูลแล้ว นโยบายนี้จะมีการแสดงถึงวิธีการที่เจ้าของเว็บไซต์สามารถใช้งานได้ Facebook มีปัญหาเกี่ยวกับข้อความนี้เมื่อพวกเขาต้องการอัพเดทนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลนี้ในปี 2013 บริษัทต้องการเพิ่มข้อความไปยังนโยบายนี้เพื่อให้พวกเขาสามารถใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของสมาชิกซึ่งรวมถึงเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีเพื่อใช้ในการแสดงโฆษณา
Facebook ได้มีการลบข้อความนี้เมื่อมีกลุ่มที่คอยจับตาดูอยู่ได้แจ้งให้ Federal Trade Commission ได้ทราบ ในปี 2014 Facebook ได้สร้างนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลนี้เป็นภาษาอังกฤษแบบง่าย ๆ ซึ่งได้ตัดข้อความออกไปถึงสองในสาม
บริษัท – และเว็บไซต์ของบริษัท – ใครเป็นผู้ดูแลในความปลอดภัยของข้อมูล:
- ไม่ควรมีการขายข้อมูลที่สามารถระบุตัวตันได้ให้กับบุคคลที่ 3
- ควรมีการเข้ารหัสข้อมูลและ/หรือไม่แสดงตัวตนของเจ้าของเจ้าของข้อมูลเพื่อป้องกันการพยายามเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้
- ไม่ควรจัดเก็บข้อมูลไว้เป็นระยะเวลานาน
สิ่งสำคัญ #3: ข้อพิจารณาเกี่ยวกับ E-Commerce
สำหรับเว็บไซต์ e-commerce นโยบายนี้ควรแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับการปกป้องข้อมูลทางด้านการเงินของผู้ใช้ซึ่งมีการจัดเก็บในช่วงการชำระเงิน เช่น หมายเลขบัตรเครดิต หมายเลขประจำตัวประชาชน หรือข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีธนาคาร
สิ่งสำคัญ #4: การเปิดเผยข้อมูลให้กับบุคคลที่ 3
ควรมีข้อมูลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเว็บไซต์กับบุคคลที่ 3 เว็บไซต์ของคุณไม่ควรมีการขายหรือแชร์ข้อมูลส่วนบุคคลให้กับบุคคลที่ 3 เว้นแต่จะมีเหตุผลการถูกบังคับใช้ตามกฎหมาย นอกจากนี้ควรจะมีการแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับการปฏิบัติกับข้อมูลที่ไม่ใช่ข้อมูลส่วนบุคคลด้วย
สิ่งสำคัญ #5: ความปลอดภัยของข้อมูลและการติดตามข้อมูล
นโยบายข้อมูลส่วนบุคคลที่ดีที่สุดในปัจจุบันจะต้องมีการแสดงข้อมูลเกี่ยวกับความปลอดภัยของข้อมูลและรายละเอียดการใช้คุกกี้
Google ได้พบกับปัญหาเกี่ยวกับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลในปีที่ผ่านมาเนื่องจากการเปิดเผยข้อมูลคุกกี้ Information Commissioner’s Office ที่สหราชอาณาจักรได้บังคับให้ Google ต้องแสดงข้อมูลว่าใครสามารถที่จะจัดเก็บ "anonymous identifiers" - ซึ่งคล้ายกับคุกกี้ - และวัตถุประสงค์ที่บริษัทจะใช้งานข้อมูลนี้
สิ่งสำคัญ #6: วิธีการยกเลิกการรับข้อมูล
นโยบายข้อมูลส่วนบุคคลออนไลน์ทุกตัวควรแสดงข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการที่ลูกค้าจะสามารถยกเลิกการถูกติดต่อที่ไม่ต้องการได้
สิ่งสำคัญ #7: การยอมรับ
นโยบายข้อมูลส่วนบุคคลแบบมาตรฐานควรจะระบุว่า ผู้ใช้ถือว่าได้ยอมรับในนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลแล้วเมื่อมีการใช้งานเว็บไซต์
คุณสามารถนำเท็มเพลทด้านล่างนี้ไปใช้งานได้
1.การจัดเก็บข้อมูล
เรามีการจัดเก็บข้อมูลจากคุณเมื่อคุณได้ลงทะเบียนบนเว็บไซต์ของเรา ลงชื่อเข้าใช้ไปยังบัญชี ทำการซื้อของ เข้าร่วมแข่งขัน และ/หรือเมื่อคุณได้ลงชื่อออก ข้อมูลที่เราได้จัดเก็บไว้นี้ประกอบไปด้วยชื่อ อีเมล์ หมายเลขโทรศัพท์ และ/หรือบัตรเครดิต
นอกจากนี้เรายังได้รับและจัดเก็บข้อมูลจากเครื่องคอมพิวเตอร์และบราวเซอร์ของคุณโดยอัตโนมัติ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ได้แก่ IP address ข้อมูลเกี่ยวกับซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ และหน้าเพจที่คุณร้องขอ
2. การใช้งานข้อมูล
ข้อมูลที่เราได้จัดเก็บจากคุณอาจถูกนำไปใช้เพื่อ:
- เพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของคุณและสามารถตอบสนองต่อความต้องการของคุณได้
- แสดงเนื้อหาโฆษณาเฉพาะสำหรับคุณ
- ปรับปรุงเว็บไซต์ของเรา
- ปรับปรุงการให้บริการลูกค้าและการตอบสนองต่อความต้องการของคุณ
- ติดต่อคุณผ่านทางอีเมล์
- จัดการแข่งขัน โปรโมชั่น หรือทำการสำรวจข้อมูล
3. ความเป็นส่วนตัว E-Commerce
เราเป็นเจ้าของข้อมูลที่เราจัดเก็บบนเว็บไซต์นี้แต่เพียงผู้เดียว ข้อมูลที่สามารถระบุตัวตนของคุณได้จะไม่ถูกจำหน่าย แลกเปลี่ยน ถ่ายโอน หรือมอบให้แก่บริษัทอื่นไม่ว่าจะกรณีใดก็ตามโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ ยกเว้นในกรณีที่ใช้เพื่อทำตามคำร้องขอและ/หรือการทำธุรกรรมต่าง ๆ เช่น การส่งของตามออเดอร์ เป็นต้น
4. การเปิดเผยข้อมูลต่อบุคคลที่สาม
เราไม่มีการจำหน่าย แลกเปลี่ยน หรือถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณให้กับบุคคลภายนอก ซึ่งนี่ไม่รวมถึงบุคคลที่ 3 ผู้ที่ช่วยเหลือเราในการดำเนินการเว็บไซต์หรือดำเนินธุรกิจของเราตราบใดที่บุคคลเหล่านี้มีการเก็บข้อมูลเหล่านี้ไว้เป็นความลับ
เรามีความจำเป็นที่จะต้องแชร์ข้อมูลเหล่านี้ในกรณีของการสืบสวน ป้องกัน หรือการกระทำต่าง ๆ เกี่ยวกับกระบวนการทางกฎหมายหรือการป้องกันการฉ้อโกง ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจสร้างความเสียหายให้กับบุคคลหนึ่งบุคคลใดหรืออาจเป็นการละเมิดข้อตกลงการใช้งานของเรา หรือเพื่อให้เป็นการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ข้อมูลที่ไม่ใช่ข้อมูลส่วนบุคคลอาจจะถูกเปิดเผยให้กับบุคคลอื่นเพื่อวัตถุประสงค์ในการตลาด การโฆษณา หรือการใช้งานเพื่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ
5. การรักษาข้อมูล
เรามีการใช้มาตรการด้านความปลอดภัยต่าง ๆ เพื่อรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ เรามีการเข้ารหัสที่ทันสมัยเพื่อปกป้องข้อมูลสำคัญซึ่งถูกส่งผ่านทางออนไลน์ VpnMentor ยังมีการปกป้องข้อมูลของคุณแบบออฟไลน์ มีเพียงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเท่านั้น (เช่น การเรียกเก็บเงินหรือให้บริการลูกค้า) ที่จะสามารถเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้ได้ เครื่องคอมพิวเตอร์/เซิฟเวอร์ที่ถูกใช้ในการจัดเก็บข้อมูลที่สามารถระบุตัวตนได้จะถูกจัดเก็บไว้ในพื้นที่ที่ปลอดภัย
เราใช้คุกกี้หรือไม่?
เรามีการใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงการเข้าใช้งานเว็บไซต์และระบุผู้เยี่ยมชมที่เคยเข้ามาเยี่ยมชมแล้ว นอกจากนี้คุกกี้ของเรายังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของผู้ใช้ด้วยการติดตามและสามารถส่งข้อมูลที่ผู้ใช้สนใจได้ การใช้งานคุกกี้นี้ไม่มีความเชื่อมโยงใด ๆ กับข้อมูลที่สามารถระบุตัวตันได้บนเว็บไซต์ของเรา
6. ยกเลิกการติดต่อ
เราใช้อีเมล์ที่คุณได้ให้ไว้เพื่อส่งข้อมูลและอัพเดทเกี่ยวกับออเดอร์ ข่าวสารเกี่ยวกับบริษัท หรือข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องให้กับคุณ ถ้าหากคุณไม่ประสงค์รับข้อมูลเหล่านี้ในอนาคตคุณสามารถทำตามขั้นตอนการยกเลิกรับข้อมูลได้ที่ด้านล่างของอีเมล์แต่ละฉบับ
7. การยอมรับ
การใช้เว็บไซต์นี้หมายความว่าคุณได้ยอมรับในนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลของเราแล้ว
สรุป:นโยบายข้อมูลส่วนบุคคลออนไลน์ของคุณจะช่วยให้ผู้ใช้งานมีความเชื่อถือมากยิ่งขึ้น
นโยบายข้อมูลส่วนบุคคลของเราช่วยปกป้องบริษัทและผู้ใช้ของคุณได้ในระดับหนึ่ง นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างระดับของความไว้วางใจได้ในระดับหนึ่งอีกด้วย การแสดงข้อความเป็นภาษาที่เข้าใจได้ง่าย ตรงไปตรงมา และสามารถอธิบายการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลได้จะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณได้เปรียบคู่แข่งที่มีนโยบายที่ซับซ้อนและทำให้สับสน
เท็มเพลทที่ให้ไว้ในโพสต์นี้ควรเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น เว็บไซต์ทุกเว็บไซต์มีวิธีการและวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน นโยบายข้อมูลส่วนบุคคลที่ดีที่สุดควรจะมีการปรับให้เหมาะสมกับเว็บไซต์ เพื่อประสิทธิภาพของนโยบายของคุณ โปรดทำการปรึกษากับนักกฎหมายด้านข้อมูลส่วนบุคคลและลองหานโยบายเหล่านี้จากบริษัทที่คล้ายคลึงกันกับบริษัทของคุณ นอกจากนี้คุณยังสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายและปัญหาต่าง ๆ ได้ที่ www.vpnmentor.com
กรุณาแสดงความคิดเห็นว่าพวกเราสามารถพัฒนาบทความนี้ได้อย่างไร ความคิดเห็นของคุณมีค่าสำหรับเรา!