VPN คืออะไร & ทำไมคุณ [จำเป็น] ต้องใช้มันในปี 2021
- VPN ทำงานอย่างไร
- VPN ถูกกฎหมายในประเทศไทย หรือไม่
- VPN จะรับประกันความเป็นส่วนตัวของฉันได้อย่างไร
- วิธีตั้งค่า VPN ให้พร้อมใช้งานใน 5 นาที
- ฉันควรมองหาอะไรใน VPN
- 3 VPN ที่ดีที่สุดสำหรับมือใหม่
- NordVPN – VPN ที่เร็วที่สุดและใช้งานได้งานที่สุดเท่าที่ฉันเคยใช้งานมา
- ExpressVPN – ปลอดภัย รวดเร็วและยืดหยุ่น
- CyberGhost – เซิร์ฟเวอร์สำหรับการสตรีม ปลอดภัยและน่าเชื่อถือ
- คำถามที่พบบ่อย
- วิธีรับส่วนลดสำหรับการซื้อ VPN ใหม่

VPN (Virtual Private Network) ซอฟต์แวร์ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวออนไลน์ของคุณและทำให้แฮกเกอร์สามารถตรวจจับและแทรกแซงการใช้งานตำแหน่งของคุณได้ แต่คุณสามารถใช้มันได้กับกิจกรรมที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการหลีกเลี่ยงการปิดกั้นการเข้าถึงเนื้อหาเพื่อเข้าถึงเนื้อหาหรือบริการจากที่ใดก็ได้ในโลก ดาวน์โหลด Torrent ได้เร็วมากขึ้นและอื่น ๆ อีกมากมาย
หลังจากทำการรีวิวผู้ให้บริการ VPN มากกว่า 300 รายและวิเคราะห์ทุกอย่างที่พวกเขานำเสนอ ฉันบอกได้เลยว่า VPN นั้นสามารถใช้งานได้อย่างง่ายดายและทุกคนก็สามารถใช้งานได้ คำแนะนำอย่างง่ายของฉันจะสอนให้คุณรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับ VPN เพื่อให้คุณสามารถเริ่มต้นใช้งานได้
ทดลองใช้ NordVPN เป็นเวลา 30 วันได้ฟรี ๆ!
มีอะไรอีกที่ VPN สามารถทำให้คุณได้
VPN สามารถช่วยปกป้องคุณได้ด้วยวิธีดังนี้:
เมื่อคุณเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ VPN ข้อมูลที่ส่งเข้าออกทางอินเตอร์เน็ตของคุณนั้นจะถูกเข้ารหัส นั่นหมายความว่าจะไม่มีใครสามารถติดตามได้ว่าคุณทำอะไร แม้แต่ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) ของคุณก็ไม่สามารถดูได้ และนั่นหมายความว่าผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของคุณไม่สามารถลดความเร็วอินเทอร์เน็ตของคุณลงได้ด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งมันมักจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นสำหรับผู้ที่ต้องการใช้อินเตอร์เน็ตความเร็วสูงสำหรับการสตรีมหรือเล่นเกม
การเข้ารหัสข้อมูลจะช่วยไม่ให้แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของคุณได้ เมื่อคุณกรอกข้อมูลอย่างเช่นรหัสผ่านลงในเว็บไซต์ สิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญหากคุณใช้ WiFi สาธารณะ เพราะว่าอาชญากรในโลกไซเบอร์สามารถเข้าถึงข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของคุณผ่านเครือข่ายสาธารณะได้ แต่ VPN ทำให้คุณมั่นใจได้ว่าแม้ว่าจะมีคนสามารถเข้าถึงข้อมูลของคุณได้ แต่พวกเขาจะไม่สามารถถอดรหัสเพื่อดูข้อมูลเหล่านั้นได้
- VPN ยังสามารถช่วยซ่อนหมายเลข IP ได้อีกด้วย
เว็บไซต์และบริการต่าง ๆ อย่าง Netflix ใช้หมายเลข IP ของคนเพื่อระบุตำแหน่ง ยกตัวอย่างเช่นเมื่อคุณเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ VPN ในอเมริกา เว็บไซต์จะเห็นหมายเลข IP ของคุณเหมือนคุณอยู่ในประเทศอเมริกา (หมายเลข IP ของอเมริกา)
เพราะว่าพวกเขาไม่สามารถดูหมายเลข IP ที่แท้จริงของคุณได้ พวกเขาจึงไม่สามารถระบุได้ว่าคุณใช้งานจากในประเทศไทย นี่คือสิ่งสำคัญหากคุณต้องการ Torrent หรือหลีกเลี่ยงการเซ็นเซอร์เนื้อหา นั่นหมายความว่าคุณสามารถเข้าถึงรายการทีวีหนังหรือเกมใด ๆ ก็ได้ในทั่วโลกและสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้อย่างอิสระจากประเทศไทยหรือแม้แต่ประเทศอื่น ๆ
- VPN จากผู้ให้บริการบางรายยังสามารถบล็อกเว็บไซต์ที่มีไวรัส โฆษณาหรือเครื่องมือติดตามได้อีกด้วย
เว็บไซต์ที่มีไวรัสสามารถดาวน์โหลดมัลแวร์และเครื่องมือติดตามลงในอุปกรณ์ของคุณ โดยที่คุณไม่รู้ตัวได้ VPN ที่มีเครื่องมือป้องกันในตัวจะช่วยป้องกันอุปกรณ์โดยบล็อกเว็บไซต์เหล่านี้ ก่อนที่มันจะทำอันตรายต่ออุปกรณ์ของคุณได้
บาง VPN ยังสามารถช่วยบล็อกโฆษณาและป๊อปอัพได้อีกด้วย ซึ่งมันจะช่วยไม่ให้โฆษณาที่มีไวรัสแพร่มัลแวร์ลงในอุปกรณ์ของคุณ นั่นหมายความว่าคุณสามารถใช้งานแพลตฟอร์มอย่าง YouTube ได้โดยไม่มีโฆษณารบกวน
VPN ทำงานอย่างไร
VPN ของคุณจะนำทางการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของคุณผ่านเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งเซิร์ฟเวอร์นั้นจะทำการเข้ารหัสข้อมูลของคุณ ตัวอย่างเช่น คุณอยู่ในประเทศไทย และเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ในอเมริกา VPN ส่งการเชื่อมต่อของคุณจากประเทศไทย ไปยังอเมริกาโดยที่เข้ารหัสข้อมูลทั้งหมด เพราะว่าข้อมูลนั้นถูกเข้ารหัสผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของคุณไม่สามารถดูได้ว่าคุณเข้าถึงเว็บไซต์อะไร คุณเชื่อมต่อมาจากไหนหรือติดตามกิจกรรมที่คุณทำ
จากนั้นเซิร์ฟเวอร์ VPN ของคุณจะส่งการเชื่อมต่อของคุณไปยังเว็บไซต์ที่คุณต้องการเข้าชม ตัวอย่างเช่นเว็บไซต์เคชั่นหรือบริการสตรีมมิ่งอย่าง เว็บไซต์จะเข้าใจว่าเซิร์ฟเวอร์ VPN นั้นเป็นตำแหน่งที่แท้จริงของคุณ แทนที่จะเป็นตำแหน่งอุปกรณ์ของคุณ นั่นหมายความว่าเว็บไซต์จะเห็นหมายเลข IP ของเซิร์ฟเวอร์ VPN แทนที่จะเป็นหมายเลข IP จริงของคุณอีกด้วย VPN ที่ดีนั้นจะมีเซิร์ฟเวอร์หลายพันเซิร์ฟเวอร์ให้คุณเลือกใช้และมีการอัพเดตหมายเลข IP เป็นประจำเพื่อไม่ให้เว็บไซต์นั้นสามารถจดจำและบล็อกหมายเลข IP เหล่านี้ได้ และนั่นหมายความว่าคุณสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้อย่างเป็นส่วนตัวและไม่มีใครสามารถติดตามกิจกรรมออนไลน์ของคุณได้
VPN จะช่วยให้ฉันสตรีมได้ยังไง
บริการสตรีมมิ่งอย่างเช่น Netflix and Hulu ใช้หมายเลข IP ของคุณเพื่อดูว่าคุณเชื่อมต่อจากที่ไหน เมื่อพวกเขารู้ว่าคุณอยู่ที่ไหนพวกเขาจะควบคุมเนื้อหาที่คุณสามารถสตรีมได้ ขึ้นอยู่กับข้อตกลงการเผยแพร่ที่พวกเขามีกับภูมิภาคของคุณ
คุณสามารถใช้ VPN เพื่อหลอกบริการสตรีมมิ่งเหล่านี้ให้คิดว่าคุณนั้นเชื่อมต่อจากอีกประเทศหนึ่ง ด้วยวิธีนี้คุณสามารถเข้าถึงเนื้อหาเพิ่มเติมที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ในประเทศไทย
ตัวอย่างเช่นหากคุณเชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์ในอเมริกาคุณจะสามารถปลดล็อกเนื้อหาที่อยู่ใน Netflix อเมริกาได้ เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการปลดบล็อก Netflix จากประเทศไทย เข้าไปดูคำแนะนำอย่างละเอียดของเราได้ที่นี่
เริ่มรับชมรายการโปรดของคุณด้วย NordVPN!
VPN ถูกกฎหมายในประเทศไทย หรือไม่
คำตอบสั้น ๆ คือ ใช่! คุณสามารถใช้งาน VPN ได้อย่างอิสระในประเทศส่วนใหญ่ แต่มันก็ยังมีข้อยกเว้นบางข้ออยู่
ประเทศบางประเทศอย่างเช่น จีนและอิรักห้ามไม่ให้ใช้ VPN ที่ไม่ได้ให้บริการโดยรัฐ ซึ่งหมายความว่าผู้ให้บริการที่ได้รับอนุมัติส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านการต่อต้านความเป็นส่วนตัวและการเซ็นเซอร์ทำให้บริการ VPN ไม่ได้ผลสำหรับคนจำนวนมาก ผู้ให้บริการ VPN ที่ไม่ได้อยู่ใต้การควบคุมของรัฐนั้นมักจะถูกบล็อก ดังนั้นคุณจะไม่สามารถเข้าถึงเว็บไซต์ของพวกเขาเพื่อดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นได้เมื่อคุณเข้าไปในประเทศเหล่านี้แล้ว
คุณสามารถเข้าไปตรวจสอบคำแนะนำ VPN ที่ถูกต้องตามกฎหมายของเราได้ เพื่อดูข้อมูลอันเป็นปัจจุบันเกี่ยวกับภูมิภาคของคุณ
VPN จะรับประกันความเป็นส่วนตัวของฉันได้อย่างไร
VPN ปกป้องข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของคุณดังนั้นพวกเขาจะต้องมีนโยบายด้านความปลอดภัยและวิธีการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด มีบางบริการ VPN ที่ไม่สามารถเชื่อถือได้ ดังนั้นมันจึงเป็นสิ่งสำคัญที่คุณควรเลือกใช้บริการที่น่าเชื่อถือและปลอดภัย
VPN ที่น่าเชื่อถือนำเสนอฟีเจอร์การป้องกันความปลอดภัยที่หลากหลาย อย่างเช่น
-
นโยบายการไม่บันทึกข้อมูลการใช้งาน
นโยบายการไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานที่เข้มงวดจะช่วยป้องกันไม่ให้ผู้ให้บริการ VPN นั้นบันทึกกิจกรรมการใช้งานอินเทอร์เน็ตของคุณ หาพวกเขาไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานของคุณ พวกเขาจะไม่สามารถเปิดเผยมันต่อหน่วยงานของรัฐได้ แม้ว่าพวกเขาจะขอให้ทำเช่นนั้น มันยังหมายความว่าหากการเชื่อมต่อ VPN นั้นหยุดลง แฮ็คเกอร์ก็ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลของคุณจากเซิร์ฟเวอร์ได้เช่นเดียวกัน
-
การป้องกันการรั่วไหลของ DNS
ทุกครั้งที่คุณเข้าถึงเว็บไซต์คอมพิวเตอร์ของคุณจะส่งคำขอไปยังเซิร์ฟเวอร์ DNS เพื่อรับหมายเลข IP ของเว็บไซต์ โดยปกติแล้วคำขอนี้จะผ่านไปยังเซิร์ฟเวอร์ DNS ของผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของคุณ ซึ่งจะเปิดเผยกิจกรรมที่คุณทำต่อผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของคุณ
เมื่อคุณเชื่อมต่อกับ VPN คำขอ DNS ของคุณจะถูกส่งผ่านไปยังเซิร์ฟเวอร์ DNS ของ VPN ของคุณแทน แต่ในบางครั้งอุปกรณ์ของคุณสามารถส่งคำขอกลับไปยังผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของคุณโดยที่คุณไม่รู้ตัว ซึ่งนั่นก็คือหน้าที่ของการป้องกันการรั่วไหลของ DNS ไม่ให้สิ่งนี้เกิดขึ้น
-
การป้องกันการรั่วไหลของ IPv6
แม้ว่า IPv6 นั้นจะมีให้บริการแล้วแต่ VPN เกือบทั้งหมดก็ยังคงใช้งาน IPv4 สิ่งนี้จะช่วยเพิ่มความความปลอดภัยให้กับการเชื่อมต่อของคุณ ทำให้มันสามารถเจาะเข้าถึงได้ยากขึ้นไปอีก
หากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของคุณสนับสนุน IPv6 และคุณเข้าถึงเว็บไซต์ที่สนับสนุนมันเหมือนกัน การเข้าถึงเว็บไซต์นั้นจะถูกนำทางผ่านผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของคุณแทนไม่ใช่ VPN ของคุณ สิ่งนี้จะทำให้กิจกรรมบนอินเทอร์เน็ตของคุณถูกเปิดเผยต่อผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต รวมถึงตำแหน่งที่แท้จริงของคุณจะปรากฏต่อเว็บไซต์อีกด้วย
ผู้ให้บริการ VPN ที่น่าเชื่อถือจะปิดการเชื่อมต่อ IPv6 เพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลของคุณนั้นรั่วไหล คุณยังสามารถเข้าถึงเว็บไซต์ที่ใช้ IPv6 ได้ แต่ควรจะเข้าถึงโดยที่ใช้ IPv4 แทน
-
การป้องกันการรั่วไหลของ WebRTC
เบราเซอร์ระดับชั้นนำอย่าง Chrome, Firefox, Safari, Internet Explorer และ Opera นั้นใช้เทคโนโลยี WebRTC เพื่อสื่อสารกับผู้อื่น ในการทำเช่นนี้คุณจะต้องรู้หมายเลข IP ที่แท้จริงของผู้อื่น
เทคนิคที่พวกเขาใช้เพื่อรับข้อมูลนั้นล้ำสมัยกว่าที่เว็บไซต์อย่าง Netflix ใช้งาน ดังนั้นมันเป็นการยากที่จะซ่อนหมายเลข IP จากพวกเขา บุคคลที่สามสามารถใช้ WebRTC เพื่อค้นหาหมายเลข IP และตำแหน่งที่แท้จริงของคุณได้
VPN ที่น่าเชื่อถือจะปิดการใช้งาน WebRTC เพื่อปกป้องหมายเลข IP ของคุณ เพื่อไม่ให้บุคคลที่ 3 สามารถเข้าถึงข้อมูลที่สำคัญนี้ได้
VPN มีข้อเสียหรือไม่
VPN นั้นมีข้อดีมากกว่าข้อเสีย แต่ว่ามันก็ยังมีข้อเสียบางข้อที่คุณควรตระหนักถึง
ความเร็วในการเชื่อมต่อของคุณจะลดลง
มันใช้เวลาในการส่งข้อมูลและเมื่อคุณเชื่อมต่อกับ VPN ข้อมูลของคุณจะต้องเดินทางไปไกลกว่าเดิมเพื่อผ่านเซิร์ฟเวอร์ของ VPN และมันยังต้องใช้เวลา 2-3 วินาทีในการเข้ารหัสและถอดรหัสข้อมูลของคุณอีกด้วย ดังนั้นความเร็วในการเชื่อมต่อของคุณจะลดลงนิดหน่อย
VPN ที่ไม่น่าเชื่อถือจะเข้าถึงกิจกรรมที่คุณทำออนไลน์
หากคุณใช้งานผู้ให้บริการที่ไม่ค่อยมีชื่อเสียง คุณจะไม่มีการันตีเลยว่าพวกเขาจะไม่ดูกิจกรรมที่คุณทำเมื่อใช้งานออนไลน์หรือแบ่งปันให้กับบุคคลที่ 3 หากผู้ให้บริการของคุณอยู่ในเขตอำนาจศาลพันธมิตร 5/9/14-Eyes พวกเขาสามารถถูกบังคับให้แบ่งปันข้อมูลกับรัฐบาลได้
คุณสามารถปกป้องตัวคุณเองจากสิ่งนี้โดยการใช้ผู้ให้บริการที่เป็นที่รู้จัก มีชื่อเสียงและมีนโยบายการไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานที่เข้มงวดและมีเซิร์ฟเวอร์ RAM เซิร์ฟเวอร์ RAM จะลบบันทึกการใช้งานของคุณอย่างถาวรในทุกครั้งที่มันถูกรีบูท ดังนั้น VPN ของคุณจะไม่มีข้อมูลใด ๆ เกี่ยวกับคุณให้แบ่งปันเมื่อถูกข้อบังคับทางกฎหมายขอให้ทำเช่นนั้น
มีบางเว็บไซต์ที่บล็อกผู้ใช้ VPN
บางเว็บไซต์อย่างเช่น Netflix จะตรวจสอบหมายเลข IP ของคุณเทียบกับหมายเลข IP ของเซิร์ฟเวอร์ VPN เมื่อคุณลงชื่อเข้าใช้ หากมันตรงกันพวกเขาจะปิดกั้นการเชื่อมต่อของคุณ คุณสามารถหลีกเลี่ยงสิ่งนี้ได้โดยเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์อื่นในภูมิภาคเดียวกัน
PayPal และบริการธนาคารออนไลน์อาจจะคิดว่าบัญชีของคุณถูกละเมิดความปลอดภัย หากคุณลงชื่อเข้าใช้ด้วยหมายเลข IP ในต่างประเทศ
มันเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการด้านความปลอดภัย PayPal และบริการธนาคารออนไลน์อื่น ๆ อาจจะยุติการเข้าถึงบัญชีของคุณชั่วคราวหากพวกเขาเห็นว่าคุณลงชื่อเข้าใช้ด้วยหมายเลข IP ในต่างประเทศ วิธีการรักษาความปลอดภัยนี้มีไว้เพื่อการป้องกันผู้ที่ฉ้อโกงเงินจากต่างประเทศสามารถลงชื่อเข้าใช้บัญชีของคุณได้
ไม่ต้องเป็นกังวลไป – บัญชีของคุณจะไม่ถูกล็อคตลอดไป แต่คุณจะต้องติดต่อธนาคารของคุณเพื่อแก้ไขข้อผิดพลาดนี้ คุณสามารถหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดนี้ โดยการเชื่อมต่อบัญชีการเงินของคุณในขณะที่เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ในประเทศของคุณ
วิธีตั้งค่า VPN ให้พร้อมใช้งานใน 5 นาที
- เลือกบริการ VPN ใช้บริการ VPN ที่เรานำเสนอ เพราะว่าพวกเขาให้บริการที่มีประสิทธิภาพในราคาที่จับต้องได้
- ติดตั้งแอพพลิเคชั่น VPN ลงบนโทรศัพท์ของคุณ VPN ส่วนใหญ่นั้นจะติดตั้งได้ง่ายและมาพร้อมกับเครื่องมือการจัดการการติดตั้ง ที่ให้คำแนะนำคุณตลอดกระบวนการติดตั้ง
- เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์และเท่านี้คุณก็พร้อมใช้งานแล้ว! คุณสามารถใช้งานอินเตอร์เน็ตได้ตามปกติ แต่ว่าคุณจะได้รับการปกป้องอย่างเต็มที่
คำแนะนำจากมือโปร: หากคุณแค่ต้องการปกป้องการเชื่อมต่อของคุณ ให้เลือกเซิร์ฟเวอร์ที่ใกล้กันกับตำแหน่งที่แท้จริงของคุณ หากคุณต้องการปลดล็อกเนื้อหาจากอีกประเทศอย่างเช่น ไลบารี Netflix ในต่างประเทศให้เข้าไปที่เซิร์ฟเวอร์ในประเทศที่คุณต้องการเข้าถึงเนื้อหา
ติดตั้ง VPN บนอุปกรณ์ต่าง ๆ
มีบาง VPN ที่ใช้งานได้ดีกว่าอีกบริการบนอุปกรณ์ที่แตกต่างกัน ใช้ลิงค์ด้านล่างเพื่อค้นหาบริการที่เราแนะนำสำหรับอุปกรณ์ต่าง ๆ
- VPN ที่ดีที่สุดสำหรับอุปกรณ์มือถือ—iOS และ Android
- VPN ที่ดีที่สุดสำหรับเดสก์ทอปและแล็ปท็อป—macOS และ Windows
- VPN ที่ดีที่สุดสำหรับเบราเซอร์
- VPN ที่ดีที่สุดสำหรับเราท์เตอร์
- VPN ที่ดีที่สุดสำหรับ Smart TV
ฉันควรมองหาอะไรใน VPN
การเลือก VPN ที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณและนำเสนอความปลอดภัยและการทำงานที่มีประสิทธิภาพนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญ เมื่อคุณต้องการซื้อ VPN ฉันแนะนำให้คุณมองหาบริการที่นำเสนอ:
- การเข้ารหัส256-bit: นี่เป็นการเข้ารหัสระดับสูงสุดที่มีให้บริการและมันจะช่วยปกป้องข้อมูลส่วนตัวและกิจกรรมที่คุณทำออนไลน์ของคุณ
- Kill switch อัตโนมัติ: Kill switch จะทำหน้าที่ตัดการเชื่อมต่อเมื่อ VPN ของคุณมีการเชื่อมต่อที่ไม่เสถียร มันจะทำการตัดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของคุณชั่วคราว เพื่อไม่ให้ข้อมูลส่วนตัวของคุณรั่วไหล
- นโยบายการไม่บันทึกข้อมูลที่เข้มงวด
- การป้องกันการรั่วไหลของ DNS และ IPv6
- บริการสนับสนุนลูกค้า: VPN พรีเมี่ยมส่วนใหญ่จะนำเสนอการสนับสนุนลูกค้าผ่านไลฟ์แชทตลอด 24 ชั่วโมงผ่านเว็บไซต์ มีเพียงไม่กี่บริการเท่านั้นที่นำเสนอการสนับสนุนผ่านโทรศัพท์ ผู้ให้บริการ VPN ขนาดเล็กบางรายก็มีบริการนี้นำเสนอ
- แอพพลิเคชั่นที่ใช้งานง่ายสำหรับอุปกรณ์ของคุณ: ลองใช้เวลาสำรวจดูในเว็บไซต์ของผู้ให้บริการ พวกเขามักจะนำเสนอภาพสกรีนช็อตของแอพพลิเคชั่น เพื่อให้คุณทำความเข้าใจกับโปรแกรมก่อนที่คุณจะติดตั้ง
- เครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่: คุณควรมองหา VPN ที่มีเซิร์ฟเวอร์กระจายอยู่ในทั่วโลก สิ่งนี้จะช่วยให้คุณสามารถเข้าถึงเนื้อหาที่ถูกปิดกั้นจากประเทศของคุณได้ หมายความว่าคุณเดินทางไปยังประเทศต่าง ๆ ผู้ให้บริการก็มีเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ใกล้เคียงกับคุณนำเสนออยู่เสมอ
- เซิร์ฟเวอร์ที่ได้รับการปรับให้เหมาะสำหรับการสตรีมและ P2P
- เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่หลากหลายได้ในเวลาเดียวกัน: ไม่ว่าคุณจะมีครอบครัวขนาดใหญ่หรือมีอุปกรณ์จำนวนมาก คุณจะต้องปกป้องอุปกรณ์ทั้งหมดของคุณได้ในครั้งเดียวโดยที่ไม่ต้องสมัครสมาชิกหลายครั้ง
3 VPN ที่ดีที่สุดสำหรับมือใหม่
ฉันได้ใช้งาน VPN มาเป็นเวลาหลายปีแล้วและฉันได้เจอผู้ให้บริการที่ไม่น่าเชื่อถือและไว้ใจไม่ได้จำนวนมาก เพื่อปกป้องตัวฉันเองในขณะที่ใช้งานออนไลน์ฉันได้เจอกับบริการที่ฉันขอแนะนำให้กับผู้ใช้คนอื่น ๆ
1. NordVPN – VPN ที่เร็วที่สุดและใช้งานได้งานที่สุดเท่าที่ฉันเคยใช้งานมา
- เซิร์ฟเวอร์มากกว่า 5,390+ เซิร์ฟเวอร์ใน 59 ประเทศ
- เซิร์ฟเวอร์ที่ได้รับการปรับให้เหมาะสำหรับการสตรีมและ P2P
- การป้องกันการรั่วไหลของ DNS และ IPv6
- นโยบายการไม่บันทึกข้อมูลที่เข้มงวด
- ใช้งานได้บน: Netflix, BBC iPlayer, Disney+, Fox, Sky TV, Hulu, Amazon Prime Video
- เซิร์ฟเวอร์ในประเทศ: 7 เซิร์ฟเวอร์ในประเทศไทย ดังนั้นคุณสามารถเข้าถึงเนื้อหาในประเทศ ได้เมื่อคุณอยู่ในต่างประเทศ
- ใช้งานได้กับ: macOS, Android, iOS, Android TV, Linux, Chrome และ Firefox นอกจากนี้ยังเข้ากันได้กับเราท์เตอร์
NordVPN เป็น VPN ที่ดีที่สุดที่ฉันเคยใช้งานมา มันมีความเร็วสูง ปลอดภัยและใช้งานได้ง่าย
ฉันและเพื่อนร่วมงานของฉันได้เริ่มต้นการทดสอบ 5,390+ เซิร์ฟเวอร์ใน 59 ประเทศจากการสตรีม เราใช้ฟีเจอร์ SmartPlay DNS ปลดล็อกไลบารีต่างประเทศของ Netflix libraries, Hulu, Amazon Prime Video และแพลตฟอร์มการสตรีมอื่น ๆ อีก 140 แพลตฟอร์มที่ถูกปิดกั้นการเข้าถึงเนื้อหาจากต่างประเทศ
เพราะว่าบริการนี้มีเซิร์ฟเวอร์หลายร้อยเซิร์ฟเวอร์ในแต่ละตำแหน่ง มันจึงสามารถเข้าถึงเนื้อหาที่ถูกติดตั้งได้อย่างง่ายดาย หากเซิร์ฟเวอร์ที่คุณใช้อยู่นั้นไม่สามารถให้บริการได้ มันก็ยังมีตัวเลือกเซิร์ฟเวอร์อื่น ๆ อีกมากมายให้เลือกใช้แทน ฉันใช้เวลาประมาณ 10 วินาทีในการสลับเซิร์ฟเวอร์ด้วยตัวเอง แต่การใช้ปุ่ม Quick Connect นั้นจะช่วยทำให้เชื่อมต่อได้เร็วกว่าเดิม
มันมีความเร็วมากพอที่จะสตรีมในความคมชัดแบบ HD แม้ว่าคุณจะเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ในอีกประเทศหนึ่ง ฉันสามารถเชื่อมต่อกับ Netflix อเมริกาได้จากออสเตรเลียโดยที่ไม่มีการสะดุดใด ๆ เลย ให้คุณเข้าใจถึงความเร็วของ NordVPN ให้มากยิ่งขึ้น ฉันได้ทำการทดสอบเซิร์ฟเวอร์หลายเซิร์ฟเวอร์ในทั่วโลก
ก่อนที่ฉันจะกดเชื่อมต่อ ฉันได้ทดสอบความเร็วของตัวเองก่อน มัน ping ที่ 3 ms ดาวน์โหลดที่ 19.84 Mbps และอัพโหลดที่ 16.58 Mbps
การเชื่อมต่อ | Ping | ดาวน์โหลด | อัพโหลด |
Quick Connect เซิร์ฟเวอร์ในอเมริกา | 363 ms | 17.98 Mbps | 15.36 Mbps |
เชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์ในอเมริกาด้วยตนเอง | 477 ms | 17.85 Mbps | 15.26 Mbps |
Quick Connect เซิร์ฟเวอร์ในอังกฤษ | 309 ms | 20.49 Mbps | 12.77 Mbps |
เชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์ในอังกฤษด้วยตนเอง | 309 ms | 18.27 Mbps | 14.38 Mbps |
Quick Connect เซิร์ฟเวอร์ในฝรั่งเศส | 305 ms | 19.15 Mbps | 13.47 Mbps |
Quick Connect เซิร์ฟเวอร์ในบราซิล | 533 ms | 20.60 Mbps | 12.55 Mbps |
Quick Connect เซิร์ฟเวอร์ในออสเตรเลีย | 13 ms | 18.70 Mbps | 14.97 Mbps |
ฉันรู้สึกประทับใจที่พบว่า NordVPN นั้นมีเซิร์ฟเวอร์สำหรับ p2p ให้เลือกใช้กว่าหลายร้อยเซิร์ฟเวอร์ พวกเขาตั้งค่าเซิร์ฟเวอร์เหล่านี้ไว้ล่วงหน้าแล้วทำให้มันเหมาะสมสำหรับการ Torrent ดังนั้นคุณสามารถใช้งานได้ในความเร็วสูงและความปลอดภัยที่ไม่สามารถมีใครเจาะเข้าถึง ฉันสามารถเชื่อมต่อและเริ่มการดาวน์โหลดได้อย่างง่ายดายโดยที่ไม่ต้องปรับตั้งค่าใด ๆ เพื่อใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
NordVPN ใช้การเข้ารหัส 256-bit เพื่อให้ข้อมูลของคุณปลอดภัย นี่เป็นการเข้ารหัสระดับสูงสุดที่มีให้บริการ
พวกเขาไม่ได้จัดเก็บข้อมูลการใช้งานและนำเสนอการป้องกันการรั่วไหลของ DNS/IPv6 อีกด้วย นั่นหมายความว่ากิจกรรมที่ควรทำเมื่อออนไลน์จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตและเว็บไซต์จะไม่สามารถดูตำแหน่งที่แท้จริงของคุณได้ ฉันทำการทดสอบการป้องกันการรั่วไหลของ NordVPN หลายครั้งและพวกเขาก็ผ่านการทดสอบในทุกครั้ง
แอพพลิเคชั่นของ NordVPN นั้นใช้งานได้อย่างง่ายดาย คุณจะไม่เจอปัญหาเกี่ยวกับการติดตั้งหรือการตั้งค่าใด ๆ แม้ว่าคุณจะไม่เคยใช้ VPN มาก่อนเลยก็ตาม ฉันสามารถตั้งค่าการใช้งานได้ในไม่เกิน 5 นาที ส่วนการช่วยเหลือบนเว็บไซต์นั้นมีข้อมูลคำแนะนำเกี่ยวกับการตั้งค่าที่เข้าใจได้ง่ายสำหรับทุกแพลตฟอร์มและยังมีวีดีโอคำแนะนำที่ช่วยให้คุณเข้าใจในทุกขั้นตอนอีกด้วย
หากคุณมีคำถามหรือข้อสงสัย NordVPN มีทีมสนับสนุนลูกค้าที่พร้อมช่วยเหลือคุณตลอด 24 ชั่วโมงผ่านไลฟ์แชท พวกเขาเป็นมิตรและให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ พวกเขาให้คำตอบที่เป็นประโยชน์กับฉันได้อย่างรวดเร็วและให้คำตอบที่สามารถเข้าใจได้ง่าย
คุณสามารถเชื่อมต่อกับ 6 อุปกรณ์พร้อมกัน ด้วยบัญชี NordVPN เพียงบัญชีเดียว ฉันมีอุปกรณ์มากมายและตัวเลือกนี้ช่วยให้ฉันประหยัดเงินได้มาก โดยปกติแล้วฉันจะทำการสมัครสมาชิก 2 ครั้งเพื่อใช้งานบนอุปกรณ์มือถือ แล็ปท็อป ทีวีและเดสก์ทอป
NordVPN นำเสนอการการันตีการคืนเงินภายใน 30 วันโดยไม่มีการถามคำถามใด ๆ คุณสามารถทดลองใช้ได้โดยปราศจากความเสี่ยง เมื่อคุณพร้อมที่จะสมัครสมาชิกแล้วคุณสามารถใช้คูปองที่ได้รับการยืนยันของเราเพื่อประหยัดเงินได้
ต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมหรือเปล่า ดูรีวิว NordVPN ของเราเพื่อดูผลการวิจัยและการทดสอบทั้งหมดของเรา
2. ExpressVPN – ปลอดภัย รวดเร็วและยืดหยุ่น
- 3,000 เซิร์ฟเวอร์ใน 94 ประเทศ
- ฟีเจอร์ Split tunneling
- การเชื่อมต่อพร้อมกัน 5 อุปกรณ์
- นโยบายการไม่บันทึกข้อมูลที่เข้มงวด
- มีฟีเจอร์ความปลอดภัยขั้นสูงมากมาย
- แอพพลิเคชั่นที่ใช้งานง่าย
- ใช้งานได้บน: Netflix, BBC iPlayer, Disney+, Fox, Sky TV, Hulu, Amazon Prime Video
- เซิร์ฟเวอร์ในประเทศ: 7 เซิร์ฟเวอร์ในประเทศไทย ดังนั้นคุณสามารถเข้าถึงเนื้อหาในประเทศ ได้เมื่อคุณอยู่ในต่างประเทศ
- ใช้งานได้กับ: Linux, Android, macOS, iOS, Windows, Apple TV, Chrome
จากประสบการณ์ของฉัน ExpressVPN นั้นเป็นสองรองแค่ NordVPN เท่านั้น พวกเขาสามารถให้บริการที่รวดเร็ว มีเซิร์ฟเวอร์ที่ปรับแต่งให้เหมาะสำหรับการสตรีมมิ่งและมีฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยที่ยอดเยี่ยม แต่มีสิ่งหนึ่งที่พวกเขาด้อยกว่า NordVPN นั่นก็คือพวกเขาไม่ได้นำเสนอ split tunneling ฟีเจอร์นี้เป็นสิ่งที่ควรมี หากคุณเป็นเหมือนฉันที่มีโฮมออฟฟิศที่ใช้อุปกรณ์ไร้สาย
Split tunneling ให้คุณสามารถเลือกได้ว่ากิจกรรมใดที่จะต้องส่งผ่านเซิร์ฟเวอร์ VPN และกิจกรรมใดที่จะใช้หมายเลข IP ของคุณ ฉันใช้ฟีเจอร์นี้เมื่อฉันเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ไร้สายในบ้านอย่างเช่นเครื่องปริ้นไร้สาย ในขณะที่เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตอย่างปลอดภัยไปด้วยในขณะเดียวกัน มันหมายความว่าคุณสามารถเข้าถึงเนื้อหาท้องถิ่นได้ ในขณะที่คุณสามารถปลดบล็อกเว็บไซต์ในต่างประเทศได้ในขณะเดียวกัน
ExpressVPN มีเซิร์ฟเวอร์ที่ได้รับการปรับแต่งสำหรับการสตรีมมิ่งมากมาย เราสามารถปลดบล็อกบริการสตรีมมิ่งรายใหญ่อย่างเช่น Netflix และ Hulu และบริการขนาดเล็กอย่าง ABC iview ได้ด้วยเช่นเดียวกัน
และพวกเขาสามารถให้บริการได้อย่างรวดเร็วด้วย ฉันทดสอบเซิร์ฟเวอร์ของ ExpressVPN เพื่อดูว่าพวกเขาสามารถให้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ ความเร็ว ping ของฉันอยู่ที่ 3 ms ดาวน์โหลด 22.13 Mbps และอัพโหลด 17.13 Mbps
การเชื่อมต่อ | Ping | ดาวน์โหลด | อัพโหลด |
Quick Connect เซิร์ฟเวอร์ในอเมริกา | 332 ms | 8.84 Mbps | 14.77 Mbps |
เชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์ในอเมริกาด้วยตนเอง | 371 ms | 16.14 Mbps | 15.19 Mbps |
Quick Connect เซิร์ฟเวอร์ในอังกฤษ | 319 ms | 15.55 Mbps | 14.67 Mbps |
เชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์ในอังกฤษด้วยตนเอง | 301 ms | 15.53 Mbps | 15.38 Mbps |
Quick Connect เซิร์ฟเวอร์ในฝรั่งเศส | 310 ms | 16.24 Mbps | 15.66 Mbps |
Quick Connect เซิร์ฟเวอร์ในบราซิล | 539 ms | 16.36 Mbps | 15.78 Mbps |
Quick Connect เซิร์ฟเวอร์ในออสเตรเลีย | 29 ms | 15.50 Mbps | 15.23 Mbps |
ExpressVPN นำเสนอการเข้ารหัส 256-bit และมีนโยบายการไม่บันทึกที่เข้มงวด พวกเขามี kill switch อัตโนมัติปกป้องข้อมูลของคุณ ในกรณีที่การเชื่อมต่อ VPN นั้นล้มเหลว ฉันได้ตรวจสอบนโยบายความเป็นส่วนตัวและสามารถยืนยันได้ว่า พวกเขามีนโยบายการไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานที่บังคับใช้ได้จริง
เทคโนโลยี TrustedServer ยังช่วยให้คุณปลอดภัยมากขึ้นไปอีกขั้น มีเซิร์ฟเวอร์แบบ RAM และไม่มีฮาร์ดไดร์ฟ
นั่นหมายความว่าข้อมูลของคุณจะไม่ถูกจัดเก็บอยู่ในเซิร์ฟเวอร์ถาวร ข้อมูลเหล่านั้นจะถูกลบทุกครั้งที่มีการรีบูท TrustedServer ยังช่วยตรวจสอบแต่ละเซิร์ฟเวอร์ในเครือข่ายให้มีซอฟต์แวร์ที่ทันสมัย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดทางด้านความปลอดภัย
และยังมีเซิร์ฟเวอร์ที่ได้รับการปรับให้เหมาะสมสำหรับการ P2P เพื่อทำการพออีกด้วย เมื่อฉันทดสอบเซิร์ฟเวอร์เหล่านี้ฉันสามารถแบ่งปันไฟล์ให้กับเพื่อน ๆ ของฉันอย่างรวดเร็ว โดยที่ไม่เปิดเผยหมายเลข IP ของฉันให้กับผู้ใช้งาน BitTorrent คนอื่น ๆ ฉันตรวจสอบการรั่วไหลของ DNS และ IP ก่อนที่ฉันจะใช้งานไคล์เอนท์ Torrent บริการของ ExpressVPN ก็สามารถผ่านการทดสอบอย่างง่ายดาย
ExpressVPN ให้คุณสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้พร้อมกันมากถึง 5 อุปกรณ์ ดังนั้นคุณสามารถใช้งานอุปกรณ์เหล่านี้ได้ในขณะเดียวกัน เป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์อย่างมากค่ะคุณต้องการให้อุปกรณ์ทั้งหมดในบ้านของคุณปลอดภัย ในขณะที่คุณสามารถสตรีมมิ่งรายการโปรดของคุณไปได้ในขณะเดียวกัน เพื่อเป็นการทดสอบทางเชื่อมต่อบริการนี้กับโทรศัพท์ แล็ปท็อปและเดสก์ทอปในขณะเดียวกัน มันไม่ได้ทำให้การเชื่อมต่อของฉันช้าลงเลย
คุณสามารถติดต่อกับทีมงานสนับสนุนลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมงได้ผ่านไลฟ์แชท ทีมงานสนับสนุนลูกค้านั้นเป็นมิตรและสามารถตอบคำถามของฉันได้ภายในไม่เกิน 2 นาที
การการันตีคืนเงินภายใน 30 วันทำให้ฉันสามารถทดสอบการใช้งานได้อย่างสบายใจ แต่ในสุดท้ายแล้วฉันก็ไม่สามารถต้านทานบริการที่ยอดเยี่ยมได้และฉันก็สมัครการใช้งานในแผนระยะยาวกับพวกเขาแทน
ต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมหรือเปล่า ดูรีวิว ExpressVPN ของเราเพื่อดูผลการวิจัยและการทดสอบทั้งหมดของเรา
3. CyberGhost – เซิร์ฟเวอร์สำหรับการสตรีม ปลอดภัยและน่าเชื่อถือ
- 6,000+ เซิร์ฟเวอร์ใน 89 ประเทศ
- โปรไฟล์สำหรับการสตรีมมิ่งและ P2P
- สามารถติดตั้งได้ง่าย
- รับประกันคืนเงิน 45 วัน
- ใช้งานได้บน: Netflix, BBC iPlayer, HBO GO
- ใช้งานได้กับ: Windows, macOS, Android, iOS, Linux, Routers, Chrome, Firefox และ smart TV ของบางยี่ห้อ
CyberGhost ตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมหากคุณไม่มีประสบการณ์ใช้ VPN มาก่อนเพราะว่าแอพพลิเคชั่นนี้สามารถติดตั้งและใช้งานได้อย่างง่ายดาย ฉันไม่จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนการตั้งค่าใด ๆ ก่อนทำการเชื่อมต่อ เพียงแค่ติดตั้ง ลงชื่อเข้าใช้ เท่านี้คุณก็สามารถใช้งานได้แล้ว!
แต่อย่าปล่อยให้สิ่งนี้ทำให้คุณเข้าใจผิด – แอพพลิเคชั่นนั้นมีความยืดหยุ่นอย่างมากและคุณสามารถปรับแต่งได้มากพอสมควร ฉันพบตัวเลือกในการแยกใช้ DNS โปรโตคอลและตั้งค่ากฎต่าง ๆ ที่คุณกำหนดเองได้ ซ่อนอยู่ในเมนูการตั้งค่าขั้นสูง
CyberGhost เครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่ พวกเขามีเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์มากกว่า 6,000 เซิร์ฟเวอร์ใน 89 ประเทศ ฉันได้ทดสอบบริการในระหว่างที่ฉันเดินทางพักผ่อนและพบว่ามันเป็นประโยชน์อย่างมากเพราะว่าบริการนั้นมีความเร็วที่คงที่อยู่เสมอ มีเซิร์ฟเวอร์ในท้องถิ่นใกล้กับตำแหน่งที่ฉันพักอาศัยอยู่ ฉันสามารถเชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์ระยะไกลและเซิร์ฟเวอร์นั้นยังสามารถให้บริการได้ในความเร็วสูง เพื่อนร่วมงานของฉันก็รายงานผลลัพธ์ในแบบเดียวกัน
ฉันทดลองใช้ CyberGhost อีกครั้งเมื่อฉันกลับไปถึงบ้าน มัน ping ที่ 37 ms ดาวน์โหลดที่ 19.22 Mbps และอัพโหลดที่ 17.24 Mbps
การเชื่อมต่อ | Ping | ดาวน์โหลด | อัพโหลด |
Quick Connect เซิร์ฟเวอร์ในอเมริกา | 337 ms | 7.52 Mbps | 12.27 Mbps |
เชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์ในอเมริกาด้วยตนเอง | 276 ms | 19.50 Mbps | 15.81 Mbps |
Quick Connect เซิร์ฟเวอร์ในอังกฤษ | 338 ms | 12.26 Mbps | 14.97 Mbps |
เชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์ในอังกฤษด้วยตนเอง | 332 ms | 13.37 Mbps | 13.63 Mbps |
Quick Connect เซิร์ฟเวอร์ในฝรั่งเศส | 319 ms | 18.19 Mbps | 16.41 Mbps |
Quick Connect เซิร์ฟเวอร์ในบราซิล | 401 ms | 17.70 Mbps | 11.73 Mbps |
Quick Connect เซิร์ฟเวอร์ในออสเตรเลีย | 28 ms | 16.47 Mbps | 15.52 Mbps |
นั้นมีเซิร์ฟเวอร์ที่เหมาะสำหรับการสตรีมมิ่งและ P2P
เมื่อฉันเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ในประเทศที่ฉันต้องการสตรีมเนื้อหา มันก็สามารถสตรีมได้อย่างง่ายดาย ฉันสามารถสตรีม Netflix US และ BBC iPlayer ในระหว่างการทดสอบของฉันได้และเพื่อนร่วมงานของฉันในต่างประเทศก็ได้ทดสอบแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งอีกหลายร้อยแพลตฟอร์มและบริการนี้ก็สามารถเข้าถึงแพลตฟอร์มเหล่านั้นได้
คุณสามารถใช้งานเซิร์ฟเวอร์ NoSpy ของ CyberGhost ได้ด้วยเช่นกัน เซิร์ฟเวอร์เหล่านี้ตั้งอยู่ในศูนย์ข้อมูลที่ปลอดภัยอยู่นอกเขตอำนาจศาล 5/9/14 Eyes เซิร์ฟเวอร์เหล่านี้จะถูกจัดการอย่างอิสระและให้บริการในระดับความปลอดภัยแบบสูงสุดตลอดเวลา
ไม่มีคนกลางเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับเซิร์ฟเวอร์เหล่านี้ ดังนั้นข้อมูลของคุณจึงไม่มีความเสี่ยงในการรั่วไหลหรือถูกแฮ็ค ฉันยังสังเกตอีกว่าพวกเขามีแบนด์วิดท์ที่มากกว่าเพื่อให้บริการได้ในความเร็วที่สูงขึ้น
ทุกเซิร์ฟเวอร์ของ CyberGhost นั้นถูกเข้ารหัสแบบ 256-bit พวกเขาให้บริการภายใต้นโยบายการไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานที่เข้มงวดและแอพพลิเคชั่นมาพร้อมกับ kill switch ในตัว ทำได้ทำการทดสอบหลายครั้งในขณะที่ทำการเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ของพวกเขาและฉันไม่พบปัญหาด้านความปลอดภัยเลย แม้แต่ครั้งเดียว ฉันได้เข้าไปตรวจสอบนโยบายความเป็นส่วนตัวและ CyberGhost นั้นระบุไว้อย่างชัดเจนว่าพวกเขาจะไม่จัดเก็บข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมที่คุณทำออนไลน์
CyberGhost สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้พร้อมกัน 7 อุปกรณ์ พวกเขามีการันตีคืนเงินภายใน 45 วัน เพื่อให้คุณสามารถทดลองใช้งานได้ก่อนทำการซื้อจริง
ต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมหรือเปล่า ดูรีวิว CyberGhost ของเราเพื่อดูผลการวิจัยและการทดสอบทั้งหมดของเรา
คำถามที่พบบ่อย
😀 VPN ราคาเท่าไหร่
ด้วยบริการที่มีฟีเจอร์ที่ล้ำสมัยหลาย ๆ คนอาจคิดว่ามี VPN นั้นจะต้องมีราคาที่แพงเกินเอื้อม ที่จริงแล้ว VPN ทั้งหมดที่ฉันได้แนะนำในรายการนี้นั้นมีราคาที่สามารถจับต้องได้และยิ่งสมัครใช้งานกับแผนที่มีระยะเวลายาวนานมากเท่าไหร่ ราคาก็จะยิ่งถูกลงเท่านั้น
ตัวเลือกที่ดีที่สุดของฉันก็คือ NordVPN ในราคาต่ำกว่า $4 ต่อเดือน ด้วยราคานี้คุณจะสามารถรับสิทธิประโยชน์ทุกอย่างที่ NordVPN นำเสนอ — ซึ่งหมายถึงความสามารถในการเข้าถึงเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมด ใช้งานความเร็วสูง ชุดความปลอดภัยและเข้าถึงไลบารีเนื้อหาทั้งหมดที่คุณต้องการ หากคุณต้องการซื้อบริการอย่าลืมเข้าไปดูหน้าคูปองส่วนลดของเรา ที่นั่นคุณจะได้เจอกับคูปองส่วนลดสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่จะช่วยให้คุณประหยัดเมื่อซื้อบริการ
😄 มี VPN ฟรีให้ใช้ในประเทศไทย ไหม
มีสิ มี VPN ฟรีให้ใช้มากมาย แต่ฉันไม่แนะนำให้คุณใช้บริการเหล่านี้ นี่คือเหตุผลว่าทำไม
VPN ฟรีนั้นเต็มไปด้วยข้อเสียเต็มไปหมด พวกเขามักจะอ้างว่าสามารถให้บริการคุณภาพสูงได้ แต่กลับไม่สามารถทำแบบนั้นได้เลย VPN ฟรีมักจะมาพร้อมกับเซิร์ฟเวอร์จำนวนจำกัด ความเร็วช้า มีความปลอดภัยต่ำและแม้แต่จำกัดข้อมูลการใช้งาน และมักจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงการปิดกั้นเนื้อหาตามภูมิศาสตร์ในบริการสตรีมมิ่งได้ ในขณะที่คุณไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าบริการก่อนหน้าใด ๆ ทั้งสิ้น แต่ว่าข้อจำกัดเหล่านี้ไม่ได้ทำให้คุ้มค่าบริการฟรีเลย
อย่างไรก็ตามไม่ใช่ทุกบริการฟรีจะเป็นการโฆษณาหลอกลวง เรามักจะทำการค้นคว้าหาบริการที่ดีที่สุดและเราได้พบกับบริการ VPN ฟรีที่ดีจำนวนหนึ่งที่สามารถให้บริการได้อย่างปลอดภัยและเชื่อถือและมีข้อจำกัดไม่มาก (คุณไม่ได้ทุกอย่างที่คุณต้องการเสมอไปหรอก ) เราตรวจสอบแล้วว่าข้อจำกัดเหล่านี้ไม่ได้ทำให้ทำเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของคุณลดน้อยลง ดังนั้นคุณจะต้องทนกับการใช้งานที่มีข้อจำกัดด้านข้อมูล แบนด์วิดท์ เซิร์ฟเวอร์และฟีเจอร์อื่น ๆ แทน
❓VPN ที่ดีที่สุดสำหรับประเทศไทย คืออะไร
เราได้ทำการตรวจสอบ ทดสอบและจัดอันดับ VPN อยู่ทุกเดือนเป็นประจำ และเราไม่ได้ปล่อยให้บริการ VPN ใดก็ตามคาดสายตาไปได้ พวกเขาจะต้องมีความปลอดภัยที่ดีในระดับหนึ่ง มีฟีเจอร์ที่ล้ำสมัยและสามารถทำการปลดบล็อกเว็บไซต์ที่คุณต้องการได้อย่างน่าเชื่อถือ การทดสอบล่าสุดของเราพบว่า NordVPN นั้นมีประสิทธิภาพการให้บริการที่ดีที่สุดในทุกตำแหน่ง ไม่ว่าจะเป็นทั้งในด้านความเร็ว ความปลอดภัยหรือความสามารถในการหลีกเลี่ยงการติดตั้งการเข้าถึงเนื้อหา มันใช้งานได้ในจีนได้อีกด้วย
วิธีรับส่วนลดสำหรับการซื้อ VPN ใหม่
ฉันเป็นคนชอบการต่อรองราคาอยู่เหมือนกัน ฉันใช้เวลาไปมากมายในการค้นหาคูปองเพื่อประหยัดเงินในการซื้อบริการ ฉันพบว่าผู้ให้บริการ VPN หลายรายมีการนำเสนอคูปองและข้อเสนอใหม่ ๆ เป็นประจำ แต่ต้องขอขอบคุณเว็บไซต์โฆษณาหลอกลวงที่ทำให้การค้นหาคูปองที่ใช้ได้จริงนั้นยากเข้าไปอีก
ด้วยเหตุผลนี้ฉันและทีมงานจึงสร้างฐานข้อมูลของคูปอง VPN ที่ดีที่สุดและเป็นปัจจุบันเอาไว้ เราได้ทดสอบคูปองแต่ละอันและยืนยันว่ามันเป็นของจริงและยังสามารถใช้งานได้ใน มกราคม 2021
สรุป
VPN นั้นเป็นเครื่องมือที่สำคัญสำหรับความปลอดภัยบนอินเทอร์เน็ต แต่นั่นไม่ใช่สิ่งเดียวที่มันสามารถทำได้ – นอกจากปกป้องความเป็นส่วนตัวของคุณแล้ว VPN ยังสามารถหลีกเลี่ยงการเซ็นเซอร์และการปิดกั้นการเข้าถึงเนื้อหาได้ด้วย
หากคุณต้องการการปกป้องในราคาที่จับต้องได้และมีคุณภาพสูง NordVPN นั้นเป็นคำแนะนำที่ดีที่สุดจากฉัน มันมีความเร็วสูง ใช้งานได้ง่ายและคนไม่จำเป็นต้องมีความรู้ด้านเทคนิคเพื่อตั้งค่า
คุณพร้อมที่จะเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ VPN หรือยัง ดูข้อดีและข้อเสียในการใช้งาน VPN
หรือหากคุณต้องการสตรีมเนื้อหาคุณสามารถค้นหา VPN ที่ดีที่สุดสำหรับการสตรีมมิ่งในรายการของเราได้
สรุป VPN ที่ดีที่สุดสำหรับมือใหม่ 2021 คือ …
ผู้ให้บริการ | คะแนนของเรา | |
---|---|---|
9.8/10 | ||
9.8/10 | ||
9.6/10 | ||
9.4/10 | ||
9.2/10 |
การแจ้งเตือนความเป็นส่วนตัว!
ข้อมูลของคุณจะถูกเปิดเผยต่อเว็บไซต์ที่คุณเข้าชม!
หมายเลข IP ของคุณ:
ตำแหน่งของคุณ:
ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของคุณ:
ข้อมูลข้างต้นสามารถใช้เพื่อติดตาม กำหนดเป้าหมายโฆษณาและติดตามกิจกรรมที่คุณทำบนอินเตอร์เน็ตได้
VPN สามารถช่วยคุณซ่อนข้อมูลเหล่านี้จากเว็บไซต์ เพื่อให้คุณได้รับการปกป้องตลอดเวลา เราขอแนะนำ NordVPN - VPN อันดับ #1 จากผู้ให้บริการกว่า 350 รายที่เราได้ทดสอบ มีการเข้ารหัสระดับทหารและฟีเจอร์ความเป็นส่วนตัวมากมายที่จะช่วยให้คุณมั่นใจในความปลอดภัยเมื่อใช้งานอินเตอร์เน็ต - นอกจากนี้ยังมีส่วนลดจาก 68% อีกด้วย