ปลดบล็อค Netflix (ถ้าคุณอยู่นอกประเทศสหรัฐอเมริกา)
Netflix ได้มีการเติบโตเป็นอย่างมากในช่วงสองสามปีที่ผ่านมาและเป็นที่รู้จักในด้านการมีรายการโทรทัศน์และภาพยนตร์ที่หลากหลายให้รับชม ในปัจจุบันมีรายการโทรทัศน์และภาพยนตร์กว่า 20,000 รายการบน Netflix เวอร์ชั่นสหรัฐอเมริกาแต่สำหรับประเทศแคนาดาและยุโรปจำนวนรายการจะน้อยกว่านี้มาก ทำให้มีเพียงชาวอเมริกันที่ได้รับประโยชน์จากบริการนี้อย่างเต็มที่เท่านั้นซึ่งรวมถึงการได้ทดลองใช้งานเว็บไซต์ได้ฟรี นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ผู้รับชมทที่อยู่ภายนอกประเทศสหรัฐอเมริกาต่างก็รู้สึกไม่พึงพอใจ
Netflix error message outside the US
ถ้าหากคุณเป็นผู้ใช้เหล่านี้ คุณไม่ต้องกังวล ในปัจจุบันมีหลายวิธีการที่สามารถแก้ปัญหานี้ได้ ปัญหานี้จะมี 2 ด้านคือ ด้านการเงินและด้านเทคนิค ถ้าหากคุณต้องการแก้ปัญหานี้แล้วคุณจะต้องแก้ปัญหาให้ได้ทั้ง 2 ด้านนี้ นี่คือข้อมูลที่จะช่วยเหลือคุณได้; Netflix มีการประเมิน IP address ของคุณเพื่อดูว่าคุณอยู่ที่ประเทศใด โชคดีที่ในปัจจุบันได้มีเว็บแอพพลิเคชั่นจำนวนมากที่คุณสามารถใช้เพื่อซ่อน IP ของคุณได้ ดาวน์โหลดเว็บแอพพลิเคชั่นที่สามารถจัดเส้นทางทราฟฟิกของคุณใหม่ได้ซึ่งจะทำให้เซิฟเวอร์ของ Netflix คิดว่าคุณกำลังอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา เราจะกล่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการนี้ในอีกไม่ช้า แต่ก่อนอื่นเราขอพูดเกี่ยวกับปัญหาที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง: ความเป็นสมาชิกของ Netflix
ถ้าหากคุณมีบัญชี Netflix ที่ถูกสร้างขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกาแล้ว คุณจะไม่ต้องพบกับปัญหาที่ซับซ้อนเนื่องจากคุณสามารถใช้วิธีการซ่อน IP ได้ อย่างไรก็ตามผู้ที่ทำการทดสอบวิธีการนี้ได้พบว่า Netflix ไม่ได้คำนึงถึงว่าคุณกำลังอยู่ในประเทศใดในขณะที่ทำการลงทะเบียนบนเว็บไซต์ นั่นหมายความว่าถ้าหากคุณอยู่ในต่างประเทศ คุณก็จะยังสามารถเพลิดเพลินไปกับสิ่งต่าง ๆ บน Netflix ได้เหมือนกับผู้ใช้ที่อยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา
ถ้าหากคุณยังไม่ได้ทำการลงทะเบียนกับ Netflix มันจะซับซ้อนกว่านี้มาก โดยทางกฎหมายแล้วการรับชม Netflix ในประเทศอื่น ๆ นั้นยังคงเป็นสีเทา คุณสามารถลองชำระเงินด้วย PayPal หรือบัตรเครดิตของคุณและใช้ที่อยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกาที่คุณใช้ในการลงทะเบียน วิธีการนี้อาจจะใช้ได้หรือไม่ได้ก็ยังไม่แน่นอน ให้ลองใช้วิธีการนี้เมื่อวิธีการอื่น ๆ ไม่ได้ผล
ในตอนนี้เรามาดูวิธีการแก้ปัญหาด้วยการหลอกเซิฟเวอร์ให้คิดว่าคุณเป็นผู้รับชมที่อยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา:
เปลี่ยนแปลง IP Address ของคุณ
คุณสามารถทำสิ่งนี้ได้ด้วย 3 วิธี นี่คือข้อดีและข้อเสียของแต่ละวิธี:
พร็อกซี่แบบมีค่าใช้จ่าย/ฟรี
พร็อกซี่คือเซิฟเวอร์ที่ผู้ใช้สามารถทำการเชื่อมต่อได้เพื่อออนไลน์ (ซึ่งในกรณีนี้เซิฟเวอร์ควรอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา) สิ่งนี้จะช่วยให้ทราฟฟิกอินเตอร์เน็ตของคุณสามารถผ่านเซิฟเวอร์ได้ โดยทั่วไปพร็อกซี่นี้จะฟรีและสามารถสร้างความยุ่งยากได้เนื่องจากมการแสดงโฆษณามากมายและยังมีผู้ใช้งานนับพันคนทั่วโลกที่กำลังใช้งานอยู่ นั่นหมายความว่ามันจะช้ามาก..
ถ้าหากคุณใช้พร็อกซี่แล้ว โปรดทราบว่าการสตรีมมิ่งวิดีโอจะเป็นการโหลดแบนด์วิธของคุณเป็นอย่างมากซึ่งทำให้การบัฟเฟอร์เป็นไปได้ช้า ดังนั้นทางเลือกที่ดีกว่านี้คือการดาวน์โหลดภาพยนตร์หรือรายการโทรทัศน์มาไว้ดู ซึ่งสามารถใช้เวลาค่อนข้างนาน
ถ้าหากคุณต้องการใช้พร็อกซี่ ลองไปดูที่ Proxy.org เว็บไซต์นี้มีข้อมูลจำนวนมากเกี่ยวกับพร็อกซี่และคุณจะพบกับสิ่งที่คุณต้องการได้
ข้อดี
คุณสามารถใช้งานพร็อกซี่ได้ฟรีและสามารถทำการดาวน์โหลดมาไว้ใช้งานได้อย่างง่ายดาย
ข้อเสีย
พร็อกซี่จำนวนมากจะค่อนข้างช้า (โดยเฉพาะตัวที่ฟรี) ซึ่งนี่เป็นเพราะมีผู้ใช้งานจำนวนมาก ตัวอย่างเช่น พร็อกซี่ถูกใช้งานโดยผู้ที่อยู่ในกลุ่มประเทศตะวันออกกลางและเอเชีย ดังนั้นการสตรีมมิ่งและดาวน์โหลดจะช้ามาก นอกจากนี้คุณยังไม่สามารถมั่นใจในคุณภาพที่คุณจะได้รับ
บราวเซอร์ Extensions
นี่คือกลไกซอต์แวร์ขนาดเล็กที่สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นการใช้งานของบราวเซอร์ได้ extension นี้จะเปลี่ยน IP address ของคุณและปลดบล็อคข้อจำกัดต่าง ๆ ที่ถูกตั้งไว้บนเว็บไซต์ เช่น Netflix โดย extension สำหรับบราวเซอร์นี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจนคุณอาจจะพบเจอมันถูกกล่าวถึงอยู่เป็นประจำในส่วนของข้อตกลงการใช้บริการบนเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยมต่าง ๆ เช่น Netflix นี่คือเหตุผลที่คุณจะต้องระมัดระ
ข้อดี
การปลดบล็อคสามารถทำได้อย่างง่ายดายเนื่องจากมี IP และ extenstion ในเกือบทุกประเทศทั่วโลกและโดยส่วนใหญ่จะฟรี
ข้อเสีย
มันเป็นไปได้อย่างมากที่คุณจะไม่ได้รับชมวิดีโอที่มีคุณภาพแบบพรีเมี่ยมโดยเฉพาะเมื่อคุณทำการสตรีมมิ่งวิดีโอ คุณอาจพบกับปัญหาเกี่ยวกับการที่ผู้ใช้อื่นส่งทราฟฟิกของพวกเขาผ่านการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตของคุณซึ่งจะเป็นการโหลดแบนด์วิธของคุณ
Virtual Private Networks
VPN เป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดที่ใคร ๆ ก็สามารถนำมาใช้เพื่อปลดบล็อคข้อจำกัดต่าง ๆ ทางออนไลน์ได้เนื่องจากบริการนี้สามารถทำงานได้จริง ๆ โดยมีทั้งความเร็วและความปลอดภัย (แต่มีค่าบริการ) Virtual Private Networks คือเซิฟเวอร์ที่ให้คุณทำการเชื่อมต่อเหมือนกับพร็อกซี่ แต่ข้อแตกต่างหลัก ๆ ระหว่าง VPN และพร็อกซี่คือพวกมันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อทำสิ่งนี้โดยเฉพาะ ผู้พัฒนา VPN ได้สร้างสิ่งนี้ขึ้นมาเพื่อให้คุณสามารถเข้าถึงเว็บไซต์ที่ถูกบล็อคได้โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับคุณภาพ
VPN มีข้อดีมากมายกว่าตัวเลือกอื่น ๆ สำหรับการเข้าใช้งาน Netflix เช่น มีการปกปิดตัวตนออนไลน์ของคุณและมีการสร้างระบบรักษาความปลอดภัยแบบสองชั้นเมื่อคุณใช้อินเตอร์เน็ต บริการ VPN ส่วนใหญ่ทำงานโดยใช้ IP address ที่มีอยู่ในอย่างน้อย 25 ประเทศ โดยผู้ใช้สามารถทำการเชื่อมต่อไปยัง IP เหล่านี้ได้ทั้งหมด ค่าบริการสำหรับสมาชิก VPN จะเริ่มต้นที่ $3 ต่อเดือนไปจนถึง $10 ต่อเดือน (ซึ่งเป็นค่าบริการแบบพรีเมี่ยม) แต่มันก็คุ้มที่คุณได้จ่าย $10 ต่อเดือนเพื่อที่จะได้รับการสตรีมมิ่งวิดีโอที่มีคุณภาพสูง
นี่คือบริการ VPN ในอันดับต้น ๆ ของปัจจุบันพร้อมกับค่าบริการ:
หมายเหตุจากบรรณาธิการ: เราให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ของเรากับผู้อ่าน และเรามุ่งมั่นที่จะได้รับความไว้วางใจจากคุณด้วยการทำงานด้วยความโปร่งใสและความซื่อสัตย์ เว็บของเราอยู่ในกลุ่มเจ้าของเดียวกันกับผลิตภัณฑ์ชั้นนำในอุตสาหกรรมบางส่วนที่ได้รับการตรวจสอบบนเว็บไซต์นี้: Intego, Cyberghost, ExpressVPN และ Private Internet Access อย่างไรก็ตามสิ่งนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อกระบวนการตรวจสอบของเรา เนื่องจากเราปฏิบัติตามวิธีการทดสอบที่เข้มงวด
ข้อมูลของคุณจะถูกเปิดเผยต่อเว็บไซต์ที่คุณเข้าชม!
หมายเลข IP ของคุณ:
ตำแหน่งของคุณ:
ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของคุณ:
ข้อมูลข้างต้นสามารถใช้เพื่อติดตาม กำหนดเป้าหมายโฆษณาและติดตามกิจกรรมที่คุณทำบนอินเตอร์เน็ตได้
VPN สามารถช่วยคุณซ่อนข้อมูลเหล่านี้จากเว็บไซต์ เพื่อให้คุณได้รับการปกป้องตลอดเวลา เราขอแนะนำ ExpressVPN - VPN อันดับ #1 จากผู้ให้บริการกว่า 350 รายที่เราได้ทดสอบ มีการเข้ารหัสระดับทหารและฟีเจอร์ความเป็นส่วนตัวมากมายที่จะช่วยให้คุณมั่นใจในความปลอดภัยเมื่อใช้งานอินเตอร์เน็ต - นอกจากนี้ยังมีส่วนลดจาก 82% อีกด้วย
กรุณาแสดงความคิดเห็นว่าพวกเราสามารถพัฒนาบทความนี้ได้อย่างไร ความคิดเห็นของคุณมีค่าสำหรับเรา!