ปลดบล็อก VPN Netflix ในปี 2024
Netflix นั้นมีการพัฒนากลไกการบล็อก VPN อยู่อย่างสม่ำเสมอ VPN หลายรายที่เคยใช้งานได้ในอดีต อาจจะใช้งานเข้าถึงเนื้อหาในประเทศไม่ได้แล้วในปัจจุบัน หรือบางครั้งก็อาจจะเข้าถึงแพลตฟอร์มไม่ได้เลย นี่ทำให้การเข้าถึง Netflix ไทย นั้นกลายเป็นเรื่องยาก เวลาที่คุณอยู่ต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ยังมีวิธีง่าย ๆ ที่คุณสามารถใช้เพื่อหลบหลีกการบล็อก VPN ของ Netflix ได้อยู่
วิธีที่ดีที่สุดในการหลีกเลี่ยงการบล็อก VPN ของ Netflix ก็คือการเลือกใช้ VPN ที่ไม่มีปัญหาแบบนี้ แต่ถ้านั่นยังไม่ได้ผล ก็ยังมีอีกหลายวิธีให้คุณลองทำเพื่อแก้ไขปัญหา ซึ่งเราจะกล่าวถึงในด้านล่าง
โดยรวมแล้ว ExpressVPN เป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งที่เราอยากแนะนำสำหรับใช้หลบหลีกการบล็อก VPN ของ Netflix มันมีเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่มาก ซึ่งจะสามารถเข้าถึงเนื้อหาของ Netflix ได้ใน 20+ ประเทศ โดยที่จะไม่ถูกตรวจพบ แถมมันยังมีความเร็วสูงมาก ทำให้คุณสามารถสตรีมได้อย่างไม่เกิดการช้าลงเลย คุณสามารถ ทดลองใช้ ExpressVPN ได้อย่างไม่มีความเสี่ยง เนื่องจากมันมีการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน หากคุณไม่ประทับใจ การขอคืนเงินเต็มจำนวนก็เป็นเรื่องง่าย หมายเหตุจากบรรณาธิการ: เนื่องจากความโปร่งใสนั้นเป็นหนึ่งในค่านิยมของ vpnMentor ดังนั้นเราต้องการแจ้งให้คุณทราบว่า เว็บของเราอยู่ในกลุ่มเจ้าของเดียวกันกับ ExpressVPN อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อกระบวนการตรวจสอบของเรา
เข้าถึง Netflix ด้วย ExpressVPN
คู่มือแบบเร็ว: วิธีการหลบหลีกการบล็อก VPN ของ Netflix ใน 3 ขั้นตอนง่าย ๆ
- เลือกรับบริการจาก VPN ที่มีความเสถียรสำหรับ Netflix เราแนะนำ ExpressVPN เพราะมันสามารถใช้งานกับ Netflix ได้ใน 20+ ประเทศอย่างมีความเสถียร ไม่มีปัญหาเรื่องการถูกบล็อก แถมมันยังมีความเร็วในการเชื่อมต่อสูงมาก ทำให้คุณสามารถสตรีมมิ่งได้อย่างลื่นไหล
- เชื่อมต่อไปยังเซิร์ฟเวอร์ เลือกประเทศที่คุณต้องการเข้าถึง ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณต้องการจะเข้าถึง Netflix ออสเตรเลีย ก็ให้เชื่อมต่อไปยังเซิร์ฟเวอร์ออสเตรเลีย
- หลบหลีกการบล็อก VPN ของ Netflix เปิด Netflix และเริ่มดูรายการโปรดของคุณได้เลย!
VPN ที่ดีที่สุดสำหรับใช้หลบหลีกการบล็อก VPN ของ Netflix — การวิเคราะห์ฉบับเต็ม (อัปเดตล่าสุดปี 2024)
1. ExpressVPN — เซิร์ฟเวอร์ที่มีความเสถียรและมีความเร็วสูงที่สุด สามารถเข้าถึงการสตรีมมิ่ง Netflix คุณภาพสูงได้ถึง 20+ ประเทศ
ทดสอบใน พฤศจิกายน 2024 ทดลองใช้งานได้อย่างปลอดภัย 30 วัน
- 3,000 เซิร์ฟเวอร์ใน 105 ประเทศ รวมถึง ประเทศไทย สำหรับใช้หลบหลีกการบล็อก VPN ของ Netflix ได้อย่างง่ายดาย
- ความเร็วสูงสุดพร้อมข้อมูลให้ใช้งานได้ไม่จำกัด สำหรับการสตรีมมิ่งคุณภาพสูงที่จะไม่ถูกขัดจังหวะ
- เชื่อมต่อได้พร้อมกัน 8 อุปกรณ์
- ใช้งานได้กับ: Netflix 20+ ประเทศ, BBC iPlayer, Amazon Prime Video, Disney+, Hulu, DAZN, ONE 31, Channel 7, และอื่น ๆ รวมถึงโซเชียลมีเดียอย่าง Facebook ด้วย
- ใช้งานเข้ากันได้กับ: Windows, Android, macOS, iOS, Linux, สมาร์ททีวี, เราเตอร์, และอื่น ๆ
- แอปและส่วนขยายเป็นภาษาไทย
- ฐานข้อมูล, บริการทางแชทและอีเมลเป็นภาษาไทย
ExpressVPN นั้นเป็น VPN ที่มีความเสถียรที่สุดในแง่ของการปลดบล็อกภูมิภาคสุดหินของ Netflixซึ่งก็เป็นเพราะว่ามันมีเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่ ระหว่างการทดสอบของเรา เราก็สามารถเข้าถึง Netflix ได้ทุกประเทศที่เราลอง ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ไทย แคนาดา ญี่ปุ่น บราซิล หรือออสเตรเลีย เราสามารถเข้าถึงรายการที่ถูกล็อกตามภูมิภาคได้ทั้งหมดโดยไม่เจอข้อผิดพลาดที่น่ารำคาญเลย — Netflix ก็ตรวจไม่พบเลยด้วยว่าเรากำลังใช้ VPN อยู่
ความสามารถในการปลดบล็อกของมันนั้นน่าประทับใจมาก ซึ่งส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะมีการบำรุงรักษาและอัปเดต IP เป็นประจำ เมื่อไรก็ตามที่ Netflix หรือแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งอื่น ๆ ตรวจเจอ IP ของ ExpressVPN และทำการบล็อกมันแล้ว ทาง ExpressVPN ก็ยังมี IP อีกมากมายที่ใช้งานได้ ให้คุณเลือก แถมการป้องกันการรั่วไหลอันแน่นหนาของ ExpressVPN รวมถึง DNS ส่วนตัว ก็ยิ่งลดความน่าจะเป็นที่คุณจะถูกบล็อกอันเป็นเหตุจากที่ IP จริงของคุณรั่วไหลออกไป
คุณสามารถปลดบล็อก Netflix บนอุปกรณ์อย่าง FireStick, Apple TV, เครื่องเล่นเกม และสมาร์ททีวีได้ มันมีแอปสำหรับอุปกรณ์ Fire โดยเฉพาะ และบริการ MediaStreamer ของมันก็จะทำให้คุณเข้าถึง Netflix สหรัฐอเมริกาบนอุปกรณ์ที่ปกติแล้วจะใช้งานกับ VPN ไม่ได้ เราใช้เวลาเพียงไม่ถึง 5 นาทีในการตั้งค่าเครือข่ายบน PS5 ของเราด้วยการใช้โค้ด MediaStreamer และ Netflix สหรัฐอเมริกาก็โหลดเสร็จในทันทีอย่างไม่มีปัญหา
ยิ่งไปกว่านั้น ExpressVPN ยังมีความเร็วสูงมาก ๆ ซึ่งทำให้คุณสามารถสตรีมได้อย่างไม่ถูกรบกวน มันมีโปรโตคอลเป็นของตนเองชื่อ Lightway ซึ่งมีความเร็วสูงกว่า OpenVPN และก็สามารถใช้ปลดล็อกแพลตฟอร์มได้ดีพอ ๆ กัน เราทำการทดสอบเซิร์ฟเวอร์ในอัมสเตอร์ดัมและรอตเทอร์ดามของมัน (ด้วย Lightway) และความเร็วในการดาวน์โหลดเฉลี่ยก็อยู่ที่ 58 Mbps (ตกลงจากความเร็วการเชื่อมต่อของเราเพียง 4%) นี่ทำให้เราสามารถดู Hacksaw Ridge ในความชัดระดับ HD อย่างไม่ถูกรบกวนผ่าน Netflix เนเธอร์แลนด์ได้
ปัญหาเล็ก ๆ เรื่องเดียวเกี่ยวกับ ExpressVPN ก็คือมันมีราคาแพงกว่า VPN รายอื่นเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม มันมีการลดราคาสุดคุ้มค่าอยู่เกือบตลอดทั้งปี แพลนรายปีทำให้เราประหยัดไปได้ถึง 82% จากการสมัครสมาชิกของเรา แพลนระยะสั้นนั้นก็มีฟีเจอร์ที่เหมือนกัน แต่มีราคาที่สูงกว่า ดังนั้นเราจึงอยากแนะนำให้เลือกเป็นแพลนรายปี เพราะว่ามันมีความคุ้มค่าสูงที่สุด
คุณสามารถ ทดลองใช้ ExpressVPN ได้อย่างไม่มีความเสี่ยง เนื่องจากมันมีการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน หากคุณไม่ประทับใจ การขอคืนเงินเต็มจำนวนก็เป็นเรื่องง่าย เพื่อจะทดสอบดูว่าการรับประกันคืนเงินนี้เชื่อถือได้มากแค่ไหน เราได้ตามการติดต่อผ่านไลฟ์แชท 24/7 และก็ลองขอเงินคืนดู ทางตัวแทนก็ได้ถามเราว่าทำไมเราถึงอยากยกเลิก ก่อนจะรีบดำเนินการอนุมัติตามคำขอให้เราหลังจากที่เราแจ้งเหตุผลแล้ว เราได้รับเงินคืนมาภายในเวลา 2 วัน หมายเหตุจากบรรณาธิการ: เนื่องจากความโปร่งใสนั้นเป็นหนึ่งในค่านิยมของ vpnMentor ดังนั้นเราต้องการแจ้งให้คุณทราบว่า เว็บของเราอยู่ในกลุ่มเจ้าของเดียวกันกับ ExpressVPN อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อกระบวนการตรวจสอบของเรา
2. CyberGhost — เซิร์ฟเวอร์พิเศษสำหรับสตรีมมิ่งเพื่อใช้ดู Netflix อย่างไม่ยุ่งยาก
- 11,690 เซิร์ฟเวอร์ใน 100 ประเทศ (รวมถึงมีเซิร์ฟเวอร์อยู่ใน กรุงเทพฯ) เพื่อใช้หลบหลีกการบล็อกภูมิภาคของ Netflix
- ความเร็วสูงพร้อมข้อมูลไม่จำกัดสำหรับการสตรีมที่ไม่มีคำว่าแลค
- เชื่อมต่อได้พร้อมกัน 7 อุปกรณ์
- ใช้งานได้กับ: Netflix 15+ ประเทศ, BBC iPlayer, Amazon Prime Video, Disney+, Hulu, , Hotstar, ONE 31, Channel 7, และอื่น ๆ
- ใช้งานเข้ากันได้กับ: Windows, Android, macOS, iOS, Linux, เราเตอร์, และอื่น ๆ
CyberGhost มีเซิร์ฟเวอร์พิเศษสำหรับสตรีมมิ่ง Netflix ให้เลือกได้หลายประเทศ นี่ทำให้คุณสามารถเข้าถึงประเทศที่ต้องการได้อย่างง่ายที่สุด ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนก็ตาม ตอนที่เราทดสอบเซิร์ฟเวอร์พิเศษสำหรับ Netflix ในแคนาดา ฝรั่งเศส และอินเดียเราก็สามารถเข้าถึงเนื้อหาที่มีเฉพาะในประเทศเหล่านั้นได้อย่างไม่ติดขัดใด ๆ ยิ่งไปกว่านั้น เซิร์ฟเวอร์พวกนี้ยังมีความเสถียรมาก — เราไม่เคยถูกบล็อก VPN เลยตอนที่ใช้งานในตำแหน่งเหล่านี้
ความเร็วของมันนั้นก็ดีมากด้วย ดังนั้นคุณจึงสามารถสตรีมมิ่งรายการโปรดที่ถูกล็อกภูมิภาคของ Netflix ในความชัดระดับ HD ได้ ระหว่างการทดสอบของเราผ่านเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ใกล้เคียง ความเร็วเฉลี่ยของเราก็อยู่ที่ 52 Mbps (ตกลงไปเพียง 14% จากความเร็วฐานของเรา) นี่เป็นความเร็วที่มากเกินกว่าความเร็วพื้นฐานสำหรับความชัดระดับ HD ถึง 10 เท่า เราไม่เจอเรื่องการบัฟเฟอร์เลยในขณะที่เราดู Brooklyn Nine-Nine บน Netflix Canada
ถึงจะเป็นเช่นนั้นก็ตาม แต่ CyberGhost นั้นก็ยังเร็วไม่เท่ากับ ExpressVPN โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้การเชื่อมต่อแบบระยะไกล ตอนที่เราทำการทดสอบเซิร์ฟเวอร์ในออสเตรเลีย ความเร็วในการดาวน์โหลดของเราก็ตกลงไปอยู่ที่ 45 Mbps ซึ่งตกลงไปอย่างมีนัยสำคัญ แต่ถ้าความเร็วฐานของคุณนั้นเร็วมากอยู่แล้ว คุณก็จะไม่เห็นความแตกต่างสักเท่าไร
CyberGhost นั้นยังใช้งานร่วมกับ Netflix ได้ง่ายมาก ๆ ถึงแม้ว่าคุณจะเป็นมือใหม่ก็ตาม ขยายเมนูและคุณก็จะเห็นรายการเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมดที่มีให้เลือกในทันที คุณสามารถเลือกระหว่างตำแหน่งที่ตั้งที่ต้องการ หรือเลือกโปรไฟล์พิเศษสำหรับสตรีมมิ่งโดยเฉพาะ เราสามารถเชื่อมต่อไปยังเซิร์ฟเวอร์สหราชอาณาจักรสำหรับ Netflix ได้ภายในไม่กี่คลิก
การสมัครสมาชิกราคาไม่แพง — คุณสามารถสมัครใช้งานได้ในราคาถูกที่สุดถึง $2.03/เดือน มันยังมี IP เฉพาะ(ส่วนตัว) เป็นส่วนเสริมโดยมีคิดค่าบริการเพิ่มให้ด้วย ซึ่งจะเป็นหนึ่งวิธีที่สามารถหลีกเลี่ยงการตรวจจับ VPN ที่ Netflix ชอบใช้ (คือการที่ผู้ใช้งานหลายคนใช้ที่อยู่ IP เดียวกัน)
มันมีการรับประกันคืนเงินถึง 45 วัน ดังนั้นจริง ๆ แล้วก็เหมือนว่าคุณสามารถทดลอง CyberGhost ได้ฟรี หากคุณใช้แล้วไม่ชอบ คุณก็ขอคืนเงินเต็มจำนวนได้ หลังจากที่เราใช้บริการมาแล้ว 21 วัน เราก็ลองขอคืนเงินผ่านไลฟ์แชท 24/7 ตัวแทนทางแชทก็ถามข้อเสนอแนะจากเราสั้น ๆ จากนั้นก็อนุมัติคำร้องของเราในทันที เราได้รับเงินคืนมาภายในเวลา 3 วัน หมายเหตุจากบรรณาธิการ: เนื่องจากความโปร่งใสนั้นเป็นหนึ่งในค่านิยมของ vpnMentor ดังนั้นเราต้องการแจ้งให้คุณทราบว่า เว็บของเราอยู่ในกลุ่มเจ้าของเดียวกันกับ CyberGhost VPN อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อกระบวนการตรวจสอบของเรา
3. Private Internet Access — มี IP เป็นพันเพื่อให้คุณสามารถปลดบล็อก VPN สำหรับ Netflix ได้อย่างมีความเสถียร
- 29,650 เซิร์ฟเวอร์ใน 91 ประเทศ สำหรับใช้เข้าถึง Netflix ได้หลายประเทศ
- ความเร็วสูงและข้อมูลไม่จำกัดสำหรับการสตรีมมิ่งความชัดระดับ HD
- เชื่อมต่อได้พร้อมกัน ไม่จำกัด อุปกรณ์
- ใช้งานได้กับ: Netflix 7+ ประเทศ, BBC iPlayer, Disney+, Hotstar และอื่น ๆ
- ใช้งานเข้ากันได้กับ: Windows, Android, macOS, iOS, Linux, เราเตอร์, และอื่น ๆ
- แอปมือถือและเดสก์ท็อปมีภาษาไทย
จาก VPN ทั้งหมดที่เราได้ทดสอบมา PIA นั้นมีเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ที่ใหญ่ที่สุด มันมี IP มากเกินกว่าที่ Netflix จะจัดการได้ไหว ดังนั้นมันก็จะมีเซิร์ฟเวอร์ให้คุณเลือกใช้งานได้อยู่ตลอด ระหว่างการทดสอบของเรา มันสามารถใช้งานกับ Netflix ได้หลายประเทศอย่างไร้รอยต่อ ไม่ว่าจะเป็น แคนาดา ญี่ปุ่น สวีเดน หรือสหรัฐอเมริกาก็ตาม ถึงแม้ว่ามันจะปลดล็อกประเทศได้ไม่เท่ากับ ExpressVPN หรือ CyberGhost แต่มันก็สามารถเข้าถึงประเทศยอดนิยมได้อย่างมีความเสถียร
PIA นั้นมีความเร็วสูงและมีข้อมูลไม่จำกัด คุณจึงสามารถดู Netflix ได้เป็นชั่วโมง ๆ ในความคมชัดขั้นสูงสุดอย่างไม่มีการบัฟเฟอร์ เราอยากจะลองดูว่ามันเร็วขนาดไหน เราก็เลยลองเชื่อมต่อไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่โตรอนโต และก็ได้ความเร็วเฉลี่ยอยู่ที่ 48 Mbp นี่ทำให้เราสามารถดู Kim’s Convenience ที่ถูกล็อกภูมิภาคเอาไว้ได้อย่างต่อเนื่องในความชัดระดับ HD บน Netflix แคนาดา โดยไม่มีอาการแลคเลย นอกจากนี้มันก็ใช้เวลาไม่ถึง 2 วินาทีในการโหลดแต่ละตอนด้วย
เราพบว่าฟีเจอร์ split tunneling นั้นใช้งานสะดวกมาก มันทำให้เราเลือกได้ว่าอยากให้แอปไหนที่ใช้งานการเชื่อมต่อ VPN และแอปไหนที่ไม่ต้อง นี่ทำให้เราสามารถดูรายการที่ถูกล็อกภูมิภาคเอาไว้ของ Netflix ได้ ในขณะที่แอปอื่น ๆ ก็ยังใช้อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงตามปกติได้
ข้อเสียคือ PIA นั้นมีตัวเลือกการปรับแต่งที่เยอะมาก ซึ่งก็อาจจะเยอะเกินไปสำหรับบางคน อย่างไรก็ตาม มันมีการกำหนดค่าเริ่มต้นมาให้ใช้งานได้ตั้งแต่แรก ดังนั้นถ้าคุณไม่ต้องการปรับแต่งใด ๆ คุณก็สามารถใช้งานได้ในทันที
จาก VPN ทั้งหมดในรายการของเรา PIA นั้นมีแพลนระยะยาวที่ถูกที่สุดหากคุณพร้อมที่จะผูกมัดเป็นเวลา 3 ปี คุณสามารถสมัครใช้งานแพลนระยะยาวที่สุดได้ในราคาเพียง $2.03/เดือน นอกจากนี้ถ้าคุณเลือกใช้แพลนนี้ คุณยังจะได้ใช้งานฟรีเป็นเวลา 3 เดือนอีกด้วย ซึ่งก็เพิ่มความคุ้มค่ายิ่งขึ้นไปอีก
แพลนทั้งหมดนั้นมีการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน คุณสามารถขอคืนเงินได้เต็มจำนวน หากคุณไม่พอใจในบริการ เพื่อเป็นการทดสอบเรื่องนี้ เราได้ติดต่อไปฝ่ายบริการลูกค้าผ่านทางไลฟ์แชท 24/7 และเราก็ทำการขอเงินคืน ตัวแทนบริการลูกค้ามีพยายามยื้อให้เราอยู่ต่อเหมือนกัน แต่หลังจากที่เราปฏิเสธแล้ว เขาก็ทำการอนุมัติคำขอคืนเงินให้เรา เราได้รับเงินคืนเข้าบัญชีหลังจากนั้นภายในเวลา 5 วัน หมายเหตุจากบรรณาธิการ: เนื่องจากความโปร่งใสนั้นเป็นหนึ่งในค่านิยมของ vpnMentor ดังนั้นเราต้องการแจ้งให้คุณทราบว่า เว็บของเราอยู่ในกลุ่มเจ้าของเดียวกันกับ Private Internet Access อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อกระบวนการตรวจสอบของเรา
วิธีการปลดบล็อก VPN Netflix: คู่มือฉบับเดียวจบ
หาก Netflix ตรวจพบว่าคุณใช้ VPN คุณอาจจะเห็นรหัสข้อผิดพลาดต่าง ๆ ดังนี้ (M7037-1111 หรือ M7111-5059) และคุณจะถูกบล็อกไม่ให้เข้าถึงบริการเป็นเวลาชั่วคราว
ขออภัยสำหรับการขัดจังหวะ
เหมือนกำลังมีการใช้ตัวยกเลิกการบล็อก หรือพร็อกซี โปรดปิดหนึ่งในบริการเหล่านี้แล้วลองอีกครั้ง ไปที่ netflix.com/proxy เพื่อรับความช่วยเหลือเพิ่มเติม
รหัสข้อผิดพลาด: M7111-5059
หรืออาจจะเป็นไปได้ที่คุณจะไม่เจอข้อผิดพลาดเลย แต่เนื้อหาที่คุณดูได้นั้นจะมีแต่ Netflix Originals (รายการที่ดูได้ในทุกประเทศอยู่แล้ว)
อย่างไรก็ตาม ข้อผิดพลาดเหล่านี้นั้นสามารถถูกแก้ไขได้อย่างง่ายดายด้วย VPN ที่ใช่ หากคุณเลือก VPN ที่สามารถใช้งานกับ Netflix ได้อย่างมีความเสถียรแล้วจู่ ๆ มันใช้งานไม่ได้ขึ้นมา มีความเป็นไปได้ว่านั่นเป็นปัญหาเล็ก ๆ ที่สามารถถูกแก้ไขได้อย่างง่ายดาย คุณควรจะลองทำสิ่งต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
1. เปลี่ยนไปเซิร์ฟเวอร์อื่น
เป็นไปได้ว่า Netflix ได้ทำการขึ้นบัญชีดำที่อยู่ IP ของเซิร์ฟเวอร์ที่คุณกำลังเชื่อมต่อ ในกรณีนั้น คุณสามารถลองเปลี่ยนไปใช้ตำแหน่งอื่นในประเทศเดียวกันได้ ตราบใดก็ตามที่เซิร์ฟเวอร์ใหม่ที่เลือกนั้นไม่ได้ถูกขึ้นบัญชีดำด้วย คุณก็จะสามารถเข้าถึงเนื้อหาของ Netflix ในประเทศคุณได้
ExpressVPN นั้นมีการบำรุงรักษาเป็นประจำเพื่อให้เข้าถึง Netflix ได้ตลอด เนื่องจากการอัปเดตที่อยู่ IP อยู่สม่ำเสมอ – หากมีบางที่อยู่ที่ถูกตรวจพบและถูกขึ้นบัญชีดำ มันก็ยังมีอีกหลายที่อยู่เอาไว้รองรับ การป้องกันการรั่วไหลของ IP และ DNS อันแข็งแกร่งของ ExpressVPN นั้นยังสามารถลดความเสี่ยงที่ที่อยู่ IP จะถูกขึ้นบัญชีดำตั้งแต่แรกแล้วด้วย
2. ล้างคุกกี้และแคช
หลายเว็บไซต์นั้นใช้การติดตามคุกกี้เพื่อเก็บข้อมูลของผู้ใช้งาน อย่างเช่นพฤติกรรมในการท่องเว็บรวมถึงพื้นที่ภูมิภาคของคุณ Netflix สามารถใช้ข้อมูลนี้ในการบ่งชี้ได้ว่าคุณกำลังใช้ VPN และก็จะทำการบล็อกคุณ
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้สามารถป้องกันได้ง่าย ๆ ด้วยการล้างคุกกี้และแคชจากเบราว์เซอร์ของคุณ ในการจะทำแบบนั้นบน Google Chrome ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้:
- เปิดการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย คลิกจุด 3 จุดข้าง ๆ โปรไฟล์ของคุณ เลือกการตั้งค่า และเลือกความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย
- เปิดตัวเลือกข้อมูลการท่องเว็บ คลิกที่ ล้างข้อมูลการท่องเว็บ จากนั้นในหน้าต่างป๊อปอัพ ให้เลือกตั้งแต่เริ่มต้น เลือกช่องข้าง ๆ ประวัติการท่องเว็บ คุกกี้และข้อมูลเว็บไซต์อื่นๆ และรูปภาพและไฟล์ที่แคชไว้
- คลิกล้างข้อมูล เท่านี้ Chrome ก็ไม่มีข้อมูลท่องเว็บในอดีตของคุณเก็บเอาไว้อีกต่อไปแล้ว
- โหลด Netflix ใหม่อีกครั้ง ลองโหลด Netflix ใหม่อีกครั้งเพื่อดูว่ามันได้ผลไหม
ใน Safari ไปที่ Preferences(การกำหนดค่า) > Privacy(ความเป็นส่วนตัว) > Manage website data (จัดการข้อมูลเว็บไซต์) และพิมพ์ "Netflix" ในแถบค้นหา คลิก "Remove (นำออก)" และเริ่มต้น Safari ใหม่
3. ปิด IPv6 บนอุปกรณ์ของคุณ
ไม่ใช่ทุก VPN ที่จะป้องกันการรั่วไหลของ IPv6 ได้ ดังนั้นมันก็อาจจะเปิดเผยตำแหน่งที่แท้จริงของคุณ และ Netflix ก็จะรู้ได้ว่าคุณกำลังใช้ VPN อยู่ อย่างไรก็ตาม คุณสามารถหลีกเลี่ยงเรื่องนี้ได้ด้วยการเลือก VPN ที่ป้องกันการรั่วไหลของ IPv6 ได้ VPN ทั้งหมดที่เราแนะนำในรายการนี้นั้นสามารถป้องกันการรั่วไหลของ IPv6 ได้อย่างอัตโนมัติ
นอกจากนี้คุณก็สามารถปิด IPv6 บนอุปกรณ์ของคุณได้ ในการจะทำแบบนั้นบนอุปกรณ์ Windows ให้ทำตามขั้นตอนด้านล่าง:
- เปิดการตั้งค่า Network and Internet (เครือข่ายและอินเทอร์เน็ต) เปิดฟังก์ชั่นค้นหาบนอุปกรณ์ Windows ของคุณและพิมพ์ "Control Panel" (แผงควบคุม) เปิดและเลือกการตั้งค่า Network and Internet (เครือข่ายและอินเทอร์เน็ต)
- ไปที่ Network and Sharing Center (เครือข่ายและการแบ่งปัน) จากนั้นคลิกที่ "Network and Sharing Center" (เครือข่ายและการแบ่งปัน)
- เลือก Change Adapter Settings (เปลี่ยนการตั้งค่าอะแดปเตอร์) คุณสามารถค้นหาตัวเลือกนี้ได้จากคอลัมน์ทางด้านซ้าย
- เปิด network properties (คุณสมบัติเครือข่าย) คลิกขวาบนเครือข่ายที่คุณกำลังใช้งานและเลือก Properties (คุณสมบัติ)
- ปิด IPv6 นำเครื่องหมายออกจากตัวเลือก Internet Protocol Version 6 (TCP/IPv6) และคลิก OK (ตกลง)
- โหลด Netflix ใหม่อีกครั้ง เชื่อมต่อ VPN ของคุณไปยังตำแหน่งที่คุณต้องการ และโหลด Netflix ในเบราว์เซอร์ของคุณ
บน Mac ให้ไปที่ System Preference (การกำหนดค่าระบบ) > Network (เครือข่าย) และคลิก "Advance" (ขั้นสูง) คลิกแท็บ TCP/IP จากนั้นให้เลือก "Off (ปิด)" ในเมนูดรอปดาวน์ข้าง ๆ "IPv6" ใช้งานตามการเปลี่ยนแปลง
4. เปลี่ยนโปรโตคอล VPN
โปรโตคอล VPN บางรายนั้นสามารถใช้เข้าถึงเนื้อหาที่ถูกจำกัดในพื้นที่ได้ดีกว่ารายอื่น ๆ ส่วนตัวแล้วเราชอบ WireGuard, IKEv2 และ Lightway ของ ExpressVPN เราเห็นว่ามันมีประสิทธิภาพในการปลดบล็อก Netflix และมันก็มีความเร็วสูงพอสำหรับสตรีมมิ่ง
คุณสามารถทดลองใช้งานโปรโตคอลทั้งหมดจนกว่าจะเจอตัวที่ใช้งานได้ อย่างไรก็ตาม เราไม่แนะนำ PPTP เพราะว่ามันไม่ปลอดภัยเท่ารายอื่น ๆ และก็อาจจะมีความเสี่ยงต่อความเป็นส่วนตัวของคุณ
5. ใช้บริการ Smart DNS
VPN หลายรายนั้นมี Smart DNS ให้ใช้งาน ซึ่งจะแทนที่ที่อยู่ DNS จาก ISP ของคุณไปเป็นของเซิร์ฟเวอร์อื่น ในการจะทำเช่นนี้ได้ คำขอ DNS ของคุณจะถูกเปลี่ยนเส้นทางไปยังเซิร์ฟเวอร์พร็อกซี่พิเศษซึ่งถูกตั้งอยู่ในประเทศอื่น นี่จะทำให้ Netflix เชื่อว่าคุณอยู่ในประเทศนั้นจริง ๆ ดังนั้นคุณก็จะสามารถเข้าถึงเนื้อหาที่ถูกล็อกในภูมิภาคนั้น ๆ ได้
Smart DNS นั้นมักจะถูกออกแบบมาโดยคำนึงถึงเรื่องการสตรีมมิ่ง ดังนั้นมันจึงถูกบำรุงรักษาให้สามารถเข้าถึงเว็บไซต์สตรีมมิ่งได้อย่างมีความเสถียร แถมมันยังมีความเร็วมากกว่าการเชื่อมต่อ VPN มาตรฐาน เนื่องจากมันไม่ต้องทำการเข้ารหัส
VPN ทั้งหมดในรายการของเรานั้นมี Smart DNS ให้ใช้งาน (ExpressVPN เรียกมันว่า MediaStreamer) อย่างไรก็ตาม ขอให้ทราบไว้ว่าบริการเหล่านี้มักจะถูกจำกัดให้ใช้งานได้เฉพาะในบางประเทศ – ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร หากคุณต้องการเลือก Netflix ได้หลาย ๆ ประเทศ คุณจะต้องใช้เซิร์ฟเวอร์ VPN ตามปกติทั่วไป
6. ดู Netflix บนคอมพิวเตอร์ของคุณ
หาก Netflix ไม่สามารถใช้งานได้ผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่, เครื่องเล่นเกม หรือสมาร์ททีวี คุณสามารถลองดูมันผ่านคอมพิวเตอร์ได้ นั่นก็เพราะว่าแอป Netflix อาจจะบังคับให้อุปกรณ์ของคุณใช้งาน DNS ที่ ISP ของคุณเป็นผู้จัดสรรมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณใช้ Android หรือ iOS ถ้าผู้ให้บริการ VPN ของคุณเปิดให้กำหนดค่า DNS ได้ อย่าลืมเปลี่ยนไปใช้งานเซิร์ฟเวอร์ DNS ของ VPN
นอกจากนี้อุปกรณ์เคลื่อนที่ยังเก็บข้อมูลตำแหน่งที่ตั้งเอาไว้มากกว่าเดสก์ท็อปด้วย ยกตัวอย่างเช่น ถ้า GPS ของคุณแสดงตำแหน่งที่อยู่ของคุณเป็นที่หนึ่ง ในขณะที่ IP ของคุณอยู่อีกที่ ก็มีโอกาสสูงที่ VPN ของคุณจะถูกบล็อก คุณสามารถลอง ปิดการตั้งค่า GPS และตำแหน่งได้
อย่างไรก็ตาม ถ้าทั้งหมดนี้ยังไม่ได้ผล การดู Netflix ผ่านเบราว์เซอร์เดสก์ท็อปก็จะเป็นการแก้ปัญหาที่ง่ายที่สุด นอกจากนั้นแล้วคุณยังสามารถตั้งค่า VPN บนเราเตอร์แทนอุปกรณ์สตรีมมิ่งหรือโทรศัพท์ได้ด้วย
7.ถามฝ่ายบริการลูกค้าว่าควรจะเลือกเซิร์ฟเวอร์ไหน
จะดีที่สุดถ้า VPN นั้นมีไลฟ์แชทบริการ 24/7 แต่อย่างน้อยก็ควรจะมีอีเมลให้ใช้สอบถามได้ ตัวแทนบริการลูกค้ามักจะมีข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้งานได้
เราติดต่อผ่านไปทางไลฟ์แชท 24/7 ของ ExpressVPN เพื่อลองดูว่าพวกเขาจะช่วยเราได้หรือไม่ ภายในเวลาแค่ 5 นาที ทางตัวแทนก็ได้ส่งรายการเซิร์ฟเวอร์ในสหรัฐอเมริกาที่สามารถใช้งานกับ Netflix ได้มาให้เรา (เราลองทดสอบดูทั้งหมดและมันก็ใช้งานได้จริง)
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการปลดบล็อก VPN Netflix
Netflix ตรวจจับ VPN ยังไง?
มีหลายวิธีมากที่ Netflix ใช้เพื่อตรวจจับ VPN วิธีที่พบบ่อยที่สุดนั้นได้แก่:
- ที่อยู่ IP ที่ใช่ร่วมกัน Netflix คอยตรวจสอบอยู่เสมอว่ามีที่อยู่ IP ที่ใช้ร่วมกันไหม ตอนที่คุณใช้งาน VPN คุณอาจจะกำลังใช้งานที่อยู่ IP เดียวกันกับอีกหลายพันคนซึ่งเป็นผู้ใช้งาน VPN เหมือนกัน นี่หมายความว่า IP เดียวนั้นถูกใช้เข้าถึง Netflix จากหลายบัญชี ซึ่งทำให้ Netflix สามารถตรวจพบได้อย่างง่ายดายว่ามันคือ IP VPN และก็จะทำการขึ้นบัญชีดำมันเอาไว้ VPN ในรายการนี้จะมีการหมุนเวียนที่อยู่ IP อยู่เป็นประจำ เพื่อไม่ให้ถูก Netflix บล็อกได้ง่าย ๆ
- IP และ DNS ไม่ตรงกัน ตามที่ได้กล่าวไปก่อนหน้านี้ว่าแอป Netflix อาจจะยกเลิกการตั้งค่า DNS ของคุณ ถ้า Netflix เห็นว่าเซิร์ฟเวอร์ DNS และ IP ของคุณไม่ตรงกัน มันอาจจะทำการบล็อกคุณไม่ให้เข้าใช้บริการได้
- ข้อมูล GPS และตำแหน่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ ถ้าพิกัด GPS ของคุณอยู่ในตำแหน่งอื่นซึ่งไม่ตรงกับที่อยู่ IP มันก็จะทำให้ Netflix ตรวจจับได้อย่างง่ายดายว่าคุณใช้ VPN อยู่และพวกเขาก็จะบล็อกคุณ
VPN ในรายการนี้นั้นมีการป้องกันที่แข็งแกร่งไม่ให้วิธีการตรวจจับทั่วไปของ Netflix นั้นสามารถตรวจจับพวกเขาได้ ดังนั้นคุณจึงสามารถเข้าถึงเนื้อหาในประเทศที่คุณต้องการได้อย่างไม่มีปัญหา
ทำไม Netflix ของฉันถึงดูได้แต่ Netflix Originals?
หากคุณมองเห็นเฉพาะรายการ Netflix Originals ก็เป็นไปได้ว่า Netflix รู้ว่าคุณกำลังใช้ VPN อยู่ อย่างไรก็ตาม คุณสามารถเข้าถึงเนื้อหาที่ถูกบล็อกภูมิภาคได้ด้วยการใช้ VPN ที่จะไม่ถูก Netflix ตรวจพบได้ง่าย ๆ
แทนที่จะบล็อกคุณ บางครั้ง Netflix จะเลือกแสดงรายการ Original ให้คุณดูแทนถ้าพวกเขาตรวจพบว่าคุณใช้ VPN Netflix Originals นั้นเป็นเนื้อหาที่ทางบริษัทมักจะมีสิทธิ์เผยแพร่ได้ทั่วโลก ดังนั้นคุณจึงสามารถดูรายการเหล่านี้ได้ในทุกประเทศ
ทำไม Netflix ถึงต้องบล็อก VPN?
Netflix บล็อก VPN เพื่อไม่ให้ผู้ชมสามารถรับชมรายการที่ไม่มีสิทธิ์เผยแพร่ในประเทศของพวกเขาได้ สำหรับรายการและหนังรายเรื่องนั้น Netflix จะมีสิทธิ์เผยแพร่แค่ในบางประเทศเท่านั้น อย่างไรก็ตาม คุณสามารถหลบหลีกการบล็อกเหล่านี้ได้ด้วยการเลือกใช้ VPN ที่สามารถใช้งานกับ Netflix ได้อย่างมีความเสถียร
เหตุผลที่ Netflix พยายามอย่างหนักเพื่อที่จะต่อสู้กับ VPN ก็เพราะแรงกดดันจากเจ้าของลิขสิทธิ์ พูดง่าย ๆ ก็คือเจ้าของลิขสิทธิ์นั้นไม่ได้รับรายได้ใด ๆ จากเนื้อหาที่ถูกสตรีมในประเทศที่ไม่ได้รับลิขสิทธิ์ ดังนั้น Netflix จึงใช้การบล็อกภูมิภาคและกลไกการบล็อก VPN เพื่อรักษาข้อตกลงด้านลิขสิทธิ์เอาไว้
การใช้ VPN กับ Netflix นั้นถูกกฎหมายหรือไม่ แล้วฉันจะสามารถถูกแบนได้ไหม?
มันถูกกฎหมายแต่ว่ามันซับซ้อน การใช้ VPN กับ Netflix นั้นไม่ได้ผิดกฎหมาย แต่เงื่อนไขการใช้บริการของบริษัทได้ระบุว่าผู้ใช้งานควรจะต้องเข้าถึงเนื้อหาของ Netflix ภายในประเทศที่พวกเขาเปิดบัญชีเท่านั้น อย่างไรก็ตาม มันไม่ได้กล่าวถึง VPN
นอกจากนี้ พวกเราก็ยังไม่เคยพบว่าบัญชีผู้ใช้งานถูกแบนเพราะแค่มีการใช้ VPN มาก่อน นั่นก็เพราะว่า Netflix ไม่แบนบัญชีผู้ใช้งาน แต่พวกเขาจะจ้องเล่นงานผู้ให้บริการ VPN และบล็อกที่อยู่ IP แทน
มีข้อยกเว้นก็คือเรื่องประเทศที่ถูกจำกัดการเข้าถึง (เช่นจีนและซาอุดีอาระเบีย) ที่ซึ่งการใช้ VPN นั้นจะถูกจำกัดเป็นอย่างมากหรือไม่ก็ถูกแบนเลย การใช้ VPN ในประเทศเหล่านั้นอาจเป็นเรื่องผิดกฎหมาย พวกเราไม่สนับสนุนให้คุณทำเรื่องผิดกฎหมาย ดังนั้นกรุณาตรวจสอบกฎหมายในประเทศให้แน่ใจก่อนเรื่องการใช้ VPN เพื่อที่จะได้ไม่มีปัญหาในภายหลัง
ฉันสามารถปลดบล็อก VPN Netflix ด้วย VPN ฟรีได้หรือไม่?
สามารถทำได้แต่เราไม่แนะนำให้ใช้งาน VPN ฟรีกับ Netflix จะดีกว่าถ้าคุณจะหันไปเลือกใช้ VPN พรีเมียมราคาไม่แพงซึ่งมาพร้อมกับการรับประกันคืนเงินที่เชื่อถือได้
VPN ฟรี มักจะปลดบล็อก Netflix ไม่ค่อยสำเร็จ ถึงจะมีอันที่ทำสำเร็จ มันก็มักจะมีเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ให้เลือกจำกัด ดังนั้นคุณก็จะเข้าใช้งานได้ไม่กี่ประเทศเท่านั้น นอกจากนี้มันก็มักจะมีความเร็วต่ำ และก็จำกัดข้อมูลที่ใช้งานได้ (มักจะใช้ได้แค่ 1 หรือ 2 GB ต่อเดือน) ทำให้สตรีม Netflix ได้ไม่นานนัก
นอกจากนี้แล้ว VPN ฟรี หลายรายต่างก็มีความอันตรายสูง — บางรายนั้นมีนโยบายความเป็นส่วนตัวที่ไม่น่าไว้วางใจ ในขณะที่บางรายก็มีความปลอดภัยที่ไม่น่าเชื่อถือเพราะว่าพวกเขาไม่มีทรัพยากรในการจะอัปเกรดซอฟต์แวร์ของพวกเขาได้บ่อยพอ VPN ฟรีนั้นยังมักจะมีมัลแวร์ติดมาด้วย ซึ่งมันก็จะส่งผลเสียต่ออุปกรณ์ของคุณได้
ปลดบล็อก VPN Netflix วันนี้เลย
มีหลายวิธีที่คุณสามารถใช้ปลดบล็อก VPN Netflix ได้ และก็โชคดีมากที่หลายวิธีนั้นต่างก็ทำได้โดยง่าย — เพียงแค่ทำตามคู่มือของเรา คุณก็สามารถกลับไปเลือกดูรายการโปรดได้ในเวลาไม่นาน อย่างไรก็ตาม ก่อนอื่นเลยคุณต้องมี VPN ที่สามารถเข้าถึงแพลตฟอร์มนั้นได้อย่างมีความเสถียร
ExpressVPN เป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งที่เราใช้สำหรับปลดบล็อก VPN Netflix มันสามารถใช้งานกับแพลตฟอร์มได้ตลอดอย่างไม่มีปัญหา มีความเร็วสูงสุด และก็มีเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์อยู่ทั่วโลกสำหรับใช้เข้าถึงเนื้อหาได้ใน 20+ ประเทศ แถมมันยังมาพร้อมกับการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน ดังนั้นคุณจึงสามารถ ทดลองใช้ ExpressVPN ได้อย่างไม่มีความเสี่ยง หากคุณใช้แล้วไม่ชอบ คุณก็ขอคืนเงินเต็มจำนวนได้
สรุปแล้ว VPN ที่ดีที่สุดสำหรับใช้ปลดบล็อก VPN Netflix ได้แก่...
หมายเหตุจากบรรณาธิการ: เราให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ของเรากับผู้อ่าน และเรามุ่งมั่นที่จะได้รับความไว้วางใจจากคุณด้วยการทำงานด้วยความโปร่งใสและความซื่อสัตย์ เว็บของเราอยู่ในกลุ่มเจ้าของเดียวกันกับผลิตภัณฑ์ชั้นนำในอุตสาหกรรมบางส่วนที่ได้รับการตรวจสอบบนเว็บไซต์นี้: Intego, Cyberghost, ExpressVPN และ Private Internet Access อย่างไรก็ตามสิ่งนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อกระบวนการตรวจสอบของเรา เนื่องจากเราปฏิบัติตามวิธีการทดสอบที่เข้มงวด
ข้อมูลของคุณจะถูกเปิดเผยต่อเว็บไซต์ที่คุณเข้าชม!
หมายเลข IP ของคุณ:
ตำแหน่งของคุณ:
ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของคุณ:
ข้อมูลข้างต้นสามารถใช้เพื่อติดตาม กำหนดเป้าหมายโฆษณาและติดตามกิจกรรมที่คุณทำบนอินเตอร์เน็ตได้
VPN สามารถช่วยคุณซ่อนข้อมูลเหล่านี้จากเว็บไซต์ เพื่อให้คุณได้รับการปกป้องตลอดเวลา เราขอแนะนำ ExpressVPN - VPN อันดับ #1 จากผู้ให้บริการกว่า 350 รายที่เราได้ทดสอบ มีการเข้ารหัสระดับทหารและฟีเจอร์ความเป็นส่วนตัวมากมายที่จะช่วยให้คุณมั่นใจในความปลอดภัยเมื่อใช้งานอินเตอร์เน็ต - นอกจากนี้ยังมีส่วนลดจาก 82% อีกด้วย
กรุณาแสดงความคิดเห็นว่าพวกเราสามารถพัฒนาบทความนี้ได้อย่างไร ความคิดเห็นของคุณมีค่าสำหรับเรา!