10 เครื่องมือป้องกันการขโมยข้อมูลส่วนตัวที่ดีที่สุดใน 2024

การขโมยข้อมูลส่วนตัวเป็นปัญหาร้ายแรงที่คนจำนวนมากทั่วโลกต้องเผชิญและปัญหานี้ก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากการซื้อสินค้าออนไลน์ โซเชียลมีเดียและการหลอกลวงทางอินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้น

จากการศึกษาของ Verizon พบว่า 52% ของการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงการแฮ็กมากกว่า 25% นั้นเกี่ยวข้องกับมัลแวร์และ 32% มาจากการฟิชชิงหรือช่องโหว่จากพฤติกรรมของผู้ใช้ มากกว่า 85% ของการละเมิดข้อมูลเหล่านั้นถูกใช้นำไปหาเงินโดยแฮกเกอร์

แล้วคุณจะปกป้องตัวคุณเองได้อย่างไร VPN เป็นการเริ่มต้นที่ดี แต่การตรวจสอบรหัสบัตรเครดิตและข้อมูลส่วนตัวเป็นประจำก็เป็นความคิดที่ดีเช่นกัน นั่นคือเหตุผลที่ฉันค้นหาบริการป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนตัวที่ดีที่สุด 10 ตัวเลือกมาให้กับคุณ

ลองมาดูตัวเลือกที่ดีที่สุดที่เหมาะกับคุณกันดีกว่า

บริการป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนตัวใน 2024

10 บริการป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนตัวเหล่านี้ถูกจัดเรียงตามความปลอดภัย ความน่าเชื่อถือและราคา แต่ละบริการนำเสนอฟีเจอร์และประโยชน์ที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งบางบริการอาจเหมาะกับความต้องการของคุณมากกว่าบริการอื่น ๆ

1. IdentityGuard

Identity Guard เป็นบริการป้องกันการโจรกรรมข้อมูลประจำตัวแบบครบวงจรที่ให้การแจ้งเตือนในทันที การสแกนเป็นประจำและการแก้ปัญหาการโจรกรรม หากบริการตรวจพบภัยคุกคาม คุณจะได้รับการแจ้งเตือนทางข้อความและอีเมลในทันที รวมถึงการแจ้งเตือนเมื่อพบการละเมิดในดาร์กเว็บและการคุกคามทั่วไป

ให้การสแกนอย่างต่อเนื่องโดยใช้การตรวจสอบด้วยเทคโนโลยีการสแกน IBM Watson ซึ่งช่วยให้บริการสามารถสแกนข้อมูลข้อมูลส่วนบุคคลออนไลน์ของคุณนับล้านบิตได้ คุณจะรู้ได้ในทันทีว่ามีกิจกรรมที่น่าสงสัยเกิดขึ้นในบัญชีออนไลน์ของคุณหรือมีใครบางคนกำลังใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณในการกระทำมิชอบ

Identity Guard ให้บริการด้วยทีมงานมืออาชีพหากมีภัยคุกคามร้ายแรงหรือคุณตกเป็นเหยื่อของการขโมยข้อมูลประจำตัว คุณจะได้รับผู้จัดการกรณีส่วนบุคคลที่ให้คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับวิธีการปกป้องข้อมูลของคุณและกู้คืนข้อมูลประจำตัวของคุณ ตลอดจนตัวเลือกสำหรับการคืนเงินที่ถูกขโมย

Identity Guard นำเสนอแผนบริการสามแผนตั้งแต่ราคา $8.99 - $9.99 ต่อเดือน/รายปี ไม่ว่าคุณจะเลือกแผนใดก็ตามมันมาพร้อมกับการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน

2. LifeLock

หากคุณต้องการบริการป้องกันข้อมูลประจำที่มาพร้อมกับ VPN ในตัว LifeLock ที่มาพร้อมกับ Norton 360 เป็นตัวเลือกที่ดี มันมาพร้อมกับ VPN เครื่องมือป้องกันไวรัสและบริการป้องกันข้อมูลประจำตัวมาตรฐานทั้งหมด

Norton VPN ช่วยบล็อกแฮกเกอร์ไม่ให้เข้าถึงข้อมูลส่วนตัวและอุปกรณ์ของคุณ รวมทั้งปกป้องประวัติการใช้งานอินเตอร์เน็ตและกิจกรรมออนไลน์อื่น ๆ อีกด้วย คุณสามารถซื้อของ ทำธุรกรรมและทำงานได้โดยไม่ต้องกังวลว่าจะมีใครแอบมาติดตาม Norton 360 ไม่ได้มาในแผนมาตรฐาน ดังนั้นหากคุณต้องการประโยชน์ของการป้องกันไวรัสและ VPN คุณจะต้องอัปเกรดเป็นแผนอื่น

LifeLock นำเสนอการตรวจสอบชื่อบ้าน ความเป็นส่วนตัวและข้อมูลในดาร์กเว็บ คุณสามารถรับการแจ้งเตือนทางข้อความ โทรศัพท์หรืออีเมลได้หากตรวจพบภัยคุกคามต่อตัวตนของคุณ หากคุณตกเป็นเหยื่อของการโจรกรรมข้อมูลประจำตัว LifeLock จะนำเสนอทีมตัวแทน รวมทั้งทนายเพื่อแก้ไขปัญหาให้กับคุณ คุณยังได้รับเงินคืนตามขีดจำกัดของแผนของคุณได้อีกด้วย

มีแผนสามแผนให้เลือกตั้งแต่ $9.99 - $29.99 ต่อเดือน มีแค่แผนการชำระเงินแบบรายเดือนเท่านั้นที่มาพร้อมกับการรับประกันคืนเงินภายใน 14 วัน แผนการชำระเงินรายปีมีการรับประกันคืนเงิน 60 วัน

3. IdentityForce

IdentityForce ช่วยให้คุณสามารถปกป้องหมายเลข PIN การกดแป้นพิมพ์และข้อมูลบัตรเครดิตทางออนไลน์ผ่านการตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง มันสามารถตรวจจับกิจกรรมที่ผิดกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับตัวตนของคุณ รวมถึงกิจกรรมในบัญชีส่วนตัว การทำธุรกรรมและบัตรเครดิต

พวกเขานำเสนอการแจ้งเตือนผ่านระบบเตือนภัยล่วงหน้าบนอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต แล็ปท็อปและเดสก์ท็อป IdentityForce ใช้การเข้ารหัสระดับทหาร ดังนั้นข้อมูลส่วนบุคคลของคุณจะถูกป้องกันอย่างแน่นหนา

IdentifyForce ให้บริการกู้คืนทุกวันตลอด 24 ชั่วโมงในกรณีที่ข้อมูลประจำตัวของคุณถูกละเมิด ทีมงานมืออาชีพจะจัดการเรื่องเอกสาร โทรติดต่อที่สำคัญและแก้ไขรายละเอียดทั้งหมดเพื่อช่วยให้คุณได้รับตัวตนกลับคืนมา

บริการนี้มีให้เลือก 2 แผน ได้แก่ แบบรายบุคคล ($15.99/เดือน) และแบบครอบครัว ($ 31.90/เดือน) ทั้งสอบแบบมีการเรียกเก็บเงินรายปี IdentityForce ไม่มีการรับประกันคืนเงินในแผนใดเลย

4. ID Watchdog

ID Watchdog นำเสนอแอพพลิเคชั่นที่สะดวก การโทรหาทีมสนับสนุนลูกค้าในคลิกเดียว การตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง การโทรหาทีมสนับสนุนลูกค้าในคลิกเดียวเป็นฟีเจอร์ที่ยอดเยี่ยม เพราะเพียงแค่กดปุ่มบนมือถือของคุณก็ตามสามารถติดต่อทีมสนับสนุนลูกค้าตลอดได้ 24/7

สแกนเว็บไซต์ ห้องสนทนาและฟอรัมออนไลน์อื่น ๆ เพื่อหาข้อมูลส่วนบุคคลของคุณที่ถูกขายหรือใช้เพื่อวัตถุประสงค์ที่เป็นอันตราย ID Watchdog ช่วยให้คุณสามารถป้อนข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ ที่สามารถระบุตัวตนเพื่อทำการสแกนได้ รวมถึงหมายเลขบัตรเครดิต บัญชีธนาคารและแม้แต่เลขที่ใบขับขี่ของคุณ

ID Watchdog ทำงานร่วมกับ Equifax ซึ่งเป็นบริการรายงานเครดิตผู้บริโภคในปี 2560 การร่วมมือกันในครั้งนี้ช่วยให้มั่นใจได้ว่า คุณจะได้รับเครดิตของคุณแบบเรียลไทม์ ID Watchdog มีผู้เชี่ยวชาญด้านการแก้ปัญหาที่ได้รับการรับรอง ที่ให้บริการการจัดการแก้ไขปัญหาการโจรกรรมอย่างสมบูรณ์แบบ

พวกเขามีแผนผู้ใช้คนเดียวแบบรายเดือนและรายปีและแผนครอบครัว แผนรายปีมีสิทธิ์ได้รับเงินคืนสำหรับเดือนที่ไม่ได้ใช้งาน หากคุณตัดสินใจยกเลิกก่อนกำหนด แผนรายเดือนไม่มีสิทธิ์ขอเงินคืน เนื่องจากrพวกเขาไม่ได้นำเสนอการคืนเงินบางส่วนของเดือน

5. Identity Defense

Identity Defense ใช้แพลตฟอร์ม AI ที่ขับเคลื่อนโดย IBM ร่วมกับ Watson เพื่อตรวจสอบข้อมูลออนไลน์หลายล้านชิ้นได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ พวกเขานำเสนอการตรวจสอบดาร์กเว็บ คะแนนเครดิตและที่อยู่ ตลอดจนการรายงานการจัดการความเสี่ยง

พวกเขาจะตรวจสอบอีเมล โซเชียลมีเดียและข้อมูลประกันสังคม เพื่อช่วยให้มั่นใจว่าข้อมูลที่ระบุตัวบุคคลของคุณจะมีความปลอดภัย หากพวกเขาสังเกตเห็นสิ่งที่ไม่ชอบมาพากล คุณจะได้รับการแจ้งเตือนการละเมิดข้อมูลประจำตัวอัตโนมัติ

Identity Defense ไม่ได้ครอบคลุมเพียงแค่ข้อมูลพื้นฐานเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมไปถึงข้อมูลบัญชีธนาคารและให้รายงานเครดิตรายเดือน หากคุณตกเป็นเหยื่อของการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล ในขณะที่คุณใช้บริการนี้สามารถช่วยคุณกู้คืนเงินที่ถูกขโมยได้ถึง 20 ล้านบาท แต่ขึ้นอยู่กับแผนของคุณ

มีแผน Essential, Complete และ Plus สำหรับบุคคลและครอบครัวซึ่งมีราคาตั้งแต่ $6.99 - $17.99/เดือน ขึ้นอยู่กับบริการที่คุณเลือก Identity Defense ไม่มีการรับประกันคืนเงิน

6. IDShield

IDShield นำเสนอการตรวจสอบบัตรเครดิต Transunion, สินเชื่อเงินด่วน SSN, ดาร์กเว็บและบัญชีธนาคาร มีการเฝ้าระวังข้อมูลออนไลน์ของคุณอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยปกป้องคุณจากการโจรกรรมข้อมูลส่วนบุคคลและการฉ้อโกง

สามารถครอบคลุมผู้ใช้ได้ถึง 12 คนขึ้นอยู่กับแผนการใช้งานที่คุณเลือกและลูกค้าทุกคนจะได้รับการสนับสนุนตลอด 24 ชั่วโมง คุณได้รับการแจ้งเตือนถึงกิจกรรมใด ๆ ที่อาจสร้างความเสียหายต่อเครดิตหรือข้อมูลประจำตัวของคุณ หาก IDShield สังเกตเห็นการโจรกรรม คุณจะได้รับการสนับสนุนโดยบริการกู้คืนข้อมูลประจำตัวแบบไม่จำกัดของพวกเขา ดังนั้นคุณไม่มีอะไรต้องเป็นกังวล

มีแผนสำหรับบุคคลและครอบครัว มีราคาตั้งแต่ $13.95 - $32.95/เดือน นอกจากนี้ยังนำเสนอการทดลองใช้บริการฟรี 30 วันโดยไม่มีความเสี่ยง ดังนั้นคุณจึงสามารถทดลองใช้บริการให้มั่นใจก่อนตัดสินใจซื้อบริการได้

7. ReliaShield

ReliaShield นำเสนอข้อมูลส่วนบุคคลและบริการตรวจสอบดาร์กเว็บเพื่อครอบคลุมการโจรกรรม ID ทุกรูปแบบ มันจะสแกนหาบันทึกของศาล, SSN และแม้กระทั่งการเปลี่ยนแปลงที่อยู่ทางออนไลน์

พวกเขานำเสนอการอัปเดตการละเมิดข้อมูลสำหรับภัยคุกคามมากมายหลายแบบ ตั้งแต่ธนาคารทั่วไป บัตรเครดิตและการแจ้งเตือนเครดิต ไปจนถึงบัญชีโซเชียลมีเดียและสินเชื่อที่ไม่ก่อเครดิตที่ออกในชื่อของคุณ ReliaShield ยังแจ้งให้คุณทราบเมื่อมีผู้ที่เคยกระทำความผิดย้ายเข้ามาอยู่อาศัยในละแวกบ้านของคุณ

มีการแจ้งเตือนเครดิตฟรีและ ReliaShield ให้การสนับสนุนตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน แผนมีให้สำหรับบุคคลและครอบครัวและมีราคาตั้งแต่ $7.99 - $34.99/เดือน พวกเขาไม่ได้นำเสนอการรับประกันคืนเงิน

8. IdentityIQ

IdentityIQ นำเสนอการตรวจสอบเครดิตบูโร 1-3 แห่ง ดาร์กเว็บและการตรวจสอบอินเทอร์เน็ตและการคืนเงินที่ถูกขโมย นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Opt-Out IQ ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้คุณสามารถเลือกไม่รับเมลขยะและทำให้หมายเลขของคุณอยู่ในรายการแบล็กลิสต์ของสแกมเมอร์ได้ แค่ฟีเจอร์นี้ก็ช่วยลดความเสี่ยงของการโจรกรรมข้อมูลประจำตัวและจัดการกับสแกมเมอร์ได้มากพอแล้ว

นอกจากนี้ยังมีการแจ้งเตือน IQ พร้อมแอพพลิเคชั่นการตรวจสอบ SSN การเปลี่ยนที่อยู่และอื่น ๆ หากภัยคุกคามกลายเป็นการโจรกรรม IdentityIQ ให้บริการทนายความและผู้เชี่ยวชาญ ตลอดจนค่าชดเชยค่าใช้จ่ายส่วนตัว

IdentityIQ นำเสนอแผนบริการรายเดือนสี่แผนตั้งแต่ $6.99 - $29.99 /เดือนและคืนเงินตั้งแต่ 7-30 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับแผนที่คุณเลือก พวกเขานำเสนอการทดลองใช้ฟรี 7 วัน ดังนั้นคุณสามารถทดลองใช้บริการก่อนที่จะตัดสินใจซื้อได้

9. Zander

Zander นำเสนอความคุ้มครองฟรีสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีหากผู้ปกครองใช้บริการทำให้บริการนี้เป็นบริการที่ดีสำหรับครอบครัว มันจะแจ้งเตือนผู้ใช้เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ หากตรวจพบกิจกรรมที่ผิดปกติ

ซึ่งรวมถึงการตรวจสอบการฉ้อโกงทางการเงิน การขโมยรหัสทางการแพทย์ การฉ้อโกงภาษี การขโมยรหัสอาชญากร การขโมยรหัสประจำตัวผู้เยาว์และอื่น ๆ หากข้อมูลประจำตัวของคุณถูกขโมยหรือฉ้อโกง ระบบจะคืนเงินสำหรับค่าธรรมเนียมทางกฎหมาย เงินเดือนที่หายไป ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ และการคืนเงินที่ถูกขโมยสูงสุด 30 ล้านบาท คุณยังสามารถเข้าถึงการสนับสนุนลูกค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง

Zander นำเสนอแผนบริการรายบุคคลและแบบครอบครัวแบบรายเดือนหรือรายปีราคาแพงที่สุดในราคา $12.95/เดือน ไม่มีการทดลองใช้ฟรีหรือรับประกันคืนเงิน

10. Credit Sesame

Credit Sesame นำเสนอบริการฟรีที่มีการตรวจสอบเครดิต Transunion ทุกวัน พร้อมกับการอัปเดตคะแนนเครดิตรายวันแบบไม่จำกัด ในแผนระดับพรีเมียมคุณสามารถดาวน์โหลดรายงานเครดิตรายเดือนและตรวจสอบ SSN ได้

สามารถรับการแจ้งเตือนการตรวจสอบเครดิตได้ผ่านทางข้อความหรืออีเมล ภัยคุกคามใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับข้อมูลส่วนบุคคลของคุณและคุณจะได้รับการแจ้งเตือนในทันที รวมถึงเงินกู้ที่ออกในนามของคุณ การเรียกเก็บเงินจากบัตรเครดิตที่น่าสงสัยและอื่น ๆ

บริการตรวจสอบการโจรกรรมข้อมูลส่วนตัวพื้นฐานของ Credit Sesame นั้นไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ มันครอบคลุมค่าใช้จ่ายสูงถึง 1.5 ล้านบาท หากข้อมูลป1ระจำตัวของคุณถูกละเมิด พวกเขานำเสนอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้คำแนะนำคุณตลอดการกู้คืนข้อมูลประจำตัว แผนพรีเมียมครอบคลุมค่าเสียหายถึง 30 ล้านบาท และให้ตัวเลือกในการสนับสนุนตลอด 24 ชั่วโมง

คำถามที่พบบ่อย

? ฉันจำเป็นต้องใช้บริการป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนตัวหรือไม่

มันไม่ใช่ความคิดที่แย่เลย มีผู้ใหญ่จำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ ตกเป็นเหยื่อของการขโมยข้อมูลประจำตัวทางออนไลน์ทุกปี ด้วยการเพิ่มขึ้นของการช็อปปิ้งออนไลน์เว็บไซต์โซเชียลมีเดียและการหลอกลวงทางอีเมลจึงเป็นดั่งสวรรค์ของโจร บริการป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนตัวจะช่วยคุณตรวจสอบข้อมูลที่คุณนำออกทางอินเทอร์เน็ตและแจ้งเตือนคุณเมื่อมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นและป้องกันคุณจากการฉ้อโกงข้อมูลประจำตัวที่อาจเกิดขึ้น หากคุณตกเป็นเหยื่อของการโจรกรรมข้อมูลในขณะใช้บริการ พวกเขาสามารถช่วยให้คุณได้รับข้อมูลประจำตัวของคุณกลับคืนมา

? บริการตรวจสอบการละเมิดข้อมูลปลอดภัยหรือเปล่า

หากคุณเลือกผู้ให้บริการระดับพรีเมียมในรายการของฉัน บริการตรวจสอบการละเมิดข้อมูลเหล่านี้นั้นปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการลดละเมิดข้อมูลที่อาจเกิดขึ้นได้ คุณควรอ่านนโยบายความเป็นส่วนตัวและข้อกำหนดในการให้บริการอย่างถี่ถ้วนเสมอ เพื่อให้คุณไม่พลาดตกลงกับสิ่งที่คุณไม่เห็นด้วย นอกจากนี้ยังควรมองหาค้นหาผู้ให้บริการที่นำเสนอการรับประกันคืนเงิน การทดลองใช้ฟรีหรือบริการฟรี สิ่งนี้ช่วยให้คุณสามารถทดสอบบริการก่อนที่จะซื้อบริการในระยะยาว

? สิ่งที่ต้องมองหาในบริการป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนตัว

เมื่อเลือกบริการป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนตัวคุณควรมองหาฟีเจอร์ที่แตกต่างกันในแต่ละบริการ:

• ความเป็นส่วนตัวและความโปร่งใส: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณทราบถึงประเภทของข้อมูลที่รวบรวมและสิ่งที่พวกเขาทำกับข้อมูลเหล่านั้น คุณควรตรวจสอบขีดจำกัดการรับประกันคืนเงินให้ดี เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเสียเวลาใช้บริการที่ไม่เหมาะกับความต้องการของคุณ
• ความเรียบง่าย: เลือกบริการที่ให้การเข้าถึงการตรวจสอบเครดิตแบบคลิกเดียวหรือแอพพลิเคชั่นที่ใช้งานง่าย เครื่องมือใดในโลกนี้ก็ไม่มีประโยชน์ หากคุณไม่รู้วิธีใช้ ฟีเจอร์ที่มีประโยชน์อื่น ๆ ที่ควรมองหา ได้แก่ การแจ้งเตือนทางอีเมลและข้อความและการสนับสนุนตลอด 24 ชั่วโมง ในกรณีที่คุณต้องการความช่วยเหลือเกี่ยวกับบริการ
• ความเข้ากันได้: คุณต้องการรับการแจ้งเตือนการละเมิดข้อมูลส่วนตัวบนอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อให้คุณสามารถแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที มองหาบริการที่นำเสนอการแจ้งเตือนสำหรับอุปกรณ์มือถือ เดสก์ท็อปและโทรศัพท์พื้นฐาน ด้วยวิธีนี้ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน คุณก็สามารถดำเนินการแก้ไขภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว

สรุป

สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดสองประการเกี่ยวกับการละเมิดข้อมูลคือ รหัสข้อมูลประจำตัวที่อ่อนแอ/ถูกขโมยและผู้ใช้ไม่ให้ความสนใจกับการอนุญาตเข้าถึงแอพพลิเคชั่น/เว็บไซต์ที่พวกเขาใช้งาน ทั้งสองสถานการณ์นี้เป็

นข้อผิดพลาดของผู้ใช้ที่ไม่มีความรู้ด้านเทคโนโลยีและไม่รู้ว่าต้องทำอะไร แม้แต่คนที่มีประสบการณ์มากเองก็เหมือนกันการป้องกันไว้ก่อนนั้นดีกว่าการรับมือกับบางสิ่งที่เกิดขึ้นภายหลังเสมอ เมื่อคุณได้รับการคุ้มครองโดยบริการป้องกันการละเมิดข้อมูล คุณจะมีทั้งแผนสำรองและแผนป้องกันเพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของคุณทางออนไลน์

หากคุณสนใจวิธีอื่น ๆ ในการปกป้องข้อมูลของคุณทางออนไลน์ การใช้ VPN ระดับพรีเมียมก็เป็นอีกทางเลือกที่ดี