ExpressVPN นั้นเป็นหนึ่งในบริการที่ได้รับความนิยมและความไว้วางใจมากที่สุดในอุตสาหกรรมนี้ มันขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งใน VPN ที่ปลอดภัยและเร็วที่สุด วันนี้เราอยากจะมาดูว่ามันจะดีจริงอย่างที่คนอื่น ๆ เขาพูดกันหรือไม่ มันไม่ใช่ VPN ที่มีราคาถูกที่สุด แต่มันก็มักจะมีส่วนลดอยู่เป็นประจำซึ่งทำให้มันมีความคุ้มค่ามาก VPN ดี ๆ รายอื่น ๆ นั้นก็จะมีฟีเจอร์ความปลอดภัยที่คล้าย ๆ กันในราคาที่ถูกกว่ามาก เมื่อทราบเป็นเช่นนี้แล้ว คุณจำเป็นต้องจ่ายเงินมากกว่าเพื่อให้ได้ VPN ที่ดีในระดับ ExpressVPN เลยหรอ?
เพื่อค้นหาคำตอบ พวกเราได้ทำการทดสอบมันอย่างครอบคลุมทั้งบนเดสก์ท็อปและอุปกรณ์เคลื่อนที่ที่ใช้ Windows, Mac, Linux, Android และ iOS พวกเราได้ทดสอบความเร็วในขณะเล่นเกม, สตรีมมิ่ง และโหลดบิท พวกเรายังได้ดูในเรื่องของฟีเจอร์ความปลอดภัย, ความเข้ากันได้กับอุปกรณ์ และโปรโตคอล Lightway ของมันเองด้วย เพื่อที่จะดูว่ามันยังมีความน่าเชื่อถืออยู่หรือไม่ เราได้ไปไล่ดูนโยบายความเป็นส่วนตัว, การตรวจสอบโดยองค์กรอิสระ และประวัติของบริษัท
ข้อสรุปของเราคือ: ExpressVPN นั้นยากที่จะหาใครเปรียบได้ในทุก ๆ ด้าน มันคุ้มค่ากับทุกบาททุกสตางค์ที่จ่ายไป มันเป็นหนึ่งใน VPN ที่เร็วที่สุดที่เราได้ทำการทดสอบมา มันใช้งานง่ายอย่างไม่น่าเชื่อ และมันก็มีฟีเจอร์ความปลอดภัยที่แข็งแกร่งมาก แถมมันยังเป็นหนึ่งใน VPN ที่ดีที่สุดสำหรับใช้สตรีมมิ่งอย่างปลอดภัย และก็ยังมีแอป VPN สำหรับเราเตอร์ที่ดีที่สุดที่เราเคยทดลองมาอีกด้วย นอกจากนี้ก็ยังมีการรับประกันคืนเงิน ดังนั้นคุณสามารถทดลองใช้งานฟีเจอร์ทั้งหมดของ ExpressVPN ได้อย่างไม่มีความเสี่ยงด้วย คุณมีเวลา 30 วัน ในการขอคืนเงินถ้าหากว่ามันไม่เหมาะสำหรับคุณ
ทดลองใช้ ExpressVPN อย่างไม่มีความเสี่ยง >>
ไม่ค่อยมีเวลาใช่ไหม? นี่คือเรื่องสำคัญที่เราค้นพบเกี่ยวกับมัน
ข้อดี
ข้อเสีย
ฟีเจอร์ ExpressVPN — อัปเดตเมื่อ 2024
10.0
💸
ราคา
|
4.99 USD/เดือน
|
📆
รับประกันคืนเงิน
|
30 วัน |
📝
VPN มีการบันทึกข้อมูลการใช้งานหรือไม่ง
|
ไม่ |
🖥
จำนวนเซิร์ฟเวอร์
|
3000+ |
💻
จำนวนอุปกรณ์ที่อนุญาตให้เชื่อมต่อ
|
8 |
🛡
ปุ่มยกเลิกการเชื่อมต่อ
|
ใช่ |
🗺
ในประเทศ
|
Virgin Islands (British) |
🛠
การสนับสนุน
|
24/7 Live Chat Support |
📥
สนับสนุนการทอร์เรนต์
|
ใช่ |
สตรีมมิ่ง: ใช้งานได้เยี่ยมไม่มีการบัฟเฟอร์ ไม่มีการโหลดขั้นให้เสียอารมณ์
10.0
ExpressVPN ใช้งานได้ดีมากกับบริการสตรีมมิ่งต่าง ๆ อย่าง Netflix, Disney+, Amazon Prime Video และ BBC iPlayer สำหรับการทดสอบเหล่านี้ เราได้ทำการทดสอบโดยใช้ทีมงานนานาชาติเพื่อให้แน่ใจว่า VPN นี้จะสามารถทำงานกับแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งยอดนิยมทั้งหมดได้ ExpressVPN นั้นมีการอัปเดตเซิร์ฟเวอร์ของมันอยู่อย่างสม่ำเสมอ ดังนั้นพวกเราจึงไม่ค่อยเจอปัญหาใด ๆ
มันน่าประทับใจเป็นพิเศษที่ ExpressVPN สามารถใช้งานได้กับทุกแพลตฟอร์มที่พวกเราทำการทดสอบโดยไม่ต้องเปลี่ยนเซิร์ฟเวอร์หรือการตั้งค่าใด ๆ เลย เซิร์ฟเวอร์ทั้งหมด 3,000 เซิร์ฟเวอร์ นั้นถูกปรับแต่งมาสำหรับการสตรีมมิ่ง ดังนั้นคุณสามารถกดเชื่อมต่อและก็เริ่มการสตรีมมิ่งได้เลย
คุณสามารถเข้าถึงแพลตฟอร์มต่าง ๆ เหล่านี้ได้จากทุกที่อย่างปลอดภัยด้วย ExpressVPN:
Netflix |
Hulu |
Disney+ |
BBC iPlayer |
Max |
Crunchyroll |
Amazon Prime Video |
Peacock |
ESPN+ |
Paramount+ |
Rai Play |
Globoplay |
DStv |
ProSieben |
6play |
ORF |
CBC Gem |
Vudu |
Pluto TV |
Discovery+ |
Locast |
Rakuten Viki |
IPTV |
AT&T TV |
Now TV |
ITV |
Hotstar |
Crackle |
Zatto |
Channel 4 |
Sky TV |
beIN Sports |
DAZN |
fuboTV |
Sling TV |
Kodi |
Showtime |
Apple TV |
YouTube |
Spotify |
UKTV |
Crave |
Editor’s note: VPN ที่พวกเราแนะนำนั้นจะมีนโยบายการไม่บันทึกข้อมูลที่เข้มงวดซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้มันมาติดตามกิจกรรมออนไลน์ของคุณ นี่หมายความว่าคุณจะเป็นผู้ที่ต้องรับผิดชอบในการใช้ VPN ของคุณเอง ดังนั้นโปรดปฏิบัติตามกฎและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องทั้งหมดด้วย เราและเพื่อนร่วมงานไม่สนับสนุนการละเมิดลิขสิทธิ์
ใช้งานได้กับ: Netflix 20+ ประเทศ ซึ่งรวมถึง สหรัฐอเมริกา, สหราชอาณาจักร และญี่ปุ่น
เราและเพื่อนร่วมทีมนานาชาติสามารถดู Netflix ได้อย่างปลอดภัย และสตรีมได้อย่างไม่ถูกขัดจังหวะ ในการทดสอบเหล่านี้ ทุกคนต่างก็สามารถเข้ารหัสการเชื่อมต่อของตัวเอง ตอนที่ดู Netflix ในประเทศของตัวเองได้
เพื่อนร่วมงานชาวบริติชเริ่มทำการทดสอบด้วยเซิร์ฟเวอร์มิดแลนส์และก็สามารถล็อกอินเข้าบัญชี Netflix สหราชอาณาจักรของเขาได้อย่างไม่มีปัญหา
คุณภาพความชัดไม่ตกลงเลยตลอดทั้งตอน
เพื่อนร่วมทีมของเราใน 20 ประเทศต่างก็สามารถเข้าดู Netflix ผ่านบัญชีของพวกเขาได้ โดยรวมแล้ว ExpressVPN สามารถเข้าถึง Netflix ในประเทศต่าง ๆ เหล่านี้ได้โดยที่ไม่ก่อให้เกิดการดีเลย์:
สหราชอาณาจักร |
แคนาดา |
สหรัฐอเมริกา |
ออสเตรเลีย |
ฝรั่งเศส |
ชิลี |
ญี่ปุ่น |
เยอรมนี |
อิตาลี |
บราซิล |
สวีเดน |
นิวซีแลนด์ |
ฮ่องกง |
เนเธอร์แลนด์ |
สวิตเซอร์แลนด์ |
โคลอมเบีย |
มาเลเซีย |
โรมาเนีย |
สเปน |
กรีซ |
ใช้งานได้กับ: Disney+
พวกเราสามารถดูรายการอย่าง Welcome to Wrexham บน Disney+ ได้โดยไม่มีการบัฟเฟอร์จากในประเทศต่าง ๆ ที่มันมีการเผยแพร่
ผู้ทดสอบที่สหรัฐอเมริกาสามารถเข้าชมในความชัดคุณภาพสูงได้ด้วยเซิร์ฟเวอร์ทั่วประเทศ
ผู้ทดสอบของเราสามารถดู Disney+ ได้ในสหรัฐอเมริกา, ออสเตรเลีย, แคนาดา, อิตาลี และสหราชอาณาจักรโดยไม่มีการบัฟเฟอร์ ปัญหาเล็กน้อยก็คือมันใช้เวลาโหลดวิดีโอมากกว่า 3 วินาทีสำหรับเพื่อนร่วมงานที่ออสเตรเลียของเรา
ใช้งานได้กับ: Prime Video
เช่นเคย เพื่อนร่วมทีมที่สหราชอาณาจักรของเราสามารถเปลี่ยนแพลตฟอร์มได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนเซิร์ฟเวอร์หรือการตั้งค่าใด ๆ เขาสามารถสตรีมดู Prime Video ได้อย่างไม่มีปัญหาบนเว็บไซต์หลักของ Amazon ด้วยการใช้เซิร์ฟเวอร์สหราชอาณาจักร - มิดแลนส์ เซิร์ฟเวอร์เดิม เพื่อนร่วมงานที่อเมริกาของเราก็มีประสบการณ์คล้าย ๆ กัน
วิดีโอโหลดในคุณภาพความชัดสูงสุดทันที ไม่มีภาพแตก
สำหรับประเทศอื่น ๆ แพลตฟอร์มจะสตรีมแตกต่างออกไปเล็กน้อย และมันจะถูกโฮสบนโดเมน primevideo แบบสแตนด์อโลนของมัน ประสบการณ์นั้นก็คล้าย ๆ กัน — เพื่อนร่วมงานที่เยอรมนี, แคนาดา และออสเตรเลียนั้นก็สามารถสตรีมดู Prime ได้อย่างไม่มีปัญหา
ใช้งานได้กับ: BBC iPlayer
ExpressVPN ใช้งานได้กับ BBC iPlayer ในทันทีตั้งแค่ครั้งแรกที่ลอง แต่ด้วยความที่แพลตฟอร์มนี้ได้รับความนิยมมาก พวกเราจึงทำการทดสอบเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมดของ ExpressVPN ใน 5 แห่ง พวกมันก็สามารถใช้งานกับ iPlayer ได้ทั้งหมดโดยที่ไม่มีปัญหาใด ๆ และพวกเราก็สามารถดูงาน Radio 1’s Big Weekend ได้อย่างต่อเนื่อง
เพื่อนร่วมงานชาวบริติชสามารถดู BBC iPlayer ได้ในความชัดคุณภาพสูงด้วย
ใช้งานได้กับ: Hulu
Hulu นั้นเปิดให้บริการในสหรัฐอเมริกาเป็นหลักและ เพื่อนร่วมงานที่สหรัฐอเมริกาก็สามารถดูรายการและภาพยนตร์บนแพลตฟอร์มนั้นได้ในความชัดระดับ HD โดยที่มีเวลาโหลดสั้นมาก ๆ ตอนที่เขาเชื่อมต่อไปยังเซิร์ฟเวอร์ในสหรัฐอเมริกาของ ExpressVPN
ExpressVPN สามารถโหลดวิดีโอบน Hulu ได้อย่างรวดเร็วจากทุกที่
เขาสามารถดูเนื้อหาต่าง ๆ ได้ด้วยตำแหน่งของ ExpressVPN ที่ต่างกันถึง 7 แห่งภายในสหรัฐอเมริกา
นอกจากนี้ก็สามารถใช้งานได้กับ: Max, Peacock, Crunchyroll, ESPN+, DAZN, RTL, Kodi, beIN Sports และอื่น ๆ
ExpressVPN ใช้งานได้กับทุกแพลตฟอร์มอื่น ๆ ที่พวกเราได้ทดลอง ซึ่งรวมถึง Max, Peacock, Crunchyroll, ESPN+, beIN Sports และอีกมากมาย เพื่อนร่วมงานของเราสามารถสตรีมดูภาพยนตร์ที่เป็นสาธารณสมบัติเรื่อง Night of the Living Dead บน Kodi ได้ด้วย
โดยรวมแล้วนั้น ExpressVPN เป็น VPN ที่ยอดเยี่ยมมากสำหรับการสตรีมมิ่ง นอกจากนี้มันยังใช้งานได้กับเว็บและแอปโซเชียลมีเดียยอดนิยมต่าง ๆ อีกด้วย เช่นเดียวกันกับตอนที่พวกเราทดสอบแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง อันนี้พวกเราก็ใช้ทีมงานนานาชาติในการเข้าถึงแอปต่าง ๆ เหมือนกัน ซึ่งประกอบไปด้วย Facebook, Instagram, Google (และบริการของ Google อย่าง Gmail), Twitter, YouTube, Whatsapp, Snapchat, Tinder และอื่น ๆ
อันที่จริงปกติพวกเราจะมีเขียนในส่วน "ใช้งานไม่ได้กับ..." ด้วย แต่มันไม่จำเป็นเลยสำหรับกรณีนี้
ส่วนลด 61%
รับส่วน 61% จาก ExpressVPN เลยตอนนี้ + ใช้ฟรี 4 เดือน!
การันตีการคืนเงิน: 30 วัน
ประหยัดเงินได้เลยวันนี้!
ความเร็ว: เร็วมากสำหรับทั้งเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ใกล้และไกล
10.0
ExpressVPN นั้นเป็น VPN ที่มีความเร็วสูงที่สุดจากที่เราได้ทดสอบมา พวกเรามีผู้ทดสอบความเร็วของ VPN โดยเฉพาะผู้ที่ได้ทำการทดสอบ ExpressVPN และผู้ให้บริการชั้นนำรายอื่น ๆ ทั้งหมดอย่างสม่ำเสมอจากตำแหน่งเดียวกันที่สหราชอาณาจักร นี่ช่วยให้เราสามารถทำการเปรียบเทียบอย่างยุติธรรมได้เนื่องจากการทดสอบทั้งหมดในตารางด้านล่างนี้ถูกทดสอบมาจากการเชื่อมต่อเดียวกัน ผลลัพธ์ของ ExpressVPN นั้นจะบันทึกมาตอนที่ใช้งานโปรโตคอล Lightway UDP เนื่องจากมันให้ความเร็วดีที่สุด
ดูผลการเปรียบเทียบระหว่าง ExpressVPN และ VPN ที่มีความเร็วสูงรายอื่น ๆ
สหรัฐอเมริกา (ดัลลัส)
ดาวน์โหลด
อัปโหลด
ปิง
สหรัฐอเมริกา (ไมอามี)
ดาวน์โหลด
อัปโหลด
ปิง
สหรัฐอเมริกา (ลอสแอนเจลิส)
ดาวน์โหลด
อัปโหลด
ปิง
สหรัฐอเมริกา (นิวยอร์ก)
ดาวน์โหลด
อัปโหลด
ปิง
แคนาดา
ดาวน์โหลด
อัปโหลด
ปิง
บราซิล
ดาวน์โหลด
อัปโหลด
ปิง
สหราชอาณาจักร
ดาวน์โหลด
อัปโหลด
ปิง
ฝรั่งเศส
ดาวน์โหลด
อัปโหลด
ปิง
ญี่ปุ่น
ดาวน์โหลด
อัปโหลด
ปิง
ออสเตรเลีย
ดาวน์โหลด
อัปโหลด
ปิง
สิงคโปร์
ดาวน์โหลด
อัปโหลด
ปิง
182.72 Mbps
49.12 Mbps
6 ms
128.31 Mbps
29.79 Mbps
12 ms
125.59 Mbps
25.07 Mbps
51 ms
123.45 Mbps
31.53 Mbps
34 ms
122.72 Mbps
22.93 Mbps
48 ms
122.64 Mbps
45.93 Mbps
43 ms
109.40 Mbps
29.53 Mbps
150 ms
134.68 Mbps
68.59 Mbps
111 ms
140.86 Mbps
24.73 Mbps
118 ms
45.01 Mbps
8.10 Mbps
145 ms
172.88 Mbps
61.30 Mbps
178 ms
86.17 Mbps
30.60 Mbps
208 ms
218.55 Mbps
33.11 Mbps
3 ms
164.46 Mbps
97.64 Mbps
10 ms
142.95 Mbps
95.22 Mbps
52 ms
189.32 Mbps
15.44 Mbps
42 ms
142.27 Mbps
45.54 Mbps
43 ms
57.01 Mbps
35.80 Mbps
59 ms
153.39 Mbps
45.51 Mbps
139 ms
78.27 Mbps
65.09 Mbps
125 ms
74.53 Mbps
70.22 Mbps
116 ms
154.09 Mbps
66.89 Mbps
143 ms
83.71 Mbps
42.62 Mbps
199 ms
76.88 Mbps
52.38 Mbps
208 ms
246.96 Mbps
220.41 Mbps
3 ms
191.52 Mbps
221.68 Mbps
44 ms
177.22 Mbps
201.23 Mbps
63 ms
126.02 Mbps
109.50 Mbps
75 ms
210.79 Mbps
108.71 Mbps
57 ms
141.11 Mbps
145.03 Mbps
57 ms
176.45 Mbps
68.62 Mbps
144 ms
117.35 Mbps
95.07 Mbps
119 ms
140.66 Mbps
20.66 Mbps
145 ms
108.14 Mbps
116.19 Mbps
141 ms
81.48 Mbps
128.92 Mbps
192 ms
60.78 Mbps
71.35 Mbps
226 ms
การทดสอบเหล่านี้ดำเนินการจากสหรัฐอเมริกา
*N/A หมายความว่าพวกเรายังไม่มีข้อมูลการทดสอบความเร็วสำหรับตำแหน่งนี้
ExpressVPN นั้นเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ หรือก็คือความเร็วของมันแทบจะไม่ตกลงไปเกินกว่า 40% เลย แม้ว่าจะใช้เซิร์ฟเวอร์ที่ไกลที่สุดก็ตาม เพื่อที่จะให้คุณเห็นภาพ มันเป็นธรรมดามากที่ถึงแม้จะใช้ VPN ที่ดีที่สุดแล้ว แต่ความเร็วของคุณก็ยังตกลงไปมากกว่านี้ เพื่อให้เข้าใจเป็นตัวอย่าง การที่ความเร็วตกลงไป 20% สำหรับเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ใกล้เคียง และสูงสุดถึง 60% สำหรับเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ระยะไกลนั้นเป็นเรื่องที่ปกติมาก แม้ว่าจะใช้ VPN ที่เร็วแล้วก็ตาม
ความเร็วระยะใกล้
เซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ใกล้เคียงของ ExpressVPN นั้นมีความเร็วสูงที่สุดจากที่พวกเราได้ทดสอบมา ความเร็วของพวกเราไม่เคยตกลงไปเกิน 5% เลยตอนที่เลือกใช้ตำแหน่งที่ใกล้ที่สุด นั่นก็เป็นความเร็วที่เพียงพอ จนคุณแทบจะไม่รู้สึกเลยว่าคุณกำลังใช้ VPN อยู่
ค่าปิงนั้นก็ยังเร็วพอสำหรับเล่นเกมออนไลน์ด้วย
เซิร์ฟเวอร์ยูเครนสามารถรักษาความเร็วได้อย่างน่าประทับใจ แม้ว่ามันจะอยู่ห่างจากตำแหน่งที่ทดสอบในสหราชอาณาจักรไปถึง 2,500 กม. ก็ตาม
ความเร็วระยะไกล
แม้ว่าจะใช้งานเซิร์ฟเวอร์สหรัฐอเมริกาที่อยู่ห่างออกไปไกล แต่ความเร็วของพวกเราก็ไม่เคยตกลงไปมากกว่า 25% เลย นั่นก็จะเป็นความเร็วที่น่าประทับใจมากถ้าเซิร์ฟเวอร์อยู่ห่างไปแค่ไม่กี่ช่วงตึกแทนที่จะอยู่ห่างไปถึง 8,500 กม. ที่ช้าที่สุดที่พวกเรามักจะเจอคือที่โตเกียว เราเจอ VPN หลายตัวที่ทำให้ความเร็วตกลงไปถึง 80% หรือมากกว่าในตอนที่ใช้เซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ไกลขนาดนี้ (ประมาณ 10,000 กม.) แต่ ExpressVPN นั้นก็จะเร็วกว่าอยู่เสมอ
ความเร็วการอัปโหลดของพวกเราตกลงไปเพียงแค่ 17% ตอนที่ใช้เซิร์ฟเวอร์โตเกียว
สรุปสั้น ๆ ก็คือ ExpressVPN ยังคงมีประสิทธิภาพดีที่สุดในหมวดหมู่นี้อยู่ พวกเรามีการเก็บรวบรวมผลลัพธ์เหล่านี้เป็นประจำนานหลายปี และมันก็สามารถรักษาประสิทธิภาพในระดับนี้ได้อยู่เสมอ ถ้าคุณต้องการ VPN ที่จะส่งผลกระทบต่อความเร็วฐานน้อยที่สุดที่จะเป็นไปได้ คุณก็จะไม่เจอตัวเลือกที่ดีกว่านี้อีกแล้ว
การเล่นเกม: เล่นเกมได้อย่างไร้รอยต่อบนเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ใกล้เคียงและห่างระยะกลาง
9.5
ExpressVPN นั้นใช้เล่นเกมออนไลน์ได้ดี และมันก็สามารถลดค่าปิงของพวกเราลงด้วยตอนที่ใช้เซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ใกล้ที่สุด เซิร์ฟเวอร์ในสหราชอาณาจักรนั้นมีค่าเวลาแฝง 29ms เทียบกับ 32ms ตอนที่พวกเราไม่ได้เชื่อมต่อ VPN
ค่าปิงนั้นเป็นค่าการวัดสำหรับการเล่นเกม และสำหรับการเล่นเกมออนไลน์ คุณควรรักษาให้มันมีค่าต่ำกว่า 85ms นี่ก็เพราะว่ามันจะวัดการกระทำของคุณเทียบกับการตอบสนองบนหน้าจอ ถ้าคุณกดปุ่มและตัวละครของคุณไม่ตอบสนองในทันที มันก็ยากที่คุณจะไปแข่งขันกับคนอื่นได้ โชคยังดีที่ ExpressVPN สามารถรักษาค่าปิงให้ต่ำกว่า 85ms ได้บนทุกเซิร์ฟเวอร์ในยุโรป
เราสามารถวิ่ง, ลอยตัว, และยิงได้อย่างไม่มีดีเลย์
พวกเราสามารถเล่นเกมได้ทุกรูปแบบ เนื่องจากมันสามารถใช้งานได้ดีกับเกมยิงปืนที่เน้นความเร็ว ในขณะที่เล่น Counter-Strike 2 เราก็สามารถโหลดแมตช์ได้อย่างรวดเร็วและก็เล่นได้เหมือนปกติ ถ้ามันมีอาการแลคเพียงเล็กน้อย มันก็จะสังเกตเห็นได้แล้วในเกมรูปแบบนี้ แต่เราไม่เจออาการแลคใด ๆ เลยตอนที่ใช้เซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ใกล้เคียง
การจะเพลิดเพลินกับเกมออนไลน์บนเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ห่างไกลนั้นเป็นเรื่องยาก แต่ก็เป็นเรื่องปกติ เรายังไม่เคยเจอ VPN ตัวไหนที่ใช้เล่นเกมบนตำแหน่งที่อยู่ห่างไกลได้ดีมาก่อน การส่งข้อมูลไปอีกฝั่งของโลกนั้นยังไงก็จะต้องทำให้ค่าปิงของคุณเพิ่มมากขึ้น แม้ว่าคุณจะใช้ VPN ที่เร็วที่สุดที่เราเคยทดสอบมาแล้วก็ตาม
เครือข่ายเซิร์ฟเวอร์: ตัวเลือกเซิร์ฟเวอร์มากมายทั่วโลก
9.6
คุณอาจจะสังเกตเห็นว่าพวกเราใช้เซิร์ฟเวอร์มิดแลนส์ที่เดียวสำหรับการทดสอบในสหราชอาณาจักรของ ExpressVPN ทั้งหมด นั่นไม่ใช่เพราะว่าพวกเราขี้เกียจ แต่เพื่อที่จะแสดงให้เห็นว่าเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมดของ ExpressVPN นั้นถูกปรับแต่งมาเพื่อรองรับการสตรีมมิ่ง, เล่นเกม และโหลดบิท รวมถึงการทำ obfuscation ด้วย
ดังนั้นถึงแม้ว่ามันจะมีเพียงแค่ 3,000 เซิร์ฟเวอร์ เมื่อเทียบกับ Private Internet Access ที่มี 29,650 เซิร์ฟเวอร์ แต่มันก็สามารถหลีกเลี่ยงการแออัดของผู้ใช้งานและรักษาความเร็วได้ดีอยู่ นั่นหมายความว่ากิจกรรมออนไลน์ของคุณจะไม่ถูกจำกัดเอาไว้เฉพาะกับเซิร์ฟเวอร์พิเศษต่าง ๆ และมันก็สะดวกมากด้วย แถมคุณยังจะสามารถเชื่อมต่อไปยังเซิร์ฟเวอร์ได้อย่างรวดเร็วในเกือบทุกครั้ง เราใช้เวลาเพียงไม่ถึง 2 วินาที ซึ่งก็เร็วกว่า VPN ส่วนใหญ่เป็นอย่างมาก
มีตำแหน่งให้เลือกมากมายจากในหลายประเทศ โดยที่มีถึง 5 แห่ง ในสหราชอาณาจักร, 24 แห่ง ในสหรัฐอเมริกา และอีกหลายเมืองในเยอรมนี, อิตาลี, ญี่ปุ่น, ออสเตรเลีย และแคนาดา เป็นต้น เซิร์ฟเวอร์ระดับเมืองทำให้คุณเลือกที่ที่มีความเร็วดีที่สุดได้ง่ายยิ่งขึ้น นั่นก็เพราะว่ามันจะบอกให้คุณรู้ว่าเซิร์ฟเวอร์ตั้งอยู่ในเมืองไหน คุณจึงสามารถค้นหาเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ใกล้คุณได้ง่ายยิ่งขึ้น
และด้วยตำแหน่งใน 105 ประเทศ รวมถึงเซิร์ฟเวอร์เสมือนในประเทศไทย คุณจึงได้รับการครอบคลุมที่น่าประทับใจทั่วโลก รวมถึงในบางพื้นที่ซึ่งมี VPN น้อยรายที่เปิดให้บริการด้วย ประกอบไปด้วยปานามา, ฮอนดูรัส, เลบานอน, เคนย่า, มาเก๊า, มองโกเลีย, อาร์เมเนีย และมอลตา
ในขณะที่ที่อยู่ IP ของมันนั้นเป็นของ ExpressVPN ทั้งหมด แต่พวกเขาก็มีการทำงานร่วมกับศูนย์ข้อมูลบุคคลที่สามเช่นกัน งานของบุคคลที่สามคือการบำรุงรักษาเซิร์ฟเวอร์ แต่พวกเขาจะไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลบนเซิร์ฟเวอร์ได้ หลังจากที่ติดต่อ ExpressVPN แล้ว พวกเขาก็แจ้งเราว่าคู่ค้าของพวกเขาสามารถดูทราฟฟิคที่เข้าและออกจากเซิร์ฟเวอร์ได้ อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่มีสิทธิ์และไม่สามารถผูกกิจกรรมออนไลน์ต่าง ๆ เข้ากับผู้ใช้งานแต่ละคนได้
เทคโนโลยี TrustedServer
ExpressVPN เพิ่มความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของคุณขึ้นไปอีกขั้นด้วยการใช้เซิร์ฟเวอร์แบบ RAM-only (ไม่มีดิสก์) พวกเขาเรียกสิ่งนี้ว่าเทคโนโลยี TrustedServer RAM นั้นไม่สามารถเก็บข้อมูลเอาไว้ได้ ดังนั้นเมื่อมันรีสตาร์ท ข้อมูลทั้งหมดของคุณในเซสชั่นนั้นก็จะถูกลบในทันที ทุกอย่าง ซึ่งรวมไปถึงระบบปฏิบัติการนั้นก็จะถูกโหลดขึ้นมาใหม่ในการรีบูทแต่ละครั้งจากไฟล์แบบอ่านอย่างเดียวที่ถูกเก็บเอาไว้อย่างปลอดภัยอยู่บนฮาร์ดไดรฟ์
นี่จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้แต่ละเซิร์ฟเวอร์ด้วยการใช้โค้ดล่าสุด
VPN ส่วนใหญ่จะเก็บข้อมูลไว้บนฮาร์ดไดรฟ์ นี่มีความปลอดภัยน้อยกว่าเนื่องจากฮาร์ดไดรฟ์นั้นจะเก็บข้อมูลเอาไว้จนกว่าจะมีคนมาลบด้วยมือเอง เซิร์ฟเวอร์ของ ExpressVPN นั้นจะถูกรีบูททุก ๆ 1-2 สัปดาห์ เนื่องจากเซิร์ฟเวอร์เหล่านี้จะไม่เก็บข้อมูลที่มีความละเอียดอ่อนของคุณ ดังนั้นคุณจึงปลอดภัยอยู่แล้วไม่ว่ามันจะรีบูทบ่อยแค่ไหนก็ตาม อย่างไรก็ตาม มันเป็นเรื่องดีที่พวกเขามีการรีสตาร์ทอยู่เป็นประจำเพื่อให้มั่นใจว่ามันใช้งานเทคโนโลยีล่าสุดอยู่เสมอ
ExpressVPN มีรางวัลสำหรับการล่าบัคเป็นเงิน $100,000 ให้กับคนที่สามารถค้นหาจุดบกพร่องของเซิร์ฟเวอร์ได้ นี่เป็นหนึ่งในเงินรางวัลที่สูงที่สุดที่บริษัทไหน ๆ เคยประกาศเอาไว้บน Bugcrowd (เว็บไซต์สำหรับการประกาศเงินรางวัลการตามล่าบัค) เลยทีเดียว ExpressVPN มั่นใจว่าจะไม่มีใครสามารถเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ของพวกเขาได้โดยไม่ได้รับอนุญาต หรือจะมีใครค้นพบการรั่วไหลใด ๆ ดังนั้น นี่ก็เป็นการแสดงให้เราเห็นได้ว่า พวกเขามีความมั่นใจในความปลอดภัยของเซิร์ฟเวอร์เป็นอย่างสูง
สถานที่อัจฉริยะ
สถานที่อัจฉริยะ นั้นสะดวกมาก แต่พวกเราสามารถค้นหาเซิร์ฟเวอร์ที่เร็วกว่าได้ด้วยตัวเอง ยกตัวอย่างเช่น สถานที่อัจฉริยะพยายามเชื่อมต่อเพื่อนร่วมงานชาวบริติชของเราไปยังลอนดอนตะวันออก แต่จริง ๆ แล้ว มิดแลนส์นั้นเร็วกว่า 2% ถึง 3%
เซิร์ฟเวอร์ที่ผ่านการทำ obfuscation
เซิร์ฟเวอร์ทั้งหมดของ ExpressVPN นั้นจะมีการทำ obfuscation อัตโนมัติ ไม่มีเซิร์ฟเวอร์พิเศษ, การตั้งค่า หรือโปรโตคอล obfuscation ใด ๆ — คุณเพียงแค่ต้องเลือกการตั้งค่าโปรโตคอลเป็นอัตโนมัติตามค่าเริ่มต้น ทางเซิร์ฟเวอร์จะสามารถตรวจจับการบล็อก VPN และช่วยเพิ่มขั้นการเข้ารหัสในตอนที่คุณต้องการได้ มันหมายความว่าคุณอาจจะไม่สังเกตเห็นด้วยซ้ำว่าคุณกำลังหลบหลีกการบล็อกเนื้อหาหรือการบล็อกเว็บไซต์ในที่ทำงาน, วิทยาลัย หรือ WiFi hotspot สาธารณะ
เซิร์ฟเวอร์เสมือน
รัฐบาลอินเดียมีกฎหมายเกี่ยวกับการแชร์ข้อมูลซึ่งจะทำให้นโยบายการไม่บันทึกข้อมูลของ VPN นั้นไร้ความหมาย ดังนั้น ExpressVPN จึงมีเซิร์ฟเวอร์เสมือนสำหรับประเทศอินเดีย หมายความว่ามันสามารถจัดสรร IP อินเดียให้คุณได้ แต่มันไม่ได้ตั้งอยู่ในประเทศนั้นจริง ๆ (มันตั้งอยู่ที่สิงคโปร์และสหราชอาณาจักร)
เซิร์ฟเวอร์เสมือนของ ExpressVPN จะตั้งอยู่แค่ในที่เหล่านี้เท่านั้น
เพื่อให้สามารถคงความสะดวกในการปรับแต่ง ExpressVPN จึงไม่มีที่อยู่ IP เฉพาะ (ส่วนตัว, ที่อยู่ IP เอ็กซ์คลูซีฟ)
ความปลอดภัย: การปกป้องข้อมูลแบบที่ไม่สามารถเจาะเข้ามาดูได้
10.0
ฟีเจอร์ความปลอดภัยที่หลากหลายของ ExpressVPN รวมถึงการเข้ารหัสระดับทหารจะปกป้องข้อมูลของคุณ เราได้ทำการทดสอบ kill switch, split tunneling และความเข้ากันได้กับ Tor อย่างละเอียด แถมเรายังได้เปรียบเทียบโปรโตคอลของมันและก็ทำการศึกษาโปรโตคอล Lightway แบบเชิงลึกเลยอีกด้วย โปรโตคอลนี้ทำให้ ExpressVPN ได้เปรียบคู่แข่งในแง่ของประสิทธิภาพและความปลอดภัย
การเข้ารหัส: การปกป้องระดับธนาคาร
เทคโนโลยีการเข้ารหัสของ ExpressVPN จะช่วยปกป้องข้อมูลส่วนตัวของคุณ มันจะช่วยให้คุณปลอดภัยด้วยการเข้ารหัส 256-bit AES ซึ่งจะเป็นการผสมระหว่าง AES 256-bit cipher กับ 4096-bit RSA key และ SHA-512 HMAC authentication พูดให้เข้าใจง่าย ๆ ข้อมูลของคุณไม่มีใครเจาะเข้าไปดูได้อย่างแน่นอน นี่เป็นการเข้ารหัสระดับเดียวกันกับที่กองทัพ, ธนาคาร และรัฐบาลใช้
จำนวน bits ในคีย์จะบ่งบอกถึงจำนวนความเป็นไปได้ในการผสม ยกตัวอย่างเช่น 1 bits จะรวมได้ 2 แบบ ในขณะที่ 8 bits จะรวมได้ 256 แบบ แต่ด้วย 256 bits มันจะทำให้วิธีการรวมกันนั้นเป็นไปได้ถึงตัวเลข 78 หลัก ทำให้กลายเป็นเรื่องที่ยากมาก ๆ ที่จะถอดรหัสมาดูแม้ว่าจะเป็นข้อมูลส่วนเล็ก ๆ ก็ตาม มันต้องใช้เวลานับพันล้านปี ถึงแม้ว่าจะเอาซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ทรงพลังที่สุดมาใช้ก็ตาม
ExpressVPN มีการโอนย้ายข้อมูลอย่างปลอดภัยสูง อย่างเช่นการแชร์ไฟล์ P2P ผ่านการใช้ SHA-512 HMAC authentication มันใช้คีย์ลับแบบแชร์ที่จะทำให้ทั้งผู้ส่งและผู้รับสามารถตรวจความถูกต้องของไฟล์ได้ หากมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงใด ๆ กับคีย์ลับ มันก็จะแสดงให้เห็นว่ามีการพยายามแทรกแซง ทำให้การเกิดการตรวจจับในทันที การละเมิดที่เกิดขึ้นในรูปแบบนี้จะถูกตรวจจับและจัดการอย่างรวดเร็ว
ExpressVPN นั้นมีการใช้ perfect forward secrecy ด้วย ฟีเจอร์นี้จะช่วยเปลี่ยนคีย์การเข้ารหัสของคุณในทุก ๆ เซสชั่นที่ใช้งาน เพื่อให้แน่ใจว่าถึงแม้จะมีคีย์หนึ่งรั่วไหลออกไป แต่เซสชั่นการใช้ VPN ในอดีตและในอนาคตก็จะไม่สามารถถูกเข้าถึงได้ เนื่องจากมันใช้คีย์ที่แตกต่างกันออกไป
โปรโตคอลความปลอดภัย: ตัวเลือกที่ดีกว่าสำหรับทุกอุปกรณ์
โปรโตคอลนั้นจะเป็นชุดของกฎที่ VPN ใช้เพื่อบอกว่ามันจะเข้ารหัสข้อมูลของคุณอย่างไร มันสามารถถูกเปลี่ยนได้ในแท็บโปรโตคอลสำหรับ Windows, Mac, Android และ iOS
คุณสามารถใช้ตัวเลือกขั้นสูงเพื่อเปลี่ยนวิธีการเข้ารหัสได้
นี่คือ 2 ตัวเลือกหลัก:
- Lightway โปรโตคอลนี้ถูกพัฒนาขึ้นเองโดย ExpressVPN และไม่มี VPN รายอื่นที่มีโปรโตคอลนี้ให้ใช้งานได้ มันจะกินแบตน้อยกว่า และเปลี่ยนผ่านระหว่างเครือข่ายได้อย่างไร้รอยต่อ ทำให้มันเป็นตัวเลือกที่ดีมากสำหรับโทรศัพท์มือถือ และก็มีตัวเลือก UDP กับ TCP UDP นั้นจะเร็วกว่าระหว่างการทดสอบของพวกเรา แต่ TCP นั้นจะเชื่อถือได้มากกว่าถ้าใช้กับเครือข่ายที่ไม่เสถียร
- OpenVPN นี่เป็นหนึ่งในโปรโตคอลที่ปลอดภัยที่สุด มันเป็นโอเพนซอร์ซ และทุกคนที่อยู่กันทั่วโลกก็ได้คอยทำการตรวจสอบโค้ดของมันอย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับมัน ตัวเลือกทั้ง UDP และ TCP ก็มีให้ใช้งานได้เช่นกัน
แอป macOS นั้นจะมี IKEv2 ด้วย และคุณก็จะมีตัวเลือกโปรโตคอลต่าง ๆ ขึ้นกับอุปกรณ์ที่คุณใช้งาน และก็ยังมีการตั้งค่าอัตโนมัติ สิ่งนี้จะเลือกโปรโตคอลที่ดีที่สุดให้สำหรับคุณขึ้นกับการตั้งค่าและสถานการณ์ โดยรวมแล้ว เราแนะนำให้ใช้ Lightway UDP เนื่องจากมันจะมีความสมดุลดีที่สุดระหว่างความเร็วและความปลอดภัย
Lightway
Lightway เป็นโปรโตคอลที่ ExpressVPN พัฒนาขึ้นเองซึ่งใช้ทรัพยากรน้อยและเร็วมาก ๆ (ความเร็วของพวกเรานั้นเร็วกว่าตอนที่ใช้ OpenVPN ถึง 14%) บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ มันยังเปลี่ยนเครือข่ายได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย แทนที่จะตัดการเชื่อมต่อ VPN มันจะหยุดนิ่งตอนที่สัญญาณตก ทำให้คุณสามารถเชื่อมต่อใหม่ได้อย่างรวดเร็วตอนที่เปลี่ยนระหว่างเครือข่าย WiFi และอุปกรณ์เคลื่อนที่
แถม Lightway ยังสามารถเชื่อมต่อได้ภายในไม่ถึงหนึ่งวินาทีเลยอีกด้วย ด้วยโค้ดเพียง 2,000 บรรทัด Lightway นั้นจึงเป็นโปรโตคอล VPN ที่มีโค้ดขนาดเล็กที่สุด ทำให้มันตรวจสอบได้ง่ายและใช้แบตน้อยกว่า
นอกจากนี้มันยังมีข้อได้เปรียบเมื่อเทียบกับการใช้ WireGuard ซึ่งเป็นโปรโตคอลมาตรฐานอุตสาหกรรมในแง่ของความเร็วด้วย อย่างแรกเลย Lightway รองรับการทำ obfuscation สำหรับ VPN อื่น ๆ คุณจะต้องเปลี่ยนไปใช้ OpenVPN ที่ช้ากว่าเพื่อที่จะเปิดใช้งานฟีเจอร์ความปลอดภัยนั้นด้วย ยิ่งไปกว่านั้น Lightway ยังมีตัวเลือก TCP ด้วย ซึ่ง WireGuard จะไม่มีให้
ตอนนี้คุณจะได้รับการป้องกันแบบ post-quantum สำหรับ Lightway แล้วด้วย ในขณะที่คอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่จะไม่สามารถเจาะการเข้ารหัสแบบมาตรฐานได้ในเวลาที่สมเหตุสมผล แต่อาชญากรไซเบอร์นั้นจะมีเทคโนโลยี quantum ที่สามารถทำแบบนั้นได้ภายในไม่กี่วัน เพราะแบบนั้นเราจึงดีใจมากที่ ExpressVPN ได้อัปเดตโปรโตคอลเฉพาะของพวกเขาให้มีการป้องกัน quantum เพื่อที่คุณจะสบายใจหายห่วงได้ ถ้าการโจมตีรูปแบบนี้กลายเป็นสิ่งที่แพร่หลายในอนาคต
การทดสอบการรั่วไหล: ผ่าน
ExpressVPN ผ่านการทดสอบการรั่วไหลทั้งหมดของเราบน Windows, Mac, Android และ iPhone ในชุดการทดสอบแรกของเรา เราได้ใช้ 10 เซิร์ฟเวอร์ที่แตกต่างกันออกไปกับ ipleak.net
ทุกโปรโตคอลถูกทดสอบและตำแหน่งจริงของเราก็ไม่เคยถูกเปิดเผย
รูปข้างบนนี้จะแสดงว่าการทดสอบแต่ละครั้งจะเห็นเฉพาะที่อยู่ IP ของ VPN ที่แคนาดาและ DNS เซิร์ฟเวอร์ที่เราเชื่อมต่อไปภายในแอป การรั่วไหลของ IPv4, IPv6, WebRTC และ DNS นั้นจะเป็นวิธีการต่าง ๆ ที่ข้อมูลของคุณสามารถถูกเข้าถึงได้ ถึงแม้ว่า VPN จะปกป้องคุณในด้านอื่น ๆ ได้เป็นอย่างดีแล้ว แต่การรั่วไหลแบบนี้ก็ยังคงเกิดขึ้นได้อยู่ เพราะแบบนั้น มันจึงเป็นเรื่องที่ดีมากที่ ExpressVPN มีการป้องกันการรั่วไหลภายในตัวเพื่อปิดบังข้อมูลของคุณจากทุกวิธีที่แฮ็กเกอร์สามารถใช้เพื่อเข้าถึงมันได้
DNS ส่วนตัวสำหรับทุกเซิร์ฟเวอร์
หนึ่งในเหตุผลที่ ExpressVPN ผ่านการทดสอบการรั่วไหลของเราก็เพราะว่ามันมีเซิร์ฟเวอร์ DNS ส่วนตัว คุณต้องเข้าถึงเครือข่ายที่ถูกเรียกว่า Domain Name Server เพื่อที่จะเคลื่อนย้ายระหว่างเว็บไซต์ เซิร์ฟเวอร์ DNS ส่วนตัวนั้นจะตัดตัวกลางนี้ออกไป เพื่อลดโอกาสที่ข้อมูลของคุณจะรั่วไหล
มันมีตัวเลือกให้ใช้งาน DNS ของคุณเองได้ด้วย แต่เราแนะนำให้เลือกใช้เซิร์ฟเวอร์ DNS ส่วนตัวของ ExpressVPN จะดีกว่า
ผ่านการตรวจสอบอย่างอิสระมาแล้ว
ผ่านการตรวจสอบอย่างเป็นอิสระจากองค์กรด้านความปลอดภัยที่น่าเชื่อถือทั้งหลายมาแล้ว นี่ถือเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า ExpressVPN นั้นปลอดภัยอย่างที่กล่าวอ้างจริง รายงานการตรวจสอบทั้งหลายนี้ต่างก็ไม่พบปัญหาใหญ่ใด ๆ ในขณะที่ปัญหาเล็ก ๆ ก็ได้รับการแก้ไขในทันทีที่พบ
บนแอปอุปกรณ์เคลื่อนที่ มันจะชื่อว่า Network Protection ในการตั้งค่า
บน Windows, Linux และ Mac นั้น ExpressVPN จะเปิดใช้งาน kill switch โดยอัตโนมัติ คุณยังสามารถอนุญาตการเข้าถึงให้กับอุปกรณ์บน LAN ได้ด้วย นี่จะมีประโยชน์ถ้าคุณมีเครื่องพิมพ์หรืออุปกรณ์อื่น ๆ เชื่อมต่อผ่านทาง WiFi
การใช้งานเข้ากันได้กับ Tor
ExpressVPN สามารถใช้งานกับ Tor (The Onion Router) ได้ด้วยเทคนิค Tor ก่อน VPN Tor นั้นจะทำหน้าที่เป็นเบราว์เซอร์ที่เข้ารหัสข้อมูลทั้งหมดภายในเครือข่ายของมัน เดิมทีมันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้ท่องเว็บอย่างไม่เปิดเผยตัวตนบนเว็บไซต์ทั่วไป แต่ปัจจุบัน Tor นั้นสามารถนำไปใช้เข้า dark web ได้ด้วย
ในขณะที่ dark web นั้นจะเป็นที่ที่มีกิจกรรมผิดกฎหมายเกิดขึ้น แต่มันก็ยังเป็นแพลตฟอร์มสำคัญสำหรับนักเคลื่อนไหวและผู้แจ้งเบาะแสที่อยู่ทั่วโลกในการใช้เผยแพร่ข้อมูลสำคัญอย่างไม่เปิดเผยตัวตนอีกด้วย อย่างไรก็ตาม มันมักจะถูกโยงให้เข้าไปเกี่ยวกับอาชญากรรม และเนื่องจาก ISP และรัฐบาลสามารถตรวจจับการใช้เบราว์เซอร์ Tor ได้ เราจึงแนะนำให้คุณใช้ VPN ซ้อนอีกชั้นหนึ่งด้วย
ความเข้ากันได้ในการเทรดคริปโต
ความปลอดภัยระดับเดียวกับธนาคารของ ExpressVPN ทำให้มันเป็นตัวเลือกที่ดีมากสำหรับใช้เทรดคริปโต เราล็อกอินเข้าบัญชี Bitpanda บน Mac และก็ขาย IOTA เราแค่ต้องกดเข้าอีเมลความปลอดภัยเพื่อ "ยืนยันเบราว์เซอร์ใหม่นี้" เท่านั้นเอง บน iPhone เราล็อกอินเข้า Blockchain และก็ซื้อ Litecoin
เราได้คุยกับทางไลฟ์แชทของ ExpressVPN เกี่ยวกับเรื่องนี้ และพวกเขาก็บอกว่าบางเว็บไซต์และบางแอปนั้นจะบล็อกการใช้งานพร็อกซี่และ VPN ดังนั้นมันก็จะขึ้นกับแพลตฟอร์มที่คุณเข้าใช้งานด้วย
การป้องกันขั้นสูง
ExpressVPN นั้นใส่ใจเต็มที่กับเรื่องของความปลอดภัยด้วยฟีเจอร์ Advanced Protection (การป้องกันขั้นสูง) ของมัน Threat Manager (ตัวจัดการภัย) จะหยุดเว็บไซต์และแอปไม่ให้ทำการสื่อสารไปยังบุคคลที่สามที่เป็นที่รู้จักว่าจะติดตามข้อมูลของคุณหรือมีพฤติกรรมที่มุ่งร้าย มันมีให้ใช้งานได้ในทุกแอปของ ExpressVPN รวมถึงบนเราเตอร์ Aircove ด้วย
นอกจากนี้ ExpressVPN ก็มีฟีเจอร์บล็อกโฆษณาให้ด้วย Threat Manager (ตัวจัดการภัย) และ Ad Blocker (ตัวบล็อกโฆษณา) นั้นสามารถหยุดโฆษณาและตัวติดตามได้มากถึง 59% จากการทดสอบของเรา นั่นเป็นสิ่งที่น่าประทับใจมากสำหรับตัวบล็อกของ VPN แต่คุณก็สามารถใช้งานมันร่วมกับตัวบล็อกโฆษณาฟรีอื่น ๆ ได้ด้วย
เราได้ทำการทดสอบ ExpressVPN ด้วยเครื่องมือทดสอบตัวบล็อกโฆษณาออนไลน์
และสุดท้ายคุณก็สามารถใช้ ระบบควบคุมสำหรับผู้ปกครอง เพื่อบล็อกเว็บไซต์ผู้ใหญ่ได้ ทำให้คุณสามารถท่องเว็บได้อย่างปลอดภัยยิ่งขึ้นบน PC สำหรับครอบครัวหรือเครื่องของเด็ก
ความเป็นส่วนตัว: บริษัทที่เชื่อถือได้ซึ่งจะไม่เก็บข้อมูลของคุณ
10.0
ExpressVPN นั้นมีนโยบายการไม่บันทึกข้อมูล และมันก็ตั้งอยู่นอกพื้นที่ของพันธมิตร 14 Eyes นอกจากนี้ นโยบายความเป็นส่วนตัวของบริษัทก็ได้ผ่านการพิสูจน์ในชั้นศาลมาแล้วหลายครั้ง และก็มีชื่อเสียงในฐานะบริษัทที่น่าเชื่อถือที่สุดแห่งหนึ่งในอุตสาหกรรม มันเป็นบริษัทลูกของ Kape Technologies ซึ่งเป็นเจ้าของ VPN รายอื่น ๆ อย่าง CyberGhost และ Private Internet Access ด้วย
ExpressVPN มีการบันทึกข้อมูลหรือไม่? ไม่
ExpressVPN มีนโยบายการไม่บันทึกข้อมูลอย่างเข้มงวด ดังนั้นมันจะไม่เก็บ, แบ่งปัน หรือขายข้อมูลส่วนตัวของคุณ
เราชื่นชอบที่ นโยบายความเป็นส่วนตัวของ ExpressVPN นั้นมีความชัดเจนมาก
ExpressVPN ระบุว่าพวกเขาจะเก็บเฉพาะ:
- ข้อมูลที่คุณใช้ในการสมัครสมาชิก (รายละเอียดการชำระเงินและที่อยู่อีเมล)
- คุณได้เปิดใช้กี่แอปและเวอร์ชันของแอป
- วันที่ทำการเชื่อมต่อ (ไม่ระบุเวลา)
- ตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ที่คุณเชื่อมต่อไป (แต่ไม่บันทึกที่อยู่ IP ที่จัดสรรให้คุณ)
- ปริมาณข้อมูลที่มีการโอนย้ายในหนึ่งวัน
เราประทับใจมากที่มันเก็บข้อมูลน้อยขนาดนี้ เราไม่เคยเห็น VPN ที่เก็บข้อมูลน้อยกว่านี้มาก่อนเลย นี่เป็นปริมาณข้อมูลขั้นต่ำที่จำเป็นต้องเก็บเพื่อใช้ในการบำรุงรักษา VPN และเพื่อใช้ในการติดต่อกับลูกค้า มันจะแสดงเฉพาะแค่ว่าคุณเคยใช้ VPN เท่านั้น ไม่ได้บอกอะไรไปมากกว่านี้
นอกจากเรื่องทั้งหมดที่พูดไปแล้ว นโยบายของ ExpressVPN ก็ยังเคยถูกท้าทายมาแล้วด้วยเมื่อปี 2017 รัฐบาลประเทศตุรกีได้ยึดเอาเซิร์ฟเวอร์ของ ExpressVPN ไปในขณะที่กำลังสืบสวนคดีอาชญากรรมร้ายแรง อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่พบข้อมูลใด ๆ เนื่องจากไม่มีการเก็บข้อมูลเอาไว้ นี่เป็นการยืนยันนโยบายการไม่บันทึกข้อมูลได้อย่างแท้จริง
ExpressVPN ผ่านการตรวจสอบแล้วใช่ไหม? ใช่
มันเคยผ่านการตรวจสอบอย่างเป็นอิสระจากองค์กรด้านความปลอดภัยที่น่าเชื่อถือทั้งหลายมาแล้ว นี่ถือเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า ExpressVPN นั้นปลอดภัยอย่างที่กล่าวอ้างจริง รายงานการตรวจสอบทั้งหลายนี้ต่างก็ไม่พบปัญหาใหญ่ใด ๆ ในขณะที่ปัญหาเล็ก ๆ ก็ได้รับการแก้ไขในทันทีที่ตรวจพบ จาก VPN ทั้งหมดที่เราได้ทำการทดสอบมา ExpressVPN นั้นผ่านการตรวจสอบจากหลายองค์กรใหญ่ ๆ บ่อยครั้งที่สุดแล้ว
Cure53 ได้ทำการตรวจสอบโปรโตคอล Lightway (2021), เทคโนโลยี TrustedServer (2022) และส่วนขยาย Chrome กับ Firefox (2018) ส่วนขยายเบราว์เซอร์นั้นเป็นแบบโอเพนซอร์ซ ดังนั้นใคร ๆ ก็สามารถทำการตรวจสอบในแบบที่คล้ายกันได้ การตรวจสอบครั้งล่าสุดนั้นเป็นการตรวจสอบแอปบน Linux และ macOS ในปี 2022
PricewaterhouseCoopers เป็นหนึ่งในบริษัทตรวจสอบระดับชั้นนำของอุตสาหกรรม พวกเขาได้ใช้เวลาทั้งเดือนไปกับการตรวจสอบนโยบายความเป็นส่วนตัวของ ExpressVPN และเทคโนโลยี TrustedServer ด้วยการตรวจดูโค้ดและสัมภาษณ์ทีมงาน (2019)
KPMG เป็นผู้ทำการตรวจสอบองค์กรใหญ่ ๆ มากมายทั่วโลกในหลายอุตสาหกรรม ตั้งแต่บริษัทประกันไปจนกระทั่งองค์กรของรัฐบาล เมื่อปี 2022 พวกเขาก็ได้ทำการตรวจสอบเทคโนโลยี TrustedServer และนโยบายความเป็นส่วนตัวของ ExpressVPN ด้วย
F-secure ได้ทำการทดสอบความปลอดภัยให้กับธนาคารชั้นนำทั่วโลกหลายแห่ง เมื่อปี 2022 พวกเขาได้ตรวจสอบหาจุดอ่อนของแอป Windows v.12 แต่ก็ไม่พบจุดอ่อนใด ๆ
ExpressVPN เคยได้รับประกาศนียบัตรจาก ioXt Alliance สำหรับแอป Android มาแล้วด้วย แอปนี้ได้ถูกตรวจสอบในปี 2021 เกี่ยวกับปัญหาระดับต่ำด้านความปลอดภัย เพื่อให้มั่นใจว่าการออกแบบของมันนั้นมีความปลอดภัยและเชื่อถือได้
มีนาคม 2024 ที่ผ่านมา ExpressVPN ได้จ้าง Nettitude เพื่อทำการทดสอบการเจาะระบบที่ผ่านการรับรองของมันสำหรับแอปของ Windows หลังจากที่มีนักเขียนสายเทคโนโลยีได้รายงานการรั่วไหล การทดสอบนี้เจอความเสี่ยงในระดับกลางซึ่งทาง VPN ก็ได้แก้ไขอย่างรวดเร็ว การทดสอบเหล่านี้ทำให้ ExpressVPN เผยแพร่เปเปอร์ใน engrXiv Engineering Archive เพื่ออธิบายขั้นตอนการทดสอบการรั่วไหลของ DNS อย่างละเอียดอีกด้วย
มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่หมู่เกาะบริติชเวอร์จินที่เป็นมิตรต่อความเป็นส่วนตัว
สำนักงานใหญ่ของ ExpressVPN ตั้งอยู่ที่หมู่เกาะบริติชเวอร์จิน ซึ่งเป็นประเทศที่ไม่มีกฎหมายเรื่องการเก็บข้อมูล ประเทศที่บริษัท VPN ใช้ในการเปิดบริษัทนั้นมีความสำคัญมาก ๆ เนื่องจากมันจะต้องทำตามกฎหมายและข้อบังคับในพื้นที่ นอกจากกฎหมายด้านความเป็นส่วนตัวจะแข็งแกร่งแล้ว การขอหมายศาลก็เป็นเรื่องยากมาก ๆ อีกด้วย พวกเขาไม่มีโปรแกรมการสอดแนมหมู่ และ BVI ก็ยังอยู่นอกพื้นที่ของ พันธมิตร 14 Eyes (หรือ SIGINT Seniors Europe) อีกด้วย นี่เป็นข้อตกลงระหว่างประเทศที่จะแบ่งปันข้อมูลของผู้อยู่อาศัยในประเทศให้กันและกัน
ExpressVPN ใช้งานในประเทศจีนได้หรือไม่? ได้
ExpressVPN นั้นใช้งานในประเทศจีนได้ และมันก็มีเพจบนเว็บไซต์ของมันที่อธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้โดยเฉพาะ มันแนะนำให้คุณเลือก อัตโนมัติ สำหรับตัวเลือกโปรโตคอล และก็จะมีรายการเซิร์ฟเวอร์บางส่วนที่น่าจะใช้งานในจีนได้ให้ ประกอบไปด้วย สหรัฐอเมริกา - ลอสแอนเจลิส 5 และ สหราชอาณาจักร - เวมบลีย์ แต่ขอแนะนำให้เข้าไปดูที่เว็บไซต์ถ้าต้องการรายการที่อัปเดตล่าสุด นอกจากนี้ก็มีเซิร์ฟเวอร์ในฮ่องกง, ไต้หวัน และมาเก๊า ให้ใช้งานได้ด้วย
ด้วย ExpressVPN คุณมักจะได้แชทคุยกับตัวแทนภายในเวลาไม่ถึง 30 วินาที
เว็บไซต์ของ ExpressVPN นั้นจะถูกบล็อกในประเทศจีน เช่นเดียวกับเว็บไซต์ VPN อื่น ๆ อีกมากมาย แต่ ExpressVPN จะมี URL สำรองไว้ให้ใช้งานได้ในประเทศจีน จะดีที่สุดถ้าคุณติดต่อกับฝ่ายบริการลูกค้าโดยตรงเพื่อสอบถาม URL ล่าสุด ทางไลฟ์แชทยังได้บอกกับเราด้วยว่าบริการของพวกเขานั้นสามารถใช้งานในประเทศที่ถูกจำกัดประเทศอื่น ๆ อย่าง อิหร่าน, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, ตุรกี, รัสเซีย และซาอุดีอาระเบียได้
รัฐบาลจีนได้แบน VPN ต่าง ๆ มากมาย แต่ก็ยังไม่เคยมีรายงานคดีที่เผยแพร่ต่อสาธารณะเกี่ยวกับการที่พวกเขาจับกุมนักท่องเที่ยวที่ใช้งาน VPN เหล่านั้นมาก่อน เราและเพื่อนร่วมทีมไม่สนับสนุนให้คุณทำเรื่องผิดกฎหมายและก็ขอแนะนำให้คุณศึกษากฎหมายในประเทศให้ดีก่อนที่จะตัดสินใจใช้ VPN
การโหลดบิท: รองรับ P2P สำหรับทุกเซิร์ฟเวอร์เพื่อการดาวน์โหลดที่รวดเร็ว
10.0
ExpressVPN อนุญาตให้แชร์ไฟล์แบบ P2P ได้ด้วยแบนด์วิดท์ที่ไม่จำกัดบนทุกเซิร์ฟเวอร์ ดังนั้นมันจึงเหมาะสำหรับใช้โหลดบิทมาก ๆ มี VPN หลายรายที่จำกัดการใช้งาน P2P ให้ใช้ได้เฉพาะกับเซิร์ฟเวอร์พิเศษ แต่ ExpressVPN เปิดกว้างให้คุณเลือกตำแหน่งที่ดีที่สุดเพื่อความเร็วที่สูงที่สุดได้เลย ExpressVPN ใช้งานได้กับ qBitTorrent, Transmission, Vuze, Deluge, uTorrent และแอป P2P ชั้นนำอื่น ๆ ทั้งหมด
เพื่อเป็นการทดสอบในการโหลดบิทของ ExpressVPN พวกเราได้ใช้ Vuze ดาวน์โหลดภาพยนตร์ที่เป็นสาธารณสมบัติเรื่อง Night of the Living Dead ด้วยการใช้เซิร์ฟเวอร์สหราชอาณาจักร - มิดแลนส์ที่พวกเราไว้วางใจ พวกเราเคยสามารถดาวน์โหลดได้ด้วยความเร็ว 8.3 MB/s ทำให้ดาวน์โหลดไฟล์ขนาด 1.76 GB ได้เสร็จภายใน 4 นาที มันช้ากว่าตอนที่ดาวน์โหลดไฟล์ตอนที่ไม่ได้ใช้ VPN เพียงแค่ 1% เท่านั้น
ExpressVPN นั้นไม่มีพร็อกซี่ SOCKS5 มันมี port forwarding ให้ใช้งานได้ แต่มีเฉพาะในระดับเราเตอร์เท่านั้น มันจึงมีความซับซ้อนในการตั้งค่า เราแนะนำให้ใช้ VPN ปกติ เนื่องจากการป้องกันการรั่วไหลและ Network Lock ซึ่งเป็น kill switch จะช่วยรักษาความเป็นส่วนตัวให้กับการแชร์ไฟล์ของคุณตลอดเวลา
ในขณะที่การโหลดบิทนั้นเป็นสิ่งที่ถูกกฎหมายในประเทศส่วนใหญ่ แต่การดาวน์โหลดไฟล์ที่มีลิขสิทธิ์นั้นผิดกฎหมาย พวกเราขอกระตุ้นให้คุณใช้การโหลดบิทเพื่อเข้าถึงไฟล์ที่เป็นสาธารณสมบัติเท่านั้น เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงการทำผิดกฎหมาย
แอปและการติดตั้ง
10.0
ดีไซน์เรียบง่ายที่สร้างความพึงพอใจในการใช้งาน
แอปบนเดสก์ท็อปและอุปกรณ์เคลื่อนที่ของ ExpressVPN นั้นดูมีเสน่ห์, เสถียร และเป็นมิตรต่อผู้ใช้งาน มันมีดีไซน์ที่ดูเนี้ยบ ดูทันสมัย พร้อมปุ่มเปิดปิดขนาดใหญ่อยู่ตรงกลาง
เส้น 3 เส้นตรงมุมซ้ายบนจะพาคุณไปที่การตั้งค่า
เราชอบที่ รายการเซิร์ฟเวอร์และ Preferences (การกำหนดค่า) นั้นจะอยู่แยกกัน ทำให้ใช้งานได้ง่าย นอกจากนี้ ก็ยังถูกแยกออกเป็นหมวดหมู่ย่อยตามภูมิศาสตร์ถึง 4 หมวดหมู่ มันจึงค้นหาได้ง่าย ในขณะที่ Preferences (การกำหนดค่า) นั้นจะถูกจัดเรียงออกเป็นแท็บ 7 แท็บที่ระบุรายละเอียดไว้ชัดเจน
จริงอยู่ที่ฟีเจอร์ความปลอดภัยของมันนั้นปรับแต่งอะไรไม่ได้มากนัก แต่เพื่อเป็นการยกตัวอย่าง เราก็ไม่ได้รู้สึกถึงความจำเป็นของฟีเจอร์ Double VPN สักเท่าไร เพราะว่ามันมีการทำ obfuscation อัตโนมัติบนทุกเซิร์ฟเวอร์อยู่แล้ว และคุณก็ไม่ต้องเปลี่ยนไปใช้การเข้ารหัสแบบที่ต่ำกว่าด้วย เพราะ VPN ที่คุณใช้นั้นจะเร็วที่สุดอยู่แล้ว ฟังก์ชันต่าง ๆ ของมันนั้นก็มีครบแล้ว โดยที่มันถูกฝังมาในตัว
การตั้งค่าและติดตั้ง
ใช้เวลาเพียงไม่ถึง 3 นาที เราก็สามารถสมัครใช้งานและติดตั้ง ExpressVPN เสร็จแล้ว
เพียงแค่ค้นหาระบบปฏิบัติการของคุณบนเมนู และกดปุ่มดาวน์โหลด
Quick Guide: วิธีการติดตั้ง ExpressVPN ใน 3 ขั้นตอนง่าย ๆ
- Pick a plan. ไปที่เว็บไซต์ของ ExpressVPN เพื่อดำเนินการสมัครใช้งาน เลือกแพลนและกรอกข้อมูลของคุณ มันมีการรับประกันคืนเงินที่ยาวนานถึง 30 วัน ดังนั้นคุณจะทดลองใช้งานมันได้อย่างไม่มีความเสี่ยง
- ติดตั้งแอป ExpressVPN นั้นมีแอปเนทีฟที่ใช้งานง่ายสำหรับ Windows, macOS, Linux, Android และ iOS เพียงแค่ดาวน์โหลดแอปบนอุปกรณ์ที่คุณต้องการ จากนั้นก็กรอกโค้ดเปิดใช้งาน
- เชื่อมต่อไปยังเซิร์ฟเวอร์ เริ่มสตรีมมิ่ง, ท่องเว็บ, เล่นเกม หรือโหลดบิทอย่างปลอดภัยด้วย ExpressVPN ได้เลย
วิธีนี้จะใช้งานได้สำหรับอุปกรณ์ Windows, Mac, iOS และ Android ถ้าคุณใช้ Linux คุณจะต้องใช้ command line มันเกือบจะเร็วพอ ๆ กันกับการติดตั้งแบบเวอร์ชันอื่น ๆ และ ExpressVPN ก็มีวิธีการตั้งค่าอย่างละเอียดไว้ให้บนเว็บไซต์แล้ว
ความเข้ากันได้กับอุปกรณ์: ใช้งานกับฮาร์ดแวร์ต่าง ๆ ได้มากมาย
ExpressVPN รองรับระบบปฏิบัติการหลักทั้งหมดสำหรับอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่มีความหลากหลาย มันมีแอปเนทีฟสำหรับ Windows, macOS, Android, iOS และ Linux รวมถึงแอปเต็มสำหรับอุปกรณ์ Android TV ด้วย
นอกจากนี้ ก็ยังมีแอปเนทีฟสำหรับ Apple TVs, Amazon Fire TVs, Fire Sticks และ Chromecast with Google TV คุณสามารถเข้าถึงแอปพลิเคชันต่าง ๆ เหล่านี้ได้ผ่านทางสโตร์ของแต่ละอุปกรณ์ ExpressVPN นั้นยังถูกติดตั้งมาไว้ให้ตั้งแต่แรกเลยด้วยสำหรับสมาร์ททีวี TCL ที่เปิดขายตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 เป็นต้นไป โดยที่มันจะมาพร้อมกับสิทธิ์การทดลองใช้ฟรีเป็นเวลา 30 วัน
คุณยังสามารถเข้ารหัสการเชื่อมต่อของคุณได้บนเกือบทุกอุปกรณ์อีกด้วยผ่านการใช้แอปเนทีฟที่มีรองรับสำหรับเราเตอร์มากมาย นอกจากระบบปฏิบัติการเหล่านี้แล้ว MediaStreamer ยังช่วยให้คุณเชื่อมต่ออุปกรณ์ที่ปกติจะไม่รองรับ VPN ได้ด้วย อย่างเช่นเครื่องเล่นเกมและสมาร์ททีวี
เดสก์ท็อปคอมพิวเตอร์: แอปสำหรับ Windows, Mac และ Linux
แอปสำหรับทั้ง Windows และ Mac ของ ExpressVPN นั้นดูเกือบจะเหมือนกันเลย และก็ยังรองรับภาษาไทยทั้งคู่อีกด้วย อย่างไรก็ตาม มันมีฟีเจอร์ที่แตกต่างกันเล็กน้อย ในขณะทีทั้งสองแอปจะใช้โปรโตคอล OpenVPN กับ Lightway ได้ แต่จะมีเฉพาะ macOS เท่านั้นที่ใช้ IKEv2 ได้ อีกข้อแตกต่างหนึ่งก็คือคุณจะไม่ได้รับฟีเจอร์ split-tunneling ถ้าคุณใช้ OS11 ขึ้นไปบน Mac
คุณจะต้องใช้ Windows 7 หรือใหม่กว่า และ macOS 10.11 หรือเก่ากว่า ExpressVPN นั้นยังมีแอปเนทีฟสำหรับอุปกรณ์ Silicon Mac ของ Apple ด้วย (บางครั้งจะถูกเรียกว่า M1 และ M2) หลาย ๆ แอปนั้นต้องถูก "translated (แปล)" เพื่อให้ใช้งานบนอุปกรณ์เหล่านี้ได้ ซึ่งก็มักจะทำให้เกิดปัญหาต่าง ๆ แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาสำหรับเจ้านี้ เพียงแค่คุณอัปเดตไปใช้งานแอปสำหรับ Mac เวอร์ชันล่าสุด และ ExpressVPN ก็จะสามารถทำงานกับอุปกรณ์ Apple Silicon ของคุณได้อย่างเต็มรูปแบบ
นี่ทำให้คุณเปลี่ยนอุปกรณ์ได้อย่างง่ายดาย
เราพบว่าแอปของมันนั้นใช้งานได้ง่ายทั้ง 3 เวอร์ชันบนเดสก์ท็อป ถึงแม้ว่าสำหรับ Linux จะต้องใช้เวลาเรียนรู้ command สักพักหนึ่งก็ตาม มันไม่มีส่วนต่อประสานกราฟิกกับผู้ใช้ (GUI) ส่วนใหญ่ไม่ค่อยมี VPN ไหนที่มีอยู่แล้ว แต่ Private Internet Access นั้นจะมีให้คุณใช้ควบคุมได้แบบเดียวกับแอป PC หรือ Mac เลย
iOS และ Android
โดยทั่วไปนั้น แอปสำหรับ Android และ iOS ก็จะดูเหมือน ๆ กับบนเดสก์ท็อป และมันยังสามารถแสดงค่าเป็นภาษาไทยได้อีกด้วย
แอป Android นั้นมีฟีเจอร์เหมือนกันกับแอปบนเดสก์ท็อป (split tunneling, kill switch, auto-connect) และฟีเจอร์เสริมอีกเล็กน้อย นอกจากนี้ยังมีเคล็ดลับอยู่ด้านล่างหน้าโฮมซึ่งจะลิงก์คุณไปยังบล็อกของ ExpressVPN อีกด้วย
อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ไม่เหมือนใครบนแอป Android ก็คือมันสามารถปิดการถ่ายภาพหน้าจอได้ นี่จะช่วยป้องกันไม่ให้แอปหรือคนสอดแนมมาดูข้อมูลละเอียดอ่อนบนหน้าจอแอป ExpressVPN ของคุณได้
Apps สำหรับ iOS นั้นมักจะไม่มี split-tunneling ซึ่งก็เป็นไปตามดีไซน์ของมัน
ExpressVPN Keys นั้นเป็นเครื่องมือจัดการรหัสผ่านที่พวกเขาพัฒนาขึ้นเอง มีให้ใช้งานได้บนแอป Android และ iOS มันมีพื้นที่จัดเก็บไม่จำกัดพร้อมการเข้ารหัสสำหรับรหัสผ่านออนไลน์ทั้งหมด ทำให้การเข้าถึงบัญชีกลายเป็นเรื่องง่าย นอกจากนี้ก็ยังมีเครื่องมือสร้างรหัสผ่านสำหรับการสร้างรหัสผ่านที่มีความปลอดภัยและไม่ซ้ำกันสำหรับแต่ละบริการอีกด้วย Keys นั้นสามารถใช้งานบน Windows, macOS และ Linux ได้ผ่านทางส่วนขยายเบราว์เซอร์ของมัน
ส่วนขยายเบราว์เซอร์สำหรับ Chrome, Firefox, Edge, Brave และ Vivaldi
ส่วนขยายเบราว์เซอร์ของ ExpressVPN นั้นจะเพิ่มตัวเลือกความปลอดภัยให้คุณยิ่งขึ้นไปอีก แต่คุณจะสามารถใช้งานมันได้เฉพาะบนเดสก์ท็อป มันมีส่วนขยายสำหรับเบราว์เซอร์โดยเฉพาะบน Chrome และ Firefox คุณสามารถเพิ่มมันบน Microsoft Edge ได้เช่นกัน แต่คุณจะต้องดาวน์โหลดมันผ่าน Chrome Web Store และอนุญาตให้ส่วนขยายจาก store อื่นใช้งานได้ในการตั้งค่าของ Edge เช่นเดียวกันกับ Brave และ Vivaldi
แทนที่จะทำตัวเป็นพร็อกซี่ ส่วนขยายเหล่านี้จะทำตัวเป็นเหมือนรีโมทควบคุมสำหรับแอปของคุณแทน นี่เป็นสิ่งที่ดีมากเพราะมันจะทำให้คุณเข้าถึงฟีเจอร์ทั้งหมดของแอปได้เลย คุณจะต้องดาวน์โหลด ExpressVPN ไว้บนเดสก์ท็อปของคุณก่อน การเชื่อมต่อในเบราว์เซอร์จะเป็นการเชื่อมต่อในแอปของคุณด้วย
แอปสำหรับ Amazon Fire TV, Smart TV, Apple TV, Nvidia Shield
แอปเนทีฟนั้นรองรับสมาร์ททีวีและอุปกรณ์ที่ใช้เล่นสื่อต่าง ๆ หลายรุ่น ดังนั้นคุณจึงไม่จำเป็นต้องไซด์โหลดมันผ่านไฟล์ APK (แต่ก็สามารถทำได้ หากคุณต้องการ)
ผู้ทดสอบของพวกเราติดตั้ง ExpressVPN บน Amazon Fire Stick มันใช้เวลามากกว่าบนแอปเดสก์ท็อปเล็กน้อยเนื่องจากเขาต้องใช้รีโมทของเขาในการใส่รายละเอียดของเขา หลังจากที่ติดตั้งแล้ว มันก็จะทำงานได้อย่างราบรื่นและมีความสม่ำเสมอกับแอปสำหรับแพลตฟอร์มอื่น ๆ
MediaStreamer จะทำให้คุณสามารถเชื่อมต่อ ExpressVPN เข้ากับอุปกรณ์ที่ปกติจะไม่สามารถใช้ VPN ได้ อย่างเช่นเครื่องเล่นเกมและสมาร์ททีวีรุ่นเก่า ๆ อุปกรณ์เหล่านี้ปกติจะไม่รองรับการใช้งาน VPN แต่คุณสามารถปรับค่าเซิร์ฟเวอร์ DNS ตั้งต้นได้ นี่เป็นการเปลี่ยนที่อยู่ของเซิร์ฟเวอร์ DNS ในการตั้งค่าอินเทอร์เน็ตบนอุปกรณ์ของคุณให้ไปใช้ที่อยู่ DNS ของ MediaStreamer แทน
โปรดทราบว่า MediaStreamer นั้นมีไว้ใช้ในการสตรีมมิ่งเท่านั้น และมันจะไม่เหมือนกับ VPN ตัวเต็ม เนื่องจากคุณจะไม่สามารถเปลี่ยนไปเลือกตำแหน่งต่าง ๆ ได้ หลังจากที่เชื่อมต่อกับ MediaStreamer DNS แล้ว ตำแหน่งในสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรก็จะใช้งานได้ นี่ทำให้คุณสามารถเข้าถึงแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งยอดนิยมในประเทศเหล่านั้นในคุณภาพความชัดสูงได้จากทุกที่ทั่วโลก
การใช้งาน MediaStreamer จะเป็นการใช้งานสิทธิ์ของหนึ่งใน 8 การเชื่อมต่อพร้อมกัน มันจะไม่เข้ารหัสทราฟฟิคของคุณ และก็จะไม่ซ่อนที่อยู่ IP ของคุณ ดังนั้นคุณจะไม่ได้รับการป้องกันในรูปแบบเดียวกับการที่ใช้แอป VPN อย่างเต็มรูปแบบ อย่างไรก็ตาม ด้วยเหตุผลนี้เองทำให้พวกเราสังเกตเห็นว่าความเร็วนั้นไม่ตกลงไปเลยตอนที่ใช้งาน
เพื่อนร่วมงานใช้เวลาเพียงไม่ถึง 5 นาทีในการตั้งค่า MediaStreamer บนสมาร์ททีวี LG ที่พวกเขาต้องทำก็แค่ลงทะเบียนที่อยู่ IP ของพวกเขาในบัญชี ExpressVPN ของพวกเขา พวกเขาได้รับที่อยู่ IP ใหม่ของ MediaStreamer มา และมันก็ใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีในการกรอกที่อยู่ใหม่เข้าไปในการตั้งค่าเครือข่ายในทีวีของพวกเขา
ใช้งานเข้ากันได้กับเราเตอร์
ExpressVPN นั้นมีแอปแบบเบราว์เซอร์สำหรับเราเตอร์พร้อมการตั้งค่าที่กำหนดเองบนบางอุปกรณ์ นี่เป็นฟีเจอร์ที่ดีมากที่ทำให้ ExpressVPN มีความแตกต่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องความง่ายในการใช้งาน มันมี VPN อยู่ไม่มากนักที่มีแอปที่ดูเนี้ยบแบบนี้สำหรับเราเตอร์
การติดตั้งแอปบนนั้นจะทำให้คุณได้ประโยชน์หลายอย่าง คุณจะสามารถใช้งานเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมดของ ExpressVPN ได้, สามารถป้องกันอุปกรณ์ทั้งหมดที่ลิงก์เข้ากับเครือข่ายที่บ้าน แม้แต่อุปกรณ์ที่ไม่รองรับซอฟต์แวร์ VPN ก็ใช้ได้ นี่จะยิ่งมีประโยชน์เป็นพิเศษถ้าคุณต้องการใช้ ExpressVPN กับ Roku
นอกจากนี้มันยังทำการเข้ารหัสการเชื่อมต่อของคุณและหลบหลีกการจำกัดความเร็วบนเครื่องเล่นเกม, สมาร์ททีวี และอุปกรณ์สตรีมมิ่งอีกมากมายซึ่งรวมถึง Chromecast รุ่นเก่าด้วย แต่ที่เราชอบที่สุดเกี่ยวกับการติดตั้งบนเราเตอร์ก็คือมันจะทำให้คุณสามารถปกป้องอุปกรณ์ได้อย่างไม่จำกัดจำนวนเลย
แอปบนเราเตอร์นั้นจะมีฟีเจอร์มาในตัวด้วยอย่างเช่น kill switch และ split tunneling แถมคู่มือการติดตั้งนั้นก็เข้าใจง่าย และเราก็สามารถใช้งานมันได้ภายในเวลาไม่ถึง 10 นาที แอปนั้นสามารถใช้งานได้กับเราเตอร์หลายรุ่น ของ Asus, Linksys, Netgear, Microsoft และอื่น ๆ
วิธีการที่ง่ายที่สุดถ้าต้องการจะใช้งานเลย ก็คือการซื้อเราเตอร์ที่ติดตั้ง ExpressVPN มาแต่แรกแล้ว อย่างไรก็ตาม นี่จะเป็นวิธีที่แพงที่สุด คุณสามารถค้นหาเราเตอร์ที่มีเฟิร์มแวร์ซึ่งกำหนดค่าไว้ให้คุณแล้วได้มากมายบนเว็บไซต์ของ ExpressVPN
ExpressVPN นั้นยังได้สร้าง Aircove 6 ซึ่งเป็นเราเตอร์ WiFi ของพวกเขาเองด้วย ด้วยแอปเราเตอร์ของ ExpressVPN ที่ติดตั้งมาล่วงหน้าแล้ว มันจะทำให้คุณแบ่งกลุ่มอุปกรณ์ของคุณออกได้เป็น 5 กลุ่ม ซึ่งเชื่อมต่อไปเซิร์ฟเวอร์ที่ต่างกัน
เทคโนโลยี WiFi 6 ของมันทำให้มันมีความเร็วสูง และก็ยังมีเวอร์ชันพกพาที่ชื่อ Aircove Go ซึ่งไม่ต้องใช้สายอีเทอร์เน็ตในการเชื่อมต่อ เนื่องจากคุณสามารถเชื่อมต่ออย่างไร้สายได้ มันจึงเหมาะมากถ้าคุณเดินทางพร้อมกับอุปกรณ์ต่าง ๆ Aircove ทุกรุ่นนั้นยังผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยอย่างอิสระโดย Cure53 มาแล้วด้วย
เชื่อมต่อได้พร้อมกันกี่อุปกรณ์
คุณสามารถใช้ ExpressVPN ได้บน 8 อุปกรณ์ที่แตกต่างกันออกไปในเวลาเดียวกันสำหรับแพลนทั้งหมด เรารู้สึกประทับใจมากที่พวกเขาเพิ่มจำนวนให้ โดยไม่เพิ่มราคา จากที่ก่อนหน้านี้ให้แค่ 5 อุปกรณ์ นี่เป็นจำนวนซึ่งมากกว่าที่ VPN ส่วนใหญ่เปิดให้ใช้งานได้ แต่ก็มีบางรายที่ให้ใช้ได้ไม่จำกัดเลยเช่นกัน (ตัวหลัก ๆ คือ Surfshark, Private Internet Access และ IPVanish)
เพื่อเป็นการทดสอบเรื่องนี้ เราได้ติดตั้ง ExpressVPN บนแล็ปท็อป Windows, เดสก์ท็อป Mac, iPhone และแท็บเล็ต Android เราดูวิดีโอ YouTube เดียวกันบนแต่ละเครื่อง ในขณะที่เล่น Doom Eternal แบบผู้เล่นหลายคนทางออนไลน์ไปด้วย วิดีโอในแต่ละเครื่องต่างก็มีความชัดคงที่ตลอด ไม่มีการบัฟเฟอร์เลย และเกมที่เล่นก็ไม่แลคด้วย ดังนั้น การเชื่อมต่อพร้อมกันหลายอุปกรณ์ก็จะไม่ส่งผลต่อประสิทธิภาพของ ExpressVPN
แต่คุณก็สามารถใช้งานบนอุปกรณ์ไม่จำกัดได้เหมือนกันถ้าคุณติดตั้ง ExpressVPN ไว้บนเราเตอร์ของคุณ มันสามารถติดตั้งใช้งานได้ง่ายกว่า VPN รายอื่น ๆ เพราะว่ามันมีแอปและเฟิร์มแวร์เนทีฟที่รองรับสำหรับเราเตอร์โดยเฉพาะ หลังจากที่ติดตั้งบนเราเตอร์แล้ว คุณก็จะสามารถเชื่อมต่อได้ไม่จำกัดจำนวนอุปกรณ์