CyberGhost VPN รีวิว - ใช้งานได้ปปลอดภัยใน2024 หรือเปล่า

CyberGhost เป็นหนึ่งใน VPN ที่มีราคาถูกที่สุด คุณสามารถรับบริการได้ในราคาเพียง $2.03/เดือน บางครั้งฉันคิดว่าราคาสามารถบ่งบอกถึงคุณภาพได้ แต่มันก็ไม่เป็นแบบนั้นเสมอไป ดังนั้นฉันจึงต้องการดูว่า CyberGhost สามารถให้บริการที่ดีในราคาต่ำเช่นนี้ได้หรือไม่

ฉันได้เจาะลึกเกี่ยวกับเจ้าของ นโยบายความเป็นส่วนตัวและมาตรการรักษาความปลอดภัยของ CyberGhost เพื่อพิจารณาว่าปลอดภัยพอที่ฉันจะแนะนำหรือไม่ ฉันยังดูที่เครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ ความเร็ว การสตรีมและการรองรับการทอร์เรนต์และฟีเจอร์เพิ่มเติมต่าง ๆ เพื่อดูว่าบริการนี้ใช้งานได้ง่ายแค่ไหน

สรุป: CyberGhost นั้นเป็นตัวเลือก VPN ที่ดีมากในหลาย ๆ ด้าน มันมีความปลอดภัย เชื่อถือได้ และเป็นหนึ่งใน VPN ที่ดีที่สุดสำหรับใช้ปลดบล็อกแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง นอกจากนี้มันยังใช้งานง่าย จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับมือใหม่หัดใช้ VPN

และมันก็ยังมาพร้อมกับการรับประกันคืนเงินที่นานกว่าปกติ ทำให้คุณสามารถทดลองใช้ CyberGhost ได้อย่างไม่มีความเสี่ยงเป็นเวลา 45 วัน เราตรวจสอบให้แน่ใจมาแล้วว่าการรับประกันนั้นเชื่อถือได้ — ใช้เวลาไม่กี่นาทีเราก็ได้รับการยืนยันการขอคืนเงินผ่านไลฟ์แชท 24/7 แล้ว และหลังจากนั้นไม่กี่วันก็ได้รับเงินคืนเต็มจำนวน

ทดลองใช้ CyberGhost อย่างไม่มีความเสี่ยง >>

CyberGhost เป็นหนึ่งใน VPN ที่ดีที่สุดหากคุณต้องการเลี่ยงการจำกัดทางภูมิศาสตร์สำหรับการสตรีม การรับชมรายการบน Netflix, Disney+ และ BBC iPlayer เป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายราบรื่นและไม่มีปัญหาใด ๆ

Amazon Prime Video ขึ้นชื่อว่ามีการปิดกั้นที่แข็งแกร่งเป็นพิเศษ แต่เซิร์ฟเวอร์ที่ปรับให้เหมาะสมของ CyberGhost สามารถเข้าถึงแพลตฟอร์มได้ในทันที

มีบริการบางอย่างที่ต้องมีการแก้ไขปัญหาก่อนเข้าถึง แต่ก็ใช้เวลาไม่นาน เว็บเดียวที่ฉันไม่สามารถปลดบล็อกได้คือ SkyTV และ DAZN ฉันทดสอบตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์มากกว่า 50 ตำแหน่งเพื่อปลดบล็อกแพลตฟอร์มต่อไปนี้:

CyberGhost ยังมีเซิร์ฟเวอร์ที่ได้รับการปรับให้เหมาะสมซึ่งตั้งค่าไว้สำหรับการสตรีมโดยเฉพาะ เซิร์ฟเวอร์เหล่านี้อยู่ที่ด้านซ้ายมือของแอพพลิเคชั่น ในเมนูที่มีเซิร์ฟเวอร์เฉพาะทั้งหมด

เมื่อคลิกที่ลูกศรตรงกลางแอพพลิเคชั่นจะเปิดเมนูเซิร์ฟเวอร์

ตัวเลือก "สำหรับการสตรีม" จะแสดงเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมดที่ออกแบบมาสำหรับแต่ละแพลตฟอร์ม เซิร์ฟเวอร์ที่ปรับให้เหมาะสมเป็นวิธีที่น่าเชื่อถือที่สุดในการปลดบล็อก HBO Max, Hulu และ Amazon Prime Video ฉันสามารถปลดบล็อคบริการอื่น ๆ ส่วนใหญ่ได้ด้วยเซิร์ฟเวอร์มาตรฐาน แต่ความเร็วของฉันมักจะช้าลงเกือบทุกครั้ง เซิร์ฟเวอร์เฉพาะเหล่านี้ช่วยลดเวลาในการค้นหาได้อย่างมากเมื่อฉันทดสอบใช้งาน คุณไม่ต้องกังวลกับการค้นหาเซิร์ฟเวอร์ที่ดีที่สุดสำหรับแต่ละบริการสตรีมมิง เพราะว่าพวกเขาสร้างบริการนี้มาให้คุณแล้ว

สามารถปลดบล็อค: Netflix US/UK และไลบารีอื่น ๆ

ฉันต้องการดูว่า CyberGhost สามารถเข้าถึง Netflix อเมริกาได้หรือไม่ ดังนั้นฉันจึงเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์สำหรับสตรีมในนิวยอร์ค ด้วยระยะห่างระหว่างตำแหน่งของฉันในแคลิฟอร์เนียและเซิร์ฟเวอร์ในชายฝั่งตะวันออก ฉันคาดว่าความเร็วของฉันอาจจะลดลงเล็กน้อย แต่ฉันรู้สึกประหลาดใจที่มันไม่ได้ช้าลงเลยสักนิด ฉันดู Phantom Thread บน Netflix อเมริกาได้โดยแทบไม่มีการสะดุดเลย

มีเซิร์ฟเวอร์ที่ปรับให้เหมาะกับ Netflix ใน 7 ประเทศ

การปลดบล็อกไลบารีเนื้อหาในสหราชอาณาจักรนั้นง่ายพอ ๆ กัน หลังจากเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ที่ปรับให้เหมาะกับ Netflix UK แล้ว ฉันเข้าสู่ระบบและเริ่มสตรีม The One รายการสามารถโหลดทันทีในรูปแบบ Full HD และเล่นโดยไม่มีการสะดุดเลย สิ่งนี้น่าประทับใจกว่าประสิทธิภาพของแอพพลิเคชั่นกับ US Netflix เล็กน้อย แต่นั่นอาจเป็นผลมาจากการที่มีผู้ใช้น้อยกว่า
โปรดทราบ: โปรดทราบว่าแนวโน้มความเร็วนี้มีความคล้ายคลึงกันในหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทย

ฉันยังทดสอบเซิร์ฟเวอร์ที่ธรรมดาในลอนดอน โตเกียว ปารีส โรม มุมไบ เฮลซิงกิ เมลเบิร์น โตรอนโต เซาเปาโล แฟรงก์เฟิร์ตและอีก 6 ประเทศ เซิร์ฟเวอร์ทั้งหมดสามารถเข้าถึงไลบรารี Netflix ในแต่ละพื้นที่ได้อย่างง่ายดายและมีความเร็วเฉลี่ย 54 Mbps ซึ่งเพียงพอสำหรับการสตรีมแบบ HD ได้โดยไม่กระตุก สิ่งนี้ทำให้ CyberGhost เป็นตัวเลือกยอดเยี่ยมหากคุณเดินทางบ่อยและต้องการดูรายการที่มีเฉพาะใน Netflix ในพื้นที่ของคุณ

การปลดบล็อก: Disney+

เนื่องจาก Disney+ ได้ปรับปรุงเทคโนโลยีการตรวจจับ VPN ฉันต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่า CyberGhost ยังคงสามารถหลีกเลี่ยงการบล็อกของบริการนี้ได้ ก่อนอื่นฉันเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ที่ได้รับการปรับแต่งในลาสเวกัสซึ่งสามารถใช้เพื่อเข้าถึง Disney+ ได้— แต่มันมีความเร็วช้านิดหน่อย ฉันสามารถรับชมSoul ในรูปแบบ HD ได้ แต่ฉันต้องรอหนังโหลดประมาณ 20 วินาทีในตอนเริ่มต้น ฉันมีความเร็วที่ดีขึ้นเมื่อเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ในนิวยอร์คของ CyberGhost (ไม่ได้รับการปรับให้เหมาะสม) ซึ่งโหลด Soul ได้เร็วกว่ามาก นอกจากนี้ยังมีเซิร์ฟเวอร์ที่ปรับให้เหมาะสมสำหรับ Disney+ ในอิตาลีซึ่งสามารถปลดบล็อกแพลตฟอร์มได้เช่นกัน

อย่างไรก็ตามเซิฟเวอร์นิวยอร์คที่ไม่ได้รับการปรับแต่งนั้นมีความเร็วกว่าเล็กน้อย

การปลดบล็อก: Amazon Prime Video

Amazon Prime Video ทำการบล็อก VPN อยู่เสมอและ VPN ชั้นนำอื่น ๆ อีกมากมายที่ฉันทดสอบนั้นไม่สามารถเข้าถึงบริการนี้ได้อีกต่อไป นี่คือเหตุผลที่ฉันตื่นเต้นเมื่อเห็นว่า CyberGhost สามารถเข้าถึง Prime Video ได้อย่างง่ายดายด้วยสำหรับสตรีมในสหรัฐอเมริกา ฉันสามารถดู Wheel of Time ในแบบ HD ได้โดยไม่สะดุด

เซิร์ฟเวอร์ที่ปรับให้เหมาะสมของสหรัฐฯ เป็นเซิร์ฟเวอร์เดียวที่สามารถปลดบล็อก Prime Video ได้

นอกจากนี้ยังมีเซิร์ฟเวอร์ที่ปรับให้เหมาะสมสำหรับสหราชอาณาจักรด้วย แต่มันใช้งานไม่ได้ ฉันได้ทดลองใช้เซิร์ฟเวอร์มาตรฐานของสหราชอาณาจักร 6 เซิร์ฟเวอร์และพวกเขาไม่สามารถหลีกเลี่ยงการปิดกั้นได้ (ซึ่งแสดงให้เห็นว่าความปลอดภัยของ APV มีมากแค่ไหน) เนื่องจากฉันอาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา ฉันจึงต้องการเข้าถึงไลบารีเนื้อหาของสหรัฐฯ ได้ขณะเดินทางไปทุกที่ (มีรายการให้เลือกรับชมมากที่สุด) ดังนั้นฉันจึงไม่ผิดหวังเท่าไหร่ที่เซิร์ฟเวอร์ของสหราชอาณาจักรใช้งานไม่ได้

การปลดบล็อก: Hulu

ฉันปลดบล็อก Hulu ได้อย่างยากลำบากในตอนแรก แต่ในที่สุดก็สามารถเข้าถึงได้ ฉันใช้ฟังก์ชันไลฟ์แชทบนเว็บไซต์ของ CyberGhost เพื่อขอความช่วยเหลือและเจ้าหน้าที่ก็ให้คำแนะนำในการแก้ปัญหาง่ายๆ เพื่อแก้ไขปัญหาของฉัน

ฉันแค่ต้องเปลี่ยนจาก Google Chrome เป็น Firefox เพื่อปลดบล็อกแพลตฟอร์ม เมื่อทำตามขั้นตอนเสร็จแล้ว ฉันก็สามารถโหลด Young Rock ได้อย่างรวดเร็ว ภาพมีคุณภาพต่ำในตอนแรก แต่ในไม่ช้าก็อัพเกรดเป็น HD

เคล็ดลับอีกอย่างหนึ่งคือการออกจาก CyberGhost และโหลดเซิร์ฟเวอร์ที่ปรับให้เหมาะสมใหม่หากคุณมีปัญหา

และยังสามารถเข้าถึง: HBO Max, Kodi, BBC iPlayer, TF1 และอื่น ๆ อีกมากมาย

ฉันมีปัญหาแปลก ๆ ในการเข้าถึง HBO Max หลังจากเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ที่ได้รับการปรับแต่งในชิคาโกแล้ว ฉันก็เข้าสู่เว็บไซต์ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อฉันป้อนรายละเอียดการเข้าสู่ระบบ บริการกลับบอกฉันว่าข้อมูลของฉันไม่ถูกต้อง มันไม่เป็นความจริงเพราะฉันคัดลอกและวางรหัสลงในแพลตฟอร์มเหมือนกับตอนที่ไม่ได้เชื่อมต่อ VPN และมันใช้งานได้

ฉันตัดสินใจใช้การแก้ปัญหาแบบเดียวกับที่เคยใช้ก่อนหน้านี้เพื่อปลดบล็อก Hulu หลังจากเปลี่ยนมาใช้ Firefox ฉันได้เปิด HBO Max และสามารถโหลด The Nevers ได้ใน 3 วินาที

ด้วยการแก้ไขปัญหาง่าย ๆ ฉันก็สามารถหลีกเลี่ยงการปิดกั้นทางภูมิศาสตร์ของ HBO Max ได้แล้ว

ฉันยังประทับใจกับประสิทธิภาพการทำงานของ CyberGhost กับ Kodi อีกด้วย — บริการสามารถปลดบล็อกส่วนเสริมที่ฉันชอบทั้งหมดได้โดยไม่ต้องรอให้โหลดนานกว่าหนึ่งนาที ฉันชอบที่จะใช้มันเพื่อดู Vimeo บน Android TV ของฉัน ดังนั้นฉันจึงโหลดโดยใช้แอพพลิเคชั่น CyberGhost สำหรับ Android เนื่องจาก Android TV ของฉันค่อนข้างเก่าและช้า ฉันคาดว่าความเร็วจะลดลงเมื่อโหลดแอพพลิเคชั่นเสริมจำนวนมาก — แต่ฉันคิดผิด แอพพลิเคชั่นนี้มีขนาดเล็กมาก ฉันแทบไม่สังเกตเห็นความแตกต่างและสามารถสตรีมในรูปแบบ HD ได้โดยไม่สะดุด

CyberGhost ยังสามารถปลดบล็อก BBC iPlayer ได้อย่างง่ายดาย ฉันกังวลเล็กน้อยเกี่ยวกับสิ่งนี้เพราะฉันมีปัญหาในการปลดบล็อกบริการนี้กับ VPN อื่น ๆ อย่างไรก็ตาม เซิร์ฟเวอร์ที่ปรับให้เหมาะสมของ CyberGhost ช่วยให้ฉันดู Sherlock ได้โดยไม่สะดุด

ไม่สามารถเข้าถึง: SkyTV และ DAZN ได้

CyberGhost ไม่สามารถปลดบล็อก Sky TV หรือ DAZN ได้ หลังจากลองใช้เซิร์ฟเวอร์ในสหราชอาณาจักร 5 เซิร์ฟเวอร์แล้ว ฉันขอให้ตัวแทนสนับสนุนในไลฟ์แชทสดแนะนำเซิร์ฟเวอร์ที่ดีที่สุดในการรับชม Sky TV ตัวแทนฝ่ายสนับสนุนลูกค้าแจ้งให้เราทราบว่า CyberGhost ไม่สามารถใช้ได้ ฉันมีปัญหาคล้ายกันกับ DAZN — หลังจากลองใช้เซิร์ฟเวอร์ใน 4 ประเทศ ฉันติดต่อฝ่ายสนับสนุนและพวกเขาก็พูดแบบเดียวกัน

ตัวแทนในไลฟ์แชทยืนยันว่า CyberGhost ใช้งานไม่ได้กับ Sky TV หรือ DAZN

CyberGhost ยังมีการรายงานสถานะในส่วนคำถามที่พบบ่อยของเว็บไซต์ ซึ่งจะแจ้งให้คุณทราบว่ามีแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งใดบ้างที่ใช้งานไม่ได้ในขณะนี้

ส่วนลด 84%

ประหยัด 84% กับ CyberGhost เลยตอนนี้!

การันตีการคืนเงิน: 45 วัน

และใช้งานฟรี 4 เดือน!

รับเลยตอนนี้!

ความเร็วที่รวดเร็วของ CyberGhost นั้นเหมาะสำหรับการสตรีม เล่นเกม และดาวน์โหลดทอร์เรนต์ ฉันประสบกับความเร็วที่ไม่สอดคล้องกันบนเซิร์ฟเวอร์ทางไกล ในขณะที่บางเซิร์ฟเวอร์นั้นช้าเกินไปสำหรับการเล่นเกม แต่บางเซิร์ฟเวอร์ก็ให้ความเร็วที่ยอดเยี่ยมมากซึ่งไม่ส่งผลเสียต่อประสบการณ์ใช้งานของฉันเลย ฉันยังสามารถใช้งาน เล่นเกมและดูภาพยนตร์ได้โดยไม่มีการสะดุด

การทดสอบของฉันดำเนินการทั้งหมดบนแล็ปท็อป Microsoft Surface ที่ใช้ Windows 10 ฉันใช้เครื่องมือทดสอบความเร็วของ Ookla เพื่อบันทึกความเร็วของฉัน เพื่อให้ผลลัพธ์ของฉันสอดคล้องกัน ฉันได้ทำการทดสอบทั้งหมดเหล่านี้โดยตั้งค่า CyberGhost เป็นโปรโตคอล IKEv2

ในขณะที่ทดสอบความเร็ว ฉันดู 3 สิ่งนี้:

• ความเร็วในการดาวน์โหลด คือความเร็วที่คุณจะได้รับจากเซิร์ฟเวอร์ที่คุณใช้อยู่ มีหน่วยวัดเป็นเมกะบิตต่อวินาที (Mbps) ข้อมูลนี้ช่วยให้คุณทราบว่าคุณสามารถโหลดหน้าเว็บ สตรีมวิดีโอและกิจกรรมอื่น ๆ ได้เร็วเพียงใด
• ความเร็วในการอัปโหลด คือความเร็วที่คุณสามารถถ่ายโอนข้อมูลไปยังเซิร์ฟเวอร์ได้ มีหน่วยวัดเป็นเมกะบิตต่อวินาที (Mbps) ข้อมูลนี้จะบอกคุณว่าคุณจะสามารถส่งอีเมล อัปโหลดวิดีโอ โพสต์ไปยังโซเชียลมีเดียและทำกิจกรรมอื่น ๆ ได้เร็วเพียงใด
• Ping คือระยะเวลาที่ข้อมูลใช้ในการเดินทางจากจุด A ไปยังจุด B หากค่า ping ต่ำ คุณจะมีการเชื่อมต่อที่ตอบสนองมากขึ้น สิ่งนี้สำคัญมากเมื่อคุณเล่นเกมออนไลน์ มีหน่วยวัดเป็นมิลลิวินาที (ms)

ฉันทดสอบตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์มากกว่า 30 แห่งและไม่มีตำแหน่งไหนมีความเร็วในการดาวน์โหลดต่ำกว่า 38 Mbps เลย

ความเร็วลดลงในเซิร์ฟเวอร์ทางไกล

โดยส่วนใหญ่แล้วความเร็วจะลดลงเมื่อเซิร์ฟเวอร์อยู่ห่างออกไป แต่อย่างไรก็ตาม มีบางอย่างที่ไม่สอดคล้องกัน ตัวอย่างเช่น ซานฟรานซิสโกอยู่ใกล้ฉันมากกว่าฟีนิกซ์ ดังนั้นฉันควรมีความเร็วที่ดีกว่าในซานฟรานซิสโก (เนื่องจากข้อมูลของฉันไม่ต้องเดินทางไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ไกล) อย่างไรก็ตาม เซิร์ฟเวอร์ Phoenix ให้ความเร็วที่ดีกว่ากับฉัน เซาเปาโลเร็วกว่าเรคยาวิก 67 Mbps แม้ว่าจะอยู่ห่างออกไปกว่า 4,000 กม. หากคุณกำลังมองหาความเร็วที่รวดเร็ว ทางออกที่ดีที่สุดคือเลือกเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ใกล้เคียงตำแหน่งจริงของคุณ

ฉันเริ่มต้นด้วยการบันทึกความเร็วโดยไม่ได้เชื่อมต่อ VPN จากนั้นฉันก็ใช้ฟีเจอร์ Best Server Location (ระบบจะค้นหาเซิร์ฟเวอร์ที่ดีที่สุดให้คุณโดยอัตโนมัติตามความหน่วง ความเร็วและระยะทาง) มันเชื่อมต่อฉันกับสถานที่แห่งหนึ่งในลอสแองเจลิส

เป็นเรื่องปกติที่ VPN จะชะลอความเร็วการเชื่อมต่อของคุณเล็กน้อย เนื่องจากต้องใช้เวลาเพิ่มเติมในการเข้ารหัสการรับส่งข้อมูลและเดินทางไปยังเซิร์ฟเวอร์ VPN (ความเร็วจะลดลง 10-25% เป็นปกติ แม้กระทั่ง VPN ที่เร็วที่สุด) ดังนั้นความเร็วที่ลดลง 10% จึงเป็นผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยม

เนื่องจากความเร็วอินเทอร์เน็ตของฉันเร็วกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกมากกว่า 50% (ประมาณ 100 Mbps) ฉันจึงสงสัยว่า CyberGhost จะทำงานอย่างไรเมื่อมีการเชื่อมต่อที่ช้ากว่า ผู้ทดสอบ VPN ของเราในเบลเยียมมีผลลัพธ์ดังต่อไปนี้ (ใช้แล็ปท็อป Windows 10 Surface กับ IKEv2):

เพื่อนร่วมงานของฉันยังได้รับความเร็วที่ดีที่สุดเมื่อใช้ฟีเจอร์ Best Server Location

ความเร็วของเธอลดลง 9% โดยใช้ตัวเลือก Best Server Location (ซึ่งให้เซิร์ฟเวอร์บรัสเซลส์กับเธอ) จากที่ตั้งของเธอในเบลเยียม ซึ่งเกือบจะเหมือนกับผลลัพธ์ของฉัน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องดีที่เห็นว่าความเร็วที่ลดลงใกล้เคียงกันเมื่อเปรียบเทียบการเชื่อมต่อที่แตกต่างกันใน 2 ตำแหน่ง

เซิร์ฟเวอร์ท้องถิ่น

ไม่ว่าการเชื่อมต่อพื้นฐานของคุณจะเร็วหรือช้าเพียงใด เซิร์ฟเวอร์ในพื้นที่จะให้ความเร็วที่ดีแก่คุณ หลังจากเชื่อมต่อกับลอสแองเจลิสโดยใช้ฟีเจอร์ Best Server Location เซิร์ฟเวอร์ต่อไปที่ฉันเลือกทดสอบคือในซานฟรานซิสโก ซึ่งอยู่ห่างออกไป 226 กม.

ซานฟรานซิสโก:

ผลลัพธ์ของฉันช้ากว่าเซิร์ฟเวอร์ลอสแองเจลิสมาก นี่แสดงให้ฉันเห็นว่าฟีเจอร์ Best Server Location ใช้งานได้จริง แม้ว่าซานฟรานซิสโกจะอยู่ใกล้กว่าลอส เองเจลลิสเล็กน้อย แต่ฟีเจอร์ "Best Server Location" นำเสนอตัวเลือกเซิร์ฟเวอร์นั้นเพื่อการเชื่อมต่อที่เร็วขึ้น สถานที่ต่อไปที่ฉันลองคือฟีนิกซ์ ซึ่งอยู่ห่างจากตำแหน่งจริงของฉันในเฟรสโน 823 กม.

ฟีนิกซ์:

ผลลัพธ์นั้นดีขึ้นไม่น้อย แม้ว่าความเร็วของฉันจะลดลง 37% ในซานฟรานซิสโก แต่ก็ยังไม่ได้สร้างความแตกต่างมากเมื่อสตรีม เล่นเกมหรือใช้งาน มันราบรื่นเหมือนกับการเชื่อมต่อโดยไม่ใช้ VPN ปกติของฉัน เช่นเดียวกับตำแหน่งในฟีนิกซ์และลอสแองเจลิส

เซิร์ฟเวอร์ใกล้เคียงให้ความเร็วมากกว่า 94 Mbps

เซิร์ฟเวอร์ระยะไกล

โดยทั่วไปแล้วความเร็วของฉันจะช้าลงเมื่อเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ห่างจากตำแหน่งของฉัน อย่างไรก็ตามฉันพบกับความไม่สอดคล้องกันบางอย่าง นั่นก็คือเซิร์ฟเวอร์บางเซิร์ฟเวอร์นั้นเร็วหรือช้าผิดปกติไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ห่างจากฉันมากแค่ไหน เซิร์ฟเวอร์ Reykjavik ในไอซ์แลนด์อยู่ห่างจากฉันเพียง 6,712 กม. แต่มันมีความเร็วที่ช้าที่สุดเมื่อเทียบกับเซิร์ฟเวอร์อื่น ๆ ที่ฉันเชื่อมต่อ เซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ไกลยังใช้เวลานานกว่าในการสร้างการเชื่อมต่อ เซิร์ฟเวอร์ Reykjavik นั้นใช้เวลาในการเชื่อมต่อ 16 วินาที (เซิร์ฟเวอร์ที่ใกล้เคียงใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาที)

เรคยาวิก:

ความเร็วที่ลดลงทำให้ฉันเป็นกังวล มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อประสบการณ์การสตรีมของฉัน แต่ถ้าคุณมีความเร็วการเชื่อมต่อพื้นฐานเฉลี่ยที่ 30 Mbps การลดลง 75% นั้นถือว่าค่อนข้างมาก ความเร็วของคุณจะอยู่ที่ 7.5 Mbps และคุณต้องการความเร็วขั้นต่ำ 5 Mbps เพื่อสตรีมในรูปแบบ HD อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะมีความเร็วที่ 7.5 Mbps ก็เป็นไปได้ที่จะประสบปัญหาการสะดุดและใช้เวลาในการโหลดนานขึ้นเมื่อโหลดวิดีโอ เนื่องจากการเชื่อมต่อของฉันเร็วมาก มันจึงไม่มีผลกับฉัน ฉันยังสามารถสตรีม Netflix ได้โดยไม่ใช้เวลาในการโหลดนานและไม่มีความล่าช้า

โตเกียว:

เซิร์ฟเวอร์โตเกียวให้ความเร็วค่อนข้างดีแม้ว่าจะอยู่ห่างออกไป 9,500 กม. เซิร์ฟเวอร์ในแนสซอและเซาเปาโลก็มีความรวดเร็วสม่ำเสมอเช่นกัน คุณควรทดสอบเซิร์ฟเวอร์ให้หลากหลาย หากคุณกำลังมองหาการเชื่อมต่อทางไกลที่รวดเร็วกับ CyberGhost เพราะฉันได้ผลลัพธ์ที่ค่อนข้างไม่สอดคล้องกัน

ความเร็วลดลงเหลือ 38 Mbps เมื่อเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์อยู่ห่างไกล

เซิร์ฟเวอร์ธรรมดา vs เซิร์ฟเวอร์ที่มีการปรับแต่ง

เซิร์ฟเวอร์ที่เพิ่มประสิทธิภาพการสตรีมช่วยให้คุณมีความเร็วที่ดี ฉันเปรียบเทียบเซิร์ฟเวอร์ใน 7 เมืองเพื่อดูว่ามีความแตกต่างหรือไม่

การเปลี่ยนไปใช้เซิร์ฟเวอร์ที่ปรับให้เหมาะสมสามารถเพิ่มความเร็วได้ถึง 20 Mbps+

การเชื่อมต่อปกติช้าลงอย่างต่อเนื่อง เซิร์ฟเวอร์ที่เพิ่มประสิทธิภาพการสตรีมสามารถให้ความเร็วเพิ่มขึ้น 15% ดังนั้นคุณควรเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์เพื่อสตรีม เนื่องจากการสตรีมต้องใช้การเชื่อมต่อที่รวดเร็ว หากคุณไม่ต้องการกังวลเกี่ยวกับคุณภาพของภาพที่ไม่ดีหรือความล่าช้า อย่างไรก็ตามเซิร์ฟเวอร์เกมที่มีปรับให้เหมาะสมก็ใช้งานไม่ได้เช่นกัน

CyberGhost ไม่ใช่ VPN สำหรับเกมที่เร็วที่สุดที่ฉันเคยทดสอบ แต่เซิร์ฟเวอร์ในท้องถิ่นสามารถรองรับการเล่นเกมออนไลน์ได้ เซิร์ฟเวอร์ระหว่างประเทศทำให้ฉันความเร็วของฉันช้าลง ดังนั้นฉันต้องการเห็นความสอดคล้องกันมากขึ้นทั่วทั้งเครือข่ายก่อน ก่อนที่ฉันจะแนะนำบริการนี้ให้เป็น VPN ระดับชั้นนำสำหรับเกมเวอร์

ข้อมูลที่คุณป้อนมีความสำคัญมากเมื่อคุณเล่นเกมออนไลน์ ยิ่งค่า ping สูงคำสั่งของคุณก็จะใช้เวลาในการตอบสนองนานขึ้น เมื่อค่า ping สูง คุณจะเสียเปรียบอย่างมากเมื่อเล่นเกมที่มีการแข่งขัน มันไม่สนุกเลยเมื่อคุณมีทักษะในการเล่นเกม แต่ต้องแพ้เนื่องจากการเชื่อมต่อที่ไม่ดี

ดังนั้นฉันจึงผิดหวังเมื่อเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ที่เพิ่มประสิทธิภาพสำหรับการเล่นเกมในนิวยอร์กและค่า ping สูงเกินไป (142 ms) ทางที่ดีควรมี ping ต่ำกว่า 100 มิลลิวินาทีสำหรับการเล่นเกม อย่างไรก็ตามฉันเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ประจำของนิวยอร์ค ฉันมีต่า ping ที่ต่ำมาก (28 ms)

ฉันโหลด StarCraft 2 และรู้สึกประทับใจกับความราบรื่นในการใช้เซิร์ฟเวอร์ที่ไม่ได้รับการปรับแต่ง ตัวเกมทั้งหมดสามารถโหลดได้ตามปกติและฉันสามารถวิ่งไปรอบ ๆ แผนที่โดยไม่มีการแลคเลย อย่างไรก็ตามเมื่อแมตช์ใกล้จะจบและเริ่มมีผู้เล่นในเกมมากขึ้น ฉันก็พบกับความช้าลงบ้าง แต่ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร หากคุณสนใจ VPN ที่ยอดเยี่ยมสำหรับการเล่นเกม เข้ามาดูคำแนะนำสำหรับ VPN ยอดนิยมสำหรับเล่นเกมได้ที่นี่.

ฉันพบความล่าช้าเล็กน้อยเมื่อเริ่มมีผู้เล่นเกมขึ้นในเกม

แต่ในทางกลับกันการเล่นเกมบนเซิร์ฟเวอร์สำหรับเล่นเกมในลอนดอนนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย หน้าจอจะหยุดค้างเมื่อฉันพยายามเลื่อนไปตามแผนที่และจะใช้เวลา 3-5 วินาทีเพื่อโหลดตามหลัง เกมใช้เวลาตอบสนองนานมากจนฉันต้องออกจากเกม

ค่า ping บนเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ห่างไกลนั้นสูงเกินไปสำหรับการเล่นออนไลน์ เช่นเดียวกันกับเซิร์ฟเวอร์ที่ปรับให้เหมาะกับการเล่นเกม แต่คุณสามารถเล่นเกมออนไลน์ด้วย CyberGhost ได้หากคุณใช้เซิร์ฟเวอร์ที่ไม่ได้รับการปรับแต่งในท้องถิ่น

CyberGhost มีเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่ จำนวนเซิร์ฟเวอร์มากกว่า 11,690 เซิร์ฟเวอร์ใน 100 ตำแหน่ง ซึ่งครอบคลุมมากกว่าที่บริการอื่น ๆ นำเสนอ ซึ่งหมายความว่าคุณจะสามารถค้นหาเซิร์ฟเวอร์ที่มีความเร็วสูงและอยู่ใกล้กับคุณได้ง่ายกว่า ฉันประทับใจมากที่ CyberGhost มีมากกว่า 1,100 เซิร์ฟเวอร์ในอเมริกา (23 เมืองในอเมริกา) และยังมีเซิร์ฟเวอร์ที่ครอบคลุมในเอเชียอีกด้วย (29 เมือง รวมถึงในกรุงเทพ) แอฟริกา (5 เมือง) และยุโรป (55 เมือง)

เนื่องจากเซิร์ฟเวอร์ประมาณ 8% อยู่เป็นแบบตำแหน่งเสมือนจริง จึงครอบคลุมตำแหน่งที่เข้าถึงได้ยากจำนวนมากเช่นกัน (เช่น ซาอุดีอาระเบีย อียิปต์ จีนและศรีลังกา) แม้ว่าบางครั้งมันอาจทำให้ความเร็วของคุณลดลง แต่ก็ยังช่วยให้คุณเข้าถึงเนื้อหาทั่วโลกได้มากขึ้น ซึ่งเป็นข้อดี CyberGhost ยังมีเซิร์ฟเวอร์พิเศษหลากหลายตัวสำหรับการรักษาความปลอดภัยเป็นพิเศษและประสิทธิภาพที่ดีขึ้น

ตำแหน่งเสมือน

CyberGhost มีตำแหน่งเสมือนใน 39 ตำแหน่ง และบริการยังบอกอย่างชัดเจนอีกด้วยว่ามีตำแหน่งไหนบ้าง เซิร์ฟเวอร์จริง 73 แห่งก็จะอยู่ในตำแหน่งนั้นจริง ๆ แต่สำหรับเซิร์ฟเวอร์เสมือน เช่น ในซาอุดิอาระเบีย เซิร์ฟเวอร์จะอยู่ในตำแหน่งอื่นแต่ที่กำหนดหมายเลข IP ให้ดูเหมือนคุณในประเทศนั้น

CyberGhost มีความโปร่งใสเกี่ยวกับการใช้เซิร์ฟเวอร์เสมือน

เซิร์ฟเวอร์เสมือนสามารถช่วย VPN สามารถเชื่อมต่อได้อย่างรวดเร็วและน่าเชื่อถือได้มากขึ้นในสถานที่ห่างไกล เซิร์ฟเวอร์เสมือนเหล่านี้ยังช่วยให้พวกเขาสามารถดำเนินการในประเทศที่ VPN ถูกแบน (หรือเสี่ยงต่อการถูกรบกวนจากรัฐบาล) ได้อีกด้วย อย่างไรก็ตามสิ่งเหล่านี้อาจส่งผลให้ค่า ping และความเร็วในการดาวน์โหลดต่ำลง หากเซิร์ฟเวอร์จริงอยู่ห่างจากคุณมากกว่าตำแหน่งที่คุณต้องการเชื่อมต่อ

เซิร์ฟเวอร์ที่ได้รับการปรับให้เหมาะสำหรับการสตรีมและ P2P

เซิร์ฟเวอร์ทอร์เรนต์และเซิร์ฟเวอร์ที่เพิ่มประสิทธิภาพการสตรีมของ CyberGhost ทำให้การใช้งานสำหรับกิจกรรมเหล่านี้เป็นเรื่องง่าย พวกเขาให้หมายเลข IP และตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ที่ดีที่สุดแก่คุณโดยอัตโนมัติ ขึ้นอยู่กับสิ่งที่คุณต้องการทำ

ฉันตรวจสอบกับทีมงานในไลฟ์แชทของ CyberGhost แล้ว พวกเขาบอกฉันว่าหมายเลข IP สำหรับเซิร์ฟเวอร์สตรีมมิงเหล่านี้มีการอัปเดตเป็นประจำ พวกเขาแทนที่หมายเลข IP ใด ๆ ที่เว็บไซต์สตรีมมิ่งขึ้นบัญชีดำเอาไว้เพื่อให้สามารถเข้าถึงได้เสมอ

เมื่อแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งแบนหมายเลข IP ใด CyberGhost ก็จะลบเลขนั้นออก

เซิร์ฟเวอร์สตรีมมิ่งยังได้รับการปรับให้เหมาะสมสำหรับแต่ละแพลตฟอร์มเพื่อให้คุณสามารถข้ามไปใช้เซิร์ฟเวอร์ที่ดีที่สุดสำหรับ Netflix US, Disney+, BBC iPlayer และอื่น ๆ ได้อย่างรวดเร็วmore.

เซิร์ฟเวอร์ P2P ให้ความเร็วที่ดีที่สุดแก่คุณในการดาวน์โหลดทอร์เรนต์ตามตำแหน่งและเครือข่ายของคุณ พวกเขายังนำเสนอตำแหน่งเสมือนในประเทศที่สามารถเข้าถึงเว็บไซต์ P2P และเว็บทอร์เรนต์ยอดนิยมได้อีกด้วย ในขณะที่ทีมของฉันและฉันไม่ยอมรับการทอร์เรนต์ที่ผิดกฎหมาย VPN สามารถปกป้องคุณให้ปลอดภัยจากการรบกวนจากบุคคลที่สาม ในขณะที่คุณดาวน์โหลดไฟล์ที่ไม่ผิดลิขสิทธิ์ได้ อย่างไรก็ตามอย่าลืมตรวจสอบกฎหมายในประเทศของคุณ ก่อนที่จะดาวน์โหลดทอร์เรนต์ เพราะในบางพื้นที่การทอร์เรนต์นั้นผิดกฎหมาย

เซิร์ฟเวอร์เพิ่มประสิทธิภาพการสตรีมมีให้บริการในระบบปฏิบัติการหลักทั้งหมด รวมถึง Windows, macOS, Android, iOS และ Linux แอพพลิเคชั่นเดสก์ท็อปมีเซิร์ฟเวอร์ P2P ให้บริการ

เซิร์ฟเวอร์เพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกม

CyberGhost มีเซิร์ฟเวอร์ที่ปรับให้เหมาะสำหรับการเล่นเกม แต่มันทำงานได้ไม่ดีในระหว่างการทดสอบของฉัน อธิบายง่าย ๆ ก็คือเซิร์ฟเวอร์เหล่านี้มีอัตรา ping ที่ต่ำกว่าและมีความเร็วที่เร็วกว่า แต่ฉันพบว่าจริง ๆ แล้วมันตรงกันข้ามเลย ค่า ping บนเซิร์ฟเวอร์เกมทั้งหมดสูงเกินกว่าที่จะเล่นเกมโดยไม่สะดุดไม่ได้ ตามหลักการแล้วอัตรา ping ของคุณต้องต่ำกว่า 100 มิลลิวินาทีสำหรับการเล่นเกมและเซิร์ฟเวอร์เกมทั้งหมดนั้นมีค่า ping สูงกว่า 140 มิลลิวินาที

ค่า ping ของเซิร์ฟเวอร์เกมของ CyberGhost นั้นสูงกว่าค่าสูงสุดสำหรับการเล่นเกม

หากคุณต้องการใช้ CyberGhost เพื่อปกปิดตัวตนในขณะที่เล่นเกม ฉันขอแนะนำให้ใช้ฟีเจอร์ “Best Server Location” จะดีกว่า คุณจะได้รับเซิร์ฟเวอร์ที่เร็วที่สุดโดยอัตโนมัติและฉันสามารถเล่นเกมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นบนเซิร์ฟเวอร์ที่ไม่ได้รับการปรับแต่ง

เซิร์ฟเวอร์ที่ปรับให้เหมาะสำหรับการเล่นเกมมีเฉพาะในแอพพลิเคชั่น Windows เท่านั้น

เซิร์ฟเวอร์ NoSpy

เซิร์ฟเวอร์ NoSpy ของ CyberGhost ทำให้ VPN มีความปลอดภัยมากขึ้น — แต่คุณต้องใช้แผน 1 ปีหรือนานกว่านั้นเพื่อเข้าถึงฟีเจอร์ เซิร์ฟเวอร์ NoSpy ตั้งอยู่ในศูนย์ข้อมูลส่วนตัวของ CyberGhost ในโรมาเนียและมีเพียงทีม CyberGhost เท่านั้นที่สามารถเข้าถึงได้ พวกเขาลดความเสี่ยงของการโจมตีจากคนกลางได้อย่างมาก เนื่องจากไม่มีบุคคลที่สามที่เกี่ยวข้อง — เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการป้องกันเพิ่มเติมขณะดาวน์โหลดทอร์เรนต์

CyberGhost ไม่มีฟีเจอร์ multi-hop แต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่เพราะเซิร์ฟเวอร์ NoSpy นั้นใช้งานได้ดีกว่า ฉันชอบเซิร์ฟเวอร์ NoSpy ของ CyberGhost มากกว่าฟีเจอร์ Secure Core ของ Proton VPN ฟีเจอร์มัลติฮอปจะเพิ่มความปลอดภัยด้วยการกำหนดเส้นทางการรับส่งข้อมูลของคุณเพิ่มสองครั้ง แต่คุณจะสูญเสียความเร็วมากกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับเซิร์ฟเวอร์ NoSpy และมันมีความปลอดภัยมากพอกัน

แม้ว่าจะช้ากว่าเล็กน้อย แต่เซิร์ฟเวอร์ NoSpy ก็คุ้มค่าสำหรับการรักษาความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น แต่ว่าคุณจะต้องสมัครบริการระยะยาวเพื่อเข้าถึงฟีเจอร์นี้ ดังนั้นคุณจึงต้องจ่ายมากขึ้น แต่ยิ่งระยะเวลาการสมัครนานเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งจ่ายเฉลี่ยต่อเดือนน้อยลงเท่านั้น มันคุ้มค่าอย่างยิ่งในระยะยาว เพราะคุณต้องจ่ายเงินน้อยลงเพื่อเข้าถึงฟีเจอร์เพิ่มเติม

ฉันดีใจที่เห็นว่าเซิร์ฟเวอร์ NoSpy นั้นมีให้ใช้งานบน Windows, macOS, Android และ iOS คุณจึงสามารถเพลิดเพลินกับความปลอดภัยสูงสุดบนเดสก์ท็อปและอุปกรณ์มือถือทั้งหมดของคุณ

เซิร์ฟเวอร์หมายเลข IP เฉพาะ

เซิร์ฟเวอร์ IP เฉพาะคือเซิร์ฟเวอร์ที่คุณใช้เพียงคนเดียว เซิร์ฟเวอร์จะให้หมายเลข IP เดียวกันทุกครั้งที่คุณเชื่อมต่อ นี่เป็นฟีเจอร์ที่จำเป็นสำหรับเจ้าของธุรกิจ ตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการเปิดเว็บไซต์ คุณจะต้องมีหมายเลข IP แบบคงที่ เพื่อให้ผู้คนรู้ว่าจะพบคุณที่ใดอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ยังสะดวกสำหรับการใช้บริการธนาคารและการซื้อขายออนไลน์ เนื่องจากบริการบางอย่างเหล่านี้ห้ามบัญชีที่มีหมายเลข IP หลายแห่งที่เข้าถึงบัญชีของคุณ

IP เฉพาะสามารถช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงการบล็อก VPN ของเว็บสตรีมมิ่งได้ เนื่องจากคุณเป็นคนเดียวที่ใช้หมายเลข IP นี้ จึงเป็นการยากที่จะตรวจพบว่า VPN มอบหมายเลขนี้ให้กับคุณ ดังนั้นแพลตฟอร์มจึงไม่สามารถบล็อกหมายเลขนี้ได้ นอกจากนี้ CyberGhost ยังใช้ระบบ IP เฉพาะที่ใช้โทเค็น หมายความว่าบริษัทไม่รู้ว่าหมายเลข IP เฉพาะใหม่ของคุณคืออะไร ซึ่งจะเพิ่มความปลอดภัยให้กับคุณมากขึ้น

อย่างไรก็ตามฉันไม่แนะนำหากคุณต้องการความเร็วที่ดีกว่านี้ เซิร์ฟเวอร์เฉพสะของ CyberGhost มักจะมีความเร็วมากกว่าในระหว่างการทดสอบของฉันและมีหมายเลข IP เฉพาะใน 5 ประเทศเท่านั้น (สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา เยอรมนี ฝรั่งเศสและแคนาดา) หากคุณอยู่ห่างไกลจากสถานที่เหล่านี้ คุณอาจมีความเร็วที่ช้าลง

เซิร์ฟเวอร์เหล่านี้พร้อมใช้งานสำหรับ Windows, macOS, Android และ iOS โดยมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม $3.75/เดือน ขึ้นอยู่กับระยะเวลาการสมัครของคุณ

การเข้ารหัสระดับทหาร

CyberGhost มีความปลอดภัยอย่างมากเพราะมีการเข้ารหัสแบบ 256-bit (ระดับสูงสุดที่มีให้บริการ) นั่นหมายความว่าคุณจะได้รับการปกป้องข้อมูลของคุณด้วยคีย์ยาว 256 อักขระ (เหมือนกับรหัสผ่าน) ที่เข้ารหัสข้อมูลของคุณ ยิ่งคีย์ยาวเท่าไหร่ ก็ยิ่งปลอดภัยมากเท่านั้นและรหัา 256 bit นั้นเป็นรหัสที่แข็งแกร่งที่สุดในปัจจุบัน

ฉันจะอธิบายให้คุณเข้าใจง่ายๆ เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจว่าทำไมมันถึงสำคัญ: ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ 50 เครื่องที่สามารถตรวจสอบคีย์ AES ได้หลายพันล้านล้านคีย์ต่อวินาทีจะต้องใช้เวลาหลายพันปีในการถอดรหัสข้อมูลของคุณเพียงชิ้นเดียว ซึ่งหมายความว่าแม้ว่าแฮ็กเกอร์จะสกัดข้อมูลของคุณได้ พวกเขาก็ไม่สามารถอ่านได้

นอกจากนี้ยังมี Perfect Forward Secrecy ซึ่งจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยเพิ่มเติม สิ่งนี้จะเปลี่ยนคีย์ที่ CyberGhost ใช้เพื่อเข้ารหัสและถอดรหัสข้อมูลเป็นประจำ แม้ว่าสิ่งนี้จะแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดขึ้น แต่ถ้าใครพบคีย์ของคุณเข้า คีย์นั้นก็จะถูกเปลี่ยนหลังจากนั้นไม่นาน

ผลการทดสอบการรั่วไหล — ผ่าน

CyberGhost นั้นปลอดภัยเนื่องจากมีการป้องกันการรั่วไหลของ DNS และ IP ในแอพพลิเคชั่นและส่วนขยายเบราว์เซอร์ ISP ของคุณสามารถใช้คำขอ DNS และการรับส่งข้อมูล IPv6 เพื่อดูว่าคุณกำลังใช้อินเตอร์เน็ตทำอะไร ดังนั้นคุณจึงต้องการเก็บกิจกรรมเหล่านี้ไว้เป็นส่วนตัว CyberGhost ช่วยให้แน่ใจว่าคำขอ DNS ของคุณถูกส่งผ่านเซิร์ฟเวอร์ DNS ของตัวเองและคำขอ IPv6 ใด ๆ จะถูกบล็อกเพื่อป้องกันไม่ให้ไซต์เห็นหมายเลข IP จริงของคุณ ฟังก์ชันเหล่านี้ถูกเปิดไว้แล้ว ดังนั้นแม้ว่าคุณจะเพิ่งเริ่มใช้ VPN และไม่แน่ใจว่ามันคืออะไร คุณก็ได้รับการปกป้องโดยไม่ต้องกังวลถึงเรื่องนี้

ฉันไม่พบการรั่วไหลของ DNS หรือ IP บนเซิร์ฟเวอร์ใด ๆ ฉันทดสอบเซิร์ฟเวอร์ 11 เซิร์ฟเวอร์ รวมถึงในสหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี ออสเตรเลียและฮ่องกงโดยใช้ ipleak.net เพื่อตรวจสอบดูว่ามีข้อผิดพลาดหรือการรั่วไหลที่อาจเกิดขึ้นในการเชื่อมต่อของฉันหรือไม่และฉันไม่พบการรั่วไหลใด ๆ เลย

ฉันยังไม่พบไวรัสหรือมัลแวร์ใด ๆ เมื่อฉันทำการทดสอบแอปของ CyberGhost ผ่าน Virus Total

Kill switch อัตโนมัติ

แอพพลิเคชั่นทั้งหมดของ CyberGhost มี Kill switch อัตโนมัติเพื่อปกป้องคุณหากเครือข่ายทำงานผิดปกติ สิ่งนี้จะหยุดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของคุณ เพื่อป้องกันการรั่วไหลหาก VPN ของคุณหยุดทำงานชั่วคราว มันเป็นฟังก์ชันที่จำเป็นเพื่อให้แน่ใจว่าหมายเลข IP และข้อมูลของคุณปลอดภัยเสมอ

แม้ว่าฉันจะพบตัวเลือกนี้ในแอพพลิเคชั่น Windows แต่ฉันก็ไม่สามารถปิดมันไม่ได้ เมื่อฉันพยายามติดใช้งาน ฉันก็ได้รับข้อความแจ้งว่าไม่สามารถปิดได้ อย่างไรก็ตามฉันนึกเหตุผลอันดีไม่ออกว่าทำไมคุณถึงต้องการปิดใช้งานฟีเจอร์นี้ ดังนั้นมันจึงไม่ใช่ปัญหาใหญ่

Kill switch ไม่สามารถปิดใช้งานได้

คุณไม่พบตัวเลือกนี้ใน Mac, iOS หรือ Android เนื่องจากมีการผสานรวมในตัวแอพพลิเคชั่นแล้ว ซึ่งหมายความว่าจะทำงานโดยอัตโนมัติเสมอ ฉันรู้ว่ามันใช้งานได้เพราะเมื่อใดก็ตามที่ฉันเปลี่ยนเซิร์ฟเวอร์ การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของฉันจะถูกตัดชั่วคราว

โปรโตคอลด้านความปลอดภัย

CyberGhost มีโปรโตคอลความปลอดภัย 3 แบบ คุณสามารถปรับแต่งการเชื่อมต่อที่ปลอดภัยได้ตามที่คุณต้องการ คุณสามารถเลือกระหว่าง IKEv2, OpenVPN (TCP/UDP) และ WireGuard แอพพลิเคชั่นจะเลือกโปรโตคบอลที่ดีที่สุดสำหรับคุณโดยอัตโนมัติตามความต้องการของคุณ — แต่คุณสามารถเลือกโปรโตคอลอื่นได้หากต้องการ

• IKEv2: โปรโตคอลนี้ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเร็วที่สุดในระหว่างการทดสอบ มันเป็นตัวเลือกที่ดีเมื่อใช้กัอุปกรณ์มือถือของคุณ นั่นเป็นเพราะมันสามารถเชื่อมต่ออัตโนมัติ ดังนั้นคุณจึงได้รับการปกป้องเมื่อคุณเปลี่ยนจากข้อมูลมือถือเป็น Wi-Fi อย่างไรก็ตามมันมีให้ใช้เฉพาะใน Windows, macOS และ iOS ดังนั้นผู้ที่ใช้ Linux หรือใช้โทรศัพท์ Android นั้นจะไม่มีฟีเจอร์นี้
• OpenVPN: นี่เป็นหนึ่งในโปรโตคอลที่ปลอดภัยที่สุด เนื่องจากเป็นโครงการโอเพ่นซอร์ส นั่นหมายความว่าผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทำการปรับปรุงมันอยู่เสมอ แต่ความเร็วการเชื่อมต่อของคุณจะลดลง มันช้ากว่า IKEv2 ถึง 69% ในการทดสอบของฉัน ดังนั้นนี่จึงเป็นตัวเลือกที่ดีเมื่อคุณต้องการความปลอดภัยมากกว่าความรวดเร็ว อย่างไรก็ตามโปรโตคอลนี้ต้องได้รับการติดตั้งด้วยตนเองสำหรับผู้ใช้ macOS และไม่มีให้บริการบน iOS
• WireGuard: หากคุณต้องการความสมดุลระหว่างความปลอดภัยและความเร็ว โปรโตคอลนี้เหมาะสำหรับคุณ มันไม่เร็วเท่า IKEv2 แต่ให้ความเร็วที่ดีกว่า OpenVPN อย่างเห็นได้ชัด มันเป็นตัวเลือกที่ดีหากคุณวางแผนที่จะสตรีม ใช้งานอินเตอร์เน็ตหรือวิดีโอคอล นอกจากนี้ยังมีให้บริการอยู่ในระบบปฏิบัติการหลักทุกระบบ

คุณสามารถเลือกระหว่างโปรโตคอลต่าง ๆ ได้โดยคลิกไอคอนการตั้งค่าที่มุมล่างซ้ายของหน้าต่างเซิร์ฟเวอร์ คุณจะพบตัวเลือกในส่วน CyberGhost VPN

คุณสามารถเลือกอัตโนมัติหรือเลือกโปรโตคอลเฉพาะได้

เพิ่มความเร็วที่ดีขึ้นด้วย IKEv2

โปรโตคอลความปลอดภัยที่คุณใช้สร้างความแตกต่างอย่างมากในด้านความเร็ว ฉันทดสอบ 10 เซิร์ฟเวอร์ด้วย OpenVPN, Wireguard และ IKEv2 และหาค่าเฉลี่ยความเร็วเพื่อดูว่าแต่ละโปรโตคอลจะส่งผลต่อความเร็วอย่างไร

IKEv2 เร็วกว่า OpenVPN 69%

IKEv2 นั้นดีกว่าอย่างชัดเจน โดยมีความเร็วเฉลี่ย 157.4 Mbps หากคุณต้องการความเร็ว คุณควรเปลี่ยนไปใช้โปรโตคอลนี้ นอกจากนี้ IKEv2 ยังเป็นตัวเลือกที่ดีเมื่อคุณใช้อุปกรณ์มือถือและมีการสลับเครือข่ายบ่อยครั้ง นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมต่อได้เร็วกว่าโปรโตคอลอื่น ๆ 2-3 วินาที OpenVPN เป็นโปรโตคอลที่ปลอดภัยที่สุด ดังนั้นคุณจึงควรใช้เมื่อคุณต้องการความปลอดภัยเป็นพิเศษ ในขณะที่ WireGuard สร้างสมดุลที่ดีระหว่างความปลอดภัยและความเร็ว

App Protection และ Split Tunneling

Split tunneling และ App Protection เป็น 2 ฟีเจอร์พิเศษที่ให้คุณปรับแต่งวิธีการทำงานของ CyberGhost บนอุปกรณ์ของคุณwfh

Split tunneling ช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่าข้อมูลใดที่จะส่งผ่าน VPN และการรับส่งข้อมูลใดที่ใช้การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตปกติของคุณ สิ่งนี้มีประโยชน์สำหรับการทำกิจกรรมธนาคารออนไลน์และการดูเว็บไซต์สตรีมมิ่งในประเทศ เนื่องจากคุณไม่สามารถเข้าถึงได้เมื่อคุณเชื่อมต่อกับ VPN ฟีเจอร์นี้มีให้ในเฉพาะ Windows และ Android เท่านั้น

บน Windows คุณสามารถเพิ่ม URL ภายใต้เมนู Smart Rules ในส่วน Exceptions ได้

คุณจะต้องออกจากระบบและเชื่อมต่อใหม่หลังจากเพิ่ม URL ใหม่

ฉันทดสอบสิ่งนี้โดยพิมพ์ข้อยกเว้น whatismyipaddress.com จากนั้นฉันก็เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ในลอนดอนและไปที่เว็บไซต์เพื่อดูว่าตำแหน่งใดปรากฏขึ้น

เว็บไซต์มองเห็นหมายเลข IP จริงของฉันแทนที่จะเป็น VPN เนื่องจากฉันทำการยกเว้น

หมายเลข IP จริงของฉันปรากฏขึ้นแทน VPN ดังนั้นฉันจึงมีความสุขที่ฟีเจอร์ Split tunneling ทำงานได้โดยไม่มีปัญหา อย่างไรก็ตาม เมื่อฉันลองใช้กับ Amazon Prime Video มันกลับไม่ประสบความสำเร็จแบบเดียวกัน ฉันสามารถยกเว้นเว็บไซต์ได้ แต่ฉันไม่สามารถเข้าถึงรายการในเว็บไซต์ได้

Android จะมีการตั้งค่าที่แตกต่างออกไป เนื่องจากคุณสามารถเลือกแอพพลิเคชั่นที่ไม่ต้องเชื่อมต่อ VPN ได้ ไม่ใช่แต่ละเว็บไซต์ หากคุณไปที่ VPN > Settings คุณจะพบ App Split Tunnel ฉันใช้สิ่งนี้เพื่อกำหนดให้ Netflix ส่งข้อมูลผ่านการเชื่อมต่อพื้นฐานในขณะที่ CyberGhost เชื่อมต่อกับตำแหน่งในโตเกียว Netflix US ปรากฏขึ้นเมื่อฉันเข้าถึงแอพพลิเคชั่น ดังนั้นฟีเจอร์นี้จึงใช้งานได้จริง

Split tunneling ไม่มีให้ใช้งานสำหรับ macOS, iOS หรือ Linux ซึ่งน่าผิดหวังมาก และข้อจำกัดของฟีเจอร์นี้ก็ไม่เหมาะเช่นเดียวกัน การใช้งานเพื่อเข้าถึงแพลตฟอร์มสตรีมมิงบนเดสก์ท็อปนั้นทำได้ยากและระบุเว็บไซต์บนโทรศัพท์ก็ทำได้ยาก

App Protection ให้คุณสามารถเพิ่มแอพพลิเคชั่นลงในรายการ ดังนั้น CyberGhost จะเปิดและเชื่อมต่อโดยอัตโนมัติเมื่อคุณเปิดใช้แอพพลิเคชั่นเหล่านั้น รายการอยู่ในส่วนที่เรียกว่า App Rules และอยู่ภายใต้เมนู Smart Rules ฉันลองใช้กับ Netflix และมันใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง มันเชื่อมต่อฉันกับเซิร์ฟเวอร์ของสหรัฐอเมริกาโดยอัตโนมัติ ดังนั้นฉันจึงสามารถตรงไปยัง Netflix US ได้โดยไม่ต้องกำหนดค่าด้วยตนเอง

สิ่งนี้น่าทึ่งมากเพราะมันใช้งานได้ง่ายและฉันไม่เคยเห็น VPN อื่นเสนอฟีเจอร์นี้มาก่อน นอกจากนี้ยังหมายความว่าหากคุณใช้แอพพลิเคชั่นที่มีความเสี่ยง — เช่นไคลเอนต์ทอร์เรนต์ — คุณไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของคุณ หากคุณลืมเชื่อมต่อ VPN โดยไม่ได้ตั้งใจ

ความเข้ากันได้กับ Tor

CyberGhost ทำงานได้ดีกับ Tor ระหว่างการทดสอบของฉัน มันทำให้การเชื่อมของฉันช้าลงเล็กน้อย เนื่องจากการรับส่งข้อมูลของฉันต้องผ่านเซิร์ฟเวอร์ VPN และรีเลย์ของ Tor แต่ก็ไม่ได้รุนแรงอะไร

คุณอาจจะอยากเลือกใช้ Tor (บางครั้งจะถูกเรียกว่า The Onion Router) ถ้าคุณอาศัยอยู่ในประเทศที่มีการเซ็นเซอร์อินเทอร์เน็ตอย่างเข้มงวด เพราะว่ามันมีความปลอดภัยมากกว่าการใช้เบราว์เซอร์ทั่วไป การใช้ VPN ควบคู่ไปกับ Tor นั้นจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยขึ้นไปอีกชั้นหนึ่ง สำหรับการใช้กับ CyberGhost นั้น มันจะปลอดภัยที่สุดถ้าคุณใช้วิธี Onion over VPN — หรือก็คือการเชื่อมต่อไปยัง VPN ก่อนที่จะเปิดเบราว์เซอร์

ตัวแทนทางไลฟ์แชทของ CyberGhost ได้ทำการยืนยันกับเราแล้วว่าเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมดสามารถใช้งานกับ Tor ได้: เนื่องจากเบราว์เซอร์ Tor จะทำให้ความเร็วของคุณตกลง เราจึงแนะนำให้คุณเลือกเชื่อมต่อไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ใกล้คุณที่สุดเพื่อให้ได้ความเร็วดีที่สุด

เครื่องมือบล็อกโฆษณาและมัลแวร์

CyberGhost มาพร้อมกับเครื่องมือบล็อกโฆษณาที่บล็อกเฉพาะเนื้อหาที่เป็นอันตราย หลังจากพูดคุยกับตัวแทนฝ่ายสนับสนุน ฉันพบว่ามันไม่ได้ลบโฆษณาทั้งหมด

ยังมีโฆษณาหลายประเภท (เช่นวิดีโอ Youtube) ที่สามารถหลุดลอดมาได้

ฉันเปิดตัวเลือก Block Content ภายใต้การตั้งค่าความเป็นส่วนตัวและใช้ฟีเจอร์ทดสอบใน ads-blocker.com แต่น่าเสียดายที่ CyberGhost ไม่ผ่านการทดสอบ มันสามารถบล็อกโฆษณาที่ปรากฏขึ้นได้สำเร็จ แต่โฆษณาอื่น ๆ ในหน้ายังคงแสดงขึ้นมาเหมือนเดิม ฉันยังลองใช้บน YouTube และวิดีโอทั้งหมดที่ฉันดูยังคงมีโฆษณาเล่นก่อนเริ่ม

ฟีเจอร์นี้ใช้ได้กับ Android, Windows และ macOS อย่างไรก็ตามหากคุณกังวลเกี่ยวกับโฆษณา ฉันขอแนะนำให้ใช้บริการเฉพาะนอกเหนือจาก CyberGhost แต่การเปิดใช้งานไว้ก็สามารถช่วยปกป้องคุณจากเว็บไซต์ที่เป็นอันตรายได้ แต่โฆษณาจำนวนมากยังคงหลุดลอดผ่านมาได้

การป้องกันไวไฟ

ในแอพพลิเคชั่นเดสก์ท็อปและมือถือ คุณสามารถตั้งค่า CyberGhost ให้เปิดใช้งานโดยอัตโนมัติเมื่อคุณเชื่อมต่อกับ WiFi สาธารณะได้ คุณยังสามารถตั้งค่าให้บริการถามคุณต้องการเชื่อมต่อหรือละเว้นบางเครือข่าย WiFi ฮอตสปอตเป็นเป้าหมายที่ง่ายต่อการโจมตีต่อแฮ็กเกอร์ ดังนั้นคุณจะต้องเชื่อมต่อ VPN เสมอเมื่อใช้การเชื่อมต่อสาธารณะ ฉันพบว่าฟีเจอร์นี้สะดวกมากเพราะฉันไม่ต้องกังวลว่าจะลืมเปิดแอพพลิเคชั่น คุณได้รับการคุ้มครองไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น

คุณจะพบได้ในส่วน Smart Rules

การป้องกัน HTTPS

ฟีเจอร์นี้บังคับการเชื่อมต่อของคุณไปยังไซต์ที่เปิดใช้งาน HTTPS ดังนั้นคุณจึงเยี่ยมชมเว็บไซต์เวอร์ชันที่ปลอดภัยที่สุดเท่านั้น ซึ่งช่วยปกป้องคุณจากการโจมตีที่เป็นอันตรายบนหน้าเว็บที่ไม่ปลอดภัยที่ข้อมูลส่วนบุคคล เช่น รายละเอียดบัตรเครดิตและอีเมล์ของคุณอาจถูกเปิดเผย “S” ย่อมาจากคำว่าปลอดภัย เนื่องจากไซต์ HTTPS ต่างจากไซต์ HTTP ที่มีการเข้ารหัสโดยใช้ Secure Sockets Layer พูดง่าย ๆ ก็คือแม้ว่าแฮกเกอร์จะจับข้อมูลของคุณได้ แต่ข้อมูลนั้นก็จะอยู่ในการเข้ารหัส นี่เป็นฟีเจอร์ที่ดีเนื่องจากคุณไม่สามารถป้องกันข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของคุณได้มากเท่าไหร่นัก

ถ้าเว็บไซต์ไม่มีเวอร์ชั่น HTTPS คุณก็ยังได้รับการป้องกันโดยการเข้ารหัสและมาตรการความปลอดภัยอื่น ๆ ของ CyberGhost

ฟีเจอร์พิเศษและส่วนเสริมของ CyberGhost

CyberGhost นั้นมีฟีเจอร์และส่วนเสริมที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ส่วนใหญ่แล้วจะเปิดให้ใช้ได้ฟรี ยกเว้นสำหรับ IP เฉพาะและชุดความปลอดภัย

• ที่ซ่อนแกลลอรีรูปภาพ — Secret Photo Vault ของ CyberGhost เป็นแอปสำหรับ iOS เท่านั้น มันใช้ซ่อนรูปภาพและวิดีโอด้วยรหัสผ่านบน iPhone หรือ iPad คุณสามารถเลือกที่จะรักษาความปลอดภัยไฟล์ของคุณด้วย PIN หรือไบโอเมตริกซ์ นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยเพิ่มเติม รวมถึงรายงานการบุกรุกและรหัสผ่านปลอมเพื่อป้องกันไม่ให้ใครก็ตามเข้าถึงที่ซ่อนรูปภาพของคุณ แอปนี้จะถ่ายเซลฟี่ของใครก็ตามที่พยายามเข้าถึงบัญชีของคุณและมีฟังก์ชั่น AI ที่จะส่งรูปภาพส่วนตัวไปยังโฟลเดอร์แยกต่างหากโดยอัตโนมัติ แอปนี้ฟรีและใช้งานได้ง่าย น่าเสียดายที่แอปนี้ใช้ได้เฉพาะกับ iOS เท่านั้น
• เบราว์เซอร์ส่วนตัว — นี่คือเบราว์เซอร์เต็มรูปแบบที่ใช้งานได้กับส่วนเสริมและส่วนขยายของ Chrome เนื่องจากขับเคลื่อนโดย DuckDuckGo คุณจึงไม่ต้องกังวลว่า Google จะสามารถเข้าถึงข้อมูลของคุณได้ นอกจากนี้มันจะลบประวัติการใช้งานทั้งหมดของคุณโดยอัตโนมัติทุกครั้งที่ปิดใช้งาน
• เซิร์ฟเวอร์ NoSpy — ตราบใดที่คุณสมัครใช้งาน (อย่างน้อย) สมาชิก 1 ปี คุณสามารถใช้เซิร์ฟเวอร์ NoSpy ของ CyberGhost ได้ เซิร์ฟเวอร์ NoSpy เพิ่มความปลอดภัยของคุณโดยเก็บทุกอย่างไว้ในศูนย์ข้อมูลส่วนตัวของ CyberGhost ที่ตั้งอยู่ในโรมาเนีย โดยจะตัดผู้ให้บริการเซิร์ฟเวอร์คนกลางออกไป คุณจะใช้งานได้อย่างอุ่นใจยิ่งขึ้นจากการรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติมในเซิร์ฟเวอร์
• Privacy Guard — เป็นฟีเจอร์สำหรับผู้ใช้ Windows ที่ให้คุณวิเคราะห์ OS ของคุณและปิดการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวจำนวนมากที่ Microsoft เปิดโดยอัตโนมัติ คุณสามารถเลือกระดับความเป็นส่วนตัวขั้นสูงหรือระดับพื้นฐาน หรือปรับแต่งสิ่งที่ปิดใช้งานได้ นอกจากนี้ยังช่วยให้คุณปิดโฆษณาส่วนบุคคลจาก Windows เนื่องจากคุณสามารถป้องกันไม่ให้แบ่งปันข้อมูลของคุณได้
• Security Suite — ชุดส่วนขยายเพิ่มความปลอดภัยแบบจ่ายเงินของ CyberGhost จะเพิ่มฟีเจอร์ความปลอดภัยขั้นสูงของ Intego ให้กับ VPN ชุดความปลอดภัยของ Intego จะช่วยเพิ่มความคุ้มกันให้กับคุณซึ่งจะประกอบไปด้วยการป้องกันมัลแวร์ 24/7, แอนตี้ไวรัส และการทำงานของไฟร์วอลล์ เพื่อที่จะทำให้ผู้ใช้งานสามารถท่องอินเทอร์เน็ตได้อย่างอุ่นใจ ในตอนนี้ชุดความปลอดภัยนั้นจะมีเฉพาะสำหรับ Windows เท่านั้น
• Identity Guard — เวลาที่เปิดใช้งาน Identity Guard (มีให้ใช้ฟรีพร้อมกับการสมัครสมาชิก CyberGhost) คุณก็จะได้รับการแจ้งเตือนในกรณีที่เกิดช่องโหว่กับที่อยู่อีเมลของคุณ คุณสามารถเพิ่มบัญชีอีเมลได้ 2 อีเมล และก็สามารถเลือก 1 อีเมลหลักสำหรับใช้รับการแจ้งเตือนในทันที เพื่อให้คุณสามารถเปลี่ยนรหัสผ่านได้ทันเวลา
• IP ส่วนตัว — CyberGhost มีหมายเลข IP ส่วนตัวให้ใน 5 ประเทศเท่านั้น: สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา เยอรมนี ฝรั่งเศสและแคนาดา มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจาก 3.75 เหรียญ/เดือน IP ส่วนตัวสามารถช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงการแบนและการปิดกั้นการเข้าถึงทางภูมิศาสตร์ได้ดีกว่า เนื่องจากมันยากที่เว็บไซต์ที่จะตรวจพบว่าคุณกำลังใช้ VPN เมื่อไม่มีใครใช้เซิร์ฟเวอร์เดียวกันกับคุณ สิ่งเหล่านี้มีความสำคัญเช่นกันหากคุณใช้ VPN สำหรับเว็บไซต์ของธุรกิจของคุณ หากหมายเลข IP ของคุณเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา อาจทำให้ไคลเอนต์สับสน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณใช้ซอฟต์แวร์ออนไลน์

นโยบายความเป็นส่วนตัว

CyberGhost VPN มีนโยบายการไม่บันทึกการใช้งานที่เข้มงวด บริการจะไม่บันทึกหมายเลข IP ของคุณ (หรือกิจกรรมใด ๆ ที่เชื่อมโยงกับหมายเลขนี้) คำขอ DNS หรือประวัติการใช้งาน คุณยังสามารถลงทะเบียนโดยไม่เปิดเผยตัวตนด้วย Bitcoin และเก็บข้อมูลการชำระเงินของคุณเป็นส่วนตัวได้เช่นกัน

ข้อมูลเดียวที่พวกเขาจัดเก็บจะไม่สามารถเปิดเผยตัวตนได้และใช้เพื่อปรับปรุงฟังก์ชันการทำงานของ VPN

อย่างไรก็ตามมันไม่ได้เข้มงวดเท่ากับนโยบายการไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานของ VPN อื่น ๆ ที่ฉันทดสอบเพราะพวกเขาบันทึกข้อมูลที่ไม่เปิดเผยตัวตน(รวมถึงจำนวนครั้งที่พยายามในการเชื่อมต่อและจำนวนครั้งที่สำเร็จ, ประเทศที่พยายามเชื่อมต่อ (แต่ไม่ใช่หมายเลข IP ของคุณ) และ CyberGhost เวอร์ชันใดที่คุณใช้) ไม่มีอะไรต้องกังวลเพราะไม่มีข้อมูลใดที่สามารถเชื่อมโยงกับรายละเอียดส่วนบุคคลของคุณได้และใช้เพื่อวิเคราะห์และปรับปรุงการให้บริการ VPN เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ฉันสังเกตเห็นว่า CyberGhost เก็บข้อมูลฮาร์ดแวร์บางส่วนของคุณเพื่อติดตามการเชื่อมต่อพร้อมกันของคุณ ซึ่งรวมถึง ขนาดหน้าจอและอุปกรณ์ที่คุณใช้ แต่ VPN อื่น ๆ ไม่ได้ใช้วิธีนี้ แต่ยังไงมันก็ไม่มีความเสี่ยงต่อความปลอดภัยหรือความเป็นส่วนตัวของคุณ นอกจากนี้ยังระบุในนโยบายว่าบริการขอสงวนสิทธิ์ในการแบ่งปันข้อมูลที่คุณให้กับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายหากเชื่อว่ามีการก่ออาชญากรรม โชคดีที่รายงานความโปร่งใสแสดงให้เห็นว่าบริการไม่เคยทำเช่นนี้เลย แม้จะมีการร้องขอมาหลายปีแล้วก็ตาม

ที่ตั้ง — โรมาเนีย ซึ่งเป็นมิตรกับความเป็นส่วนตัว

CyberGhost SA ตั้งอยู่ในโรมาเนีย นี่เป็นเรื่องที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวเพราะโรมาเนียไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของพันธมิตร 14 Eyes (ข้อตกลงระหว่างแคนาดา, สหรัฐอเมริกา, ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์, เยอรมนี และอีก 9 ประเทศเพื่อแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับพลเมืองของตน)

เนื่องจากโรมาเนียไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของพันธมิตร CyberGhost จึงไม่มีภาระผูกพันในการจัดเก็บหรือแบ่งปันข้อมูลกับรัฐบาลใด ๆ ดังนั้นข้อมูลของคุณจึงปลอดภัย

การละเมิดความปลอดภัยและการตรวจสอบอิสระ

บริการไม่เคยมีการละเมิดความปลอดภัย ในปี 2019 Typeform (บริษัท CyberGhost ใช้สร้างแบบสำรวจประสบการณ์ผู้ใช้) ทำอีเมล 120 รายการและชื่อผู้ใช้บัญชี CyberGhost 14 รายการรั่วไหล แต่ไม่มีการเปิดเผยรหัสผ่าน ดังนั้นจึงไม่มีความเสี่ยงที่จะถูกแฮ็ก และไม่มีการละเมิดใด ๆ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา นี่เป็นข้อพิสูจน์หลักปฏิบัติด้านความเป็นส่วนตัวของ CyberGhost ว่าไม่มีข้อมูลสำคัญใดรั่วไหลได้เพราะไม่มีการจัดเก็บข้อมูล

CyberGhost ไม่ได้รับการตรวจสอบอย่างอิสระตั้งแต่ปี 2012 แต่บริการทำการทดสอบการดำเนินการเกี่ยวกับกระบวนการด้านความปลอดภัยเสมอ การตรวจสอบในปี 2012 ดำเนินการโดย QSCERT ซึ่งเป็นบริษัทที่ตรวจสอบบริษัทขนาดใหญ่หลายแห่ง เช่น WhirlPool และ Hyundai บริการของ Cyberghost ผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยของระบบจัดการความปลอดภัยของข้อมูล (ISMS) ซึ่งมีการตรวจสอบซ้ำทุกปี

นี่คือความซื่อสัตย์ที่ฉันต้องการเห็นจาก VPN ชั้นนำ ฉันต้องการเห็น CyberGhost ดำเนินการทดสอบให้บ่อยขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านนโยบายการไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานและมาตรฐานความปลอดภัยของเซิร์ฟเวอร์ เพื่อที่เราจะได้เห็นภาพที่ชัดเจนขึ้นเกี่ยวกับวิธีการทำงานของพวกเขา

รายงานด้านความปลอดภัย

CyberGhost เผยแพร่รายงานเพื่อความโปร่งใสทุก 3 เดือน ในรายงานจะมีข้อมูลเกี่ยวกับการตั้งสถานะกิจกรรมที่มีมัลแวร์ สถิติสำคัญเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานและจำนวนคำขอข้อมูลที่ได้รับ VPN อื่นไม่ได้เผยแพร่รายงานบ่อยเท่ากับบริการนี้ บริการที่เผยแพร่รายงานบ่อยเป็นอันดับสองได้แก่ Private Internet Access ซึ่งเผยแพร่ 2 ครั้งต่อปีและ CyberGhost มากกว่าเป็นสองเท่า นี่แสดงให้ฉันเห็นว่า CyberGhost ให้ความสำคัญกับความโปร่งใสกับลูกค้าเป็นอย่างมาก

คุณสามารถค้นหารายงานแต่ละไตรมาสได้ที่บล็อก Privacy Hub ของพวกเขา ฉันอ่านรายงานฉบับล่าสุดและข้อมูลทางเทคนิคทั่วไป รายงานแสดงจำนวนคำขอข้อมูลที่ CyberGhost ได้รับ CyberGhost แบ่งสิ่งเหล่านี้ออกเป็น 3 หมวดหมู่: คำขอจากตำรวจ การละเมิดลิขสิทธิ์และกิจกรรมที่เป็นอันตราย ในรายงานล่าสุด คำขอลดลง 34% อย่างไรก็ตาม CyberGhost ระบุว่าสิ่งนี้ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรเพราะมันไม่ได้เก็บข้อมูลของคุณเลย

มันน่ากลัวมากเมื่อรู้ว่ามีกลุ่มที่มีอำนาจกี่กลุ่มที่ขอข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่คุณทำบนอินเตอร์เน็ต แต่ว่า CyberGhost ยึดมั่นในการรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของคุณให้ปลอดภัยและเปิดเผยเกี่ยวกับคำขอเหล่านี้

CyberGhost เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการดาวน์โหลดทอร์เรนต์ บริการมีเซิร์ฟเวอร์สำหรับการทอร์เรนต์ใน 61 ประเทศ สิ่งเหล่านี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อการแชร์ไฟล์ P2P ความเร็วสูงในขณะที่ยังคงรักษาความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของคุณอยู่เสมอ คุณสามารถค้นหาเซิร์ฟเวอร์เหล่านี้ได้ภายใต้แท็บ “สำหรับการทอร์เรนต์” ในแอพพลิคเคชั่น

ฉันลองใช้เซิร์ฟเวอร์ในสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย เยอรมนีและเม็กซิโกโดยใช้ qBitTorrent, uTorrent และ Transmission ฉันสามารถดาวน์โหลดไฟล์ได้อย่างง่ายดายและรวดเร็วบนเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมด ฉันใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีในการดาวน์โหลดไฟล์ 1.43 GB (ไม่มีลิขสิทธิ์)

บริการรองรับ P2P ในหลายประเทศและคุณสามารถดูได้อย่างง่ายดายว่าประเทศใดอนุญาตบนเว็บไซต์

เพื่อจุดประสงค์ในการเขียนบทความนี้ ฉันได้ตรวจสอบเพื่อดูว่า CyberGhost ทำงานร่วมกับแอพพลิเคชั่นสตรีมมิ่ง P2P เช่น Popcorn Time ได้หรือไม่ แม้ว่าฉันจะไม่ยอมรับการใช้ VPN เพื่อเข้าถึงเนื้อหาที่มีลิขสิทธิ์ แต่ถ้าคุณมีเหตุผลที่ถูกต้อง (เช่น การค้นคว้า) CyberGhost จะอนุญาตให้คุณเข้าถึง Popcorn Time ได้อย่างปลอดภัย

CyberGhost ใช้การเข้ารหัสขั้นสูง นโยบายไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานที่เข้มงวดและ Forward secrecy ในการส่งต่อข้อมูลที่สมบูรณ์แบบเพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะปลอดภัยในขณะที่แบ่งปันไฟล์แบบ P2P พวกเขาไม่เก็บข้อมูลใด ๆ เกี่ยวกับกิจกรรมของคุณ ดังนั้นจึงไม่สามารถติดตามกลับมาหาคุณได้ แต่ถ้าคุณต้องการปกปิดตัวตนเป็นพิเศษ คุณควรเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ NoSpy สิ่งเหล่านี้อยู่ภายใต้การดูแลโดยเจ้าหน้าที่ของ CyberGhost ในเมืองบูคาเรสต์ ประเทศโรมาเนีย ดังนั้นจึงไม่มีบุคคลที่สามเข้ามาเกี่ยวข้อง

ฉันยังแนะนำให้ใช้ฟีเจอร์ App Protection เพื่อเชื่อมต่อกับไคลเอนต์ BitTorrent ที่คุณต้องการ เมื่อคุณมัวแต่ตื่นเต้นกับการดาวน์โหลดบางที มันก็อาจง่ายที่จะลืมนึกถึง VPN ไป ดังนั้นจึงเป็นการดีที่สุดที่จะทำให้กระบวนการทั้งหมดเป็นแบบอัตโนมัติในครั้งเดียวและไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับมันอีก เมื่อคุณเพิ่มลงในรายการแอพพลิเคชั่นที่กำหนดแล้ว CyberGhost จะเริ่มทำงานพร้อมกับซอฟต์แวร์ใดก็ตามที่คุณใช้จัดการทอร์เรนต์

ข้อเสียอย่างหนึ่งคือ CyberGhost ไม่รองรับการ Port forwarding ซึ่งสามารถช่วยให้คุณสามารถหลีกเลี่ยงการบล็อกบนเราเตอร์ของคุณเพื่อเริ่มต้นหรือดาวน์โหลดได้เร็วขึ้น มันเป็นตัวเลือกที่หลายคนใช้ขณะดาวน์โหลดทอร์เรนต์ แต่ CyberGhost ไม่อนุญาตเพราะเชื่อว่าการ Port forwarding อาจทำให้ความปลอดภัยลดลง แม้จะไม่มี Port forwarding แต่ฉันพบว่าความสามารถในการทอร์เรนต์ของ CyberGhost นั้นค่อนข้างน่าประทับใจ

เราไปเจอคนเขียนในเว็บบอร์ดมาว่ามีผู้ใช้งานของ CyberGhost ที่ได้รับการแจ้งเตือน DMCA หลังจากที่พวกเขาใช้มันโหลด torrent ถึงแม้ว่ารายงานเหล่านี้ส่วนใหญ่นั้นจะเก่ามากแล้ว และก็เป็นเรื่องที่พบเห็นได้ไม่บ่อย แต่ก็ขอให้จำเอาไว้ว่า ข้อกำหนดและเงื่อนไขของ CyberGhost นั้นไม่สนับสนุนการดาวน์โหลดเนื้อหาที่มีลิขสิทธิ์อย่างผิดกฎหมาย (vpnMentor ก็เช่นกัน)

CyberGhost สามารถใช้งานได้ในประเทศจีนหรือไม่ ไม่

CyberGhost ไม่​สามารถใช้งานได้ในประเทศจีน พวกเขามีเซิร์ฟเวอร์ที่สามารถเข้าถึงเว็บไซต์ภาษาจีนได้ แต่คุณไม่สามารถใช้งานได้หากคุณอยู่ในประเทศจีนแล้ว ฉันติดต่อฝ่ายสนับสนุนแบบไลฟ์แชทและพวกเขายืนยันว่าเป็นเพราะรัฐบาลจีนได้บล็อกแอพพลิเคชั่นนี้

CyberGhost ถูกบล็อกในจีน ซาอุดีอาระเบีย ตุรกีและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

จีนแบน VPN ที่รัฐบาลไม่ได้ควบคุมและ Great Firewall เพื่อปิดกั้นการส่งข้อมูลผ่าน VPN ดังที่คุณเห็นในแชท CyberGhost ยังถูกปิดกั้นโดยอาหรับเอมิเรตส์, ซาอุดีอาระเบียและตุรกี มี VPN น้อยมากที่สามารถหลีกเลี่ยงการปิดกั้นจากรัฐบาลจีนได้ เพื่อหลีกเลี่ยงการปิดกั้นเหล่านี้ VPN ต้องมี 3 สิ่ง:

1. โฮสต์เว็บไซต์ .onion ที่ให้คุณสมัครใช้บริการและติดตั้งแอพพลิเคชั่นผ่านเครือข่าย Onion
2. ใช้งานเซิร์ฟเวอร์ Obfuscated ซึ่งเปลี่ยนข้อมูลเมตาของคุณเพื่อทำให้การรับส่งข้อมูลของคุณดูเหมือนการรับส่งข้อมูลปกติที่ไม่ใช่ VPN
3. นำเสนอฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยที่แข็งแกร่งโดยเฉพาะการเข้ารหัส 256-bit, การป้องกันการรั่วไหลและ Kill switch

CyberGhost มีฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยระดับชั้นนำแต่ไม่มีเซิร์ฟเวอร์ Obfuscated นอกจากนี้คุณไม่สามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นจากภายในประเทศจีนได้ เนื่องจากแอพพลิเคชั่นถูกลบออกจากแอพพลิเคชั่นสโตร์ในจีนแล้ว และหน้าแรกของแอพพลิเคชั่นก็ถูกบล็อก แต่ถ้าคุณเดินทางออกนอกประเทศจีนหรือตั้งรกรากในประเทศอื่น คุณสามารถใช้ CyberGhost เพื่อเข้าถึงเนื้อหาในท้องถิ่นได้