8 VPN iPhone & iPad ฟรี และที่ดีที่สุดในปี 2024

การตามหา VPN iOS ฟรี และดีนั้นเป็นเรื่องยาก เนื่องจากมันมี VPN ที่ไว้ใจไม่ได้อยู่มากมาย VPN ฟรีส่วนใหญ่นั้นจะมีฟีเจอร์ความปลอดภัยที่อ่อนแอ จะทำให้เครื่องของคุณช้าลง และก็จะกินแบต iPhone หรือ iPad ของคุณด้วย บางรายถึงขั้นบันทึกข้อมูลของคุณเพื่อเอาไปขายเลยก็มี เรื่องที่บ้ามาก ๆ ก็คือ VPN ฟรีที่ไม่น่าเชื่อถือและมีคุณภาพต่ำเหล่านี้กลับได้คะแนนถึง 4+ ดาวจากรีวิวของผู้ใช้งาน

แต่ไม่ต้องกังวล — เราได้ใช้ประสบการณ์ในอุตสาหกรรมนี้ของเราเพื่อทำการตรวจสอบและเปรียบเทียบ VPN ฟรีกว่า 50 ตัว อย่างละเอียด เพื่อคัดสรร 8 ตัวเลือกที่ดีที่สุดและปลอดภัยที่สุด VPN เหล่านี้ทั้งหมดนั้นสามารถใช้งานกับ iOS 16 (และเก่ากว่า) รวมทั้งยังช่วยปกป้องคุณได้ไม่ว่าคุณจะใช้งานที่บ้านหรือกำลังอยู่ระหว่างเดินทาง อย่างไรก็ตาม คุณควรจะทราบเอาไว้ว่า VPN ฟรี ทั้งหมดต่างก็จะมาพร้อมกับข้อจำกัดบางอย่าง เช่นเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ที่เล็กกว่า ความเร็วที่ช้ากว่า และข้อมูลที่ถูกจำกัด

เรามักจะแนะนำอยู่เสมอให้ใช้งานจากผู้ให้บริการระดับพรีเมียมอย่าง ExpressVPN สำหรับ iOS ถึงแม้ว่ามันจะไม่ฟรี 100% แต่มันก็สมควรได้รับอันดับสูงสุดในรายการนี้เนื่องจากมันเป็น VPN iOS ที่ดีที่สุด ที่เราเคยใช้มา และมันก็จะไม่มาจำกัดคุณในด้านต่าง ๆ เหมือน VPN ฟรี มันมีการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน ที่เราได้ทำการทดสอบมาแล้ว และมันก็มีความน่าเชื่อถือจริง

ทดลองใช้ ExpressVPN อย่างไม่มีความเสี่ยง

ไม่ค่อยมีเวลาใช่ไหม? นี่คือ VPN สำหรับ iPhone & iOS ฟรี และดีที่สุด — ทดสอบแล้วในปี 2024

VPN ฟรีที่ดีที่สุดสำหรับ iPhone และ iPad — การวิเคราะห์ฉบับเต็ม (อัปเดตใน 2024)

1. ExpressVPN — VPN ที่ดีที่สุดสำหรับ iOS มีเครือข่ายทั่วโลกที่มีความเร็วสูงและสามารถเข้าถึงเว็บไซต์สตรีมมิ่งได้อย่างมีความเสถียร

ตัวเลือกของบรรณาธิการ ตัวเลือกของบรรณาธิการ ทดลองใช้งานได้อย่างปลอดภัย 30 วัน
ทดสอบใน เมษายน 2024

พร้อมใช้งานใน:

Windows Mac Android iOS

Chrome เราท์เตอร์ สมาร์ททีวี เพิ่มเติม

ลองใช้ ExpressVPN >

www.ExpressVPN.com

ExpressVPN เป็น VPN ที่เร็วที่สุดที่เราได้ทำการทดสอบมาสำหรับ iOS ตอนที่เราทดลองใช้งานเซิร์ฟเวอร์ในสหราชอาณาจักร เยอรมนี และฝรั่งเศส เราก็ได้ความเร็วเฉลี่ยที่น่าประทับใจมากอยู่ที่ 69.2 Mbps — ตกลงไปเพียงแค่ 3% จากความเร็วฐานของเรา (และก็เร็วกว่าความเร็วขั้นต่ำที่ใช้ในการสตรีมมิ่งความชัดระดับ HD ถึง 13 เท่า) ความเร็วสูงของมันนั้นเกิดขึ้นได้เพราะโปรโตคอล Lightway ที่พัฒนาขึ้นเองซึ่งใช้ทรัพยากรน้อยและไม่กินแบต และเป็นหนึ่งในโปรโตคอลที่มีประสิทธิภาพดีที่สุดเท่าที่หาได้ในปัจจุบัน

ถึงแม้ว่าเราจะเชื่อมต่อไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ห่างไกลไปถึง 17,000 กม. แต่ความเร็วของเราก็ตกลงไปเพียง 5% เท่านั้น

ความเร็วสูงของมันทำให้คุณสามารถสตรีมได้อย่างไม่ถูกรบกวน ด้วยกว่า 3,000+ เซิร์ฟเวอร์ใน 105 ประเทศ (รวมถึงประเทศไทย) ทำให้เราสามารถเข้าถึง เว็บไซต์สตรีมมิ่งยอดนิยมได้ทั่วโลกผ่าน iPhone และ iPad ของเรา นี่จะประกอบไปด้วย Netflix ถึง 15+ ประเทศ, Disney+, Hulu, และ Amazon Prime Video — เราไม่มีปัญหาในการเข้าถึงบัญชีของเราเลย

เซิร์ฟเวอร์ที่มีค่า latency ต่ำของ ExpressVPN นั้นยังทำให้การเล่นเกมบน iPhone นั้นมีความราบรื่นมากอีกด้วย ตอนที่เราเชื่อมต่อไปยังเซิร์ฟเวอร์เยอรมนีเพื่อเล่น Brawlhalla เราก็เจอกับอาการแลคแค่นิดเดียว (ค่าปิงของเราไม่เคยขึ้นสูงกว่า 30 ms เลย) เราสามารถเล่นเกมได้อย่างราบรื่น สามารถแข่งขันได้ไม่มีปัญหา

ExpressVPN นั้นไม่ฟรีซะทีเดียว แต่ มันมีการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน — แต่ถ้าจะใช้มัน คุณควรจะ สมัครใช้งานผ่านเว็บไซต์ของ ExpressVPN ถึงแม้ว่าคุณจะสามารถสมัครใช้งานผ่านแอป iOS ได้ (และก็จะได้ทดลองใช้ฟรี 7 วัน) แต่คุณจะไม่ได้รับสิทธิ์การรับประกันคืนเงิน คุณจะต้องไปฝากตัวไว้กับนโยบายขอคืนเงินที่ไม่ชัดเจนของ Apple แทน ซึ่งพวกเขาก็อาจจะไม่คืนเงินให้คุณ ถึงแม้ว่าคุณจะขอยกเลิกแต่แรก ๆ ก็ตาม

ฟีเจอร์ที่มีประโยชน์

• การเข้ารหัสมีความแน่นหนา แอป iOS นั้นมีการเข้ารหัสระดับทหาร ซึ่งมีการทำ perfect forward secrecy ได้ นี่ก็คือการที่คีย์เข้ารหัสของคุณจะถูกเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ เพื่อให้การถอดรหัสนั้นเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก แม้แต่ข้อมูล Apple Watch ของคุณก็จะถูกเข้ารหัสด้วย ตอนที่มันเชื่อมต่อเครือข่ายเดียวกับ iPhone ของคุณ
• Threat Manager Threat Manager ของมันนั้นจะทำการบล็อกแอปอื่น ๆ โดยอัตโนมัติบนอุปกรณ์ iOS ของคุณ ไม่ให้นำข้อมูลไปแชร์กับบุคคลที่สามหรือสื่อสารกับเว็บไซต์ที่อันตราย ExpressVPN นั้นจะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าข้อมูลของคุณนั้นถูกเก็บรักษาไว้ให้มีความปลอดภัยด้วยการป้องกันการรั่วไหลของ IP/DNS และ kill switch อัตโนมัติ
• เซิร์ฟเวอร์แบบ RAM ความเป็นส่วนตัวของคุณนั้นจะได้รับการปกป้อง เนื่องจากข้อมูลทั้งหมดของคุณจะถูกล้างเวลาที่มีการรีบูทเซิร์ฟเวอร์ของ ExpressVPN แถมมันยังตั้งอยู่ที่หมู่เกาะบริติชเวอร์จินซึ่งเป็นมิตรต่อความเป็นส่วนตัว (อยู่นอก พันธมิตร Eyes) ซึ่งจะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่า ExpressVPN นั้นจะไม่จำเป็นต้องให้ข้อมูลกับรัฐบาล
• เซิร์ฟเวอร์ทำ obfuscation อัตโนมัติ ExpressVPN จะทำการปิดบังทราฟฟิค VPN ของคุณให้ดูเหมือนเป็นทราฟฟิคทั่วไปโดยอัตโนมัติ ถ้ามันตรวจพบข้อจำกัดบนเครือข่ายของคุณ นี่จะทำให้คุณสามารถหลบหลีกไฟร์วอลล์ที่บล็อก VPN บนอุปกรณ์ iOS ของคุณได้โดยที่ไม่ต้องกำหนดค่าใด ๆ เพิ่มเติม

2. CyberGhost — เซิร์ฟเวอร์พิเศษสำหรับสตรีมมิ่งบนมือถือของคุณได้อย่างที่ความเร็วไม่ตก

พร้อมใช้งานใน:

Windows Mac Android iOS

Chrome เราท์เตอร์ สมาร์ททีวี เพิ่มเติม

ลองใช้ CyberGhost VPN >

www.cyberghostvpn.com

CyberGhost นั้นเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับใช้สตรีมมิ่งบน iOS เครือข่ายขนาดใหญ่ถึง 11,690+ เซิร์ฟเวอร์ใน 100 ประเทศ(รวมถึงประเทศไทย) จะทำให้คุณสามารถเข้าถึงเนื้อหาทั่วโลกได้จากทุกแห่ง มันมีเซิร์ฟเวอร์พิเศษสำหรับสตรีมมิ่งที่ครอบคลุมแต่ละแพลตฟอร์มและพื้นที่ต่าง ๆ ในแต่ละประเทศอีกด้วย ตอนที่เราทำการทดสอบเซิร์ฟเวอร์ในสหรัฐอเมริกา เราก็สามารถเข้าถึงบัญชี US Netflix, Disney+ และ Hulu ได้อย่างง่ายดายบน iPhone และ iPad ของเรา

CyberGhost นั้นมีเซิร์ฟเวอร์สตรีมมิ่งที่แตกต่างกันถึง 100 แห่ง ทำให้คุณสามารถเข้าถึงเนื้อหาได้ทั่วโลก

เรายังได้ความเร็วดีตอนที่เราทดสอบ CyberGhost บน iPhone ของเราด้วย ตอนที่เราทดสอบเซิร์ฟเวอร์ในสหรัฐอเมริกาของมัน เราก็ได้ความเร็วเฉลี่ยอยู่ที่ 59.7 Mbps (ตกลงไปเพียง 16% เท่านั้น) ถึงแม้ว่ามันจะไม่เร็วเท่ากับ ExpressVPN แต่มันก็ยังเร็วพอสำหรับที่เราจะใช้ดูเรื่อง Wednesday ในความชัดระดับ Ultra HD ได้ อย่างไรก็ตาม เราสังเกตเห็นว่าถ้าเลือกใช้เซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ห่างไกล ความเร็วก็จะตกไปเยอะถึง 35%

ข้อเสียหนึ่งของ CyberGhost ก็คือมันไม่สามารถใช้งานในประเทศจีนได้ อย่างไรก็ตาม ฝ่ายบริการลูกค้ายืนยันกับเราว่ามันสามารถใช้งานได้ในประเทศอื่น ๆ ที่มีการเซ็นเซอร์เนื้อหาออนไลน์ (เช่นอิหร่านและตุรกี) ได้เป็นอย่างดี แต่คุณก็ควรอย่าลืมที่จะศึกษาเกี่ยวกับกฎหมายและข้อบังคับในท้องถิ่นเกี่ยวกับการใช้ VPN ด้วย เพื่อหลีกเลี่ยงการทำผิดกฎหมาย

เช่นเดียวกันกับ ExpressVPN ตรงที่ CyberGhost นั้นไม่ได้ฟรี 100% แต่ มันมีการรับประกันคืนเงินที่ยาวถึง 45 วัน ถ้าคุณสมัครใช้งานผ่านเว็บไซต์ของ CyberGhost มันมีให้ทดลองใช้ฟรี 7 วันสำหรับ iOS ด้วย แต่เราไม่อยากแนะนำวิธีนี้เนื่องจากคุณอาจจะไม่ได้เรื่องการรับประกันคืนเงิน ถ้าคุณถูกคิดเงินอัตโนมัติหลังจากที่หมดช่วงทดลองใช้

ฟีเจอร์ที่มีประโยชน์

• แอปเป็นมิตรต่อผู้ใช้งานมือใหม่ แอป iOS ของมันนั้น ติดตั้งและใช้งานง่ายมาก ๆ  เราใช้เวลาแค่ 3 นาทีในการติดตั้งและเริ่มใช้งานบน iPhone ของเรา เซิร์ฟเวอร์พิเศษสำหรับสตรีมมิ่งนั้นก็จะถูกระบุเอาไว้ชัดเจน และเราก็สามารถตั้งค่าเซิร์ฟเวอร์ที่เราใช้บ่อยที่สุดเป็นรายการโปรด เพื่อให้เข้าถึงได้เร็วในครั้งต่อไปได้
• นโยบายการไม่บันทึกข้อมูลที่ผ่านการตรวจสอบจากองค์กรอิสระแล้ว นโยบายการไม่บันทึกข้อมูลของ CyberGhost นั้นผ่านการตรวจสอบอย่างเป็นอิสระและได้รับการยืนยันโดยสำนักงานตรวจสอบ Deloitte ทำให้คุณมั่นใจได้ว่าข้อมูลและกิจกรรมของคุณจะไม่ถูกบันทึกเอาไว้ แถมมันยังตั้งอยู่ในโรมาเนียซึ่งเป็นประเทศที่เป็นมิตรต่อความเป็นส่วนตัวอีกด้วย
• การป้องกันที่แน่นหนาเป็นพิเศษ คุณสามารถตั้งค่าให้ CyberGhost เปิดทำงานอัตโนมัติได้เวลาที่คุณเชื่อมต่อเข้ากับ WiFi สาธารณะ เพื่อให้คุณได้รับการป้องกันด้วยการเข้ารหัส 256-bit AES, kill switch อัตโนมัติ และการป้องกันการรั่วไหลของ IP/DNS แถมมันยังมีฟีเจอร์ที่ชื่อว่า Block Content ซึ่งจะช่วยป้องกันโฆษณา มัลแวร์ และตัวติดตามอีกด้วย

3. ProtonVPN — ใช้ข้อมูลได้ไม่จำกัด เพื่อให้คุณปกป้อง iPhone ของคุณได้ตลอดเวลา

พร้อมใช้งานใน:

Windows Mac Android iOS

Chrome เราท์เตอร์ สมาร์ททีวี เพิ่มเติม

ลองใช้ Proton VPN >

www.Proton VPN.com

แอป iOS ฟรี ของ Proton VPN นั้นมีข้อมูลให้ใช้งานได้ไม่จำกัด ดังนั้นคุณจะสามารถท่องเว็บได้มากเท่าที่คุณต้องการ VPN ฟรี ส่วนใหญ่นั้นจะให้คุณใช้ข้อมูลได้แค่หนึ่ง GB ต่อเดือน (บางครั้งให้แค่ 500MB) — ข้อมูลแบบไม่จำกัดนั้นเป็นของที่หายาก มาก ๆ สำหรับ VPN ฟรี เราสามารถดู YouTube ได้นานถึง 3 ชั่วโมงอย่างไม่ถูกขัดจังหวะเลย

ความเร็วที่เราได้นั้นก็มีความเสถียรอยู่ตลอดตอนที่ใช้ Proton VPN  ตอนที่เราใช้ iPhone 14 เพื่อทดสอบเซิร์ฟเวอร์ฟรี 3 แห่ง (สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และเนเธอร์แลนด์) เราก็ได้ความเร็วเฉลี่ยอยู่ที่ 54.5 Mbps หรือก็คือความเร็วตกจากความเร็วฐานของเราไป 25% สำหรับ VPN ฟรี นี่ก็ถือได้ว่าไม่เลวเลย

แอป iOS ฟรี ของมันนั้นยังมีฟีเจอร์ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวมากมาย เพื่อช่วยปกป้องข้อมูลส่วนตัวของคุณให้ปลอดภัย มันมีโปรโตคอล Stealth (อีกหนึ่งเรื่องหายากสำหรับ VPN ฟรี) ซึ่งจะทำให้คุณสามารถใช้งาน VPN ได้อย่างไม่ถูกตรวจพบบนเครือข่ายที่มีการจำกัดการใช้งาน นอกจากนี้มันยังมี WireGuard, OpenVPN และ IKEv2 ให้เลือกด้วย แถมมันยังมาพร้อมกับการเข้ารหัส 256-bit AES, kill switch และการป้องกันการรั่วไหลของ IP/DNS และเนื่องจากมันตั้งอยู่ที่สวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งมีกฎหมายเรื่องการคุ้มครองความเป็นส่วนตัวอันเข้มงวด คุณจึงมั่นใจได้ว่าข้อมูลของคุณนั้นจะได้รับการปกป้องเป็นอย่างดี

การใช้ kill switch นั้นจะทำให้ข้อมูลของคุณไม่รั่วไหลออกไป ในกรณีที่การเชื่อมต่อ VPN เกิดขาดการเชื่อมต่อขึ้นมา

น่าเสียดายที่ Proton VPN ไม่รองรับการสตรีมมิ่งบนแพลนฟรีของมัน อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมันมีข้อมูลให้ใช้งานได้ไม่จำกัด และก็มีโปรโตคอล Stealth คุณจึงสามารถท่องเว็บหรือสตรีมมิ่ง Netflix Originals และ Youtube ได้อย่างไม่มีสิ้นสุด ถึงแม้ว่าคุณจะใช้งานเครือข่ายที่ VPN มักจะถูกบล็อกอย่างที่ทำงานหรือโรงเรียนก็ตาม

ฟีเจอร์ที่มีประโยชน์

• แอป iOS แบบโอเพนซอร์ซที่ผ่านการตรวจสอบแล้ว แอป iOS ของ Proton VPN นั้นเป็นแบบโอเพนซอร์ซเพื่อให้มีความโปร่งใสเป็นที่สุด และมันก็ได้ผ่านการตรวจสอบอย่างอิสระมาแล้วล่าสุดเมื่อปี ค.ศ. 2022 ทำให้มันเป็นโซลูชันที่มีความปลอดภัย มีคุณภาพระดับมาตรฐานอุตสาหกรรม
• 130+ เซิร์ฟเวอร์ฟรี Proton VPN นั้นมีเซิร์ฟเวอร์ให้เลือกเยอะมาก เมื่อเทียบกับ VPN ฟรี รายอื่น ๆ นี่จะช่วยลดความเสี่ยงเรื่องความเร็วที่ต่ำเพราะคนแย่งกันใช้เซิร์ฟเวอร์เดียวกัน และก็จะมีตัวเลือกให้คุณเลือกใช้แทนได้ หากมีเซิร์ฟเวอร์ใดล่มขึ้นมา
• ตั้งค่าและใช้งานง่าย การตั้งค่าของ Proton VPN นั้นง่ายมาก ๆ เราสามารถเชื่อมต่อไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่เร็วที่สุดได้ภายในไม่กี่วินาทีด้วยปุ่ม "Quick Connect (เชื่อมต่ออย่างรวดเร็ว)” และเลื่อนหาตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ได้ด้วยหน้าแผนที่ คุณสามารถเพิ่มวิดเจ็ตของ Proton VPN ไปยังหน้าโฮมของคุณเพื่อให้เชื่อมต่อได้เร็วยิ่งขึ้นอีกด้วย

4. Avira Phantom VPN — เชื่อมต่อได้ไม่จำกัดจำนวนอุปกรณ์ฟรี

พร้อมใช้งานใน:

Windows Mac Android iOS

Chrome เพิ่มเติม

ลองใช้ Avira Phantom VPN >

www.avira.com

Avira Phantom เปิดให้เชื่อมต่อพร้อมกันได้ไม่จำกัดจำนวนอุปกรณ์ ดังนั้นเราจึงสามารถปกป้องอุปกรณ์ทั้งหมดในบ้านของเราได้ ระหว่างการทดสอบของเรา เราได้แชร์บัญชีกับเพื่อนร่วมห้องสองคน และพวกเราทุกคนก็เชื่อมต่อหา VPN พร้อมกัน — พวกเราไม่เจอปัญหาใด ๆ จากการเชื่อมต่อ VPN เลย

เครือข่ายของมันมีขนาดใหญ่มากสำหรับ VPN ฟรี มันประกอบไปด้วยเซิร์ฟเวอร์ถึง 34 แห่งทั่วโลก อย่างไรก็ตาม เราไม่สามารถปลดบล็อกแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งได้เลยตอนที่เราทดสอบ 5 เซิร์ฟเวอร์ของมัน แต่ละหน้านั้นไม่ยอมโหลด หรือถ้าโหลดก็มีข้อผิดพลาดเกี่ยวกับพร็อกซี่ที่บอกว่าตรวจพบ VPN

น่าเสียดายที่ข้อมูลของเราหมดก่อนที่เราจะทดสอบเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมดได้

ด้วยข้อมูลจำกัดเพียงแค่ 500MB ต่อเดือน Avira Phantom VPN นั้นไม่ใช่ตัวเลือก VPN ที่ดีนักสำหรับใช้สตรีมมิ่ง (เต็มที่มันก็จะสตรีมมิ่งในความชัดระดับ HD ได้แค่ 30 นาที) โชคยังดีที่ คุณสามารถรับเพิ่มอีก 500MB ต่อเดือนเพิ่มได้ถ้าคุณสมัครใช้งานด้วยที่อยู่อีเมล

ฟีเจอร์ที่มีประโยชน์

• ปกป้อง WiFi อัตโนมัติ ฟีเจอร์นี้จะเชื่อมต่อคุณเข้าหา VPN อัตโนมัติ เวลาที่มันตรวจพบว่าคุณกำลังใช้การเชื่อมต่อ WiFi สาธารณะ มันจะช่วยปกป้องข้อมูลที่มีความอ่อนไหวของคุณจากบุคคลที่สามที่มีเจตนาร้าย มันยังมาพร้อมกับการเข้ารหัส 256-bit AES และการป้องกันการรั่วไหลของ IP/DNS ด้วย น่าเสียดายที่แอป iOS ของมันไม่มี kill switch
• ความเร็วดี ตอนที่ iPhone 14 ของเราเชื่อมต่อไปยังเซิร์ฟเวอร์ในสหรัฐอเมริกา ความเร็วของเราก็อยู่ที่ 39.5 Mbps ยังช้ากว่า Proton VPN แต่มันก็เร็วพอสำหรับใช้ดู YouTube ในความชัดระดับ HD อย่างปลอดภัย
• แอปเป็นมิตรต่อผู้ใช้งาน คุณสามารถเชื่อมต่อไปยังเซิร์ฟเวอร์ด้วยการแตะปุ่ม "เชื่อมต่อ" ปุ่มใหญ่เพียงแค่ 1 ครั้ง แถมเรายังพบว่าฟีเจอร์ "Nearest Location (ตำแหน่งที่ใกล้ที่สุด)” ซึ่งจะเชื่อมต่อคุณไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่เร็วที่สุดโดยอัตโนมัตินั้นก็มีประโยชน์มาก

5. hide.me — VPN iOS ฟรี สำหรับใช้ปกป้องข้อมูล iPhone ของคุณให้ปลอดภัย

พร้อมใช้งานใน:

Windows Mac Android iOS

Chrome เราท์เตอร์ สมาร์ททีวี เพิ่มเติม

ลองใช้ hide.me VPN >

www.hide.me

Hide.me นั้นมีมาตรการรองรับเพื่อป้องกันให้ข้อมูลของคุณมีความเป็นส่วนตัวบน iOS มันตั้งอยู่ในมาเลเซีย ซึ่งไม่มีกฎหมายการเก็บข้อมูล แถมมันยังมีรายงานเกี่ยวกับความโปร่งใสอยู่เป็นประจำ ซึ่ง VPN ฟรี ส่วนใหญ่นั้นจะไม่มีกัน รายงานนี้จะมีข้อมูลอย่างละเอียดเกี่ยวกับคำขอข้อมูลผู้ใช้งานที่พวกเขาได้รับจากรัฐบาล รวมถึงการตอบสนองของพวกเขา ในทุกกรณี ทาง hide.me นั้นจะไม่มีข้อมูลใด ๆ อยู่แล้ว เนื่องจากพวกเขาทำตามนโยบายการไม่บันทึกข้อมูลอย่างเข้มงวด

รายงานประจำปีของ Hide.me นั้นสามารถอ่านและเข้าใจได้ง่าย

เรายังชอบอีกเรื่องที่ไม่ต้องสมัครใช้งานหรือลงทะเบียนก่อนที่จะใช้ hide.me ได้ นี่แปลว่าคุณจะไม่ต้องแบ่งปันที่อยู่อีเมลเพื่อที่จะเริ่มใช้มัน ถึงจะเป็นเช่นนั้นแล้ว แต่ hide.me ก็ช้ากว่าที่เราต้องการเล็กน้อย — ความเร็วเฉลี่ยของเราอยู่ที่ 24.6 Mbps ซึ่งตกลงไปจากความเร็วฐานของเราถึง 65%

ฟีเจอร์ที่มีประโยชน์

• ฟีเจอร์ความปลอดภัยที่ปรับแต่งได้ ระหว่างการทดสอบของเรา เราสามารถเปลี่ยนโปรโตคอล (IKEv2 และ OpenVPN) สามารถกำหนดค่า DNS เอง และก็สามารถกำหนดค่าให้ VPN เชื่อมต่ออัตโนมัติได้เวลาที่มันตรวจพบการเชื่อมต่อ WiFi หรือเซลลูลาร์ และมันก็ยังมี split tunneling กับ kill switch ซึ่งสามารถเปิดใช้งานได้ภายใน 1 คลิก
• เซิร์ฟเวอร์ฟรี 8 แห่ง เซิร์ฟเวอร์ฟรีของมันนั้นจะตั้งอยู่ในยุโรปเป็นส่วนใหญ่ โดยที่จะมีบางแห่งอยู่ในสหรัฐอเมริกา มีหนึ่งแห่งในแคนาดา และอีกหนึ่งแห่งในสิงคโปร์ น่าเสียดายที่เราไม่สามารถเข้าถึงแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งที่ถูกบล็อกในพื้นที่ได้ แต่มันก็จะมีเซิร์ฟเวอร์อยู่ใกล้ไว้ให้ใช้งานเวลาที่เราเดินทางไปสหรัฐอเมริกา เพื่อลดผลกระทบด้านความเร็วที่อาจจะเกิดขึ้น
• การสนับสนุน 24/7 มันมีไลฟ์แชท 24/7 (เป็นภาษาไทยผ่านโปรแกรมแปลอัตโนมัติ) ให้ผู้ใช้งานฟรี รวมถึงมีฐานข้อมูลที่ครอบคลุม (เป็นภาษาอังกฤษ) เราสามารถขอความช่วยเหลือโดยตรงผ่านทางแอปได้ด้วย ซึ่งก็สะดวกดีมาก

6. Hotspot Shield — เชื่อมต่อระยะไกลสำหรับ iOS ได้ฟรี

พร้อมใช้งานใน:

Windows Mac Android iOS

Chrome เราท์เตอร์ สมาร์ททีวี เพิ่มเติม

ลองใช้ Hotspot Shield >

www.HotspotShield.com

โปรโตคอล Catapult Hydra ของ Hotspot Shield ที่พัฒนาขึ้นเองนั้นมีความเร็วดี สำหรับเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ระยะไกล เครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ของมันจะครอบคลุม สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา (ลอสแอนเจลิสและนิวยอร์ก) และสิงคโปร์ ตอนที่เราทดสอบเซิร์ฟเวอร์สหรัฐอเมริกาของมัน (ซึ่งอยู่ห่างไป 5,000 กม.) บน iPhone 14 ความเร็วของเราก็เฉลี่ยอยู่ที่ 41.2 Mbps, ตกไป 42% เมื่อเปรียบเทียบกับ VPN ฟรี รายอื่น ๆ ที่ทำให้ความเร็วเราตกไป 80%+ บนเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ห่างไกลแล้ว นี่จึงเป็นเรื่องที่น่าประทับใจมาก

Hotspot Shield ทำให้เราได้รับความเร็วที่เพียงพอสำหรับการสตรีมมิ่งในความชัดระดับ UHD บน เซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ห่างไกล

เราค่อนข้างเป็นกังวลที่สำนักงานใหญ่ของมันตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นหัวใจของเครือข่ายสอดแนมพันธมิตร Eyes แถมมันยังบันทึกปริมาณการใช้งานแบนด์วิดท์และระยะเวลาเซสชั่นของคุณด้วย ยังดีที่ข้อมูลนั้นไม่เปิดเผยตัวตน ดังนั้นมันจึงไม่สามารถบ่งชี้มาถึงตัวคุณได้

ฟีเจอร์ที่มีประโยชน์

• ฟีเจอร์ความปลอดภัยดี มันใช้การเข้ารหัส 256-bit AES, perfect forward secrecy และการป้องกันการรั่วไหลของ IP/DNS แอป iOS ของมันนั้นมีฟีเจอร์ kill switch และ "Always-on VPN" ซึ่งจะพยายามเชื่อมต่อ VPN ใหม่อัตโนมัติ หากมันเกิดขาดการเชื่อมต่อขึ้นมา
• ข้อมูล 15GB ต่อเดือน นี่เป็นปริมาณที่เยอะมากสำหรับ VPN ฟรี — มีน้อยรายมากที่จะให้ถึง 10GB แต่คุณจะถูกจำกัดให้ใช้งานได้แค่วันละ 500MB ซึ่งก็เพียงพอสำหรับใช้ตรวจสอบอีเมล อัปเดตโซเชียลมีเดีย หรือดาวน์โหลดไฟล์ขนาดเล็ก ๆ แต่ไม่เพียงพอสำหรับสตรีมมิ่งในความชัดระดับ HD อย่างไรก็ตาม มันก็จะเหมือนกับ VPN ฟรีตัวอื่น ๆ ตรงที่เราลองใช้แล้วก็ไม่สามารถปลดบล็อกแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งได้เลย
• Split-tunneling คุณสามารถเลือกได้ว่าจะให้แอปและเว็บไซต์ไหนที่ต้องใช้การเชื่อมต่อ VPN และอันไหนที่ไม่ต้อง ซึ่งจะเป็นวิธีที่ดีสำหรับประหยัดข้อมูลและแบตของคุณ

7. TunnelBear — สามารถเข้าถึงเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่ได้ฟรี และการเชื่อมต่อมีความเสถียร

พร้อมใช้งานใน:

Windows Mac Android iOS

Chrome เพิ่มเติม

ลองใช้ TunnelBear VPN >

www.tunnelbear.com

เวอร์ชันฟรีของ TunnelBear นั้นเปิดให้คุณสามารถเข้าใช้ทั้งเครือข่ายของมันที่มีถึง 5,000+ เซิร์ฟเวอร์ใน 47 ประเทศ นี่เป็นตัวเลือกที่มากกว่าแอป VPN iOS ฟรี ตัวอื่น ๆ ทุกตัวในรายการนี้ คุณจะไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องการแย่งกันใช้เซิร์ฟเวอร์เลย ซึ่งก็หมายความว่าคุณจะสามารถใช้งานได้อย่างมีความเสถียรมากกว่า VPN ฟรี ส่วนใหญ่ ถึงแม้ว่าจะมีเซิร์ฟเวอร์หนึ่งที่ใช้งานไม่ได้ คุณก็สามารถหาตัวเลือกอื่นแทนได้อย่างง่ายดาย

เราสามารถค้นหาเซิร์ฟเวอร์ที่ต้องการได้อย่างง่ายดายเวลาที่เราใช้ TunnelBear

มันมีความเร็วสูงสำหรับเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ใกล้เคียง ดังนั้นคุณก็จะสามารถทำการท่องเว็บและสตรีมมิ่งได้อย่างที่ความเร็วไม่ตกเลย ตอนที่เราทำการทดสอบเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ใกล้เคียงบน iPhone เราก็ได้ความเร็วเฉลี่ยอยู่ที่ 26.7 Mbps ซึ่งก็ตกลงไปราว ๆ 62%. อย่างไรก็ตาม เราค่อนข้างผิดหวังกับเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ห่างไกล — ความเร็วของเราตกลงไปถึง 83%

ฟีเจอร์ที่มีประโยชน์

• ปกป้อง WiFi อัตโนมัติ มันเป็นการตรวจสอบเครือข่ายที่ไม่มีการป้องกันและจะส่งคำเตือนให้กับคุณเพื่อขอให้คุณเชื่อมต่อไปยัง VPN จากนั้นมันก็จะช่วยปกป้องข้อมูลของคุณให้ปลอดภัยด้วยการเข้ารหัส 256-bit AES และการป้องกันการรั่วไหลของ IP/DNS
• แอป iOS ที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้งาน มันมีปุ่มที่ใช้สำหรับทำการเชื่อมต่อภายในคลิกเดียวซึ่งจะทำการเชื่อมต่อคุณไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่เร็วที่สุดและอยู่ใกล้เคียงโดยอัตโนมัติ ยิ่งไปกว่านั้นตอนที่เราใช้แอป TunnelBear แล้วมันก็รู้สึกสนุกดีด้วย — มันจะแสดงแผนที่โลกและทุกครั้งที่เราทำการเชื่อมต่อ ก็จะได้เห็นตัวการ์ตูนหมีมุดอุโมงค์จากตำแหน่งจริงของคุณไปยังที่ตั้งของเซิร์ฟเวอร์

8. Kaspersky VPN — VPN iOS ฟรี ที่เรียบง่ายและเป็นมิตรต่อผู้ใช้งานมือใหม่

พร้อมใช้งานใน:

Windows Mac Android iOS

ลองใช้ Kaspersky Secure Connection >

www.kaspersky.com

ข้อดีที่สุดของ Kaspersky ก็คือความง่ายในการเริ่มต้นใช้งานแอปฟรีของ iOS  เราสามารถดาวน์โหลดและติดตั้งแอป รวมถึงเชื่อมต่อไปยังเซิร์ฟเวอร์เสร็จภายในเวลาไม่กี่นาที แถมมันยังไม่จำเป็นต้องลงทะเบียนหรือสมัครใช้งานเลยด้วย ดังนั้นมันจึงเป็นตัวเลือกที่ดีมากถ้าคุณไม่ต้องการแบ่งปันอีเมลของคุณเพราะเหตุผลเรื่องความเป็นส่วนตัว นอกจากนี้ มันก็ยังมีฟีเจอร์ "Always-on” ที่ชื่อว่า Smart Protection ซึ่งจะเชื่อมต่อคุณเข้าหา VPN โดยอัตโนมัติ จนคุณไม่ต้องเปิดแอปเลย

เราชอบอินเทอร์เฟซที่เรียบง่ายและใช้งานสะดวกของ Kaspersky มาก ๆ

แต่ในอีกแง่มุมหนึ่ง ข้อมูลที่เปิดให้แพลนระดับฟรีใช้นั้นเป็นเรื่องที่ค่อนข้างน่าผิดหวัง เพราะมันให้แค่ 200MB ต่อวันเท่านั้น มันจึงมีความเหมาะสมมากที่สุดสำหรับใช้ป้องกันกิจกรรมที่ไม่ต้องใช้ข้อมูลเยอะบน iOS ของคุณ อย่างเช่นการท่องเว็บ ดูอีเมล หรือใช้โซเชียลมีเดีย

ฟีเจอร์ที่มีประโยชน์

• ความเร็วดี ระหว่างการทดสอบของเรา เราบันทึกความเร็วไว้ได้ที่ 44.5 Mbps (ตกลง 38%) บน iPhone ของเรา และเราก็ไม่เจอปัญหาด้านการเชื่อมต่อของเราเลยสักนิด
• เชื่อมต่อไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่เร็วที่สุดให้คุณ ในขณะที่เวอร์ชันฟรีจะเปิดให้คุณเชื่อมต่อได้แค่ 1 ตำแหน่งเท่านั้น แต่แอปนี้จะเลือกเซิร์ฟเวอร์ที่เร็วที่สุดให้กับคุณ หากคุณรู้สึกเป็นกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยในการท่องโลกออนไลน์ นี่ก็จะช่วยตัดขั้นตอนการเลือกหาเซิร์ฟเวอร์ในแต่ละครั้งที่คุณใช้แอปลงไปได้

ตารางเปรียบเทียบอย่างเร็ว: VPN ฟรี ที่ดีที่สุดสำหรับ iPhone & iOS

ตารางด้านล่างนี้จะแสดงคุณสมบัติที่เกี่ยวข้องที่สุดสำหรับ VPN ฟรี แต่ละตัวในรายการนี้ เวลาประเมิน VPN iOS ฟรี ความเร็วนั้นจะเป็นเรื่องหลัก ๆ ที่ต้องคำนึงถึง เนื่องจากมีอยู่หลายตัวเลือกที่จะทำให้ความเร็วในการท่องเว็บตกลงไปอย่างชัดเจน นอกจากนี้ ข้อมูลจำกัดให้ใช้งานในแต่ละเดือนนั้นก็เป็นอีกเรื่องสำคัญที่ต้องคำนึงถึง

เรายังได้ใส่รายละเอียดมาด้วยว่าจำเป็นต้องลงทะเบียนไหม แล้ว VPN เข้ากับ iOS ได้ดีแค่ไหน รวมถึงมันสามารถเข้าถึง Netflix สหรัฐอเมริกา ได้หรือเปล่า สุดท้ายเราก็ได้เปรียบเทียบนโยบายการบันทึกข้อมูลและก็ขนาดของเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ของ VPN

ทดลองใช้ ExpressVPN สำหรับ iOS >>

เคล็ดลับในการเลือก VPN iOS ฟรีที่ดีที่สุด

ในขณะที่ค้นหา VPN ฟรีที่ดีที่สุดสำหรับ iPhone และ iPad นี่คือเกณฑ์ที่เราใช้ในการคัดเลือก คุณเองก็สามารถนำเกณฑ์เหล่านี้ไปใช้ได้ ถ้าหากว่าคุณอยากจะทำการทดสอบด้วยตัวเอง เพื่อค้นหา VPN iOS ในอุดมคติของคุณ

• ฟรีจริง ๆ VPN iOS ฟรี จะไม่ขอให้คุณผูกมัดผ่านการต้องสมัครสมาชิกในทันที เราตรวจสอบให้แน่ใจแล้วว่า VPN ในรายการนี้นั้นฟรีจริง ๆ หรือไม่ก็มีการรับประกันคืนเงินที่ผ่านการทดสอบมาแล้วว่าคืนจริง ๆ
• ฟีเจอร์ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวขั้นสูง VPN ทั้งหมดที่เราคัดสรรมานั้นมีการเข้ารหัส 256-bit AES และการป้องกันการรั่วไหลของ IP/DNS เพื่อช่วยปกป้องข้อมูลบน iOS ของคุณ และเราก็ได้อ่านนโยบายการบันทึกข้อมูลทั้งหมดเพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่า VPN ในรายการนี้จะไม่เก็บข้อมูลที่ระบุตัวตนของคุณ
• แอป iOS ที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้งาน คุณควรจะเลือกแอป VPN ที่มีอินเทอร์เฟซใช้งานง่ายไม่ทำให้คุณต้องปวดหัว ถ้าให้ดีก็ควรจะต้องมีภาษาไทยด้วย VPN ทั้งหมดนี้มีแอปที่ใช้งานง่ายบน iPhone หรือ iPad
• ความเร็วดี ข้อมูลเพียงพอ ถ้าคุณต้องการสตรีม โหลด torrent และท่องเว็บได้อย่างที่ความเร็วไม่ตก คุณควรจะมองหา VPN ที่มีความเร็วดีสำหรับอุปกรณ์ iOS เราตรวจสอบข้อจำกัดด้านข้อมูลของแต่ละตัวแล้ว เพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะมีข้อมูลให้ใช้งานอย่างน้อย 1GB ต่อเดือน
• เครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่ เครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ที่ใหญ่กว่าจะช่วยลดความเสี่ยงด้านการแออัดของเซิร์ฟเวอร์ และมีตัวเลือกสำรองไว้ให้คุณ ในกรณีที่มีเซิร์ฟเวอร์ใดเซิร์ฟเวอร์หนึ่งหยุดทำงานขึ้นมา นี่จะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าคุณจะสามารถเชื่อมต่อไปยัง VPN iOS ได้ตลอดเวลา
• สามารถปลดบล็อกเว็บไซต์สตรีมมิ่งได้บางส่วน VPN iOS ฟรี ส่วนใหญ่นั้นจะไม่สามารถปลดบล็อกเว็บไซต์สตรีมมิ่งได้เลย เราเจอ VPN ฟรี บางตัวที่อย่างน้อยก็สามารถเข้าถึง Netflix Originals ได้ แต่ถ้าการสตรีมมิ่งเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับคุณ เราก็ขอแนะนำเป็นอย่างยิ่งให้คุณทดลองใช้ ExpressVPN เพื่อที่คุณจะสามารถเข้าถึงเนื้อหาของ Netflix หลาย ๆ ประเทศ, Hulu, Disney+ ได้อย่างมีความเสถียร
• โปรโตคอลที่เป็นมิตรต่ออุปกรณ์เคลื่อนที่ VPN iPhone นั้นควรจะมีโปรโตคอลที่เชื่อมต่อไวเพื่อช่วยปกป้องคุณในขณะเดินทาง เนื่องจากคุณจะต้องมีการเปลี่ยนสัญญาณระหว่าง Wifi และ เซลลูลาร์อยู่บ่อยครั้ง Lightway, WireGuard และ IKEv2 ต่างก็ทำงานได้ดีในระหว่างที่เราทำการทดสอบเรื่องนี้
• ฝ่ายบริการลูกค้าที่ดี เป็นเรื่องสำคัญมากที่คุณจะสามารถขอความช่วยเหลือได้โดยไม่ต้องรอนานจนเกินไป เราได้ตรวจสอบแล้วว่า VPN นั้นมีฝ่ายบริการลูกค้าหรือมีฐานข้อมูลที่ดีพออยู่บนเว็บไซต์สำหรับบริการของ iOS

คำเตือน: VPN ฟรี ส่วนใหญ่สำหรับ iPhone และ iPad นั้นไม่ปลอดภัยที่จะใช้งาน

VPN iOS ฟรี ส่วนใหญ่จะทำให้กิจกรรมทางออนไลน์ของคุณเกิดความเสี่ยงได้ นี่คือความเสี่ยงที่คุณควรจะรับรู้เอาไว้ตอนที่คิดจะทำการดาวน์โหลด VPN ฟรี:

• VPN ฟรีนั้นอาจจะบันทึกและขายข้อมูลของคุณได้ VPN ฟรีนั้นมักจะขายข้อมูลออนไลน์ของคุณให้กับผู้โฆษณาและบุคคลที่สามเพื่อทำกำไร เพื่อเป็นการรักษาความเป็นส่วนตัวบนโลกออนไลน์ คุณควรจะเลือกใช้ VPN ที่ไม่บันทึกข้อมูล
• VPN ฟรีอาจจะทำให้ข้อมูลของคุณรั่วไหลเนื่องจากมันมีฟีเจอร์ความปลอดภัยที่อ่อนแอ เพราะว่า VPN ฟรีส่วนใหญ่นั้นจะขาดแคลนทรัพยากรในการใช้งานฟีเจอร์ความปลอดภัยที่ใหม่ล่าสุด ข้อมูลจึงเกิดการรั่วไหลได้ ตรวจสอบให้แน่ใจว่า VPN ของคุณนั้นมีการเข้ารหัส 256-bit AES และการป้องกันการรั่วไหลของ IP และ DNS เพื่อป้องกันข้อมูลออนไลน์ของคุณ
• VPN ฟรีนั้นอาจจะทำให้อุปกรณ์ของคุณติดไวรัสและมัลแวร์ได้ ถึงแม้ว่านี่จะไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เนื่องจาก Apple มีความเข้มงวดสูงมากในการกรองแอปเข้าสู่ App Store แต่มันก็เคยเกิดขึ้นกับ VPN ฟรีในอดีตมาแล้ว นอกจากนี้ เนื่องจาก VPN ฟรีส่วนใหญ่ต้องอาศัยการโฆษณาเพื่อสร้างกำไร พวกเขาจึงสแปมคุณด้วยโฆษณาที่จะเพิ่มโอกาสติดมัลแวร์ให้กับคุณ
• VPN ฟรี นั้นจะชอบเอาโฆษณามากระหน่ำใส่คุณ เนื่องจาก VPN ฟรี นั้นจะไม่สามารถสร้างรายได้จากคุณโดยตรง ในแอปมันจึงมักจะมีโฆษณาเยอะ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ารำคาญมาก VPN ฟรี บางรายนั้นถึงขั้นปล่อยให้บุคคลที่สามเจาะเข้ามาในเบราว์เซอร์ของคุณได้เลยก็มี นี่จะส่งผลให้เบราว์เซอร์ของคุณส่งคุณไปยังโดเมนที่มีความอันตรายหรือเต็มไปด้วยโฆษณาแทนที่จะเป็นจุดหมายปลายทางที่คุณต้องการได้

VPN ฟรีที่ควรหลีกเลี่ยง

คุณควรจะหลีกเลี่ยง VPN ฟรีที่อยู่ในรายการข้างล่างนี้เพราะมันมีความเสี่ยง VPN ฟรีเหล่านี้อาจจะบันทึกข้อมูลของคุณและแบ่งปันมันกับบุคคลที่สาม (เช่นผู้โฆษณา) ยิ่งไปกว่านั้น VPN ฟรีบางรายนี้ก็ทำที่อยู่ IP ของเรารั่วไหลออกไปด้วย ซึ่งหมายความว่าเราคงจะเชื่อใจให้พวกเขาปกป้องความเป็นส่วนตัวทางออนไลน์ของเราไม่ได้

เรื่องที่น่าเป็นห่วงก็คือ VPN บางรายเหล่านี้นั้นได้คะแนนรีวิวสูง (มากกว่า 4 ดาว) บน App Store ทำการศึกษาให้ดีพอก่อนที่คุณจะเลือกดาวน์โหลด VPN ฟรี มาใช้งานผ่าน App Store — อย่าเชื่อแต่รีวิวจากผู้ใช้งานเพียงอย่างเดียว

อยากให้คุณคิดอยู่เสมอว่า: "VPN ฟรี iOS นี้สร้างรายได้จากทางไหน?" ถ้าพวกเขามีเวอร์ชันแบบที่ต้องจ่ายเงินอย่างชัดเจน ถ้างั้นนั่นก็เป็นสัญญาณที่ดี — VPN นั้นคงจะเอารายได้จากลูกค้าที่จ่ายเงินมาเป็นต้นทุนในการเปิดเวอร์ชันฟรีไปพร้อม ๆ กัน แบบนี้คือ VPN ที่เราเรียกว่า "ฟรีเมียม"

อย่างไรก็ตาม ถ้า VPN ไม่มีเวอร์ชันแบบที่ต้องจ่ายเงิน ถ้าอย่างนั้นมันก็คงจะได้เงินที่จะนำมาใช้เป็นต้นทุน (รวมถึงกำไร) มาจากช่องทางอื่น นี่คือจุดที่คุณควรจะต้องรู้สึกเป็นกังวล เนื่องจากมีความเป็นไปได้ว่าข้อมูลของคุณเป็นสิ่งที่ถูกนำไปขาย

นี่เป็นตัวอย่างของ VPN ฟรี อันตรายที่เปิดให้ใช้งานบน iOS และเหตุผลที่คุณควรจะหลีกเลี่ยงมัน:

• Hola: Hola นั้นไม่ใช่ VPN จริง ๆ แต่เป็นเครือข่าย P2P หมายความว่าคุณแชร์ที่อยู่ IP ให้กับทุกคนในเครือข่าย ถ้ามีคนนำ IP ของคุณไปทำเรื่องผิดกฎหมาย คุณก็อาจจะต้องกลายเป็นผู้รับผิดได้ ยิ่งไปกว่านั้น มันบันทึกเวลาที่คุณทำการเชื่อมต่อ เว็บไซต์ที่คุณเข้าไปดู และที่อยู่ IP ของคุณด้วย
• TurboVPN: VPN นี้มันเต็มไปด้วยโฆษณาและตัวติดตาม ยิ่งไปกว่านั้น มันจะทำการบันทึกข้อมูลออนไลน์ของคุณ และนำไปขายให้กับผู้โฆษณาเพื่อสร้างรายได้
• Betternet VPN: แอปเคยมีมัลแวร์ติด ยิ่งไปกว่านั้นมันมีนโยบายการบันทึกข้อมูลที่ไม่เป็นส่วนตัวเพราะว่ามันจะบันทึก URL ที่คุณเข้าดู ตำแหน่งของคุณ และก็อุปกรณ์ที่คุณใช้ด้วย

VPN อื่น ๆ ที่คุณควรหลีกเลี่ยงประกอบไปด้วย: Opera VPN, Stealth VPN, Totally Free VPN, DotVPN, FreeVPN, OkVPN, EasyVPN, SuperVPN, HatVPN, One Click VPN, Flash VPN, SkyVPN, Touch VPN, VPN 360, VPN Proxy Master, and Yoga VPN.

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ VPN ฟรีสำหรับ iPhone และ iOS

VPN ฟรีบน iPhone จะใช้งานกับ Netflix, Hulu และแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งอื่น ๆ ได้หรือไม่?

น่าเสียดายที่ VPN ฟรีส่วนใหญ่จะใช้งานกับการสตรีมมิ่งได้ไม่ดีนัก พวกเขามักจะมีทรัพยากรไม่เพียงพอที่จะอัปเกรดให้เครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ของพวกเขาสามารถป้องกันการบล็อก IP จากเว็บไซต์สตรีมมิ่งยอดนิยมทั้งหลายได้ นอกจากนี้พวกเขายังจำกัดข้อมูลและความเร็วจนสตรีมมิ่งอะไรได้ไม่นานสักเท่าไร

VPN 2 อันดับแรกในรายการนี้ สามารถปลดบล็อก Netflix, Hulu, BBC iPlayer และแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งอื่น ๆ ได้อย่างมีความเสถียร ยิ่งไปกว่านั้น มันยังมีความเร็วสูงมากและใช้ข้อมูลได้ไม่จำกัด คุณอยากจะสตรีมมิ่งนานแค่ไหนก็ได้เลยไม่มีปัญหา อย่างไรก็ตาม ขอให้จำไว้ว่ามันเป็นบริการระดับพรีเมียมที่มีการรับประกันคืนเงิน (ดังนั้นมันจึงไม่ได้ฟรี 100%)

เราค้นหาไม่เจอ VPN ฟรี 100% ที่สามารถปลดบล็อกเว็บไซต์สตรีมมิ่งยอดนิยมได้อย่างมีความเสถียร มีทั้งอาการที่เราโดนบล็อกด้วย paywall (บอกให้เราต้องอัปเกรด VPN ไปเป็นแพลนจ่ายเงินถึงจะเข้าเว็บไซต์ได้) หรือไม่ก็เจอข้อความผิดพลาด ในบางกรณี เราสามารถเข้าถึง Netflix ได้ แต่ก็ดูได้แค่ Netflix Originals เท่านั้น

VPN iOS ฟรี ของฉันจะสามารถใช้งานกับอุปกรณ์อื่น ๆ ได้หรือไม่?

ได้ VPN iOS ฟรี ที่เราคัดสรรมานั้นสามารถใช้งานกับ Mac, Windows, Android และอื่น ๆ ได้ ส่วนใหญ่แล้วจะมีส่วนขยายเบราว์เซอร์ที่ใช้งานเข้ากันได้กับ Chrome, Firefox หรือ Microsoft Edge ด้วย ExpressVPN และ CyberGhost นั้นรองรับเราเตอร์เลยด้วย ดังนั้นคุณจะสามารถตั้งค่าใช้งานมันกับอุปกรณ์ที่ปกติจะไม่รองรับ VPN ได้ด้วย

อย่างไรก็ตาม ขอให้จำไว้ว่า VPN ฟรีส่วนใหญ่นั้นเปิดให้คุณเชื่อมต่อได้แค่ 1 อุปกรณ์ในเวลาเดียวกัน ดังนั้นถึงแม้ว่ามันจะใช้งานเข้ากันได้กับหลายอุปกรณ์ แต่คุณก็เชื่อมต่อพร้อมกันไม่ได้อยู่ดี ในอีกแง่มุมหนึ่ง VPN พรีเมียม จะเปิดให้คุณเชื่อมต่อพร้อมกันได้หลายการเชื่อมต่อ

มี VPN ฟรีที่ปลอดภัยสำหรับ iPhone และ iPad หรือไม่?

มี แต่จะมี VPN ฟรีแค่ไม่กี่รายเท่านั้นที่ใช้งานกับอุปกรณ์ iOS ได้อย่างปลอดภัย VPN ทั้งหมดที่เราคัดสรรมานี้ ต่างก็ใช้งานได้อย่างปลอดภัย พวกมันมีฟีเจอร์ความปลอดภัยที่จำเป็นต่าง ๆ (อย่างเช่นการเข้ารหัสระดับทหารและการป้องกันการรั่วไหลของ IP/DNS) และมันก็มาพร้อมกับนโยบายการไม่บันทึกข้อมูลอย่างเข้มงวด เพื่อที่จะช่วยรักษาความเป็นส่วนตัวให้กับคุณและอุปกรณ์ iOS ของคุณ

ขอให้จำเอาไว้ว่า VPN ฟรีมักจะมาพร้อมกับข้อจำกัดที่น่ารำคาญเช่นความเร็วที่ช้ากว่า เครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ที่มีขนาดเล็กกว่า การจำกัดข้อมูล และฟีเจอร์ความปลอดภัยที่ไม่แข็งแกร่ง นี่ก็เพื่อเป็นการกระตุ้นให้คุณอัปเกรดไปใช้แพลนจ่ายเงิน แต่นั่นก็ไม่ได้แปลว่า VPN จะไม่ปลอดภัยสำหรับการใช้งาน แต่ VPN ฟรีสำหรับ iPhone บางรายนั้นเรียกได้เลยว่าอันตราย ประกอบไปด้วย HolaVPN, Touch VPN, Flash VPN และ VPN Proxy Master

VPN ฟรี ที่ดีที่สุดสำหรับ iPhone ในประเทศจีน ตุรกี อิหร่าน อินเดีย และยูเออีคือ?

เราแนะนำ Proton VPN เนื่องจากมันเป็นหนึ่งใน VPN iOS ฟรี น้อยรายที่มีการทำ obfuscation โปรโตคอล Stealth ของมันนั้นถูกออกแบบมาเพื่อปิดบังทราฟฟิค VPN ของคุณ ซึ่งจะทำให้คุณสามารถหลบหลีกการเซ็นเซอร์และไฟร์วอลล์ที่บล็อก VPN ในประเทศต่าง ๆ เหล่านี้ได้ นอกจากนี้มันยังมีข้อมูลไม่จำกัดและก็มีความเร็วที่ดีใช้ได้ ซึ่งจะทำให้คุณสามารถท่องเว็บได้มากเท่าที่คุณต้องการอย่างที่ความเร็วไม่ตก

อย่างไรก็ตาม Proton VPN นั้นก็มีข้อจำกัดของมันอยู่ คุณจะไม่สามารถเข้าถึงแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งอย่างเช่น Hulu, Disney+ และ Amazon Prime Video ได้ นอกจากนี้ เครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ที่มีขนาดเล็กของมันก็อาจจะทำให้เกิดเหตุการณ์ที่คนแย่งกันใช้จนขาดความเสถียรได้ — แต่ระหว่างที่เราทดสอบก็ไม่เจอปัญหาเรื่องนี้

หากคุณต้องการใช้งานอย่างมีความเสถียรมากที่สุด เราแนะนำให้เลือก ExpressVPN ถึงแม้ว่ามันจะไม่ฟรี 100% แต่การที่มีเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่ มีการทำ obfuscation อัตโนมัติ และก็มีความสามารถในการเข้าถึงบริการสตรีมมิ่งได้อย่างน่าประทับใจ ล้วนแล้วก็เป็นสิ่งที่ Proton VPN ขาด ไม่ว่าคุณจะเลือกใช้บริการใดก็ตาม ขอให้จำเอาไว้ว่าพวกเราไม่สนับสนุนให้คุณทำเรื่องผิดกฎหมาย — กรุณาตรวจสอบกฎหมายในท้องที่ของคุณก่อนที่คุณจะเลือกใช้บริการ VPN ในประเทศที่มีการจำกัดการใช้งาน VPN

IPhone มี VPN ฟรี บิ้วท์อินมาในตัวไหม?

ไม่มี แต่ iCloud Private Relay (ซึ่งออกมาพร้อมกับ iOS 15) มักจะถูกเข้าใจผิดว่าเป็น VPN บริการนี้มันเป็นเหมือนกับพร็อกซี่มากกว่า — มันจะเปลี่ยนที่อยู่ IP ของคุณ แต่มันไม่มีการป้องกันในระดับเดียวกับอย่างที่แอป VPN ตัวเต็มมี ยกตัวอย่างเช่น Private Relay จะสามารถใช้งานได้เฉพาะบนเบราว์เซอร์ Safari ดังนั้น iPhone ของคุณก็จะไม่ได้รับการป้องกันทั้งเครื่อง คุณจะไม่สามารถเลือกตำแหน่งเสมือนได้ด้วย และความเร็วก็ยังต่ำอีก เนื่องจากมันจะส่งทราฟฟิคของคุณผ่านไปยัง 2 เซิร์ฟเวอร์

ทำไมฉันถึงต้องใช้ VPN สำหรับ iPhone และ iPad ด้วย?

VPN จะช่วยปกป้องข้อมูลออนไลน์ของคุณ (บน iOS หรืออุปกรณ์อะไรก็ตามที่คุณใช้งาน) จากแฮ็กเกอร์และบุคคลที่สามอย่างเช่นผู้โฆษณา ซึ่งพวกเขาจะเอาข้อมูลเหล่านี้ไปใช้สร้างโฆษณาเฉพาะเจาะจงสำหรับคุณ ถึงแม้ว่านี่จะไม่ใช่เรื่องที่อันตราย แต่มันก็เป็นการละเมิดความเป็นส่วนตัวของคุณ VPN ทั้งหมดในรายการนี้จะมีฟีเจอร์ความปลอดภัยที่จำเป็น เพื่อช่วยปกป้องข้อมูลส่วนตัวของคุณ และก็ไม่มีรายไหนเลยที่บันทึกข้อมูลของคุณ พวกเขาจึงไม่มีอะไรไปขายให้ผู้โฆษณา

VPN iPhone ที่ไว้วางใจได้นั้นต้องช่วยซ่อนประวัติการท่องเว็บของคุณจาก ISP หรือผู้ให้บริการโทรศัพท์ ต้องเข้ารหัสข้อมูลของคุณ ปกป้องคุณเวลาใช้เครือข่าย WiFi สาธารณะ และทำให้คุณเข้าถึงเนื้อหาที่ถูกจำกัดการเข้าถึงในพื้นที่ได้

VPN iOS ฟรีบันทึกข้อมูลเก็บไว้หรือไม่?

VPN iOS ฟรี ที่เราแนะนำนั้นจะไม่มีการเก็บข้อมูลบ่งชี้ตัวตนใด ๆ ของคุณทั้งสิ้น อย่างไรก็ตาม VPN iOS ฟรี บางรายนั้นจะมีการบันทึกข้อมูลของคุณ และก็นำไปขายให้บุคคลที่สามเพื่อทำกำไร เพราะแบบนั้นมันจึงเป็นเรื่องสำคัญที่คุณควรจะต้องทำการศึกษาก่อนดาวน์โหลด VPN ฟรี เราแนะนำให้คุณศึกษาเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวของ VPN ฟรี ที่คุณเลือก เพ่ือให้แน่ใจว่าข้อมูลของคุณนั้นจะได้รับการคุ้มกัน ก่อนที่คุณจะเริ่มใช้งานมัน

จุดประสงค์ที่สำคัญที่สุดของ VPN ก็คือการปกป้องความเป็นส่วนตัวของคุณ — ถ้าคุณเลือกใช้บริการที่ไม่น่าไว้วางใจซึ่งทำการเก็บข้อมูลของคุณไปขาย แบบนั้นคุณไม่ต้องใช้ VPN เลยจะดีเสียกว่า

VPN ฟรีจะดูดแบต iPhone ของฉันหรือไม่?

ใช่ VPN จะใช้แบต iPhone ของคุณเพิ่ม VPN นั้นจะทำการเข้ารหัสอยู่ในพื้นหลัง มันจึงจะต้องใช้แบตมากกว่าปกติ อย่างไรก็ตามแอป VPN iOS ฟรีบางรายนั้นสามารถปรับแต่งได้สูง ทำให้คุณสามารถเปลี่ยนการตั้งค่าเพื่อลดการกินแบตได้ เพื่อเป็นการยกตัวอย่าง ExpressVPN ใช้โปรโตคอล Lightway ที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งถูกออกแบบมาให้ใช้ทรัพยากรน้อย เรื่องการใช้แบตก็แทบจะไม่ส่งผลกระทบให้เห็นเลย

อีกเคล็ดลับหนึ่งในการทำให้แบต iPhone ของคุณอยู่นานขึ้นก็คือการลดความสว่างของหน้าจอลง และก็อย่าลืมปิดแอปพื้นหลังด้วย

ปกป้อง iPhone ของคุณด้วย VPN ฟรี ได้ตั้งแต่วันนี้

การจะเลือกใช้ VPN ฟรี ที่ไม่ทำให้เกิดช่องโหว่ด้านความปลอดภัยทางออนไลน์ จากการเอาข้อมูลของคุณไปขาย หรือทำให้เครื่องของคุณช้าลงนั้นเป็นเรื่องยาก เพราะแบบนั้นเราถึงได้จัดทำรายการตัวเลือกที่มีความน่าเชื่อถือนี้ขึ้นมาให้กับคุณ อย่างไรก็ตาม โปรดทราบไว้ว่า VPN iOS เหล่านี้ก็ยังคงมีข้อจำกัดของมันอยู่ เช่นข้อมูลที่มีจำกัด ความเร็วที่ต่ำ หรือเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ขนาดเล็ก

เพื่อหลีกเลี่ยงความน่ารำคาญเหล่านี้ เราแนะนำให้คุณทดลองใช้ ExpressVPN สำหรับ iOS มันไม่ฟรีไปซะทั้งหมด แต่มันก็มีระบบความปลอดภัยชั้นหนึ่ง มีข้อมูลไม่จำกัด และก็มีเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ทั่วโลกที่มีความเร็วสูง — ซึ่ง VPN iOS ฟรีที่ไหนต่างก็เทียบไม่ติด คุณสามารถ ทดลองใช้ ExpressVPN ได้อย่างไม่มีความเสี่ยง เพราะมันมีการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน หากคุณรู้สึกไม่ประทับใจ คุณก็สามารถขอคืนเงินได้

VPN ที่ดีที่สุดสำหรับ iPhone และ iOS ที่มีการรับประกันคืนเงินได้แก่...

อันดับ

ผู้ให้บริการ

คะแนนของเรา

ส่วนลด

ไปที่เว็บไซต์

1

9.9 /10

9.9 คะแนนของเรา

ประหยัดถึง 49%!

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

2

9.7 /10

9.7 คะแนนของเรา

ประหยัดถึง 84%!

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

3

9.5 /10

9.5 คะแนนของเรา

ประหยัดถึง 83%!

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

4

9.4 /10

9.4 คะแนนของเรา

ประหยัดถึง 69%!

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

5

9.3 /10

9.3 คะแนนของเรา

ประหยัดถึง 85%!

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม