พร็อกซี่vs VPN vs Tor – เข้าใจความแตกต่าง
มีหลายเหตุผลที่จะใช้เครื่องมือรักษาความเป็นส่วนตัวและปกปิดตัวตนบนโลกออนไลน์ในขณะที่คุณเข้าดูเว็บไซต์หรือดูสตรีมมิ่งต่างๆ ตั้งแต่การปิดบังข้อมูลเมื่อใช้ซอฟต์แวร์ Torrent ไปจนถึงการดู Netflix ขณะที่เดินทางไปต่างประเทศ
การเลือกวิธีการแก้ปัญหาที่เหมาะกับความต้องการของคุณอาจจะเป็นเรื่องยาก โดยเฉพาะหากคุณไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านความเป็นส่วนตัวบนโลกออนไลน์หรือการเข้ารหัสข้อมูล
คุณควรใช้ VPN หรือไม่? บางทีการใช้พร็อกซี่เซิร์ฟเวอร์อาจจะช่วยประหยัดได้มากกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีพร็อกซี่หลายแบบให้เลือกใช้งานฟรี แล้วคุณควรใช้พร็อกซี่แบบไหน? หรือบางทีทั้ง VPN และพร็อกซี่อาจจะไม่เหมาะกับความต้องการของคุณเลยก็ได้ และคุณควรแชร์การเชื่อมต่อของคุณกับผู้ใช้งาน Tor คนอื่นๆหรือไม่? สิ่งที่สำคัญคือคุณควรเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับความแตกต่างทางเทคนิคของบริการเหล่านี้ก่อน จึงจะตัดสินใจได้ถูกต้อง
พร็อกซี่เซิร์ฟเวอร์คืออะไร?
พร็อกซี่เซิร์ฟเวอร์ หรือ “พร็อกซี่เซิร์ฟเวอร์แบบเปิด” ก็เหมือนกับ “ท่อ” ที่จะช่วยส่งทราฟฟิคของคุณไปยังเซิร์ฟเวอร์เป้าหมาย โดยระหว่างทางไปยังเซิร์ฟเวอร์นี้ (และเราเตอร์ที่อยู่ระหว่างทาง) ทราฟฟิคของคุณจะดูเหมือนมาจากพร็อกซี่เซิร์ฟเวอร์ ในขณะที่ IP และกิจกรรมต่างๆของคุณจะถูกเก็บ (หรือไม่เก็บ) บนพร็อกซี่เซิร์ฟเวอร์
มีพร็อกซี่เซิร์ฟเวอร์แบบเปิดสองแบบที่ช่วยปกป้องความเป็นส่วนตัวบนโลกออนไลน์ได้: พร็อกซี่เซิร์ฟเวอร์แบบ HTTP และ SOCKS
พร็อกซี่เซิร์ฟเวอร์แบบ HTTP
พร็อกซี่เซิร์ฟเวอร์แบบพื้นฐานที่สุดก็คือเว็บพร็อกซี่ โดยทั้งหมดที่มันสามารถทำได้ก็คือการเปลี่ยนเส้นทางเว็บทราฟฟิค (HTTP และ HTTPS) จากไคลเอนต์ (เบราเซอร์ของคุณ) ไปยังโฮสต์ (เซิร์ฟเวอร์ที่โฮสต์เว็บไซต์ที่คุณต้องการเข้าถึง) โดยปิดบัง IP ของคุณซึ่งเป็นต้นทางของเว็บทราฟฟิคนั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อดี
- เนื่องจากเซิร์ฟเวอร์เหล่านี้จัดการเฉพาะคำขอ HTTP เท่านั้น ดังนั้นจึงมีความเร็วสูงกว่าบริการ VPN ฟรี หรือพร็อกซี่เซิร์ฟเวอร์แบบ SOCKS
- มีบริการพร็อกซี่ฟรีจำนวนมากให้เลือกจึงทำให้คุณสามารถประหยัดได้ด้วยการใช้งานพร็อกซี่เซิร์ฟเวอร์แบบเปิดฟรีหากคุณต้องการเพียงแค่เข้าเว็บไซต์แบบไม่เปิดเผยตัวตน
ข้อเสีย
- ไม่มีการเข้ารหัสทราฟฟิคใดๆ
- จำกัดเพียงเว็บทราฟฟิคเท่านั้น
- เว็บพร็อกซี่ฟรีอาจมาพร้อมกับภัยคุกคามด้านความปลอดภัย
ควรใช้เว็บพร็อกซี่เซิร์ฟเวอร์เมื่อใด?
หากมีเว็บไซต์ที่ถูกบล็อคในประเทศของคุณหรือหากคุณไม่สามารถเข้าได้เนื่องจาก ผู้ให้บริการทางอินเตอร์เน็ตของคุณ(ด้วยเหตุผลทางเทคนิค) เว็บพร็อกซี่อาจมีประโยชน์ในการเข้าถึงเว็บไซต์เหล่านั้นชั่วคราว (ถึงแม้จะช้าและไม่ค่อยปลอดภัยก็ตาม)
พร็อกซี่เซิร์ฟเวอร์แบบ SOCKS
มีความซับซ้อนและหายากมากกว่าเว็บพร็อกซี่แบบพื้นฐานเล็กน้อย เซิร์ฟเวอร์เหล่านี้ขยายความสามารถและบริการ
ข้อดี
- รองรับทราฟฟิคแบบ non-HTTP เช่น SMTP, FTP และทราฟฟิคทอร์เรนต์
ข้อเสีย
- มีปัญหาด้านความปลอดภัยบางอย่าง เช่น เซิร์ฟเวอร์เว็บพร็อกซี่
- ช้ากว่าพร็อกซี่เซิร์ฟเวอร์แบบ HTTP (เว็บ)
ฉันควรใช้พร็อกซี่เซิร์ฟเวอร์แบบSOCKS เมื่อใด?
เนื่องจากมีการเข้ารหัสทราฟฟิค เราไม่แนะนำให้เข้าอีเมลของคุณผ่านพร็อกซี่แบบ SOCKS อย่างไรก็ตามคุณสามารถใช้เพื่อเข้าเซิร์ฟเวอร์ FTP ที่คุณไม่สามารถเข้าได้ด้วย IP address ของคุณ หรือเล่นเกมบนเซิร์ฟเวอร์สากล การเล่นเกมแบบเรียลไทม์นั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้เนื่องจากความเชื่องช้าที่เกิดจากการสร้าง “ท่อ” ขึ้นมาในระหว่างการเดินทางของทราฟฟิคของคุณสู่อินเตอร์เน็ต
VPN คืออะไร?
VPN (Virtual Private Networks) หรือเครือข่ายส่วนตัวเสมือนนั้นไม่ใช่เป็นเพียงแค่ “ท่อ”แต่เป็น อุโมงค์ที่ได้รับการเข้ารหัสที่มีความสามารถด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวขั้นสูงซึ่งทำได้มากกว่าเพียงแค่ปกปิด IP address ของคุณการที่ไคลเอนต์ VPN บนอุปกรณ์ของคุณเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ VPN นั้น ทำให้ทราฟฟิคทั้งหมดของคุณได้รับการเข้ารหัส ซึ่งการเข้ารหัสเหล่านี้จะมีระดับความซับซ้อนและความปลอดภัยที่แตกต่างกันไป
ข้อดี
- การเชื่อมต่อที่เข้ารหัสเต็มรูปแบบ มีความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว
- ยืดหยุ่นและเชื่อถือได้
ข้อเสีย
- จำเป็นต้องมีบัญชีแบบเสียเงินเพื่อการใช้งานและความน่าเชื่อถือเต็มรูปแบบ
- บริการฟรีอาจจะช้า
ฉันควรใช้บริการ VPN เมื่อใด?
หากคุณกำลังมองหาการรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวบนโลกออนไลน์ที่เชื่อถือได้ VPN คือตัวเลือกที่ดีที่สุด แต่ความเชื่อถือได้นี้ก็มาพร้อมกับราคา แต่โดยทั่วไปแล้วการเสียเงินกับอะไรแบบนี้ก็ดีกว่าไปเสียกับเรื่องอื่น
Tor คืออะไร?
Tor ย่อมาจาก The Onion Routerซึ่งเป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมและเป็นที่นิยมสำหรับการใช้อินเตอร์เน็ตและการดาวน์โหลดแบบไม่เปิดเผยตัวตน ทั้งผู้ที่มีหรือไม่มี VPNโดย Tor ทำงานโดยการสร้างเครือข่ายตาข่ายที่มีการเข้ารหัสเต็มรูปแบบสำหรับผู้ใช้งานที่แชร์แบนด์วิธและ IP address ร่วมกับคนอื่น และมีส่วนร่วมในการทำงานเพื่อช่วยให้เครือข่ายสามารถเข้ารหัสข้อมูลได้ทั่วทั้งเครือข่าย
คุณสามารถใช้โปรโตคอล Tor เพื่อเข้ารหัสและปกปิดการรับส่งข้อมูลทั้งหมดด้วยการติดตั้งไคลเอนต์ Tor ไว้บนอุปกรณ์ของคุณ หรือเข้าเว็บไซต์ต่างๆผ่านซอฟต์แวร์เบราเซอร์ Tor
ข้อดี
- การเข้ารหัสหลายชั้น
- สามารถเข้าถึงเว็บไซต์บน “Deep Web” ได้
- ใช้งานได้ฟรี
ข้อเสีย
- ทำงานช้ามาก เนื่องจากการเข้ารหัสแต่ละชั้น ดังนั้นไม่เหมาะกับการใช้งานทอร์เรนต์, Kodi หรือการสตรีมไฟล์เสียง
- การใช้งาาน Tor อาจทำให้คุณได้รับสถานะธงแดงจากองค์กรของรัฐบาลแม้ว่าคุณจะไม่ได้ทำอะไรที่ผิดกฎหมายก็ตาม
ฉันควรใช้ Tor เมื่อใด?
เพื่อเพิ่มความปลอดภัย (แต่ความเร็วเหมือนใช้อินเตอร์เน็ตแบบต่อสายโทรศัพท์) คุณสามารถใช้ Tor ร่วมกับ VPN เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวเข้าไปอีกชั้น เมื่อคุณต้องการเผยแพร่เนื้อหาที่มีความละเอียดอ่อน
Tor ได้รับความนิยมในหมู่นักข่าว, นักเคลื่อนไหว, นักสิทธิมนุษยชนและผู้แจ้งข่าวโดยเฉพาะผู้ที่อาศัยหรือทำงานในประเทศที่มีข้อจำกัดทางอินเทอร์เน็ต
ข้อสรุป
วิธีการแก้ปัญหาด้านความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยที่เหมาะกับคุณที่สุดนั้นขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการทำอะไร: ดูสตรีมมิ่ง, เล่นเกม, เข้าเว็บแบบไม่เปิดเผยตัวตน หรือทำอย่างอื่นที่แตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิง
พร็อกซี่เป็นวิธีการที่จำกัด และเป็นการบริการฟรีที่อาจทำให้ความเป็นส่วนตัวของคุณตกอยู่ในอันตราย Tor เป็นบริการฟรีที่มีความยืดหยุ่น แต่ก็มีข้อเสียที่ไม่เหมือนใคร
กล่าวได้ว่า เซิร์ฟเวอร์ VPN ดีกว่าพร็อกซี่ ไม่เพียงแต่ VPN มีความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยสูงมากเท่านั้น แต่ยังเป็นวิธีการที่ดีที่สุด เนื่องจากคุณจะได้รับความปลอดภัยขั้นสูง นี่เป็นวิธีการที่ดีกว่าในการหลบเลี่ยงการลดความเร็วอินเตอร์เน็ตโดย ISP หรือการถูกจำกัดการเข้าถึงเว็บไซต์บางเว็บโดยรัญบาล
เหตุผลเดียวที่บางคนอาจจะเลือกพร็อกซี่มากกว่า VPN (สำหรับการทำกิจกรรมอื่นๆที่นอกเหนือจากการเข้าเว็บ) ก็คือการที่พวกเขาไม่ต้องการเสียเงินเพื่อใช้งานบริการ VPN คุณภาพสูง
โปรดทราบว่า VPN อาจจะไม่ได้แพงอย่างที่คุณคิด และอาจมีราคาถูกสุดถึง $10 ต่อเดือน
กรุณาแสดงความคิดเห็นว่าพวกเราสามารถพัฒนาบทความนี้ได้อย่างไร ความคิดเห็นของคุณมีค่าสำหรับเรา!