6 VPN ฟรีที่ดีที่สุดในปี 2025: รวดเร็ว เป็นส่วนตัวและปลอดภัยในการดาวน์โหลด
- ตารางเปรียบเทียบ: ฟีเจอร์ VPN ฟรี
- VPN ฟรีที่ดีที่สุด — บทวิเคราะห์ฉบับเต็มรูปแบบ (อัปเดตปี 2025)
- วิธีการเลือก VPN ฟรีที่ดีที่สุดของเรา
- เคล็ดลับฉบับมือโปร: VPN ฟรีส่วนใหญ่เป็นอันตราย
- VPN ฟรี vs. เสียเงิน: บริการใดที่เหมาะกับคุณมากที่สุด?
- คู่มือแนะนำ: วิธีใช้ VPN ฟรีใน 3 ขั้นตอนง่าย ๆ
- คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ VPN ฟรี
- ใช้ VPN ฟรีที่ดีที่สุด
การค้นหา VPN ฟรีที่ปลอดภัยและไว้วางใจได้อาจฟังดูเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ VPN ฟรีมากมายเสนอความเป็นส่วนตัวโดยสมบูรณ์ แต่ลับหลังแอบบันทึกข้อมูลของคุณเอาไว้และขายให้กับนักโฆษณา บริการอื่น ๆ ก็มาพร้อมกับข้อจำกัด เช่น ความเร็วที่ช้าและขีดจำกัดข้อมูลการใช้งานปริมาณไม่มากที่ทำให้การสตรีมมิ่ง Netflix หรือแม้กระทั่งท่องเว็บปกติช้ามาก บริการส่วนใหญ่ไม่สามารถทำงานบนเครือข่ายที่จำกัดหรือในภูมิภาคที่มีการควบคุมอินเทอร์เน็ตที่เข้มงวดได้
ทีมงานและเราทดสอบ VPN ฟรีมากกว่า 100 รายการบนอุปกรณ์ต่าง ๆ ซึ่งรวมถึง Android, Windows, Mac และ iPhone เราพบว่าตัวเลือกที่ดีที่สุดเกือบทั้งหมดเป็นเวอร์ชันฟรีของบริการแบบเสียเงิน (ที่รู้จักกันในชื่อ VPN "ฟรีเมียม”) แม้กระทั่ง VPN ฟรีเมียมเองก็ยังมีข้อจำกัด แต่บริการเหล่านี้ที่เราแนะนำทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมในด้านที่เฉพาะเจาะจง หากคุณกำลังมองหา VPN ที่ไม่มีข้อจำกัดใด ๆ บริการพรีเมียมเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า
ตารางเปรียบเทียบ: ฟีเจอร์ VPN ฟรี
VPN ฟรีที่แนะนำทั้งหมดปลอดภัย แต่เหมาะกับการใช้งานที่แตกต่าง นี่คือตารางเปรียบเทียบโดยละเอียดที่จะช่วยคุณเลือกบริการที่เหมาะกับความต้องการของคุณ
โปรดทราบว่าขีดจำกัดข้อมูลการใช้งานและตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์เป็นเรื่องสำคัญสำหรับการสตรีมมิ่งและโหลดบิท นอกจากนี้ ให้ตรวจสอบขีดจำกัดจำนวนอุปกรณ์ด้วยหากคุณกำลังวางแผนที่จะใช้ VPN ร่วมกับครอบครัวและจำเป็นต้องลงทะเบียนหรือไม่หากคุณต้องการความเป็นส่วนตัวมากกว่า
VPN ฟรีที่ดีที่สุด — บทวิเคราะห์ฉบับเต็มรูปแบบ (อัปเดตปี 2025)
1. Proton VPN — VPN ฟรีโดยสมบูรณ์ที่ไม่มีขีดจำกัดข้อมูลการใช้งานเพื่อการท่องเว็บที่ปลอดภัยอย่างไร้ข้อจำกัด

ทดสอบใน กันยายน 2025 ทดลองใช้งานได้อย่างปลอดภัย 30 วัน
ฟีเจอร์ที่ดีที่สุด | ไม่จำกัดข้อมูลการใช้งานรายเดือนเพื่อการท่องเว็บอย่างปลอดภัยไม่รู้จบ |
ข้อมูลการใช้งานที่อนุญาตต่อเดือน | ข้อมูลการใช้งานที่ไม่จำกัดให้คุณเปิดใช้ VPN ได้ตลอดเวลาโดยไม่ต้องมานั่งคอยตัดการเชื่อมต่อน่ารำคาญอยู่ตลอด |
ใช้งานร่วมกันกับ | Netflix, YouTube, Spotify, Facebook, Instagram, Kodi |
เวอร์ชันทดลองใช้ฟรี | แผนสมาชิกฟรี |
แผนสมาชิกฟรีของ Proton VPN มอบข้อมูลการใช้งานรายเดือนที่ไม่จำกัดกับคุณ ดังนั้นคุณจึงสามารถท่องเว็บและสตรีมวิดีโอได้โดยไม่ต้องกังวลว่าข้อมูลการใช้งานจะหมด เรายังดีใจที่เราสามารถเชื่อมต่อ VPN และป้องกันการเชื่อมต่อของเราเอาไว้ได้ตลอดทั้งวันโดยไม่มีความล่าช้าหรือโฆษณาน่ารำคาญใด ๆ สิ่งนี้ทำให้บริการนี้เป็นตัวเลือกที่สะดวกสบายสำหรับกิจกรรมรายวัน เช่น การท่องเว็บ การรับชมวิดีโอและการใช้งานโซเชียลมีเดียวต่าง ๆ

VPN ฟรีเมียมนี้ยังให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวของคุณอย่างจริงจังด้วย แอปของ Proton VPN เป็นแบบโอเพ่นซอร์สและได้รับการตรวจสอบจากบริษัทอิสระแล้ว แถมยังมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในสวิตเซอร์แลนด์ที่มุ่งเน้นในเรื่องของความเป็นส่วนตัวด้วย เมื่อผสานรวมเรื่องนี้กับนโยบายการไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานที่เข้มงวด คุณก็จะได้หนึ่งใน VPN ฟรีที่ปลอดภัยที่สุดที่มีให้บริการ โปรดทราบว่าเวอร์ชันฟรีอาจไม่มีฟีเจอร์บางอย่าง เช่น เซิร์ฟเวอร์ Secure Core หรือการปิดกั้นโฆษณา NetShield
แผนสมาชิกฟรีมีเซิร์ฟเวอร์ใน 6 ตำแหน่ง ซึ่งรวมถึงสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น แต่ถึงอย่างนั้นก็มีอีกเรื่องที่คุณต้องรู้ — คุณไม่สามารถเลือกเซิร์ฟเวอร์ที่เฉพาะเจาะจงได้ แอปจะเชื่อมต่อคุณกับเซิร์ฟเวอร์ที่คิดว่าเหมาะกับคุณที่สุดให้โดยอัตโนมัติ คุณสามารถคลิกที่ปุ่มเปลี่ยนเซิร์ฟเวอร์เพื่อลองเซิร์ฟเวอร์อื่นได้ แต่นี่ก็ไม่ได้รับประกันว่าคุณจะได้การเชื่อมต่อที่ต่างออกไป แถมยังมีเวลานับถอยหลังที่จำกัดความถี่ในการเปลี่ยนเซิร์ฟเวอร์ด้วย
น่าเสียดายที่เวอร์ชันฟรีไม่รองรับการโหลดบิท ซึ่งทำให้บริการนี้ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการ VPN สำหรับกิจกรรมอย่างการดาวน์โหลดไฟล์ขนาดใหญ่หรือแบ่งปันเนื้อหา อย่างไรก็ตาม คุณสามารถอัปเกรดเป็นตัวเลือกแบบเสียเงินเพื่อกำจัดข้อจำกัดเหล่านี้ออกไปได้
ฟีเจอร์ที่มีประโยชน์
- ความสามารถในการสตรีมมิ่งที่ดี ในระหว่างการทดสอบของเรา แผนสมาชิกฟรีทำงานร่วมกันกับ Netflix ในสหรัฐอเมริกา, Disney+ และ Crunchyroll ได้เป็นอย่างดี แต่โชคไม่ดีนักสำหรับคลังข้อมูล Netflix อื่น, Prime Video หรือ Hulu — คุณจะต้องอัปเกรดเพื่อใช้ร่วมกับบริการเหล่านี้ ความเร็วนั้นรวดเร็วมากพอสำหรับการสตรีมมิ่งในความละเอียดระดับ HD
- ความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง บริการนี้เสนอการเข้ารหัส AES-256, การป้องกันการรั่วไหล DNS และ Kill Switch ที่ปิดกั้นการเข้าชมอินเทอร์เน็ตหาก VPN ฟรีของคุณเกิดขาดการเชื่อมต่อ แอปสำหรับ iOS และ Android ต่างก็มาพร้อมกับ Kill Switch แต่ถึงอย่างนั้น บริการนี้ก็มีเครือข่ายที่จำกัด ดังนั้นโปรดคำนึงถึงเรื่องนี้ด้วยหากคุณอยู่ในประเทศที่มีการควบคุมอินเทอร์เน็ตเข้มงวด
- การรองรับเราเตอร์ แตกต่างจาก VPN ฟรีส่วนใหญ่ สามารถติดตั้ง Proton VPN บนเราเตอร์ของคุณด้วย วิธีนี้จะช่วยให้คุณก้าวข้ามขีดจำกัดแผนสมาชิกฟรีที่ 1 การเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้
- ข้อมูลรายเดือนไม่จำกัด
- ฟีเจอร์และการปฏิบัติเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวที่เชื่อถือได้
- ความเร็วสูงทั้งใกล้และไกล
- เชื่อมต่อได้เฉพาะเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ใกล้เคียง
- ไม่รองรับ P2P
2. hide.me — บริการฟรีที่มาพร้อมความปลอดภัยที่ปรับแต่งได้เพื่อการใช้งาน VPN ที่ตอบโจทย์
ฟีเจอร์ที่ดีที่สุด | การตั้งค่าที่ปรับแต่งได้มากมายเพื่อให้ปรับการเชื่อมต่อ VPN ให้เหมาะสำหรับความต้องการของคุณ |
ข้อมูลการใช้งานที่อนุญาตต่อเดือน | ไม่จำกัด, พร้อมข้อมูลการใช้งาน 10GB บนอุปกรณ์ที่คุณเลือก |
ใช้งานร่วมกันกับ | Netflix, YouTube, Spotify, Facebook, Instagram |
เวอร์ชันทดลองใช้ฟรี | แผนสมาชิกฟรี |
แผนสมาชิกฟรีเมียมของ hide.me มาพร้อมกับทุกอย่างที่คุณควรจะได้รับจาก VPN ฟรีชั้นนำและอื่น ๆ อีกมากมาย นี่รวมถึงการเข้ารหัสที่แข็งแกร่ง, Kill Switch และการป้องกันการรั่วไหล คุณจะได้รับสิทธิ์ในการเข้าถึงโปรโตคอลที่แตกต่างกัน 5 โปรโตคอล ซึ่งรวมถึงโปรโตคอลยอดนิยมอย่าง WireGuard และ OpenVPN StealthGuard ช่วยให้คุณเชื่อมต่อ VPN เข้ากับเครือข่ายของคุณ (หรือแค่บางแอป) เพื่อความปลอดภัยสูงสุด

สิ่งที่ทำให้ hide.me แตกต่างคือการรองรับโปรโตคอล SoftEtherVPN และ SSTP ซึ่ง VPN ฟรีส่วนใหญ่ไม่มีให้บริการ โปรโตคอลเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อแยกการเข้าชม VPN ออกจากการเข้าชม HTTPS ปกติ ซึ่งทำให้การเชื่อมต่อมีความเสถียรมากขึ้นในเครือข่ายที่จำกัด เช่นเดียวกันกับ Proton VPN บริการนี้ทำงานในประเทศจีนและอิหร่านได้
VPN นี้มีเซิร์ฟเวอร์ฟรีใน 8 ตำแหน่ง ซึ่งครอบคลุมสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร เนเธอร์แลนด์ เยอรมนี ฝรั่งเศส ฟินแลนด์และสวิตเซอร์แลนด์ — และส่วนใหญ่ใช้งานร่วมกับ Netflix ได้ ตัวอย่างเช่น เราสามารถใช้บริการนี้เพื่อเข้าถึง Netflix ของสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร ตลอดจน Disney+ ในความละเอียดระดับ HD ได้ แต่ถึงอย่างนั้น ก็ใช้งานกับ Max, Hulu และคลังข้อมูล Netflix อื่น ๆ ไม่ได้
น่าเสียดายที่แผนสมาชิก hide.me จำกัดความเร็วของคุณเป็นอย่างมาก ในระหว่างการทดสอบของเรา เราพบกับความเร็วที่ลดลงสูงสุดถึง 80% แม้กว่าจะมีการเชื่อมต่อพื้นฐานที่รวดเร็วก็ตาม แม้ว่าจะยังสามารถสตรีมมิ่งได้ แต่ก็มีการสะดุดเป็นครั้งคราว หากการเชื่อมต่อปกติของคุณช้า ข้อจำกัดเหล่านี้อาจเป็นปัญหาที่ใหญ่กว่าได้
ฟีเจอร์ที่มีประโยชน์
- ฝ่ายสนับสนุนลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง VPN ฟรีส่วนใหญ่จำกัดแชทออนไลน์เฉพาะสำหรับผู้ใช้ที่จ่ายเงิน แต่ hide.me มอบบริการนี้แก่แผนสมาชิกฟรีด้วย ทีมสนับสนุนตอบกลับภายในไม่กี่นาทีและให้ความช่วยเหลือได้ดีมาก ๆ
- มีส่วนขยายเบราว์เซอร์ มีส่วนขยาย Chrome, Firefox และ Edge พร้อมให้บริการฟรี แต่คุณจะได้รับตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์เพียง 3 ตำแหน่งเท่านั้น (เมื่อเทียบกับ 8 ภายในแอป VPN ฟรี)
- การรองรับการโหลดบิท ด้วย Split Tunneling, ตัวเลือกพอร์ตที่ปรับแต่งได้และข้อมูลการใช้งานที่ไม่จำกัด บริการนี้จึงไม่ใช่ตัวเลือกที่แย่สำหรับการโหลดบิทอย่างปลอดภัย แค่น่าเสียดายมาก ๆ ที่บริการนี้จำกัดความเร็วของคุณ ดังนั้นคุณจึงอาจต้องเผชิญกับการดาวน์โหลดที่ช้า
- ตัวเลือกการปรับแต่งฟีเจอร์ความปลอดภัยมากมาย
- ข้อมูลรายเดือนไม่จำกัด
- เซิร์ฟเวอร์ฟรีใน 8 แห่ง
- ความเร็วจำกัด
- ไม่มีการเลือกเซิร์ฟเวอร์หลังจากที่ใช้ข้อมูล 10GB
3. Hotspot Shield — แผนสมาชิกฟรีที่มาพร้อมกับโปรโตคอล Hydra อันเป็นกรรมสิทธิ์เพื่อความปลอดภัยความเร็วสูง
ฟีเจอร์ที่ดีที่สุด | โปรโตคอล Hydra มอบความเร็วที่รวดเร็วเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด |
ข้อมูลการใช้งานที่อนุญาตต่อเดือน | ข้อมูลการใช้งานที่ไม่จำกัดให้คุณป้องกันการเชื่อมต่อของคุณแบบไม่จำกัด |
ใช้งานร่วมกันกับ | YouTube, Spotify, Facebook และ Instagram |
เวอร์ชันทดลองใช้ฟรี | แผนสมาชิกฟรี |
แผน VPN ฟรีของ Hotspot Shield โดดเด่นด้วยโปรโตคอล Hydra อันเป็นกรรมสิทธิ์ที่ได้รับการปรับแต่งความเร็ว ความปลอดภัยและประสิทธิภาพเมื่อเทียบกับโปรโตคอลอื่น ๆ ที่มีให้บริการ (WireGuard และ IKEv2) Hydra บรรลุสิ่งนี้ได้ด้วยช่องคู่ขนานมากมายสำหรับการถ่ายโอนข้อมูล การลดเวลาแฝงและการยกระดับความเร็วการเชื่อมต่อ เราพบว่า Hydra มีประสิทธิภาพตอนที่เราทดสอบความเร็วแผนสมาชิก Basic ของ Hotspot Shield

Hydra ทำได้มากกว่าแค่ยกระดับความเร็ว — บริการนี้มี Obfuscation ภายในตัวที่ช่วยให้ทำงานได้ในเครือข่ายที่จำกัด (เช่น โรงเรียนและที่ทำงาน) เราทดสอบสิ่งนี้ใน WiFi สาธารณะที่ปิดกั้นทั้ง VPN และเว็บไซต์สตรีมมิ่งและ Hotspot Shield ก็เชื่อมต่อได้โดยไม่มีปัญหาใด ๆ
แม้ว่านโยบายความเป็นส่วนตัวควรจะดีกว่านี้ก็ตาม ในฐานะผู้ใช้ฟรี คุณควรทราบว่า Hotspot Shield บันทึกข้อมูลพื้นฐานบางอย่างเอาไว้ เช่น การใช้งานแบนด์วิดธ์และประเภทของอุปกรณ์ ข้อมูลนี้เป็นข้อมูลที่ไม่เปิดเผยตัวตนและไม่ได้ติดตามคุณ แต่ถึงอย่างนั้นก็ถือเป็นการบันทึกข้อมูลที่มากกว่าที่เราอยากให้มี แถมมีเพียงผู้ใช้ Windows เท่านั้นที่จะได้รับ Kill Switch — อุปกรณ์อื่น ๆ จะไม่ได้รับฟีเจอร์ความปลอดภัยนี้
แอปฟรีเมียมของ Hotspot Shield มีข้อบกพร่องที่น่ารำคาญอยู่บ้าง คุณจะได้พบกับโฆษณาป๊อปอัพที่พยายามจะให้คุณอัปเกรดมากมาย ซึ่งถือเป็นเรื่องน่าเบื่อมาก แม้ว่าจะมีเซิร์ฟเวอร์สำหรับการสตรีมมิ่งปรากฏบนหน้าจอของคุณ คุณก็ไม่สามารถใช้งานได้ ในแผนสมาชิก Basic ไม่มีการรองรับการสตรีมมิ่ง
ฟีเจอร์ที่มีประโยชน์
- ไม่จำกัดข้อมูลสำหรับการโหลดบิท แผนสมาชิก Basic ของ Hotspot Shield ยังเสนอข้อมูลไม่จำกัดและเนื่องจากมันมีความเร็วที่รวดเร็วกว่า hide.me นี่จึงเป็นตัวเลือกที่ดีกว่ามากสำหรับการสตรีมมิ่ง
- ตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์มากมาย คุณจะได้รับตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ 5 ตำแหน่งในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักรและสิงคโปร์
- ฟีเจอร์รักษาความปลอดภัยมาตรฐาน บริการนี้มีตัวเลือกที่ปรับแต่งได้เล็กน้อย — ตัวอย่างเช่น เริ่มทำงานเมื่อเปิดเครื่องจะเชื่อมต่อ VPN เมื่อคุณเปิดซอฟต์แวร์ของอุปกรณ์และเครือข่ายภายในจะให้คุณเข้าถึงการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตปกติของคุณผ่าน VPN
- โปรโตคอล Hydra ที่เน้นความเร็ว
- ข้อมูลรายเดือนไม่จำกัด
- รองรับทราฟฟิคการโหลดบิท
- มีโฆษณา
- บันทึกข้อมูลโดยไม่เปิดเผยตัวตน
- ไม่รองรับการสตรีมมิ่ง
4. TunnelBear — เครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ VPN ฟรีทั่วโลกเสนอตัวเลือกการเชื่อมต่อทั่วโลก
ฟีเจอร์ที่ดีที่สุด | เครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่ที่ครอบคลุม 47 ประเทศที่จะเปลี่ยนตำแหน่งทางออนไลน์ของคุณ |
ข้อมูลการใช้งานที่อนุญาตต่อเดือน | ข้อมูลการใช้งานขนาด 2GB ช่วยให้สตรีมมิ่งในความละเอียดระดับ SD ได้ประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที |
ใช้งานร่วมกันกับ | Netflix, Disney+, BBC iPlayer, YouTube, Spotify, Facebook, Instagram |
เวอร์ชันทดลองใช้ฟรี | แผนสมาชิกฟรี |
แผนสมาชิกฟรีของ TunnelBear รวมเซิร์ฟเวอร์ใน 47 ประเทศ ซึ่งมากกว่าที่ VPN ฟรีส่วนใหญ่มีให้บริการ คุณสามารถเข้าถึงตำแหน่งเหล่านี้ได้ทั้งในมือถือและเดสก์ท็อป เซิร์ฟเวอร์ทำงานได้อย่างเสถียร — TunnelBear มอบการเข้าถึงคลังข้อมูล Netflix มากมายที่ปลอดภัยกับเรา ซึ่งรวมถึงสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร แคนาดาและญี่ปุ่น คุณภาพการเชื่อมต่อเสถียรอยู่เสมอในระหว่างที่เราทดสอบการสตรีมมิ่ง

แอปที่เรียบง่าย แต่ใช้งานได้จริงมาพร้อมการออกแบบธีมรูปหมี แค่เลือกประเทศบนแผนที่และดูเจ้าหมีขุดเส้นทางไปยังตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ของคุณ ไม่มีการตั้งค่าที่ซับซ้อนหรือเมนูตัวเลือกที่น่าสับสน แม้ว่าคุณจะเป็นผู้เริ่มต้นใช้ VPN คุณก็จะไม่พบปัญหาในการใช้งานแอป
TunnelBear เปิดเผยรายละเอียดการแบ่งปันรายงานที่โปร่งใสเกี่ยวกับคำขอข้อมูลจากรัฐบาล รายงานล่าสุดแสดงให้เห็นว่าบริการนี้ได้รับคำร้องขอ แต่ไม่สามารถมอบข้อมูลผู้ใช้ใด ๆ ให้ได้เนื่องจากนโยบายไม่บันทึกข้อมูลการใช้งาน นี่ถือเป็นเรื่องสำคัญเนื่องจากบริการนี้เปิดให้บริการจากแคนาดา ซึ่งกฎหมายความเป็นส่วนตัวบังคับให้บริษัทต้องปฏิบัติตามคำร้องขอข้อมูล
คุณจะได้รับข้อมูลการใช้งานเพียง 2GB ต่อเดือน ซึ่งครอบคลุมการสตรีมมิ่งในความละเอียดระดับ SD ได้ประมาณ 2.5 ชั่วโมง แอปทำงานได้อย่างราบรื่นบน Windows, Mac, iOS และ Android แต่ไม่มีการรองรับเราเตอร์ การทดสอบความเร็วของเราก็ออกมาดูดี — ความเร็วลดลงเพียง 19% เท่านั้นในเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ใกล้เคียง
ฟีเจอร์ที่มีประโยชน์
- GhostBear Obfuscation ฟีเจอร์นี้ช่วยหลีกเลี่ยงข้อจำกัดเครือข่ายที่โรงเรียน สำนักงานและสถานที่อื่น ๆ ที่ปิดกั้น VPN ได้ ฟีเจอร์นี้ทำงานร่วมกันกับโปรโตคอล OpenVPN บนอุปกรณ์ Windows และ Android ได้
- โปรแกรมต่อต้านการเซนเซอร์ TunnelBear เสนอข้อมูลโบนัสขนาด 10GB ทุกเดือนให้กับผู้ใช้ในประเทศที่มีการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตที่จำกัด โปรแกรมดังกล่าวครอบคลุมประเทศอิหร่าน เวเนซุเอลา เบลารุส บังกลาเทศและภูมิภาคอื่น ๆ อีกมากมาย — ถือเป็นตัวช่วยที่ดีมากสำหรับผู้ที่ต้องการมากที่สุด
- เซิร์ฟเวอร์ฟรีใน 47 ประเทศ
- ใช้งานได้กับบางแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง
- ดีไซน์ของแอปที่ดูสนุกไม่เหมือนใคร
- มีข้อมูลให้ใช้งานรายเดือนแค่ 2GB
- ไม่มีแอปสำหรับบางอุปกรณ์
- ใช้งานกับเราเตอร์ไม่ได้
5. PrivadoVPN — การสลับเปลี่ยนการเข้าชม OpenVPN เพื่อใช้ VPN บนเครือข่ายที่จำกัด
ฟีเจอร์ที่ดีที่สุด | ฟีเจอร์ Scramble ที่จะปลอมแปลงการเข้าชม VPN |
ข้อมูลการใช้งานที่อนุญาตต่อเดือน | ข้อมูลการใช้งานรายเดือนขนาด 10GB ซึ่งเหมาะสำหรับการสตรีมมิ่งและท่องเว็บ |
ใช้งานร่วมกันกับ | Netflix, Disney+, Crunchyroll, YouTube, Spotify, Facebook และอื่น ๆ อีกมากมาย |
เวอร์ชันทดลองใช้ฟรี | แผนสมาชิกฟรี |
PrivadoVPN มีตัวเลือกในการปลอมแปลงที่ให้คุณใช้ VPN ในเครือข่ายที่จำกัดได้ ตอนที่ใช้โปรโตคอล OpenVPN คุณสามารถเปิดใช้งานโดยการติ๊กถูกที่ช่อง Scramble เพื่อปลอมแปลงการเข้าชม VPN ของคุณ ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ PrivadoVPN ทำงานในประเทศอย่างรัสเซียและอิหร่านได้ ทีมสนับสนุนแนะนำให้ใช้ OpenVPN กับ TCP เพื่อการเชื่อมต่อที่ไว้วางใจได้มากขึ้น

เราเป็นแฟนคลับฟีเจอร์ตำแหน่งที่ดีที่สุดของ PrivadoVPN คุณจะได้รับตัวเลือกในการค้นหาเซิร์ฟเวอร์ที่ดีที่สุดสามตัวเลือก: ตำแหน่งทางภูมิศาสตร์เพื่อการเชื่อมต่อที่รวดเร็วโดยอิงตามระยะทางจริง ตัวเลือกโดยอิงตามเวลาแฝงที่จะทดสอบ ping (ใช้เวลา 1–3 วินาที) หรือตัวเลือกด้วยตัวเองเพื่อการควบคุมอย่างเต็มรูปแบบ ในการทดสอบ PrivadoVPN ของเรา ตัวเลือกตามเวลาแฝงหาเซิร์ฟเวอร์ที่มี ping ต่ำให้กับเราได้เสมอ (ต่ำกว่า 100ms)
แผนสมาชิกฟรีเสนอเซิร์ฟเวอร์ใน ประเทศ ซึ่งรวมถึงตำแหน่งต่าง ๆ เช่น อาร์เจนตินาและอินเดีย แถมเครือข่ายก็ไว้วางใจได้ — บริการนี้ทำงานร่วมกันกับคลังข้อมูล Netflix ยอดนิยมอย่างสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักรและแคนาดาได้อย่างราบรื่น
การเชื่อมต่อกับบางเซิร์ฟเวอร์อาจใช้เวลานานสูงสุดถึง 10–15 วินาที การกระจายเซิร์ฟเวอร์อาจจะดีกว่าเพราะมีตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ในเอเชียฟรีเพียงหนึ่งเซิร์ฟเวอร์เท่านั้น (อินเดีย) การครอบคลุมที่จำกัดนี้หมายความว่าผู้ใช้ในประเทศโซนเอเชียอาจพบกับเวลาแฝงที่สูงกว่าเมื่อเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ในภูมิภาคของตน
ฟีเจอร์ที่มีประโยชน์
- ความเร็วที่ดี PrivadoVPN เสนอความเร็วที่ดีสำหรับการใช้งานที่ใช้ข้อมูลเยอะ ในระหว่างการทดสอบของเรากับเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ใกล้เคียง เราบันทึกความเร็วที่ลดลงได้เพียง 19% เท่านั้น ความเร็วนี้ช่วยให้เราสตรีม Netflix ในความละเอียดระดับ HD ได้โดยไม่สะดุด
6. Speedify — ฟรี 100% พร้อม Bonding Mode ที่จะช่วยยกระดับความเร็วในการเชื่อมต่อ
ฟีเจอร์ที่ดีที่สุด | Bonding Mode ให้ความสำคัญกับการเชื่อมต่อเพื่อความเร็วและประสิทธิภาพที่ดี |
ข้อมูลการใช้งานที่อนุญาตต่อเดือน | ข้อมูลการใช้งาน 2GB ช่วยป้องกันกิจกรรมออนไลน์ของคุณได้หลายชั่วโมง |
ใช้งานร่วมกันกับ | YouTube, Spotify, Facebook และ Instagram |
เวอร์ชันทดลองใช้ฟรี | แผนสมาชิกฟรี |
VPN ฟรีของ Speedify เสนอฟีเจอร์ที่ไม่เหมือนใครที่มีชื่อว่า Bonding Mode ซึ่งคุณสามารถใช้เพื่อยกระดับความเร็วการเชื่อมต่อของคุณได้ ในระหว่างการทดสอบของเรา การเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้ช่วยให้ความเร็วเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 6% เมื่อเทียบกับตอนที่ไม่ได้เปิดใช้งาน

นี่เป็น VPN ฟรีอีกบริการหนึ่งที่เสนอการครอบคลุมเซิร์ฟเวอร์ที่ดี — คุณจะได้รับตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ใน 35 ประเทศ สิ่งนี้จะมอบความยืดหยุ่นสำหรับการปรับปรุงความเร็วการเชื่อมต่อได้เป็นอย่างมาก แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ใช่ตัวเลือกที่น่าไว้วางใจสำหรับการสตรีมมิ่ง — ไม่สามารถใช้ร่วมกับคลังข้อมูล Netflix ใด ๆ ได้เลยตอนที่เราทดสอบ
Speedify ระบุว่าบริการของพวกเขาจัดเก็บข้อมูลบางส่วนของคุณเอาไว้ชั่วคราว (ซึ่งรวมถึงหมายเลข IP, ตัวระบุอุปกรณ์เฉพาะและตราประทับเวลา) แต่ก็ไม่เคยบันทึกกิจกรรมออนไลน์ของคุณหรือเชื่อมโยงข้อมูลเหล่านั้นกับหมายเลข IP หรืออุปกรณ์ของคุณ
คุณไม่จำเป็นต้องลงทะเบียนเพื่อใช้แผนสมาชิก VPN ฟรี ซึ่งมีข้อมูลการใช้งานรายเดือน 2GB ปริมาณข้อมูลนี้ถือว่าเหมาะสำหรับการท่องเว็บไม่มากนัก แต่ค่อนข้างจะจำกัดสำหรับการสตรีมมิ่งหรือโหลดบิท คุณสามารถเข้าถึงเวอร์ชันทดลองใช้งานฟรี 7 วันได้หลังจากที่คุณดาวน์โหลดแอปฟรีแล้ว ซึ่งจะมอบความเร็วและข้อมูลที่ไม่จำกัดกับคุณ โปรดทราบว่าแผนสมาชิกฟรีอนุญาตให้ใช้งานได้เพียงหนึ่งอุปกรณ์ต่อครั้งเท่านั้น
ฟีเจอร์ที่มีประโยชน์
- การเข้ารหัสที่แข็งแกร่ง ด้วยการเข้ารหัส AES-256-GCM ข้อมูลของคุณจะปลอดภัย คุณจำเป็นต้องอัปเกรดเพื่อใช้ Kill Switch เนื่องจาก VPN ฟรีไม่มีฟีเจอร์นี้
- บอนดิ้งโหมดเพื่อความเร็วที่สูงขึ้น
- เซิร์ฟเวอร์ฟรีใน 35 ประเทศ
- ไม่ต้องลงทะเบียน
- บันทึกข้อมูลบางส่วนชั่วคราว
- มีข้อมูลให้ใช้งานรายเดือนแค่ 2GB
- ไม่รองรับการสตรีมมิ่ง
วิธีการเลือก VPN ฟรีที่ดีที่สุดของเรา
เมื่อประเมิน VPN ฟรี เราให้ความสำคัญกับปัจจัยหลักเพื่อให้มั่นใจถึงประสบการณ์การออนไลน์ที่ปลอดภัยและไว้วางใจได้ เราประเมินความพร้อมให้บริการของเซิร์ฟเวอร์ ความเร็วและความสามารถของ VPN ในการรับมือกับกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การสตรีมมิ่ง การท่องเว็บและการดาวน์โหลด เราตรวจสอบฟีเจอร์รักษาความปลอดภัยที่จำเป็น เช่น การเข้ารหัสที่แข็งแกร่ง, การป้องกันการรั่วไหลของ DNS/IP และ Kill Switch แถมเรายังตรวจสอบนโยบายความเป็นส่วนตัวของ VPN แต่ละบริการเพื่อยืนยันจุดยืนที่จะไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานอย่างเข้มงวดเพื่อให้มั่นใจว่ากิจกรรมออนไลน์ของคุณจะไม่ถูกเปิดเผย
ทีมงานของเราปรับใช้สถานการณ์การใช้งานของจริงเพื่อจำลองพฤติกรรมผู้ใช้ทั่วไป เราทดสอบ VPN บนอุปกรณ์และระบบปฏิบัติการต่าง ๆ เพื่อยืนยันความเข้ากันได้และความง่ายในการใช้งาน โดยการผสมผสานการประเมินทางเทคนิคกับการทดสอบของจริง เราจึงมั่นใจว่า VPN ฟรีที่เราแนะนำนั้นมีประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และการใช้งานที่สมดุล สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับกระบวนการทดสอบของเรา กรุณาเยี่ยมชมหน้าวิธีการทดสอบ VPN ของเรา
เคล็ดลับฉบับมือโปร: VPN ฟรีส่วนใหญ่เป็นอันตราย
ในขณะที่เราทดสอบอย่างระมัดระวังและแนะนำ VPN ข้างต้น แต่ตัวเลือกฟรีส่วนใหญ่ที่มีให้บริการอาจทำให้ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของคุณตกอยู่ในอันตรายได้เป็นอย่างมาก โดยปกติแล้วตัวเลือกที่ปลอดภัยและไว้วางใจได้มากที่สุดคือ VPN "ฟรีเมียม” เนื่องจาก VPN ฟรีเมียมเองก็เสนอบริการแบบเสียเงิน บริการเหล่านี้จึงไม่มีแนวโน้มที่จะทำอะไรที่เป็นอันตราย (เช่น การขายข้อมูล) เพื่อทำกำไรในเวอร์ชันฟรีของพวกเขา
แต่ถึงอย่างนั้น เราก็แนะนำให้ตรวจสอบ VPN ฟรีใด ๆ อย่างรอบคอบก่อนที่จะใช้งาน นี่คือสิ่งที่ให้ VPN ฟรีมากมายเป็นบริการที่เป็นอันตราย:
- การขายข้อมูล VPN ฟรีมากมายเปิดให้บริการฟรีได้โดยการเก็บรวบรวมและขายข้อมูลของคุณให้กับนักโฆษณา Hola VPN ถูกจับได้ว่าทำสิ่งนี้ — การขายข้อมูลแบนด์วิดธ์และข้อมูลการท่องเว็บของผู้ใช้แก่บุคคลที่สาม
- ช่องโหว่ด้านความปลอดภัย VPN ฟรีที่ไม่นักบ่อยครั้งที่ขาดฟีเจอร์ที่สำคัญ เช่น การป้องกันการรั่วไหลและ Kill Switch ตอนที่เราทดสอบ VPN ฟรียอดนิยมบางบริการ บริการเหล่านี้ทำให้หมายเลข IP จริงและคำขอ DNS ซึ่งเปิดเผยประวัติการท่องเว็บทั้งหมดของเรารั่วไหล
- มัลแวร์ที่ซ่อนตัวอยู่ VPN ฟรีบางบริการมีมัลแวร์ในแอปหรือแสดงโฆษณาที่น่ารำคาญใจที่อาจทำให้อุปกรณ์ของคุณติดมัลแวร์ได้ ตัวอย่างเช่น SuperVPN ถูกพบว่าติดตั้งมัลแวร์ที่ขโมยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้
- บริษัทที่เป็นอันตราย VPN ฟรีมากมายเปิดให้บริการโดยบริษัทที่ไม่รู้จักที่ซ่อนรายละเอียดการเป็นเจ้าของเอาไว้ บางบริการยังมีสำนักงานตั้งอยู่ในประเทศที่ไม่มีกฎหมายด้านความเป็นส่วนตัว ซึ่งมอบสิทธิ์เสรีให้พวกเขาใช้ข้อมูลของคุณในทางที่ผิดได้ในแบบที่พวกเขาต้องการ
- ความปลอดภัยที่อ่อนแอ VPN ฟรีบ่อยครั้งตัดเอาการเข้ารหัสออกเพื่อประหยัดเงิน หลาย ๆ บริการใช้โปรโตคอลรุ่นเก่าที่แฮกเกอร์สามารถเจาะเข้าได้อย่างง่ายดาย โดยทำให้ข้อมูลของคุณถูกเปิดเผยกับใครก็ตามที่ติดตามการเชื่อมต่อของคุณ
VPN ที่คุณควรหลีกเลี่ยง
VPN ฟรียอดนิยมเหล่านี้ก่อให้เกิดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่ร้ายแรง นี่คือเหตุผลว่าทำไมคุณควรหลีกเลี่ยงบริการเหล่านี้:
- Hola VPN บริการนี้ไม่ใช่ VPN จริง ๆ ด้วยซ้ำ — มันจะเปลี่ยนอุปกรณ์ของคุณให้กลายเป็นเซิร์ฟเวอร์สำหรับการเข้าชมของผู้ใช้รายอื่น ๆ ใครก็ตามที่ใช้ Hola สามารถเปลี่ยนเส้นทางกิจกรรมของพวกเขามาผ่านหมายเลข IP ของคุณได้ ซึ่งการทำแบบนี้จะทำให้คุณอาจกลายเป็นผู้มีส่วนร่วมในกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย บริการนี้ยังบันทึกทุกอย่างตั้งแต่หมายเลข IP ที่แท้จริงของคุณไปจนถึงประวัติการท่องเว็บ ในปี 2015 Hola VPN ถูกพบว่าพวกเขาเปลี่ยนอุปกรณ์ของผู้ใช้ให้กลายเป็นบอทเน็ต
- Psiphon VPN นี้จัดเก็บตำแหน่ง เว็บไซต์ที่เยี่ยมชมและระยะเวลาการเชื่อมต่อของคุณเอาไว้ถึง 90 วัน บริการนี้ยังกระหน่ำโฆษณาใส่ผู้ใช้และแบ่งปันข้อมูลของผู้ใช้กับพันธมิตรทางการค้าอย่างอิสระ นโยบายความเป็นส่วนตัวยอมรับว่าจัดเก็บข้อมูลมากกว่าที่จำเป็นสำหรับการเปิดให้บริการ VPN
- Touch VPN บริการนี้บันทึกข้อมูลกิจกรรมการท่องเว็บ ข้อมูลอุปกรณ์และตำแหน่งเอาไว้โดยละเอียด นโยบายความเป็นส่วนตัวเปิดเผยว่า "พันธมิตรทางธุรกิจ” สามารถติดตามทุกอย่างที่คุณทำในขณะที่เชื่อมต่อได้ แม้ว่าจะเป็นที่นิยม แต่บริการนี้ดูเหมือนสปายแวร์ที่ปลอมตัวมาในรูปแบบ VPN มากกว่า
- VPN Gate แม้ว่าเซิร์ฟเวอร์ที่ให้บริการโดยอาสาจะฟังดูดี แต่นี่หมายความว่าใคร ๆ ก็สามารถติดตามการเข้าชมของคุณได้ นโยบายต่อต้านการละเมิดระบุไว้อย่างชัดเจนว่าบันทึกหมายเลข IP และประวัติการท่องเว็บของคุณเอาไว้ โดยจะแบ่งปันข้อมูลนี้กับหน่วยงานรัฐเมื่อใดก็ตามที่ถูกร้องขอ
- LinkVPN สร้างขึ้นโดยนักพัฒนาเดียวกันที่อยู่เบื้องหลัง SuperVPN ที่มีมัลแวร์ซ่อนเอาไว้ บริการนี้แบ่งปันข้อมูลของผู้ใช้กับบุคคลที่สามอย่างเปิดเผย การมีสำนักงานตั้งอยู่ในจีนหมายความว่าบริการนี้จะต้องส่งข้อมูลของผู้ใช้ให้กับหน่วยงาน
VPN ฟรี vs. เสียเงิน: บริการใดที่เหมาะกับคุณมากที่สุด?
นี่คือบทสรุปสั้น ๆ เกี่ยวกับความแตกต่างที่สำคัญระหว่าง VPN เวอร์ชันฟรีและแบบเสียเงินที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจด้วยข้อมูลระหว่างสองตัวเลือกนี้:
- ราคา แน่นอนว่าสิทธิประโยชน์หลักของ VPN ที่ฟรีจริง ๆ ก็คือไม่ต้องเสียอะไรเลย ในทางกลับกัน VPN แบบเสียเงินที่มีชื่อเสียงเสนอการรับประกันยินดีคืนเงินที่ให้คุณร้องขอเงินคืนเต็มจำนวนได้หากคุณไม่พึงพอใจ แต่คุณจะต้องจ่ายเงินล่วงหน้าเพื่อลองใช้บริการ
- ความเร็ว VPN ฟรีส่วนใหญ่มีความเร็วที่ช้ากว่าตัวเลือกแบบเสียเงินเรื่องจากมีเซิร์ฟเวอร์ที่หนาแน่นและตัวเลือกโปรโตคอลที่ช้ากว่า บ่อยครั้งที่มาพร้อมกับตัวเลือกเซิร์ฟเวอร์ที่จำกัด ดังนั้นคุณอาจต้องเชื่อมต่กับตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ห่างไกล ซึ่งจะลดความเร็วการเชื่อมต่อของคุณมากขึ้นไปอีก
- ข้อมูลการใช้งานที่อนุญาต บ่อยครั้งที่ VPN ฟรีจะจำกัดการใช้งานข้อมูลของคุณ VPN บางบริการเสนอข้อมูลการใช้งานเพียง 1–2GB เท่านั้น ซึ่งถือว่าดีสำหรับการสตรีมมิ่งเพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น VPN แบบเสียเงินโดยทั่วไปแล้วจะเสนอข้อมูลการใช้งานแบบไม่จำกัดที่ให้คุณโหลดบิทและสตรีมได้มากเท่าที่คุณต้องการ
- เครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ VPN ส่วนใหญ่จำกัดเซิร์ฟเวอร์ที่คุณสามารถใช้งานได้ฟรี นี่อาจนำไปสู่การใช้งานที่หนาแน่น ซึ่งนำไปสู่การเชื่อมต่อที่ช้า ตัวอย่างเช่น VPN แบบเสียเงินชั้นนำมากมายมีเซิร์ฟเวอร์ในประเทศต่าง ๆ เกือบ 100 ประเทศ ในทางกลับกัน VPN ฟรีโดยเฉลี่ยจะมีตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์เพียง 5 ตำแหน่งหรือน้อยกว่า
- ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว VPN พรีเมียมเสนอการเข้ารหัสระดับทหาร สุดยอดการป้องกัน DNS/IP และนโยบายไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานที่ได้รับการพิสูจน์แล้วในการป้องกันข้อมูลของคุณ แม้ว่า VPN ฟรีในรายการนี้จะใช้งานได้อย่างปลอดภัย แต่ VPN ฟรีมากมายประสบปัญหาในการเสนอระดับความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวในระดับเดียวกันนี้ บางบริการยังแม้กระทั่งบันทึกข้อมูลของคุณเอาไว้และขายให้กับนักโฆษณาบุคคลที่สาม
- การรองรับการโหลดบิท ไม่ใช่ทุก VPN ที่รองรับการเชื่อมต่อ P2P ฟรี แต่มีไม่กี่บริการที่ทำได้ การโหลดบิทด้วย VPN แบบเสียเงินนั้นง่ายกว่ามากเพราะคุณจะได้รับข้อมูลการใช้งานที่ไม่จำกัดและความเร็วที่ดีกว่า
- ฝ่ายสนับสนุนลูกค้า ทีมสนับสนุน VPN มีแนวโน้มที่จะให้ความสำคัญกับลูกค้าที่จ่ายเงินมากกว่าลูกค้าที่ใช้แผนสมาชิกฟรี นี่หมายความว่าคุณมีแนวโน้มที่จะได้พบกับบริการสนับสนุนลูกค้าที่มีการตอบสนองมากกว่าใน VPN ที่เสียเงิน — โดยทั่วไปแล้วจะผ่านฟีเจอร์แชทออนไลน์ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง
คู่มือแนะนำ: วิธีใช้ VPN ฟรีใน 3 ขั้นตอนง่าย ๆ
- ลงทะเบียนใช้ VPN
เราขอแนะนำ ProtonVPN เนื่องจากเป็นหนึ่งในตัวเลือกฟรีไม่กี่ตัวเลือกที่ปลอดภัยจริง เป็นมิตรต่อความเป็นส่วนตัวและมาพร้อมกับข้อมูลการใช้งานที่ไม่จำกัด - เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์
ไปยังเว็บไซต์ของ VPN, ติดตั้งแอป VPN ที่เกี่ยวข้องบนอุปกรณ์ของคุณและเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ที่คุณเลือก เซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ใกล้จะมอบความเร็วที่ดีที่สุดกับคุณ - เริ่มท่องเว็บ
เริ่มต้นท่องเว็บ สตรีมมิ่งหรือโหลดบิทได้อย่างปลอดภัย
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ VPN ฟรี
มี VPN ฟรี 100% ไหม?
มี VPN ส่วนใหญ่ในรายการนี้เปิดให้บริการฟรี — ไม่จำเป็นต้องใช้บัตรเครดิตหรือชำระเงิน VPN ฟรีเหล่านี้เปิดให้บริการโดยจำกัดฟีเจอร์บางอย่าง เช่น ข้อมูลการใช้งาน ความเร็วหรือตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ โดยหวังว่าคุณจะอัปเกรด
เวอร์ชันทดลองใช้ฟรีแตกต่างจาก VPN ฟรี หากบริการดังกล่าวขอรายละเอียดการชำระเงินของคุณในระหว่างการลงทะเบียน บางทีบริการนั้นอาจจะเป็นเวอร์ชันทดลองใช้ฟรีที่จะเรียกเก็บเงินคุณหลังจากที่สิ้นสุดช่วงเวลาทดลองใช้ VPN พรีเมียมชั้นนำต้องการการชำระเงินล่วงหน้า แต่มาพร้อมการรับประกันยินดีคืนเงิน โดยจะให้คุณทดสอบฟีเจอร์ทั้งหมดและรับเงินคืนได้หากคุณไม่พึงพอใจ
VPN ฟรีปลอดภัยไหมและถูกแฮกได้หรือเปล่า?
VPN ฟรีไม่ได้ปลอดภัย 100% เสมอไปและใช่ บางบริการอาจถูกแฮกได้ง่ายกว่าบริการอื่น ๆ เราตรวจสอบให้มั่นใจว่า VPN ในรายการนี้ใช้งานได้อย่างปลอดภัยโดยการอ่านนโยบายความเป็นส่วนตัวของบริการเหล่านั้น — ไม่มีบริการใดที่เก็บข้อมูลที่ระบุตัวตนเอาไว้ เรายังดำเนินการทดสอบการรั่วไหลของ IP/DNS เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลของเราถูกปิดบังเอาไว้อย่างเหมาะสมด้วยและบริการเหล่านั้นก็สอบผ่านทั้งหมด
บริการ VPN ฟรีมากมายอาจเป็นบริการที่เป็นอันตรายด้วยเหตุผลมากมาย บางบริการไม่มีการเข้ารหัสที่แข็งแกร่ง ซึ่งอาจทำให้แฮกเกอร์แทรกแซงการเชื่อมต่อของคุณได้อย่างง่ายดาย บริการอื่น ๆ ก็อาจเก็บบันทึกและแบ่งปันข้อมูลกับบุคคลที่สาม เช่น นักโฆษณาเพื่อสร้างรายได้ ยังไม่หมดเพียงแค่นี้ — เรายังพบกับ VPN ฟรีที่มีแม้กระทั่งมัลแวร์ฝังอยู่ในแอปด้วย
บริการ VPN ฟรีที่รวดเร็วที่สุดคือบริการใด?
การทดสอบความเร็วของเราแสดงให้เห็นว่า Proton VPN เป็นตัวเลือกฟรีที่รวดเร็วที่สุดที่มีให้บริการ ตอนที่เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ใกล้เคียง บริการดังกล่าวมีความเร็วลดลงน้อยที่สุดในหมู่ VPN ฟรีอื่น ๆ ทั้งหมดที่เราทดสอบ นี่ช่วยให้เราสตรีมในความละเอียดระดับ HD และ UHD ได้โดยไม่มีความล่าช้าใด ๆ
VPN ฟรีอื่น ๆ ส่วนใหญ่ในรายการของเราทำงานได้ดีเช่นกัน โดยจะมอบความเร็วที่มากเพียงพอสำหรับการท่องเว็บทุกวันและการสตรีมมิ่ง บริการที่อยู่นอกเหนือเรื่องนี้คือ Hotspot Shield ซึ่งชะลอการเชื่อมต่อของเราเป็นอย่างมากในระหว่างการทดสอบ
ฉันสามารถใช้ VPN แบบไม่จำกัดหรือพรีเมียมฟรีได้ไหม?
ไม่ได้ ไม่มีทางที่จะใช้ฟีเจอร์ VPN พรีเมียมแบบไม่จำกัดได้ฟรี VPN ฟรีถูกจำกัดโดยการออกแบบ — บริการเหล่านี้ต้องสร้างรายได้ในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมบริการเหล่านั้นถึงจำกัดข้อมูล ความเร็ว เซิร์ฟเวอร์หรือฟีเจอร์เพื่อสนับสนุนให้อัปเกรดเป็นแผนสมาชิกแบบเสียเงิน VPN บางบริการเสนอเวอร์ชันทดลองใช้งานฟรีของบริการพรีเมียม (โดยปกติแล้วจะใช้งานได้ 7 วัน) คุณจะได้รับสิทธิ์ในการเข้าถึงอย่างเต็มรูปแบบในระหว่างช่วงทดลองใช้งาน แต่คุณจะต้องกรอกรายละเอียดการชำระเงินและอย่าลืมที่จะยกเลิกก่อนที่จะสิ้นสุดช่วงเวลาดังกล่าว โปรดระมัดระวังเว็บไซต์ที่อ้างว่าจะแบ่งปันบัญชี VPN พรีเมียมให้หรือเสนอ "วิธีการแฮก” สำหรับการเข้าถึงแบบไม่จำกัด โดยปกติแล้วนี่เป็นเรื่องหลอกลวงที่อาจทำให้อุปกรณ์ของคุณติดมัลแวร์หรือขโมยข้อมูลของคุณได้ แอป VPN ที่มีการแคร็กจะอันตรายเป็นพิเศษเนื่องจากอาจเปิดเผยกิจกรรมออนไลน์ทั้งหมดของคุณกับแฮกเกอร์
บริการ VPN ฟรีที่ดีที่สุดสำหรับ iPhone และ Android คือบริการใด?
นั่นขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณ — VPN ทั้งหมดในรายการของเราทำงานร่วมกันกับ Android และ iPhone ได้เป็นอย่างดี แต่ละบริการก็จะทำได้ดีในเรื่องที่แตกต่างกันไป
หากคุณต้องการเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่ hide.me และ Speedify คือตัวเลือกที่ดีที่สุดของคุณ หากคุณต้องการข้อมูลการใช้งานที่ไม่จำกัด มี VPN บางบริการในรายการนี้ที่จะไม่ทำให้คุณต้องผิดหวัง สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการสตรีมมิ่ง คุณควรให้ความสำคัญกับ VPN ที่ทำงานร่วมกันกับแพลตฟอร์มที่คุณชื่นชอบได้
บริการ VPN ฟรีที่ดีที่สุดสำหรับการสตรีมมิ่ง Netflix คือบริการใด?
VPN ฟรีบางบริการในรายการใช้งานร่วมกันกับ Netflix ได้ แต่บริการทั้งหมดมีข้อจำกัด บางบริการจำกัดการสตรีมมิ่งของคุณด้วยขีดจำกัดข้อมูลการใช้งานในปริมาณไม่มาก ในขณะที่บริการอื่น ๆ มีความเร็วที่ช้ามาก ๆ ที่จะทำให้คุณต้องใช้เวลากับการสะดุดมากกว่าการรับชม แม้ว่าจะใช้งานได้ แต่ VPN ฟรีมักมีเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ขนาดเล็กหรือไม่สามารถรักษาการเชื่อมต่อที่เสถียรกับเซิร์ฟเวอร์ Netflix ได้
เพื่อประสบการณ์ที่ราบรื่นและไม่ถูกรบกวน ควรใช้ VPN พรีเมียมสำหรับ Netflix ที่มีราคาไม่แพงแทน
ส่วนขยาย VPN ฟรีที่ดีที่สุดสำหรับ Chrome คือบริการใด?
VPN ฟรีส่วนใหญ่ในรายการของเราเสนอส่วนขยายสำหรับ Chrome โดยให้คุณป้องกันการเข้าชมเบราว์เซอร์ของคุณอย่างปลอดภัยได้อย่างง่ายดายภายในไม่กี่คลิก อย่างไรก็ตาม ส่วนขยายเหล่านี้โดยปกติแล้วจะเป็นแค่ฟีเจอร์พื้นฐานที่มีตัวเลือกเซิร์ฟเวอร์ที่จำกัดและยังขาดฟีเจอร์รักษาความปลอดภัย นี่เป็นเพราะส่วนขยายนี้จะเชื่อมต่อคุณกับเซิร์ฟเวอร์พร็อกซีเท่านั้น สิ่งนี้สามารถเปลี่ยนตำแหน่งของคุณได้ แต่จะไม่สามารถเข้ารหัสได้ ดังนั้นเราจึงขอแนะนำให้ใช้แอป VPN แทนที่จะเป็นส่วนขยาย
บริการ VPN ฟรีที่ดีที่สุดสำหรับการโหลดบิทคือบริการใด?
VPN ฟรีที่ดีที่สุดสำหรับการโหลดบิทคือ Hotspot Shield เนื่องจากบริการนี้มีการเข้ารหัสระดับทหารและไม่จำกัดข้อมูลการใช้งาน อย่างไรก็ตาม บริการนี้มีเซิร์ฟเวอร์ฟรีใน 5 ประเทศเท่านั้น ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดความล่าช้าได้เนื่องจากความหนาแน่น ดังนั้นคุณจึงอาจไม่ได้รับความเร็วในการดาวน์โหลดที่รวดเร็วที่สุดหากไม่มีเซิร์ฟเวอร์พร้อมให้บริการในตำแหน่งที่ใกล้กับคุณ
VPN ทำงานในอิหร่าน อินเดีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์หรือจีนได้ไหม?
VPN ฟรีแทบจะไม่สามารถทำงานในประเทศที่มีการควบคุมอินเทอร์เน็ตที่เข้มงวดได้เลยเนื่องจากบริการเหล่านี้ไม่มีฟีเจอร์รักษาความปลอดภัยขั้นสูง โปรโตคอล VPN พื้นฐานสามารถถูกตรวจพบและปิดกั้นได้ง่าย แต่ถึงอย่างนั้น VPN ฟรีที่มีฟีเจอร์ Obfuscation หรือ Stealth สามารถทำงานบนเครือข่ายที่จำกัดได้เป็นอย่างดี แม้ว่าจะหาบริการดังกล่าวได้ไม่ง่ายนัก
ผู้ใช้ฟรีส่วนใหญ่จะเผชิญกับปัญหาการเชื่อมต่อในภูมิภาคเหล่านี้ เซิร์ฟเวอร์หนาแน่นอย่างรวดเร็ว ซึ่งนำไปสู่ความเร็วที่ช้าและการขาดการเชื่อมต่ออย่างต่อเนื่อง บ่อยครั้งที่ไม่มีฟีเจอร์รักษาความปลอดภัยที่สำคัญ เช่น การป้องกันการรั่วไหลด้วยเช่นกัน ซึ่งนี่อาจเปิดเผยตำแหน่งที่แท้จริงของคุณหากการเชื่อมต่อเกิดหลุด
ใช้ VPN ฟรีที่ดีที่สุด
แม้ว่า VPN ฟรีทั้งหมดที่เราระบุไว้จะไม่เป็นอันตรายต่อความปลอดภัยของคุณ แต่ VPN ฟรีทั้งหมดต่างก็มีข้อจำกัด หากคุณรู้ว่าคุณต้องการฟีเจอร์อะไร คุณก็สามารถค้นหา VPN ที่เหมาะกับคุณได้ — ไม่ว่าคุณจะต้องการบริการดังกล่าวเพื่อการสตรีมมิ่ง โหลดบิทหรือความเป็นส่วนตัวทางออนไลน์


กรุณาแสดงความคิดเห็นว่าพวกเราสามารถพัฒนาบทความนี้ได้อย่างไร ความคิดเห็นของคุณมีค่าสำหรับเรา!