ทำไม VPN จึงผิดกฎหมายในจีน & จะหลีกเลี่ยงได้อย่างไร

เร็วๆนี้ VPN ได้ถูกแบนในประเทศจีน และทางกระทรวงอุตสาหรกรรมและไอที (MIIT) ของจีนก็ถือว่าการใช้ VPN เป็นอาชญกรรม โดยทำให้เกิดผลเสียต่อผู้ใช้งาน VPN ที่อาศัยอยู่ในประเทศจีน ซึ่งใช้ VPN ในการเข้าถึงเว็บไซต์ต่างๆที่ถูกบล็อค เช่น Facebook, Twitter, และ YouTube

ทำความเข้าใจปูมหลัง

เนื่องจาก VPN เป็นการแทรกแซงการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตของประเทศ ผู้ให้บริการ VPN จึงจำเป็นต้องได้รับการอนุญาต MIIT ได้ประกาศกฎข้อใหม่เกี่ยวกับ VPN และการเชื่อมต่อในประเทศจีน ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2018

แทนที่จะมุ่งเน้นไปที่ผู้มีอำนาจที่ทำงานในบริษัทข้ามชาติ ทางการจีนกลับมุ่งเน้นไปที่บริษัทที่ให้บริการ VPN แก่บุคคลสัญชาติจีน โดยเคยกฎข้อบังคับเกี่ยวกับ VPN ในประเทศจีนมาแล้วในเดือนมีนาคม 2016

หนังสือพิมพ์หลายเจ้าในจีน เช่น South China Morning Post, และนอกเหนือจากนั้น เช่น Washington Post กล่าวว่ามีผู้ให้บริการ VPN ถูกกฎหมายหลายรายในประเทศจีน  ผู้ให้บริการเหล่านี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับรัฐวิสาหกิจซึ่งอนุญาตให้ธนาคารและสำนักงานกฎหมาย - ซึ่งได้จ่ายค่าธรรมเนียมสูง - ให้สามารถผ่าน Great Firewall ซึ่งเป็นระบบเซนเซอร์ที่ใหญ่ที่สุดของจีน ได้อย่างถูกกฎหมาย

ทางรัฐบาลได้สั่งให้ผู้ให้บริการเครือข่ายสัญญาณโทรศัพท์สามราย คือ China Mobile (860 ล้าน), China Unicom (268 ล้าน) และ China Telecom (227 ล้าน) ให้แบนบริษัทที่ดำเนินการในจีนแผ่นดินใหญ่โดยไม่ได้เช่าสาย web-access

กฎข้อบังคับและความท้าทาย

ถึงแม้จีนจะสามารถควบคุมอินเตอร์เน็ตส่วนใหญ่ที่ประชาชนสามารถใช้ได้ การใช้ VPN เป็นการขัดขวางภารกิจ “อธิปไตยไซเบอร์” ในจีน เหตุผลที่ทางรัฐบาลจีนก็ต้องการบล็อคเว็บไซต์ต่างๆก็คือการต่อสู้ทางการเมืองและการที่พรรคการเมืองต่างๆใช้อินเตอร์เน็ตเป็นสนามรบ

ถ้ากระทรวงอุตสาหกรรมและไอทีของจีนสามารถออกนโยบายที่สามารถอุดช่องโหว่เหล่านี้ได้ ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตจะไม่สามารถเข้าถึงเว็บไซต์ที่ถูกทางรัฐบาลบล็อค นอกจากโซเชียลเน็ตเวิร์คต่างๆเช่น Facebook และ Twitter แล้วเว็บไซต์ต่างประเทศอื่นๆ เช่น The New York Times และ Wall Street Journal ก็ถูกบล็อคโดย Firewall ของจีน

VPN เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับการทำธุรกิจในประเทศจีนและการแบน VPN ก็จะส่งผลกระทบต่อการดำเนินการของบริษัทและพนักงาน ตัวอย่างของผู้ที่จะได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการห้ามใช้ VPN ก็คือนักวิจัยด้านสิ่งแวดล้อมที่ต้องทำงานผ่าน Google Docs และภัณฑารักษ์ในเซี่ยงไฮ้ที่ทำงานกับศิลปินต่างชาติ

เรื่องนี้มีความหมายต่อชาวโลกอย่างไร

ท่ามกลางเศรษฐิจโลกาภิวัฒน์ของจีน VPN มีบทบาทสำคัญและเป็นเครื่องมือที่จำเป็นในการสื่อสารที่ปลอดภัยและการเชื่อมต่อทั่วโลก บริษัทต่างชาติในจีนหลายแห่งก็ใช้งาน VPN เพื่อเก็บข้อมูลบริษัทและ/หรือสื่อสารกับสำนักงานใหญ่ของบริษัทในต่างประเทศ

ตั้งแต่รัฐบาลจีนบังคับให้Apple และ Android นำแอพ VPN ออกจากสโตร์ ไม่เพียงแต่เกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศเท่านั้น แต่นอกเหนือจากนั้นก็ยังเกิดผลกระทบต่อผู้ใช้งานหลายราย และยังอาจเกิดผลกระทบต่อนักวิชาการ, นักพัฒนาซอฟต์แวร์, และบริษัทต่างชาติ

Great Firewall ทำให้ IP Adress ของจีนไม่สามารถเข้าถึงหนังสือพิมพ์ต่างประเทศได้ และทำให้การสื่อสารกับมหาวิทยาลัยในต่างประเทศเป็นเรื่องยากขึ้น ซึ่งเป็นการขัดความการสื่อสารระหว่างจีนกับทั่วโลก

มีเว็บไซต์หลายประเภทที่ถูกรัฐบาลจีนบล็อค รวมถึงแอพและเว็บไซต์โซเชียลมีเดีย, Media portals, เครื่องมือทำงาน, และเว็บโป๊ และเนื่องจากเว็บไซต์สำคัญๆเกือบทั้งหมดถูกบล็อคในจีน VPN มีบทบาทสำคัญในการช่วยให้ผู้ใช้งาน IP addresses จีน สามารถเข้าถึงเว็บไซต์ที่เป็นที่นิยมทั่วโลกอย่างเช่น Google+, Wikipedia, และเว็บไซต์อื่นๆอีกมากมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ก้าวไปข้างหน้า

การเปลี่ยนไปใช้ VPN ที่ไม่ถูกบล็อคหรือเปลี่ยนไปใช้ IP address ที่ไม่ถูกบล็อคจะช่วยหลีกเลี่ยงการแบน VPN ได้ หรือการใช้เซิรฟ์เวอร์ VPN เดี่ยวๆ ซึ่งจะมี VPN IP Address ที่ไม่ถูกรัฐบาลบล็อค ผู้ให้บริการ VPN อนุญาตให้ผู้ใช้งานเปลี่ยนหมายเลขพอร์ต ซึ่งมีสองแบบคือ TCP port 80 and TCP port 443 การใช้งาน TOR ซึ่งย่อมาจาก The Onion Router ทำให้คุณสามารถใช้งานอินเตอร์เน็ตแบบนิรนามได้

กล่าวโดยย่อได้ว่า VPN เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายในประเทศจีน แต่ที่ vpnMentor เราเชื่อในเครือข่ายอินเตอร์เน็ตที่เป็นกลาง เช่นเดียวกับผู้ให้บริการ VPN ของเรา หากคุณกำลังจะเดินทางไปยังประเทศจีน ควรซื้อ VPN ที่สามารถใช้งานในจีนได้ แต่หากคุณอยู่ในจีนแล้วก็ไม่ต้องกังวล เนื่องจากยังมีวิธีปลดบล็อค VPN ได้ และนี่ก็คือรายชื่อ

คุณคิดอย่างไรกับการที่ VPN กลายเป็นสิ่งผิดกฎหมายและจะแก้ไขอย่างไร?