พวกเราจัดอันดับผู้ให้บริการตามการทดสอบและการค้นคว้าอย่างเข้มงวด แต่ก็จะมีการคำนึงถึงความคิดเห็นของคุณและค่าคอมมิชชั่นจากผู้ให้บริการด้วย ผู้ให้บริการบางรายนั้นจะมีบริษัทแม่แห่งเดียวกันกับพวกเรา
เรียนรู้เพิ่มเติม
vpnMentor ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 2014 ในฐานะเว็บไซต์รีวิวบริการ VPN อย่างอิสระและเว็บไซต์ข่าวเกี่ยวกับเรื่องความเป็นส่วนตัว วันนี้ ทีมงานนักวิจัยความปลอดภัยทางไซเบอร์, นักเขียน และบรรณาธิการนับร้อยของพวกเราได้ช่วยผู้อ่านให้ต่อสู้เพื่ออิสรภาพทางออนไลน์ผ่านการจับมือกับ Kape Technologies PLC ซึ่งเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ดังต่อไปนี้: ExpressVPN, CyberGhost และ Private Internet Access ซึ่งอาจจะได้รับการจัดอันดับและรีวิวบนเว็บไซต์ของเราด้วย รีวิวที่ได้รับการเผยแพร่บน vpnMentor นั้นมีความแม่นยำถึงวันที่ทำการเผยแพร่ และแต่ละรีวิวก็จะถูกเขียนขึ้นโดยอ้างอิงมาตรฐานที่เข้มงวดด้านการรีวิวซึ่งจะเน้นความเป็นอิสระและการค้นคว้าวิจัยอย่างซื่อสัตย์และเป็นมืออาชีพของนักรีวิว โดยจะเน้นไปถึงความสามารถและคุณภาพของผลิตภัณฑ์รวมถึงความคุ้มค่าที่มันมีต่อผู้ใช้งาน การจัดอันดับและรีวิวที่พวกเราเผยแพร่นั้นอาจจะคำนึงถึงการเป็นเจ้าของเดียวกันที่กล่าวถึงด้านบน และค่าคอมมิชชั่นที่พวกเราได้รับในกรณีที่มีการสั่งซื้อผ่านลิงก์บนเว็บไซต์ของเราด้วย พวกเราไม่ได้ทำการรีวิวผู้ให้บริการ VPN ทั้งหมด และข้อมูลที่เผยแพร่นั้นจะมีความแม่นยำถึงวันที่เผยแพร่แต่ละบทความ
การเปิดเผยข้อมูลการโฆษณา

vpnMentor ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 2014 ในฐานะเว็บไซต์รีวิวบริการ VPN อย่างอิสระและเว็บไซต์ข่าวเกี่ยวกับเรื่องความเป็นส่วนตัว วันนี้ ทีมงานนักวิจัยความปลอดภัยทางไซเบอร์, นักเขียน และบรรณาธิการนับร้อยของพวกเราได้ช่วยผู้อ่านให้ต่อสู้เพื่ออิสรภาพทางออนไลน์ผ่านการจับมือกับ Kape Technologies PLC ซึ่งเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ดังต่อไปนี้: ExpressVPN, CyberGhost และ Private Internet Access ซึ่งอาจจะได้รับการจัดอันดับและรีวิวบนเว็บไซต์ของเราด้วย รีวิวที่ได้รับการเผยแพร่บน vpnMentor นั้นมีความแม่นยำถึงวันที่ทำการเผยแพร่ และแต่ละรีวิวก็จะถูกเขียนขึ้นโดยอ้างอิงมาตรฐานที่เข้มงวดด้านการรีวิวซึ่งจะเน้นความเป็นอิสระและการค้นคว้าวิจัยอย่างซื่อสัตย์และเป็นมืออาชีพของนักรีวิว โดยจะเน้นไปถึงความสามารถและคุณภาพของผลิตภัณฑ์รวมถึงความคุ้มค่าที่มันมีต่อผู้ใช้งาน การจัดอันดับและรีวิวที่พวกเราเผยแพร่นั้นอาจจะคำนึงถึงการเป็นเจ้าของเดียวกันที่กล่าวถึงด้านบน และค่าคอมมิชชั่นที่พวกเราได้รับในกรณีที่มีการสั่งซื้อผ่านลิงก์บนเว็บไซต์ของเราด้วย พวกเราไม่ได้ทำการรีวิวผู้ให้บริการ VPN ทั้งหมด และข้อมูลที่เผยแพร่นั้นจะมีความแม่นยำถึงวันที่เผยแพร่แต่ละบทความ

7 VPN ฟรีสำหรับ Mac และ Safari (ทดสอบ & อัพเดท 2024)

มุก อัปเดตเมื่อ 09/02/2024 ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย คริสตีน โจแฮนสัน บรรณาธิการอาวุโส
สารบัญ

อุปกรณ์ Mac นั้นเริ่มเป็นเป้าโจมตีที่ได้รับความนิยมจากเหล่าแฮ็คเกอร์มากขึ้นเรื่อย ๆ ฉันเป็นแฟนอุปกรณ์ Apple มาโดยตลอด เพราะฉันคิดว่ามันเป็นอุปกรณ์ที่ปลอดภัย แต่อย่างไรก็ตามเมื่อบริการมีผู้ใช้เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ แฮ็คเกอร์ก็เริ่มพยายามทำการโจมตีอุปกรณ์ Mac มากขึ้นไปด้วย น่าเสียดายที่ส่วนขยาย VPN บน Safari นั้นส่วนใหญ่ใช้งานไม่ได้ (โดยเฉพาะบริการฟรี) ทางเลือกที่ดีกว่าในการรักษาความปลอดภัยเมื่อใช้งาน คือการใช้แอป VPN

ใช้แอป VPN เพื่อปกป้องการรับส่งข้อมูลของคุณบน Mac, iMac หรือ Mac Mini รวมถึงเบราเซอร์ Safari ฉันทดสอบ VPN ฟรีกว่า 30 บริการบน Macbook Pro ของฉันและคัดเลือก VPN ที่ดีที่สุดที่ใช้งานได้ปลอดภัย (บางบริการเหมาะสำหรับการสตรีม!) น่าเสียดายที่ VPN ฟรีส่วนใหญ่มีข้อจำกัดบางอย่าง

ในขณะที่ฉันต้องการค้นหา VPN ฟรี แต่ตัวเลือกที่ดีที่สุดของฉันคือ ExpressVPN มันเป็น VPN พรีเมียม แต่มาพร้อมกับการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยระดับชั้นนำของอุตสาหกรรม ความเร็วสูงและแบนด์วิดท์ไม่จำกัด ซึ่งทำให้ใช้งานได้อย่างปลอดภัยและยอดเยี่ยมสำหรับการสตรีม — ไม่มี VPN ฟรีใดที่สามารถให้บริการได้แบบนี้ เนื่องจากบริการมีการรับประกันคืนเงิน คุณจึงสามารถ ทดสอบใช้งาน ExpressVPN ได้โดยปราศจากความเสี่ยง ฉันทดสอบเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาให้บริการได้ตามที่โฆษณาจริง ๆ และฉันได้เงินคืนมาใน 3 วันโดยที่ไม่มีปัญหาใด ๆ

ทดลองใช้งาน ExpressVPN ได้โดยปราศจากความเสี่ยงได้เลยวันนี้

มีเวลาไม่พอใช่ไหมนี่คือ VPNฟรีที่ดีที่สุดสำหรับ Macและ Safari —ทดสอบเมื่อ2024

  • ExpressVPN — ฟีเจอร์ความปลอดภัยที่แข็งแกร่งสำหรับช่วยปกป้อง Mac และการท่องเว็บผ่าน Safari ความเร็วขั้นสูงสุดและ 3,000+ เซิร์ฟเวอร์ใน 105 ประเทศ คุณสามารถ ทดลองใช้ ExpressVPN บน Mac ของคุณได้อย่างไม่มีความเสี่ยง เป็นเวลา 30 วันเนื่องจากพวกเขามีการรับประกันคืนเงิน
  • CyberGhost — เครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่ ความเร็วที่รวดเร็วและเซิร์ฟเวอร์ที่ปรับให้เหมาะสมเพื่อให้เข้าถึงการสตรีมและทอร์เรนต์ได้ง่าย บริการยังนำเสนอการรับประกันคืนเงิน 45 วันเพื่อให้คุณสามารถทดลองกับอุปกรณ์ Mac ของคุณได้ฟรี
  • Proton VPN — VPN ฟรีสำหรับ Mac ตัวนี้จะเปิดให้ใช้ข้อมูลได้ไม่จำกัด ดังนั้นคุณจึงสามารถท่องเว็บและสตรีมได้มากเท่าที่คุณต้องการ แต่มันมีความเร็วที่ต่ำและมีเซิร์ฟเวอร์ให้เลือกน้อย
  • Avira Phantom VPN — VPN ฟรีสำหรับ Mac ซึ่งมีการป้องกันการรั่วไหลของ IP/DNS ซึ่งผ่านการทดสอบของเรามาแล้ว แต่คุณจะใช้ข้อมูลได้แค่ 1GB ต่อเดือน และมันก็ไม่มี kill switch ด้วย
  • hide.me — VPN ฟรีสำหรับ Mac นี้มีฟีเจอร์ความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง และเปิดให้ใช้งานข้อมูลรายเดือนได้ถึง 10GB แต่มันไม่สามารถใช้งานกับเว็บไซต์สตรีมมิ่งได้

และอีก 2 VPN ฟรีสำหรับ Mac และ Safari

VPNฟรีที่ดีที่สุดสำหรับ Macและ Safari —การวิเคราะห์ตัวเต็ม (อัปเดต2024)

1. ExpressVPN — แอปสำหรับ Mac ที่มีความปลอดภัยและความเร็วสายฟ้าแลบซึ่งมีเครือข่ายทั่วโลก

  • การเข้ารหัสระดับทหารและ Kill switch ช่วยปกป้องอุปกรณ์ Mac ของคุณ
  • มากกว่า 3,000 เซิร์ฟเวอร์ใน 105 ประเทศ รวมถึงประเทศไทย เพื่อเข้าถึงเนื้อหาที่ถูกปิดกั้นในหลายประเทศได้อย่างง่ายดาย
  • ข้อมูลไม่จำกัดและความเร็วสูงเพื่อช่วยให้คุณสตรีมและใช้งานได้โดยไม่มีสะดุด
  • เชื่อมต่อพร้อมกัน8 อุปกรณ์
  • สามารถเข้าถึง: Netflix อเมริกาและไลบารี Netflix ยอดนิยมอื่น ๆ, Disney+, HBO Max, Hulu, BBC iPlayer, Vudu และแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งระหว่างประเทศอื่น ๆ
  • สามารถใช้งานได้กับ: Mac, iOS, Windows, Android, Linux, Chrome, Firefox, เราท์เตอร์, Apple TV และอื่น ๆ อีกมากมาย
  • มีอินเตอร์เฟสในภาษาไทย

ExpressVPN มีฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยที่ยอดเยี่ยมที่ช่วยเก็บข้อมูลสำคัญทั้งหมดบน Mac ของคุณให้ปลอดภัย (ซึ่งรวมถึงกิจกรรมใน Safari ด้วย) มาพร้อมกับการเข้ารหัส AES 256-bit  นี่คือมาตรฐานการเข้ารหัสที่รัดกุมที่สุด ดังนั้น IP ของคุณจึงถูกซ่อนจากใครก็ตามที่ต้องการขโมยข้อมูลของคุณ มันปกป้องคุณแม้ว่า VPN จะตัดการเชื่อมต่อกะทันหัน Kill switch อัตโนมัติจะบล็อกการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของคุณ นอกจากนี้ยังมีการป้องกันการรั่วไหลของ IP/DNS/WebRTC ฉันใช้ iMac เพื่อทดสอบ 15 เซิร์ฟเวอร์ของบริการ และฉันก็ไม่พบการรั่วไหลของ IP/DNS แต่อย่างใด

Screenshot of leak tests done on ipleak.net while connected to ExpressVPNขณะที่เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ในเท็กซัส ipleak.net แสดงหมายเลข IP และ DNS ของเซิร์ฟเวอร์ ExpressVPN ดังนั้นฉันจึงรู้ได้ว่าข้อมูลของฉันถูกปกปิดเอาไว้

เซสชันการใช้งานใน Safari ของคุณจะเป็นส่วนตัวด้วย TrustedServer Tech และนโยบายไม่บันทึกข้อมูลการใช้งาน เซิร์ฟเวอร์ VPN ส่วนใหญ่ใช้ฮาร์ดไดรฟ์ อย่างไรก็ตาม TrustedServer ใช้เซิร์ฟเวอร์ RAM เท่านั้นและจะล้างข้อมูลของคุณโดยอัตโนมัติเมื่อรีบูตแต่ละครั้ง นโยบายการไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานของ ExpressVPN สัญญาว่าจะไม่จัดเก็บข้อมูลของคุณ สิ่งนี้ได้รับการตรวจสอบและยืนยันโดยบริษัทรักษาความปลอดภัยอิสระ เพื่อเป็นเพิ่มความน่าเชื่อถือ ExpressVPN ตั้งอยู่ในหมู่เกาะบริติชเวอร์จินและนอกกลุ่มพันธมิตร 5/9/14 Eyes ซึ่งหมายความว่าพวกเขาไม่จำเป็นต้องส่งข้อมูลผู้ใช้ให้กับใคร แม้แต่กับหน่วยงานของรัฐ

ExpressVPN มีข้อมูลให้ใช้ไม่จำกัดและมีความเร็วที่น่าประทับใจ ทำให้คุณสามารถท่องเว็บและสตรีมได้อย่างไม่ดีเลย์ และมันก็ยังมีโปรโตคอลเป็นของตนเอง (Lightway) ซึ่งได้รับการปรับแต่งให้เหมาะสมเพื่อลดความเร็วที่สูญเสียให้น้อยลงที่สุดในขณะที่ช่วยดูแลข้อมูลคุณให้ปลอดภัย ตอนที่เราเปลี่ยนจาก OpenVPN ไปใช้ Lightway เราก็สังเกตเห็นถึงความเร็วที่เพิ่มขึ้นราว ๆ 15% ในทันที เราได้ลองใช้งานมันทำการทดสอบเซิร์ฟเวอร์ 20 แห่งทั่วโลกผ่านทาง MacBook ของเรา และก็พบว่าความเร็วเฉลี่ยอยู่ที่ 54.2 Mbps (ความเร็วเริ่มต้นเราอยู่ที่ 61.4 Mbps) คุณต้องใช้เพียงแค่ 25 Mbps เพื่อทำการสตรีมในความชัดระดับ Ultra HD ดังนั้นเราเลยไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องการบัฟเฟอร์เลย

คุณสามารถเข้าถึงเนื้อหาได้มากมายบน Mac ของคุณด้วยเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ที่ครบคลุมของ ExpressVPN มากกว่า 3,000 เซิร์ฟเวอร์ใน 105 ประเทศ ระหว่างการทดสอบ ฉันได้เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ 9 ตำแหน่ง รวมทั้งอเมริกา อังกฤษ เยอรมนี ญี่ปุ่นและออสเตรเลีย ซึ่งช่วยให้ฉันเข้าถึงไลบรารีของ Netflix ในประเทศเหล่านี้ได้อย่างรวดเร็ว มันใช้งานได้กับ Disney+ และ Hulu ในอเมริกา ซึ่งบริการทั้งสองมีการปิดก้นการเข้าถึงจากต่างภูมิศาสตร์ที่เข้มงวด

นอกจากนี้เซิร์ฟเวอร์ทั้งหมดรองรับการเชื่อมต่อแบบ P2P ดังนั้นฉันจึงสามารถค้นหาเซิร์ฟเวอร์ที่ไม่แออัดเพื่อการทอร์เรนต์แบบความเร็วสูงได้เสมอ เซิร์ฟเวอร์ยังสามารถใช้งานได้ในประเทศที่มีการเซ็นเซอร์อย่างเข้มงวดเช่น จีนและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อย่างไรก็ตามทีมงานของ vpnMentor ไม่สนับสนุนใช้ VPN อย่างผิดกฎหมาย ดังนั้นโปรดศึกษากฎหมายในพื้นที่ของคุณให้ดี

แอป Mac ของ ExpressVPN สามารถใช้งานได้กับ OS X El Capitan (10.11) และใหม่กว่าและมันใช้งานได้ง่ายมาก มันมีฟีเจอร์ Smart Location ซึ่งจะเชื่อมต่อคุณกับเซิร์ฟเวอร์ที่เร็วที่สุดโดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังช่วยให้คุณบันทึกทางลัดไปยังเว็บไซต์และแอปโปรดของคุณอีกด้วย นอกจากนี้ฟีเจอร์ MediaStreamer ยังช่วยให้คุณสามารถตั้งค่าบริการบน Apple TV ได้ เมื่อฉันทดสอบฉันสามารถรับชม Netflix บนทีวีได้ภายในไม่กี่นาที

ExpressVPN สามารถใช้งานได้กับ Silicon โปรเซสเซอร์ที่ใช้กับอุปกรณ์ Apple รุ่นใหม่ ๆ ส่วนใหญ่ รวมถึงคอมพิวเตอร์ Mac, iPhone, iPad และ Apple TV เนื่องจากไม่จำเป็นต้องแปลซอฟต์แวร์เพื่อทำงานกับอุปกรณ์ที่ใช้ซิลิคอน คุณจะได้รับการเชื่อมต่อความเร็วสูงสุดและการทำงานร่วมกันได้โดยไม่มีข้อผิดพลาด

คุณยังสามารถใช้ Split tunneling เพื่อเลือกการรับส่งข้อมูลที่คุณต้องการผ่าน VPN ฉันใช้ฟีเจอร์นี้เมื่อฉันต้องการเข้าถึงเว็บในพื้นที่ ในขณะที่ทอร์เรนต์ผ่าน VPN บน Mac ของฉันไปด้วยในขณะเดียวกัน คุณยังไม่ต้องกังวลว่าจะไม่สามารถเข้าถึงบริการธนาคารออนไลน์และเว็บไซต์สตรีมมิ่งในประเทศของคุณ เนื่องจากคุณสามารถแยกการรับส่งข้อมูล VPN ด้วยฟีเจอร์นี้ได้

แต่ว่า ExpressVPN นั้นไม่ใช่บริการฟรี อย่างไรก็ตามบริการมาพร้อมกับการรับประกันคืนเงิน 30วัน ช่วยให้คุณสามารถ ทดสอบฟีเจอร์พรีเมียมของ ExpressVPN ทั้งหมดโดยไม่มีความเสี่ยง คุณสามารถขอเงินคืนได้หากคุณไม่พอใจกับบริการ ฉันได้ทดสอบนโยบายด้วยตัวเอง เพื่อให้แน่ใจว่ามันน่าเชื่อถือ ฉันขอเงินคืนโดยใช้ตัวเลือกไลฟ์แชท 24 ชั่วโมง (โปรดทราบว่าระบบแชทมีนักแปลในตัว ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถส่งข้อความถึงตัวแทนในภาษาใดก็ได้ รวมถึง ภาษาไทย เจ้าหน้าที่ฝ่ายสนับสนุนจะตอบกลับภายใน 2 นาทีหรือน้อยกว่านั้นเสมอ หลังจากที่ตัวแทนถามคำถามเกี่ยวกับความพึงพอใจกับฉัน พวกเขาก็อนุมัติการคืนเงินของฉัน ฉันได้เงินคืนภายใน 3 วันทำการ

ส่วนลด ExpressVPNมีนาคม 2024: มีเวลาจำกัด คุณสามารถรับส่วนลด ExpressVPNได้มากถึง49% ! อย่าพลาดข้อเสนอสุดพิเศษ!

2. CyberGhost — แอปสำหรับ Mac ที่มีเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่เพื่อเข้าถึงเนื้อหาทั่วโลก

  • มากกว่า 11,690 เซิร์ฟเวอร์ใน 100 ประเทศ (รวมถึงประเทศไทย) เพื่อช่วยให้เข้าถึงเว็บที่ถูกจำกัดการเข้าถึงตามภูมิศาสตร์ในหลายประเทศ
  • ข้อมูลไม่จำกัดและความเร็วสูงช่วยให้คุณใช้งานได้โดยไม่มีแลค
  • เชื่อมต่อได้พร้อมกัน 7 อุปกรณ์
  • สามารถเข้าถึง: ไลบารี Netflix อเมริกา อังกฤษและตำแหน่งอื่น ๆ, Disney+, HBO Max, Hulu, BBC iPlayer, Amazon Prime Video, Fox Sport และอื่น ๆ อีกมากมาย
  • สามารถปลดบล็อกบริการในพื้นที่เช่น ช่อง 7, MCOT, One 31, ไทยรัฐทีวี, ช่อง 3, ThaiPBS เพื่อให้คุณสามารถเข้าถึงได้เมื่อคุณอยู่ต่างประเทศ
  • สามารถใช้งานได้กับ: Mac, iOS, Windows, Android, Linux, Chrome, Firefox, เราท์เตอร์, Apple TV และอื่น ๆ อีกมากมาย

แอปสำหรับ Mac ของ CyberGhost จะช่วยให้คุณเข้าถึงเครือข่ายอันกว้างขวางถึง 11,690 เซิร์ฟเวอร์ใน 100 ประเทศ ฉันได้ลองทดสอบใช้งานมาแล้วกว่า 15 เซิร์ฟเวอร์ ในสหรัฐอเมริกา และก็สามารถที่จะปลดบล็อกบัญชี Netflix US, Disney+ และ HBO Max ของฉันได้ทั้งหมดในขณะที่เดินทางต่างประเทศ นอกจากนี้ VPN ยังมาพร้อมกับ เซิร์ฟเวอร์แบบเฉพาะสำหรับการสตรีมมิ่งและ torrent อีกด้วย เซิร์ฟเวอร์สำหรับสตรีมมิ่งนั้นถูกปรับแต่งให้เหมาะสมเพื่อที่จะให้ได้ความเร็วสูงและสามารถเข้าถึงเว็บไซต์สตรีมมิ่งได้อย่างสม่ำเสมอ – ส่วนการเชื่อมต่อเพื่อ torrent นั้นก็มีความปลอดภัยที่แข็งแกร่งและความเร็วในการดาวน์โหลดสูง แบบนี้ คุณก็จะไม่มีปัญหาในการใช้งานการเชื่อมต่อที่ทั้งเสถียรและมีความเร็วสูง

ด้วยฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง ข้อมูลบน Mac ของคุณจะไม่ถูกคุกคาม บริการมีการเข้ารหัส AES 256-bit และ Kill switch พร้อมด้วยการป้องกัน WiFi อัตโนมัติ ซึ่งจะเชื่อมต่ออุปกรณ์ของคุณกับ VPN ทันทีที่คุณเชื่อมต่อกับเครือข่ายที่ไม่รู้จัก นอกจากนี้ยังมีการป้องกันการรั่วไหลเพื่อป้องกันไม่ให้เว็บไซต์ที่คุณเยี่ยมชมเห็นตำแหน่งที่แท้จริงของคุณ ฉันใช้ iMac เพื่อทดสอบ 8 เซิร์ฟเวอร์ของบริการและไม่พบการรั่วไหลของ IP/DNS/WebRTC เลย

Screenshot of CyberGhost app settings showing where to toggle automatic WiFi protectionฉันแนะนำให้เลือก "Always connect" เพื่อความปลอดภัย

CyberGhost มีนโยบายไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานที่เข้มงวด ดังนั้นบริการจะไม่เก็บหรือขายข้อมูลของคุณ ซึ่งหมายความว่ากิจกรรมออนไลน์ของคุณจะไม่ถูกบันทึก นอกจากนี้บริการยังเผยแพร่รายงานความโปร่งใสทุก ๆ 3 เดือน ซึ่งในรายงานแสดงจำนวนคำขอสำหรับข้อมูลดังกล่าว (และบริการไม่เคยแบ่งปันข้อมูลใด ๆ ) นอกจากนี้ยังมีสำนักงานใหญ่ในโรมาเนีย (ประเทศที่อยู่นอกกลุ่มพันธมิตร14 Eyes) ด้วย CyberGhost คุณสามารถใช้งาน Mac และ Safari ได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวของคุณ

คุณสามารถสตรีม ใช้งานและเล่นเกมโดยไม่มีการล้าช้าใด ๆ ฉันทดสอบ 15 เซิร์ฟเวอร์และมีความเร็วเฉลี่ยที่ 45.6 Mbps แถมเซิร์ฟเวอร์ที่ปรับให้เหมาะสมสามารถเพิ่มความเร็วในการดาวน์โหลดของฉันได้ถึง 15% นอกจากความเร็วที่รวดเร็วแล้ว บริการยังมาพร้อมกับข้อมูลไม่จำกัด ความเร็วนั้นมากเกินพอสำหรับการสตรีมรายการโปรดของคุณในคุณภาพสูงบน Mac (คุณต้องการเพียง 25 Mbps ในการสตรีมแบบ UltraHD ดังนั้นฉันมีความเร็วมากกว่าที่ต้องการถึงสองเท่า)

ฉันใช้เวลาเพียง 3 นาทีในการดาวน์โหลดและติดตั้งแอปบน MacBook ของฉัน CyberGhost ยังมีแอปสำหรับ Mac ที่ใช้งานง่าย ดังนั้นจึงเป็นตัวเลือกที่ดีหากคุณไม่เคยใช้งาน VPN มาก่อน  หลังจากการติดตั้งเสร็จสมบูรณ์ ฉันสามารถค้นหาและเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ได้ด้วยการคลิกเพียงไม่กี่ครั้ง

แม้ว่าคุณจะต้องจ่ายค่าบริการล่วงหน้า CyberGhost ก็นำเสนอการรับประกันคืนเงินเพื่อให้คุณ สามารถทดลองใช้กับ Mac ได้ฟรี น่าเสียดายที่แผนระยะสั้นให้เวลาคุณทดสอบ CyberGhost ได้เพียง 14 วันเท่านั้น การรับประกันคืนเงิน 45 วันนั้นมีให้บริการในแผนระยะยาวเท่านั้น คุณจะต้องสมัครแผนระยะยาว อย่างไรก็ตามนโยบายการคืนเงินนั้นใช้งานได้ง่ายมากและใช้เวลาน้อยกว่า 5 นาทีในการดำเนินการ

เมื่อฉันทดสอบนโยบายนี้ตัวแทนถามคำถามเกี่ยวกับความพึงพอใจของผู้ใช้สองสามข้อ จากนั้นจึงดำเนินการคืนเงินอย่างรวดเร็ว ภายใน 5 วันฉันก็ได้เงินคืนในบัญชีธนาคารของฉันอีกครั้ง

ข้อเสนอมีนาคม 2024 : CyberGhost กำลังนำเสนอส่วนลด83% จากแผนยอดนิยม! ใช้ประโยชน์จากส่วนลดนี้และประหยัดเงินค่าสมัครบริการเพิ่มขึ้นกับ CyberGhost

3. Proton VPN — ข้อมูลไม่จำกัดสำหรับการสตรีมและการใช้งานอย่างเต็มที่บน Mac ของคุณ

  • ข้อมูลไม่จำกัดและความเร็วที่ดีสำหรับการใช้งานทั่วไปโดยไม่มีสะดุด
  • เซิร์ฟเวอร์ฟรี 24 เซิร์ฟเวอร์ในอเมริกา เนเธอร์แลนด์และญี่ปุ่นเพื่อให้คุณเข้าถึงเนื้อหาที่ถูกปิดกั้นได้
  • การเชื่อมต่อพร้อมกัน 5 อุปกรณ์
  • สามารถเข้าถึง: Netflix, YouTube, Spotify, Facebook, Instagram, Kodi
  • สามารถใช้ได้กับ: Windows, Mac, iOS, Android, Linux, เราท์เตอร์

Proton VPN ให้คุณสามารถใช้งานได้ไม่จำกัดทั้งในการสตรีมและการใช้งานทั่วไปบน Mac ของคุณ มันน่าประทับใจมาก เพราะ VPN ฟรีส่วนใหญ่จะจำกัดข้อมูลให้คุณสามารถสตรีมได้แค่ 1-2 ชั่วโมงเท่านั้น นอกจากนี้เซิร์ฟเวอร์ในบริเวณใกล้เคียงยังค่อนข้างเร็วอีกด้วย ในระหว่างการทดสอบกับ MacBookของฉัน ฉันมีความเร็วเฉลี่ยที่ 31.2 Mbps บนเซิร์ฟเวอร์ในเนเธอร์แลนด์ อย่างไรก็ตามเมื่อฉันเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ทางไกลในญี่ปุ่นและอเมริกาความเร็วของฉันลดลงเหลือ 13.4 Mbps

Screenshot showing Proton VPN's free US server unblocking Peacock TVมันเหมาะสำหรับการสตรีมเพราะมีความเร็วสูงและไม่จำกัดการใช้งาน ฉันสามารถรับชม The Office ได้ 3 ชั่วโมงโดยไม่มีสะดุด

คุณสามารถเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ฟรีได้กว่า 65 เซิร์ฟเวอร์ในญี่ปุ่น เนเธอร์แลนด์และอเมริกา ฉันสามารถเข้าถึงเว็บไซต์ที่ถูกปิดกั้นในแต่ละประเทศได้ เมื่อฉันเชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์ในเนเธอร์แลนด์ ฉันก็สามารถเข้าถึง Mediacourant และ Dumpert ได้อย่างง่ายดาย เซิร์ฟเวอร์ในญี่ปุ่นช่วยให้ฉันสามารถเข้าถึง TV Tokyo และ NHK ได้ ในขณะที่เซิร์ฟเวอร์ของอเมริกาก็สามารถใช้งานได้กับ Peacock และ Crunchyroll มันสามารถใช้งานได้กับ Netflix เหมือนกัน แต่คุณจะสามารถรับชมได้แค่ Netflix Originals ที่นำเสนอให้ในเกือบทุกภูมิภาค

ฉันยังสามารถใช้เซิร์ฟเวอร์ฟรีสำหรับการทอร์เรนต์ได้ (แม้ว่าบริการจะบอกว่าคุณไม่สามารถทอร์เรนต์บนเซิร์ฟเวอร์ฟรีได้) อย่างไรก็ตามฉันพบว่าเซิร์ฟเวอร์มักจะมีผู้ใช้งานมากเกินไปในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน ฉันพบกับการสูญเสียความเร็วบ่อยครั้ง ตัวอย่างเช่น ในขณะที่ทอร์เรนต์ในช่วงสุดสัปดาห์ อัตราการดาวน์โหลดของฉันช้ากว่าการเชื่อมต่อปกติ 80%

อุปกรณ์ Mac ของคุณจะได้รับการปกป้องด้วยฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวระดับชั้นนำ สิ่งที่ดีที่สุดคือ คุณสามารถใช้โปรโตคอล WireGuard ในบริการฟรีได้ (VPN ฟรีส่วนใหญ่นำเสนอแค่ในแผนพรีเมี่ยม) VPN นี้ได้รับการพัฒนาโดยนักวิทยาศาสตร์ของ CERN ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นบริการที่มุ่งมั่นในการรักษาความเป็นส่วนตัวออนไลน์ ดังนั้นจึงเป็น VPN ที่มีความน่าเชื่อถือสูง คุณยังได้รับการเข้ารหัสระดับชั้นนำ พร้อมฟีเจอร์ Perfect Forward Secrecy การป้องกันการรั่วไหลและ Kill switch ทั้งหมดนี้อยู่ภายใต้นโยบายการไม่บันทึกที่ตรวจสอบและยืนยันแล้ว

แอป Mac ใช้งานได้กับ Sierra (10.12) และเวอร์ชั่นที่ใหม่กว่าและตั้งค่าได้ง่าย คุณสามารถใช้เวอร์ชันฟรีได้บนอุปกรณ์ 1 เครื่องเท่านั้น แต่ Proton VPN นำเสนอการตั้งค่า OpenVPN สำหรับเราเตอร์ฟรี ที่ช่วยให้คุณสามารถใช้งาน VPN ได้กับอุปกรณ์ทั้งหมดที่เชื่อมต่อผ่านเราท์เตอร์ของคุณ

ฉันผิดหวังมากที่ข้อมูลไม่จำกัดของ Proton VPN นั้นไม่มีประโยชน์สำหรับการสตรีม บริการไม่สามารถเข้าถึงแพลตฟอร์มยอดนิยมมากมาย รวมถึง Netflix, Disney+, HBO Max และ Hulu ของแต่ละตำแหน่งได้ นอกจากนี้ Proton VPN ยังไม่ได้นำเสนอบริการช่วยเหลือลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง ดังนั้นฉันจึงต้องติดต่อพวกเขาทางอีเมล แม้ว่าจะใช้เวลา 3 วันในการได้รับการตอบกลับจากทีมงาน แต่ฉันก็ยังได้ข้อมูลที่ประโยชน์อย่างมาก

4. Avira Phantom VPN — การเชื่อมต่อที่ไม่จำกัดให้คุณปกป้องอุปกรณ์ Mac ทั้งหมดของคุณ

  • เชื่อมต่อได้ไม่จำกัดจำนวนอุปกรณ์ ให้คุณและครอบครัวใช้งานได้อย่างปลอดภัย
  • ข้อมูลรายเดือน 1GB และมีความเร็วสูงเพื่อให้คุณใช้งานได้ไม่มีสะดุด
  • เซิร์ฟเวอร์ฟรี 1 เซิร์ฟเวอร์ (ตำแหน่งที่ใกล้กับคุณ) เพื่อให้คุณเชื่อมต่อได้อย่างปลอดภัย
  • สามารถเข้าถึง: เฉพาะเว็บไซต์ในพื้นที่เท่านั้น (บริการฟรีสามารถเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ในพื้นที่เท่านั้น)
  • ใช้งานได้กับ: Mac, iOS, Windows และ Android

Avira Phantom VPN ให้คุณสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้มากเท่าที่คุณต้องการ ฟีเจอร์นี้เป็นสิ่งที่ค่อนข้างหายากใน VPN โดยเฉพาะ VPN ฟรี ฉันทดสอบบริการโดยเชื่อมต่อกับ Macbook Pro, iMac และ iPhone ของฉัน ฉันใช้งานอินเตอร์เน็ตบน Safari บนอุปกรณ์แต่ละเครื่องและฉันไม่สังเกตเห็นความแตกต่างในประสิทธิภาพเลย นอกจากนี้ฉันยังทำการทดสอบการรั่วไหลกับอุปกรณ์แต่ละเครื่องด้วยและไม่พบการรั่วไหลใด ๆ

Screenshot of test performed on Ipleak.net while connected to Avira Phantom VPNการทดสอบแสดงให้ฉันเห็นว่าไม่มีเว็บไซต์ใดที่ฉันใช้งานสามารถเห็นที่อยู่ IP จริงของฉัน

คุณสามารถไว้วางใจ Avira Phantom VPN ให้รับผิดชอบข้อมูลของคุณได้ เพราะบริการมีนโยบายไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานที่เข้มงวด บริการไม่บันทึกประวัติการใช้งาน, หมายเลข IP หรือข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ ซึ่งหมายความว่าบริการช่วยให้อุปกรณ์ Mac ของคุณปลอดภัยโดยไม่จัดเก็บข้อมูลที่สามารถใช้เพื่อติดตามคุณได้

บริการยังมีความเร็วที่น่าประทับใจ ดังนั้นคุณจะไม่พบกับการล้าช้าตัวที่น่ารำคาญบน Mac ของคุณ ความเร็วเฉลี่ยของฉันอยู่ที่ 34.5 Mbps ระหว่างการทดสอบ ซึ่งช่วยให้ฉันสามารถสตรีมในแบบ HD ได้ เพราะการสตรีมแบบ HD ต้องการเพียง 5 Mbps เท่านั้น Avira Phantom มีขีดจำกัดข้อมูล 500MB ต่อเดือน น่าเสียดายที่บริการไม่ได้มาพร้อมกับข้อมูลไม่จำกัดเหมือนกับ Proton VPN  แต่นั่นก็เพียงพอแล้วสำหรับกิจกรรมเล็ก ๆ เช่น ใช้งานอีเมลและการใช้งานทั่วไป แต่คุณสามารถรับเพิ่มได้อีก 500MB หากคุณสมัครใช้งานด้วยอีเมลของคุณ

VPN มาพร้อมกับแอป Mac ที่ใช้งานได้กับ macOS Sierra (10.12.4) และใหม่กว่า ข้อเสียเล็กน้อยอย่างหนึ่งคือ คุณสามารถเชื่อมต่อได้แค่ 1 เซิร์ฟเวอร์เท่านั้น (แต่อนุญาตให้ทอร์เรนต์) คุณต้องใช้ฟีเจอร์ 'ตำแหน่งที่ใกล้ที่สุด' ซึ่งเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ที่ใกล้กับคุณโดยอัตโนมัติ มันไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีหากคุณต้องการเข้าถึงเนื้อหาถูกที่จำกัดการเข้าถึงทางภูมิศาสตร์ อย่างไรก็ตาม VPN ฟรีนี้ยังคงเป็นตัวเลือกที่ดี หากคุณต้องการใช้งาน Mac และ Safari อย่างปลอดภัย

ข้อเสียเพียงอย่างเดียวคือบริการฟรีไม่มีการสนับสนุนลูกค้าโดยตรง คุณต้องอัปเกรดเพื่อรับการสนับสนุนผ่านอีเมล โทรศัพท์และโซเชียลมีเดีย โชคดีที่เว็บไซต์ของ Avira มีฐานข้อมูลขนาดใหญ่พร้อมคำตอบสำหรับคำถามที่พบบ่อย ฉันยังพบวิดีโอสอนวิธีการติดตั้ง VPN บน MacBook ของฉันอีกด้วย

5. hide.me — ฟีเจอร์ความปลอดภัยระดับแนวหน้าเพื่อปกป้องอุปกรณ์ Mac ของคุณ

  • การเข้ารหัส 256-bit, Kill switch และการป้องกันการรั่วไหลของ DNS/IP เพื่อช่วยให้ข้อมูลบน Mac ของคุณปลอดภัย
  • ข้อมูลรายเดือน 10GB และที่ตั้งเซิร์ฟเวอร์ 5 ตำแหน่ง (อเมริกาฝั่งตะวันออกและตะวันตก แคนาดา เนเธอร์แลนด์และเยอรมนี)
  • การเชื่อมต่อพร้อมกัน 5 อุปกรณ์
  • สามารถเข้าถึง: YouTube, Spotify, Facebook, Instagram
  • สามารถใช้ได้กับ: Mac, Windows, iOS, Android, Linux และเราท์เตอร์

hide.me เวอร์ชันฟรีมีฟีเจอร์ความปลอดภัยระดับการทหารที่ป้องกันไม่ให้ใครสามารถขโมยข้อมูลบน Mac ของคุณได้ คุณสามารถเลือกโปรโตคอล VPN ได้หลากหลาย รวมถึง OpenVPN, Wireguard, SoftEther, SSTP และ IKEv2 นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับการเข้ารหัส AES 256-bit, Kill switch, Stealth Guard และการป้องกันการรั่วไหลของ IP/DNS เมื่อฉันทดสอบเซิร์ฟเวอร์ฟรี 5 ทั้งเซิร์ฟเวอร์ฉันไม่พบการรั่วไหลของ IP, DNS หรือ WebRTC เลย

Screenshot of hideme's Stealth Guard featureคุณสามารถเชื่อมต่อกับแอปโปรดทั้งหมดของคุณ เพื่อให้แอปรับส่งข้อมูลผ่านอุโมงค์ VPN ได้เสมอ

ฉันพบว่า hide.me ไม่ได้เก็บประวัติการใช้งานส่วนตัวจากเซสชันบน Mac ของคุณ มีนโยบายการบันทึกข้อมูลขั้นต่ำและไม่ติดตามกิจกรรมออนไลน์ของคุณ อย่างไรก็ตามบริการจะบันทึกชื่อผู้ใช้ VPN ของคุณและหมายเลข IP ที่คุณใช้ แม้ว่าฉันจะกังวลในเรื่องนั้น แต่ฉันก็พบว่าข้อมูลที่บันทึกนั้นเป็นข้อมูลที่ไม่ระบุตัวตนและจะถูกลบทุก ๆ 2-3 ชั่วโมง บริการจะไม่เก็บข้อมูลเอาไว้นาน นอกจากนี้ hide.me ยังตั้งอยู่ในมาเลเซีย ซึ่งเหมาะสำหรับความเป็นส่วนตัว เนื่องจากอยู่นอกกลุ่มพันธมิตร 5/9/14 Eyes

hide.me ให้การเชื่อมต่อความเร็วสูงและข้อมูล 10GB ฟรีทุกเดือน มันเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการทอร์เรนต์ไฟล์ขนาดใหญ่สองสามไฟล์ ฉันใช้เวลาเพียง 3 นาทีในการดาวน์โหลดไฟล์ขนาด 500MB ด้วย uTorrent (และเซิร์ฟเวอร์ทั้ง 5 เซิร์ฟเวอร์รองรับการทอร์เรนต์) แม้ว่าความเร็วจะเร็วพอสำหรับการสตรีมแบบ HD (ความเร็วเฉลี่ยของฉันอยู่ที่ 26 Mbps) แต่ hide.me ก็ไม่สามารถเข้าถึงเว็บสตรีมมิ่งยอดนิยมอย่าง Netflix หรือ Disney+ ในระหว่างการทดสอบของฉันได้

แม้ว่าแผนบริการฟรีจะอนุญาตให้เชื่อมต่ออุปกรณ์ได้ 1 เครื่องเท่านั้น แต่ก็ให้คุณเข้าถึงฟีเจอร์มากมายได้ ตัวอย่างเช่น ฉันสามารถใช้ Split tunneling เพื่อเข้าถึงเนื้อหาในพื้นที่ (เช่น ช่องข่าว) โดยไม่ต้องปิด VPN การดาวน์โหลดแอป Mac นั้นทำได้ง่ายและยังใช้งานได้กับ macOS Catalina (10.15) ขึ้นไปอีกด้วย นอกจากนี้ยังสามารถใช้งานได้กับ Apple Silicon ซึ่งไม่เหมือนกับ VPN ฟรีอื่น ๆ ในรายการนี้

หากคุณมีคำถามใดๆ โปรดติดต่อตัวแทนผ่านไลฟ์แชท 24/7 ของ hide.me เมื่อฉันมีคำถามเกี่ยวกับการดาวน์โหลด VPN ตัวแทนตอบกลับภายใน 2 นาที พวกเขาอธิบายว่าคุณสามารถดาวน์โหลดแอปโดยไม่ต้องสมัครหรือลงทะเบียน ซึ่งสะดวกมาก

6. Hotspot Shield — โปรโตคอล Catapult Hydra สำหรับการใช้งานที่รวดเร็วบน Mac

  • ความเร็วสูงและข้อมูลรายเดือน 15GB (500MB ต่อวัน) เพื่อการใช้งานโดยไม่สะดุด
  • เซิร์ฟเวอร์ฟรี 1 เซิร์ฟเวอร์ในอเมริกาเพื่อเข้าถึงเว็บที่ถูกปิดกั้น
  • เชื่อมต่อ 1 อุปกรณ์
  • สามารถเข้าถึง: YouTube, Spotify, Facebook, Instagram
  • ใช้งานได้กับ: Mac, iOS, Windows และ Android

แอปสำหรับ Mac ของ Hotspot Shield ใช้โปรโตคอล Catapult Hydra เพื่อปรับปรุงความเร็วเมื่อคุณใช้งานอินเตอร์เน็ต ในระหว่างการทดสอบความเร็ว ฉันมีความเร็วเฉลี่ยที่ 18.4 Mbps สิ่งนี้น่าประทับใจเพราะเซิร์ฟเวอร์ฟรีที่ให้บริการนั้นอยู่ในสหรัฐอเมริกา (ซึ่งอยู่ห่างจากตำแหน่งของฉันมากกว่า 5,000 กม.)

คุณสามารถใช้ Mac ได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยออนไลน์ Hotspot Shield มีฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยชั้นยอดที่ช่วยซ่อนหมายเลข IP ของคุณไว้ รวมถึงการเข้ารหัส AES 256-bit, Kill switch อัตโนมัติและการป้องกันการรั่วไหลของ IP/DNS ฉันทำการทดสอบการรั่วไหลหลายครั้งและไม่พบการรั่วไหลของ IP/DNS

Hotspot Shield กำหนดจำนวนข้อมูล 500MB ต่อวัน ซึ่งเพียงพอสำหรับการเช็คอีเมลและอัปเดตโซเชียลมีเดีย คุณยังสามารถดาวน์โหลดไฟล์ขนาดเล็กได้ อย่างไรก็ตามข้อมูลอินเทอร์เน็ตฉันหมดหลังจากดูวิดีโอแบบ SD เป็นเวลา 30 นาที ซึ่งหมายความว่าจำนวนข้อมูลที่คุณมีนั้นไม่เพียงสำหรับการสตรีมรายการโปรดบน Mac

VPN นำเสนอแอป Mac ที่ไม่ลงทะเบียนเพื่อใช้งาน มันสามารถใช้งานได้กับ macOS Sierra (10.12) ขึ้นไปและยังมีการป้องกันมัลแวร์ในตัวเพื่อบล็อกเว็บไซต์ที่น่าสงสัยและปกป้องคุณจากมัลแวร์ อย่างไรก็ตามมันมีโฆษณาในแอปฟรีและอาจสร้างความรำคาญเล็กน้อย

ข้อเสียเล็กน้อยคือ สำนักงานใหญ่ของ VPN ตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกา (ประเทศในเขตพันธมิตร 5/9/14 Eyes) นอกจากนี้ ในขณะที่ฉันอ่านนโยบายการบันทึกข้อมูล ฉันพบว่าบริการเก็บบันทึกที่ไม่ระบุตัวตนของอุปกรณ์และจำนวนแบนด์วิดท์ที่คุณใช้ แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากข้อมูลเหล่านี้ไม่สามารถระบุตัวคุณได้ จึงยังคงเป็น VPN ที่ดีในการทำให้ Mac ของคุณปลอดภัย

Hotspot Shield ไม่มีบริการไลฟ์แชทฟรีตลอด 24 ชั่วโมง แต่โชคดีที่บริการมีส่วนคำถามที่พบบ่อยและคำแนะนำในการแก้ไขปัญหาบนเว็บไซต์ นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกในการส่งอีเมลถึงฝ่ายช่วยเหลือ หากคุณไม่พบคำตอบสำหรับคำถามของคุณ เมื่อฉันส่งอีเมลคำถามเกี่ยวกับโปรโตคอล ฉันได้รับคำตอบที่เป็นประโยชน์จากตัวแทนภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง

7. TunnelBear — ติดตั้งง่ายเพื่อใช้งานบน Mac ได้ภายในไม่กี่นาที

  • ข้อมูลรายเดือน 500MB และความเร็วที่ดีเพื่อการใช้งานโดยไม่มีความล่าช้าใด ๆ
  • เซิร์ฟเวอร์ฟรี 5,000 เซิร์ฟเวอร์ใน 47 ประเทศเพื่อเข้าถึงเว็บต่าง ๆ ในทั่วโลก
  • เชื่อมต่อพร้อมกันไม่จำกัดอุปกรณ์
  • สามารถเข้าถึง: YouTube, Spotify, Facebook, Instagram
  • ใช้งานได้กับ: Mac, iOS, Windows และ Android
  • แอป Andriod มีให้บริการในภาษาไทย

TunnelBear มีแอปสำหรับ Mac ที่ใช้งานง่ายและตั้งค่าได้ง่าย ฉันใช้เวลาเพียง 5 นาทีในการดาวน์โหลดและติดตั้ง VPN ยิ่งไปกว่านั้นคุณสามารถเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ที่น่าเชื่อถือได้ด้วยการคลิกเพียงครั้งเดียว นอกจากนี้ยังมีอินเทอร์เฟซที่น่ารักพร้อมแอนิเมชั่นน้องหมีน่ารักอีกด้วย มันช่วยให้ใช้งานได้สนุกและเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ใช้เริ่มต้น แอปนี้ใช้งานได้กับ macOS Sierra (10.12) ขึ้นไป

 ฉันทดสอบการรั่วไหลบนเซิร์ฟเวอร์และไม่พบการรั่วไหลใด ๆ นั่นเป็นเพราะว่า TunnelBear มีฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยที่แข็งแกร่งที่ปกป้องข้อมูลออนไลน์บน Mac ของคุณ มีฟีเจอร์ AES 256-bit, รองรับ OpenVPN, Kill switch และการป้องกันการรั่วไหลของ IP/DNS

บริการยังไม่จัดเก็บข้อมูลเมตาใด ๆ บน Mac ของคุณอีกด้วย นโยบายการไม่บันทึกข้อมูลที่เข้มงวดของ VPN ได้รับการตรวจสอบทุกปีและ TunnelBear ยังเผยแพร่รายงานความโปร่งใสประจำปีอีกด้วย ไม่ว่าบริการจะถูกยื่นขอข้อมูลบนเซิร์ฟเวอร์ บริการก็ไม่มีอะไรจะแบ่งปัน ซึ่งหมายความว่าแม้ว่าบริการจะตั้งอยู่ในแคนาดา (ภายในเขตอำนาจพันธมิตร 5/9/14 Eyes) คุณไม่ต้องกังวลว่าข้อมูลออนไลน์ของคุณจะถูกบันทึกหรือแบ่งปัน

ในระหว่างการทดสอบบน MacBook ของฉัน ฉันก็มีความเร็วที่ดีบนเซิร์ฟเวอร์ในพื้นที่ เมื่อฉันทดสอบเซิร์ฟเวอร์ในยุโรป 8 เซิร์ฟเวอร์ ฉันมีความเร็วเฉลี่ย 14.6 Mbps อย่างไรก็ตามสำหรับเซิร์ฟเวอร์ทางไกล ความเร็วฉันลดลงถึง 40% แต่คุณยังสามารถใช้เครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ที่ครอบคลุมเพื่อเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ใกล้เคียงและปรับความเร็วของคุณให้เหมาะสมเพื่อการใช้งานที่ราบรื่นยิ่งขึ้น

โหมด GhostBear ช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงการเซ็นเซอร์และการตรวจสอบอย่างละเอียด (DPI) ได้ บริการเข้ารหัสข้อมูลของคุณ ทำให้ดูเหมือนการรับส่งข้อมูลที่ไม่ใช่ VPN ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถใช้บริการบน Mac ของคุณเพื่อหลีกเลี่ยงไฟร์วอลล์ที่แข็งแกร่งและการบล็อกสำหรับ VPN

น่าเสียดายที่ TunnelBear มีการจำกัดข้อมูล 500 MB ต่อเดือน ซึ่งน้อยเกินไปที่จะสตรีมในคุณภาพสูง อย่างไรก็ตามฉันไม่สามารถปลดบล็อกแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งใด ๆ ได้ VPN นี้จึงไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีสำหรับการสตรีมอยู่ดี โชคดีที่คุณสามารถรับข้อมูลเพิ่มได้อีก หากคุณทวีตถึงบริษัท ฉันทวีตมันผ่านป๊อปอัปในแอปเมื่อฉันดาวน์โหลดและฉันได้รับข้อมูลเพิ่ม 1GB ในบัญชีของฉันในเวลาไม่ถึง 2 นาทีต่อมา

ตารางเปรียบเทียบ: VPNฟรีที่ดีที่สุดสำหรับ Macและ Safari

VPN ฟรีแต่ละตัวในรายการนี้นั้นมีความปลอดภัยและเชื่อถือได้ แต่บริการของมันจะมีความแตกต่างกันเล็กน้อย เนื่องจากคุณจะต้องจ่ายเงินในตอนแรกเพื่อทดสอบ VPN สองตัวแรก (ExpressVPN และ CyberGhost) คุณจึงสามารถเข้าถึงฟีเจอร์และความสามารถทั้งหมดของมัน เนื่องจาก VPN ฟรีนั้นมีข้อจำกัดเยอะกว่ามาก มันจึงมีความแตกต่างระหว่างประโยชน์ด้านกิจกรรมออนไลน์ของมัน (เช่นสตรีมมิ่ง ความปลอดภัย โหลด torrent และอื่น )

VPN ที่มีความเร็วและข้อมูลจำกัดอาจทำให้เกิดการสะดุดและการล้าช้า ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับกิจกรรมของคุณ นอกจากนี้สิ่งสำคัญคือต้องตรวจสอบว่า VPN สามารถใช้งานได้กับอุปกรณ์ macOS ของคุณ เนื่องจาก VPN บางตัวรองรับเฉพาะระบบปฏิบัติการล่าสุดเท่านั้น

คุณอาจต้องใช้ VPN ฟรีที่รองรับ P2P หรือเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ที่ขนาดใหญ่ แม้ว่าการรองรับ P2P จะจำเป็นสำหรับการทอร์เรนต์ แต่เซิร์ฟเวอร์ในสถานที่ต่าง ๆ จะช่วยให้คุณเข้าถึงเว็บไซต์แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งที่เข้าถึงได้เฉพาะภูมิภาคได้

หากความเป็นส่วนตัวเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคุณ ให้พิจารณาขั้นตอนการสมัครและนโยบายความเป็นส่วนตัวของ VPN หากไม่มีการสมัครใช้งาน คุณก็ไม่จำเป็นต้องแชร์ข้อมูลส่วนบุคคลหรือรายละเอียดการชำระเงินกับผู้ให้บริการ VPN หากบริการปฏิบัติการนโยบายการไม่บันทึกข้อมูล ผู้ให้บริการ VPN จะไม่บันทึกหรือจำหน่ายข้อมูลของคุณ

VPN ความเร็ว การจำกัดข้อมูลต่อเดือน ใช้งานได้กับ macOS นโยบายการบันทึกข้อมูล ตำแหน่งของเซิร์ฟเวอร์ ลงทะเบียนใช้งาน รองรับการทอร์เรนต์
ExpressVPN เร็ว ไม่จำกัด OS X El Capitan (10.11)+ นโยบายการไม่บันทึกข้อมูลที่เข้มงวด 105 ใช่ เซิร์ฟเวอร์ทั้งหมด
CyberGhost เร็ว ไม่จำกัด Sierra (10.12)+ นโยบายการไม่บันทึกข้อมูลที่เข้มงวด 100 ไม่ เซิร์ฟเวอร์ทั้งหมดและเซิร์ฟเวอร์สำหรับ P2P
Proton VPN ทั่วไป ไม่จำกัด Sierra (10.12)+ นโยบายการไม่บันทึกข้อมูลที่เข้มงวด 3 ใช่ ไม่
Avira เร็ว 1GB (500 MB โดยไม่ต้องสมัครใช้งาน) High Sierra (10.13)+ บันทึกข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ 1 ไม่ เซิร์ฟเวอร์ทั้งหมด
hide.me เร็ว 10GB Catalina (10.15)+ นโยบายการไม่บันทึกข้อมูลที่เข้มงวด 5 ไม่ เซิร์ฟเวอร์ทั้งหมด
Hotspot Shield เร็ว 15GB

(500MB/day)

Sierra (10.12)+ บันทึกข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ 1 ไม่ เซิร์ฟเวอร์ทั้งหมด
TunnelBear ทั่วไป 500MB Sierra (10.12)+ บันทึกข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ 47 ใช่ เซิร์ฟเวอร์ทั้งหมด

ทดลองใช้ ExpressVPN ได้โดยปราศจากความเสี่ยง

คำเตือน:ความเสี่ยงของ VPNฟรี

VPN ฟรีจำนวนมากสำหรับ Mac นั้นไม่ปลอดภัยและไม่น่าเชื่อถือ VPN ฟรีทั้งหมดในรายการของเราได้รับการทดสอบเพื่อความปลอดภัยแล้ว

นี่คืออันตรายบางประการเมื่อดาวน์โหลด VPN ฟรีที่ไม่ได้รับการตรวจสอบ:

  • VPN ฟรีนั้นสามารถบันทึกและขายข้อมูลของคุณได้ VPN ฟรีมักจะขายข้อมูลของผู้ใช้งาน Mac ให้กับบุคคลที่สามเพื่อทำกำไร ตรวจสอบนโยบายการบันทึกข้อมูลของ VPN ฟรีให้ดี เพื่อปกป้องข้อมูลบนโลกออนไลน์ของคุณ
  • VPN ฟรีอาจทำข้อมูลของคุณรั่วไหลได้ เนื่องจากฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยที่ไม่แข็งแกร่งมากพอ พวกเขามักไม่มีงบประมาณในการปรับปรุงโปรโตคอลความปลอดภัย ซึ่งจะทำให้ข้อมูล IP/DNS บน Mac ของคุณรั่วไหล นอกจากนี้คุณยังไม่มีฟีเจอร์ความปลอดภัยที่สำคัญ เช่น Kill switch และการเข้ารหัสระดับเดียวกับทางการทหาร
  • VPN ฟรีสามารถทำให้อุปกรณ์ของคุณติดไวรัสและมัลแวร์ที่เป็นอันตรายได้ VPN ฟรีจำนวนมากมีมัลแวร์และไวรัสฝังอยู่ในแอป นอกจากนี้เนื่องจาก VPN ฟรีส่วนใหญ่ต้องการแสดงโฆษณาเพื่อทำกำไร พวกเขาจึงมักไม่มีเครื่องมือบล็อกโฆษณาในตัว ซึ่งหมายความว่าพวกเขาสามารถโจมตี Mac ของคุณด้วยโฆษณาและเพิ่มความเสี่ยงในการติดมัลแวร์ในอุปกรณ์ของคุณได้

วิธีที่ดีที่สุดในการรักษาความปลอดภัยบน Mac ของคุณคือการใช้ VPN พรีเมี่ยมราคาประหยัด บริการเหล่านี้มีฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยระดับเดียวกับกองทัพและมาพร้อมกับนโยบายไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานที่เข้มงวด นอกจากนี้ยังไม่มีข้อจำกัดอื่น ๆ เช่น การกำหนดจำนวนข้อมูล ความเร็วช้าและเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ขนาดเล็ก แถมบริการชั้นนำยังนำเสนอการรับประกันคืนเงิน เพื่อให้คุณสามารถทดสอบบริการได้ในช่วงเวลาจำกัด คุณสามารถขอรับเงินคืนเต็มจำนวนได้เสมอหากคุณไม่ประทับใจ

VPN ฟรีที่คุณควรหลีกเลี่ยง

มันไม่เหมือนกับบริการฟรีสำหรับ Mac ในรายการของฉัน VPN เหล่านี้เป็นอันตรายต่อการใช้งาน  พวกเขาแบ่งปันข้อมูลของฉันกับบุคคลที่สามหรือติดตั้งไวรัสและมัลแวร์ในอุปกรณ์ของคุณ
VPN ฟรีสำหรับ Mac ต่อไปนี้ไม่ปลอดภัยและควรหลีกเลี่ยง:

  • Hola: Hola นั้นไม่ใช่ VPN แต่เป็นเครือข่าย P2P ซึ่งหมายความว่าคุณแบ่งปันเครือข่ายกับผู้ใช้ทุกคน ดังนั้นคุณจึงต้องรับผิดชอบต่อกิจกรรมของทุกคน
  • VPNBook: บันทึกการใช้งานและติดตั้งมัลแวร์ลงในอุปกรณ์ของคุณ
  • VPN Gate: ดำเนินการโดยอาสาสมัครและจัดเก็บข้อมูลการใช้งาน
  • SuperVPN: เต็มไปด้วยมัลแวร์
  • TurboVPN: ดาวน์โหลดมัลแวร์ลงในอุปกรณ์ของคุณ
  • BetternetVPN: บันทึกข้อมูลการใช้งานเพื่อสร้างโฆษณาตามเป้าหมาย
  • GOVPN: ทำให้ IP และ DNS ของคุณรั่วไหลและมีมัลแวร์ฝังอยู่ในแอป

เคล็ดลับในการเลือก VPNฟรีสำหรับ Macที่ดีที่สุด

ฉันจะพูดถึงฟีเจอร์หลักที่มองหาในบริการที่ดี ด้วยวิธีนี้คุณจะสามารถตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดเมื่อเลือก VPN ฟรีที่เหมาะสมกับ Mac และ Safari:

  • ฟรีจริง เราได้ทำการทดสอบ VPN ทุกตัว เพื่อให้แน่ใจว่ามันฟรีจริง หรืออย่างน้อยก็มีการรับประกันคืนเงินที่เชื่อถือได้ เพื่อให้แน่ใจว่าถ้าคุณต้องจ่ายเงินก่อนที่จะสามารถลองใช้บริการได้ คุณก็จะไม่ต้องเสี่ยงเสียเงินไปเปล่า
  • มีแอปสำหรับ Mac ที่ใช้งานง่าย เราตรวจสอบให้แน่ใจแล้วว่า VPN ทั้งหมดในรายการนี้นั้นมาพร้อมกับแอปสำหรับ Mac ซึ่งสามารถติดตั้งและใช้งานง่าย เพื่อเป็นการรับประกันว่ามันจะใช้งานกับอุปกรณ์ Mac ได้อย่างไร้รอยต่อไม่ว่าจะเป็น iMac, Mac Mini หรืออื่น 
  • ฟีเจอร์ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวที่แข็งแกร่ง เราตรวจสอบมาอย่างแน่ใจแล้วว่า VPN ฟรีสำหรับ Mac ที่เราแนะนำนั้นมีฟีเจอร์ความปลอดภัยระดับทหารอย่างเช่น การเข้ารหัส 256-bit AES และการป้องกันการรั่วไหลของ IP/DNS เราได้ทำการตรวจสอบนโยบายการบันทึกข้อมูลของ VPN ทั้งหมดนี้แล้ว เพื่อให้มั่นใจว่าพวกเขามีความรับผิดชอบเกี่ยวกับข้อมูลของคุณ
  • ความเร็วสูงและข้อมูลที่เพียงพอ ฉันตรวจสอบจำนวนข้อมูลของบริการทั้งหมดและทดสอบความเร็วของ VPN ทั้งหมดในรายการของฉัน เพื่อให้แน่ใจว่าคุณสามารถใช้งาน สตรีมและทอร์เรนต์ได้โดยไม่มีการหยุดชะงัก
  • อนุญาตให้ดาวน์โหลดแบบ P2P ได้ เราตรวจสอบให้แน่ใจแล้วว่า VPN ฟรีสำหรับ Mac ส่วนใหญ่ในรายการนี้นั้น สามารถรองรับการแชร์ไฟล์แบบ P2P ได้
  • ความสามารถในการปลดบล็อกเว็บสตรีมมิ่ง VPN ฟรีส่วนใหญ่ไม่สามารถเข้าถึงเว็บสตรีมมิ่งได้เลย VPN ในรายการนี้ที่สามารถปลดบล็อกเว็บสตรีมมิ่งได้คือ ExpressVPN, CyberGhost และ Proton VPN
  • การช่วยเหลือลูกค้าที่ดี ฉันตรวจสอบให้แน่ใจว่าบริการนำเสนอการติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าหรือมีตัวเลือกในการค้นหาคำตอบบนเว็บไซต์

คำแนะนำฉบับย่อ: วิธีตั้งค่า VPNสำหรับ Macและ Safari

  1. ดาวน์โหลด VPN ตัวเลือกที่ฉันแนะนำคือ ExpressVPN แอปสำหรับ Mac นั้นมีให้บริการในภาษาไทยมีฟีเจอร์ความปลอดภัยที่ยอดเยี่ยมและมีความเร็วที่ดี (คุณสามารถทดลองใช้งานได้ฟรีด้วยการการันตีคืนเงิน30วัน)
  2. เชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์ หากคุณต้องการเชื่อมต่อด้วยความเร็วที่ดีที่สุด อย่าลืมเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ที่ใกล้กันกับคุณ
  3. เริ่มใช้งานได้เลย!ตอนนี้คุณสามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัยบน Mac

ทดลองใช้งาน ExpressVPN ได้โดยปราศจากความเสี่ยง

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ VPNสำหรับ Macและ Safari

VPN ฟรีมีส่วนขยายสำหรับ Safari หรือเปล่า

ไม่มี ในระหว่างการทดสอบฉันยังไม่พบบริการ VPN ฟรีไหนที่มีส่วนขยายเบราเซอร์สำหรับ Safari เลย ก่อนหน้านี้มีหลายบริการที่มีส่วนขยายเบราเซอร์ แต่เนื่องจากการได้รับอนุมัติโดย Apple นั้นเป็นเรื่องยาก หลาย ๆ บริการจึงยกเลิกไป อย่างไรก็ตามมีหลาย VPN ที่ดี (และฟรี!) ที่มีแอปสำหรับ Mac พื่อปกป้องข้อมูลของคุณบน Safari และอุปกรณ์ Apple ทั้งหมดของคุณ

หากคุณต้องการใช้ส่วนขยายของเบราว์เซอร์ VPN ส่วนใหญ่มีส่วนขยายสำหรับ Chrome และ Firefox ดังนั้นคุณจึงยังสามารถใช้งานได้บน Mac หากคุณติดตั้งส่วนขยายเบราว์เซอร์ไว้

VPN ฟรีสำหรับ Mac ตัวไหนที่ดีที่สุดสำหรับใช้ดู Netflix จากไทย?

เพื่อการเข้าถึงไลบรารีในตำแหน่งอื่น ๆ ของ Netflix ได้อย่างน่าเชื่อถือ ฉันขอแนะนำ 2 VPN ที่ดีที่สุดสำหรับ Mac ในรายการของฉัน บริการเหล่านี้มาพร้อมกับการทดลองใช้ฟรีและการรับประกันคืนเงินที่น่าเชื่อถือ ซึ่งช่วยให้คุณทดลองใช้บริการได้ในระยะเวลาจำกัด บริการเหล่านี้จะช่วยให้คุณเข้าถึงเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่ที่สามารถปลดบล็อก Netflix ได้อย่างน่าเชื่อถือ นอกจากนี้ยังมีข้อมูลไม่จำกัดและความเร็วที่เร็วมากสำหรับการสตรีมโดยไม่มีสะดุด

จาก VPN ฟรีสำหรับ Mac 100% Proton VPN นั้นทำให้เราสามารถเข้าถึง Netflix บน MacBook ของเราได้อย่างง่ายดาย — แต่มันจะดูได้เฉพาะ Netflix Originals นี่ก็เป็นประโยชน์เล็กน้อย แต่เนื้อหานี้มันสามารถถูกเข้าถึงได้ทุกที่ที่สามารถเข้า Netflix ได้อยู่แล้ว

น่าเสียดายที่ VPN ฟรีส่วนใหญ่ใช้งานไม่ได้ เนื่องจากการบล็อก IP ของ Netflix นั้นมีการอัปเดตอย่างต่อเนื่อง VPN ฟรีนั้นไม่มีเงินพอที่จะอัพเกรดเทคโนโลยีได้เร็วพอที่จะตามให้ทัน นอกจากนี้ มักจะมีข้อจำกัดอื่น ๆ เช่น จำนวนข้อมูลและความเร็วที่ไม่มากพอสำหรับการสตรีม สำหรับการใช้งานกับ Netflix ฉันแนะนำให้ทดลองใช้บริการระดับพรีเมียมฟรีหรือใช้การรับประกันคืนเงินแทน

ฉันสามารถใช้ VPN ฟรีสำหรับ Mac โดยไม่ต้องสมัครสมาชิกได้หรือเปล่า

ใช่ คุณสามารถทำได้ VPN ฟรีสำหรับ Mac หลายบริการไม่ขอให้คุณป้อนอีเมลหรือสร้างบัญชีเพื่อดาวน์โหลด VPN Avira Phantom VPN, hide.me และ Hotspot Shield ให้คุณสามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องให้คุณลงทะเบียน

VPN ฟรีสำหรับ Mac สามารถใช้งานได้บนอุปกรณ์อื่นหรือเปล่า 

ส่วนใหญ่ไม่สามารถทำได้ เนื่องจาก VPN ฟรีมักจะมีอนุญาตให้เชื่อมต่ออุปกรณ์ได้ครั้งละ 1 เครื่องเท่านั้น อย่างไรก็ตาม Avira Phantom VPN มีบริการฟรีที่ให้คุณเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้ไม่จำกัด นั่นเป็นสิ่งที่หาได้ยากมาก นอกเหนือจาก Mac บริการยังให้คุณดาวน์โหลดแอปสำหรับอุปกรณ์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ iOS, Windows หรือ Android ได้อีกด้วย

VPN ฟรีจะส่งผลกระทบต่อความเร็วบน Mac ของฉันแค่ไหน

บริการฟรีจะลดความเร็วของคุณมากกว่า VPN แบบพรีเมียมราคาประหยัดเล็กน้อย VPN ฟรีมีเซิร์ฟเวอร์จำนวนจำกัด ซึ่งมักจะมีจำนวนผู้ใช้มากเกินไป ยิ่งมีผู้ใช้บนเซิร์ฟเวอร์มากเท่าไร ความเร็วก็จะยิ่งช้าลงเท่านั้น VPN ฟรีบางตัวจะจำกัดแบนด์วิดท์ของคุณ ซึ่งทำให้การเชื่อมต่อของคุณช้าลงไปอีก พวกเขาทำไปเพื่อสนับสนุนให้คุณอัพเกรดเป็นแผนพรีเมี่ยม

VPN ฟรีที่เร็วที่สุดในรายการของเรา (Avira Phantom VPN) ยังคงช้ากว่า ExpressVPN โดยเฉลี่ยประมาณ 63% หากคุณกังวลเกี่ยวกับความเร็ว วิธีที่ดีที่สุดคือลองใช้ VPN แบบพรีเมียมราคาประหยัดที่มาพร้อมกับการรับประกันคืนเงิน

Mac มี VPN ในตัวหรือไม่

ไม่ Macs ไม่ได้มาพร้อมกับบริการ VPN ในตัว แต่มันมาพร้อมกับการรองรับ IKEv2 และ L2TP เพื่อใช้สิ่งนี้คุณจะต้องมี VPN ที่มาพร้อมกับไฟล์การตั้งค่า IKEv2 หรือ L2TP และ VPN ฟรีส่วนใหญ่ไม่ได้นำเสนอสิ่งนี้ แถมการเชื่อมต่อ VPN ผ่านตัวเลือกนี้ยังมีข้อจำกัดอีกด้วย คุณจะมีทางเลือกที่ดีกว่าหากติดตั้งแอป VPN สำหรับ Mac เพราะมันมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบถ้วนกว่า ตั้งแต่ตัวเลือกความปลอดภัยไปจนถึงตำแหน่งที่เชื่อมต่อ

ในทางกลับกับ iCloud นำเสนอ Private Relay สำหรับ Safari (เท่านั้น) มันเป็นแค่การเชื่อมต่อผ่านพร็อกซี่ แถมยังช้าอีกด้วย มันไม่ได้เปลี่ยนตำแหน่ง เข้ารหัสหรือช่วยให้คุณเข้าถึงเนื้อหาที่ถูกปิดกั้นได้แต่อย่างใด ดังนั้นมันจึงไม่ปลอดภัยหรือให้ประโยชน์ได้มากเท่ากับการใช้ VPN

ทำไมฉันถึงต้องใช้ VPN สำหรับ Mac

หากไม่มี VPN ข้อมูลส่วนตัวทั้งหมดบนอุปกรณ์ Mac สามารถถูกเข้าถึงได้ VPN สำหรับ Mac ปกป้องความเป็นส่วนตัวออนไลน์ของคุณด้วยการเข้ารหัสข้อมูลส่วนบุคคลของคุณและซ่อนการรับส่งข้อมูลออนไลน์จาก ISP แฮกเกอร์และบุคคลที่สามที่เป็นอันตรายอื่น ๆ มันสามารถช่วยปกป้องเมื่อคุณใช้อินเตอร์เน็ตจากที่บ้านหรือเมื่อเชื่อมต่อกับเครือข่าย WiFi สาธารณะ

ผู้ใช้จำนวนมากคิดว่า Macs นั้นปลอดภัยจากแฮ็คเกอร์และไวรัส มากกว่าเมื่อเทียบกับ Windows แต่ยิ่ง Macs ได้รับความนิยมมากขึ้นเท่าไหร่ มันก็ยิ่งมีความเสี่ยงที่จะถูกแฮ็คมากขึ้น ตัวอย่างเช่น ในรายงานการวิเคราะห์ของ Malwarebytes ในปี 2020 แสดงให้เห็นว่าผู้ใช้ Mac มีความเสี่ยงที่จะพบกับภัยคุกคามออนไลน์มากเป็นเท่าตัวของผู้ใช้ PC ดังนั้นการใช้ VPN เพื่อปกป้องอุปกรณ์และข้อมูลส่วนตัวจึงเป็นการป้องกันที่ชาญฉลาด

นอกจากประโยชน์ด้านความปลอดภัยแล้ว VPN ยังช่วยให้คุณเข้าถึงเนื้อหาที่ถูกปิดกั้นได้อีกด้วย มันช่วยให้ผู้ใช้ที่อยู่ในประเทศที่มีการปิดกั้นอย่างเข้มงวดสามารถเข้าถึงเว็บและเนื้อหาที่ถูกปิดกั้นได้อย่างง่ายดายและเป็นอิสระ

รับ VPN ฟรีที่ดีที่สุดสำหรับ Mac และ Safari

จากบริการ VPN ฟรีที่ฉันทดสอบมาทั้งหมด ExpressVPN นั้นเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด แต่มันไม่ใช่บริการฟรี แต่บริการฟรีในรายการนี้ก็ไม่สามารถให้บริการได้เทียบเท่าเหมือนกัน แม้ว่าตัวเลือกฟรีในรายการนี้จะปลอดภัย แต่ก็มีข้อจำกัดที่ทำให้เป็นตัวเลือกที่ไม่เหมาะสมสำหรับการใช้งานในระยะยาว (จำกัดความเร็ว ข้อมูลไม่เพียงพอ เครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ขนาดเล็กและไม่สามารถปลดบล็อกบริการได้) ExpressVPN ไม่มีข้อจำกัดดังกล่าวและนำเสนอฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยที่ดีที่สุด

อย่างไรก็ตามบริการมาพร้อมกับการรับประกันคืนเงิน 30วัน เมื่อฉันทดสอบการรับประกันเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาให้บริการได้ตามที่โฆษณาไว้ ฉันก็ไม่ผิดหวังเลย ฉันติดต่อทีมงานผ่านไลฟ์แชทเพื่อขอเงินคืนและตัวแทนไม่ได้กดดันให้ฉันใช้บริการต่อเลย พวกเขาแค่ถามว่าทำไมฉันถึงต้องการยกเลิกและหลังจากอธิบาย การคืนเงินของฉันได้รับการอนุมัติ ดังนั้น ฉันขอแนะนำอย่างยิ่งให้ทดลองใช้งาน ExpressVPN ด้วยตัวคุณเองเพราะคุณสามารถทำได้โดยไม่มีความเสี่ยง ฉันได้รับเงินคืนเต็มจำนวนหลังจาก 3 วัน

VPN ที่ดีที่สุดสำหรับ Mac และ Safari ที่มาพร้อมกับการรับประกันคืนเงินคือ…

อันดับ
ผู้ให้บริการ
คะแนนของเรา
ส่วนลด
ไปที่เว็บไซต์
1
medal
9.9 /10
9.9 คะแนนของเรา
ประหยัดถึง 49%!
2
9.7 /10
9.7 คะแนนของเรา
ประหยัดถึง 83%!
3
9.5 /10
9.5 คะแนนของเรา
ประหยัดถึง 82%!
4
9.4 /10
9.4 คะแนนของเรา
ประหยัดถึง 67%!
5
9.3 /10
9.3 คะแนนของเรา
ประหยัดถึง 81%!
การแจ้งเตือนความเป็นส่วนตัว!

ข้อมูลของคุณจะถูกเปิดเผยต่อเว็บไซต์ที่คุณเข้าชม!

หมายเลข IP ของคุณ:

ตำแหน่งของคุณ:

ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของคุณ:

ข้อมูลข้างต้นสามารถใช้เพื่อติดตาม กำหนดเป้าหมายโฆษณาและติดตามกิจกรรมที่คุณทำบนอินเตอร์เน็ตได้

VPN สามารถช่วยคุณซ่อนข้อมูลเหล่านี้จากเว็บไซต์ เพื่อให้คุณได้รับการปกป้องตลอดเวลา เราขอแนะนำ ExpressVPN - VPN อันดับ #1 จากผู้ให้บริการกว่า 350 รายที่เราได้ทดสอบ มีการเข้ารหัสระดับทหารและฟีเจอร์ความเป็นส่วนตัวมากมายที่จะช่วยให้คุณมั่นใจในความปลอดภัยเมื่อใช้งานอินเตอร์เน็ต - นอกจากนี้ยังมีส่วนลดจาก 49% อีกด้วย

เข้าชมเว็บ ExpressVPN

พวกเราจัดอันดับผู้ให้บริการตามการทดสอบและการค้นคว้าอย่างเข้มงวด แต่ก็จะมีการคำนึงถึงความคิดเห็นของคุณและค่าคอมมิชชั่นจากผู้ให้บริการด้วย ผู้ให้บริการบางรายนั้นจะมีบริษัทแม่แห่งเดียวกันกับพวกเรา
เรียนรู้เพิ่มเติม
vpnMentor ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 2014 ในฐานะเว็บไซต์รีวิวบริการ VPN อย่างอิสระและเว็บไซต์ข่าวเกี่ยวกับเรื่องความเป็นส่วนตัว วันนี้ ทีมงานนักวิจัยความปลอดภัยทางไซเบอร์, นักเขียน และบรรณาธิการนับร้อยของพวกเราได้ช่วยผู้อ่านให้ต่อสู้เพื่ออิสรภาพทางออนไลน์ผ่านการจับมือกับ Kape Technologies PLC ซึ่งเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ดังต่อไปนี้: ExpressVPN, CyberGhost และ Private Internet Access ซึ่งอาจจะได้รับการจัดอันดับและรีวิวบนเว็บไซต์ของเราด้วย รีวิวที่ได้รับการเผยแพร่บน vpnMentor นั้นมีความแม่นยำถึงวันที่ทำการเผยแพร่ และแต่ละรีวิวก็จะถูกเขียนขึ้นโดยอ้างอิงมาตรฐานที่เข้มงวดด้านการรีวิวซึ่งจะเน้นความเป็นอิสระและการค้นคว้าวิจัยอย่างซื่อสัตย์และเป็นมืออาชีพของนักรีวิว โดยจะเน้นไปถึงความสามารถและคุณภาพของผลิตภัณฑ์รวมถึงความคุ้มค่าที่มันมีต่อผู้ใช้งาน การจัดอันดับและรีวิวที่พวกเราเผยแพร่นั้นอาจจะคำนึงถึงการเป็นเจ้าของเดียวกันที่กล่าวถึงด้านบน และค่าคอมมิชชั่นที่พวกเราได้รับในกรณีที่มีการสั่งซื้อผ่านลิงก์บนเว็บไซต์ของเราด้วย พวกเราไม่ได้ทำการรีวิวผู้ให้บริการ VPN ทั้งหมด และข้อมูลที่เผยแพร่นั้นจะมีความแม่นยำถึงวันที่เผยแพร่แต่ละบทความ

เกี่ยวกับผู้เขียน

  • มุก
  • มุก บรรณาธิการอาวุโส

มุกเป็นผู้ที่ชื่นชอบเทคโนโลยี เธอศึกษาด้านโลจิสติกการบินที่มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เธอชอบค้นคว้าและเรียนรู้วิธีเก็บข้อมูลส่วนบุคคลและพฤติกรรมออนไลน์ให้ปลอดภัย